กว่าจะได้ทั้งตัวนักแสดงและผู้กำกับก็เล่นเอาเหนื่อยแทบแย่แล้ว สำหรับโปรเจ็คภาพยนตร์ชีวประวัติของพ่อมดแห่งวงการคอมพิวเตอร์ Steve Jobs ที่มีมือเขียนบทอย่าง Aaron Sorkin เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งในท้ายที่สุด แม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดกำลังจะไปได้สวยและกำลังจะเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำแล้ว แต่กระนั้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลับมีคำสั่งฟ้าผ่าออกมาจาก Sony Pictures ผู้เป็นนายทุนว่า ได้ตัดสินใจที่จะยุบโปรเจ็คดังกล่าวทิ้ง แต่อย่างไรก็ดี ล่าสุด วันนี้โปรเจ็คดังกล่าวมีแววที่จะได้คืนชีพอีกครั้ง เมื่อ Universal Studios ได้ตัดสินใจที่จะขอเทคโอเวอร์ต่อ

เว็บไซต์ HollywoodReporter รายงานว่า Universal Studios ได้ทำการจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์เพื่อการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ราว 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่นักแสดงที่จะมารับพ่อมดแห่งวงการคอมพิวเตอร์ก็คือ Michael Fassbender ที่เคยสวมบทเป็น Magneto ในภาพยนตร์เรื่อง X-Men: Days of Future Past  

ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้ Sony Pictures ตัดสินใจรื้อโปรเจ็คดังกล่าวทิ้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งๆ ที่เตรียมงานมาเป็นเวลาถึงสองปี ก็มาจาก ความไม่ลงตัวในเรื่องตารางการถ่ายทำ โดย Danny Boyle ผู้กำกับคนดังที่สร้างชื่อจากภาพยนตร์ Slumdog Millionaire ต้องการที่จะให้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว เริ่มกระบวนการถ่ายทำในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ แต่ด้านนายทุนอย่างโซนี่ พิคเจอร์ส วางแพลนที่จะถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่องในปีหน้าอยู่แล้ว และต้องการที่จะให้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวเริ่มต้นในภายหลัง ซึ่งถ้าเป็นไปตามนั้นก็จะทำให้ชนกับคิวงานของนักแสดง เนื่องจาก Fassbender มีคิวที่จะต้องถ่ายภาพยนตร์เรื่อง X-Men: Apocalypse ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

Sorkin เผยระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ภาพยนตร์ของเขาจะไม่เชิงเป็นภาพยนตร์ชีวประวัติของ Jobs มากนัก แต่จะแบ่งเป็นสามช่วงเวลาขณะที่ Jobs เป็นผู้อยู่เบื้องหลังโปรดักส์เปลี่ยนโลกอย่าง Mac, NeXT และ iPod

ที่มา TechSpot