เราจบม.6โรงเรียนเอกชนมาแบบสมองกลวงๆเลยไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกมหาลัยมากนัก ก็เลยเลือกที่ที่ไกลจากสังคมเดิมๆเพราะคิดว่าจะเริ่มชีวิตใหม่แบบเรียบง่าย
และด้วยบุคลิคที่นิ่งถึงนิ่งมาก จึงไม่มีเพื่อนซักคนตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของเราเลย จนถึงเวลารับน้องคณะ
เราเริ่มรู้จักคนมากขึ้น รู้จักเพื่อนรู้จักรุ่นพี่... คงเริ่มน่าเบื่อแล้วเพ้ออะไรมากมาย เข้าเรื่องเลยดีกว่า5555555
วันสุดท้ายของกิจกรรมรับน้องเราได้รู้จักกับรุ่นพี่คนนึงเป็นผู้หญิง เค้าอยู่ปี3 เป็นสต๊าฟพยาบาล ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะทุกคนที่เรารู้จักก็คือแค่คุยทักทายกันตอนเจอหน้าแค่นั้น
พี่เค้าขอเราถ่ายรูปคู่ด้วย ถ่ายไปทั้งหมดสองรูป พร้อมให้เฟสเรามาบอกเราว่าให้แอดไปหาด้วยนะ แล้วเเซวเราด้วยการเรียกที่รักๆ (ในใจคือแบบอะไรวะเนี่ย แต่ก็จะแอดอยู่หรอกก็รุ่นพี่คณะเนาะ)
พอแอดเฟสไปก็ยังไม่รับแอดเรานะ แต่เข้ามากระหน่ำไลค์รูป ซักพักถึงกดรับแอด แล้วก็คุยกันเรื่องเรียนนู่นนี่นั่น จนเรามีปัญหาเรื่องการบ้านฟิสิกส์
เราเลยให้ช่วยสอน เค้าเลยบอกให้ไปหาที่ห้องจะสอนให้ เราบอกไม่รู้จักหอ พี่เค้าก็ให้เบอร์แล้วโทรบอกว่าจะมีเพื่อนออกมารับ(นำทาง)ไปหอ
พอถึงหอก็เหมือนไปลอกการบ้านอ่ะ ไม่ได้สอนอะไรมากมายคือก็ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วด้วย พอมีเบอร์กันก็โทรหาโทรคุย กินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน แต่คือทำทุกอย่างไปกันเป็นกลุ่มใหญ่ตลอด เราเลยมีเพื่อนมีพี่มีกลุ่มแล้วตอนนี้ มีประมาณ7-8คน ไปดูหนังรอบดึกงี้สนุกดีนะไปกันเยอะๆ
ไม่รู้มันเริ่มตอนไหนนะที่พี่เค้าชอบเดินจับมือเรา คุยโทรศัพท์ สไกป์กันเกือบทุกคืน ในความรู้สึกมันไม่พี่น้องแล้วแหละแต่พี่เค้าก็เทคแคร์ในบางเรื่องเราดีอยู่นะ เช่นพาไปหาหมอเพราะเราป่วยบ่อย
แต่เราก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ค้างคา เราเป็นคนตรงๆเลยถามไปว่าพี่ไม่คุยกับแฟนพี่หรอ? (ที่ถามงี้ไม่ใช่ลองเชิงอยากจีบ
แต่เพราะในเฟสพี่เค้าเพ้อถึงเเฟนเต็มเลยจ้า55555 แต่ไม่ขึ้นสถานะด้วยกัน เลยมารู้ทีหลังว่า เเฟนอยู่คนละจังหวัดกันนานๆมาหากันที
แล้วผู้ชายไม่ให้ไปโพสต์หน้าเฟส ไปให้แท็กอะไรไป ก็เลยเพ้อหน้าเฟสตัวเองแล้วแฮชแท็กชื่อตัวเองกับชื่อแฟน)
พี่เค้าตอบเรามาแค่ว่า มีก็เหมือนไม่มี ช่างมันเถอะ..
เราก็ไม่ใช่คนเซ้าซี้อะไรเลยไม่ถามอะไรต่อแค่บอกไปว่ามีอะไรก็ปรึกษาได้ทุกเรื่องนะ ...แล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุยกันไป...
แล้วเราก็คุยกันแบบมากกว่าพี่น้องแต่ไม่ใช่แฟนมาตลอด พี่เค้าบอกไม่ต้องพูดหรอกเรื่องแบบนี้(เพราะเราข้องใจเรื่องสถานะตอนนี้ที่เราเป็นอยู่)
บอกว่าให้ดูการกระทำเอาเองว่าเป็นอะไร เราก็เห็นว่าไม่เพ้อหาเเฟนละ นึกว่าเลิกกันแล้วค่ะ เพราะบอกว่าผชเนี่ยเจ้าชู้มาก มีผญเข้ามาเยอะแยะ
คุยเยอะ แต่พอเราเห็นหน้าเเล้วแบบ..เนี่ยนะ อึ้งไปแปปนึง55555
แล้วเราก็ไม่ได้อะไรนะเพราะเราก็ผญพี่เค้าก็ผญ มันคงไม่มีอะไรมั้ง
วันนึงรุ่นพี่ปีสี่ชวนไปบ้านที่ตจว. ก็ไปกันหมด8คน นั่งท้ายกะบะไปถึงจะมีหลังคาก็เถอะร้อนมากร้อนสุดๆ แถมเหมือนรถกำลังจะแยกชิ้นส่วนได้ มันเก่ามากกกกกก -0-
แต่ก็ไม่อยากพูดไรมากมายเพราะในเมื่อตัดสินใจมาแล้วก็ต้องมา ก็เเวะซื้อของกัน มีรุ่นพี่ถามเราว่าอยากกินไรอีกมั้ย เราบอกว่าอยากกินมาชเมโล่ (พึ่งมาแอบรู้ทีหลังจ้า ว่าไปบ่นเราว่าเรื่องมากหัวสูง อยากกินมาชเมโล่ คือผมนี่ก็อึ้งไปเลยครับ ไอขนมนี่มันกินยากหรือว่ามันชิ้นละสามแสนฟร้ะ พูดซะไม่กล้ากินเลย555555)
เราบอกว่าอยากกินแต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้กินนะ แล้วก็ถึงบ้านพี่ปีสี่ พวกเราก็พากันกินข้าวฝีมือพวกเรา แล้วอาบน้ำสวดมันต์เข้านอนตามปกติ
เช้ามาก็เที่ยวน้ำตก บลาๆๆๆ ช่างมันไม่เล่ามันนอกเรื่องมากเกินไปแล้ว-*-
มีวันเสาร์อาทิตย์นึง พี่เค้าบอกเราว่าจะกลับบ้านเราก็เชื่อ แต่คือเราเอาขนม แคร็กเกอร์ทูน่าไปไว้ที่ห้องพี่เค้าและรูมเมทที่เป็นพี่ปีสี่หมดเลย ก็เลยว่าจะแวะเข้าไปก็เลยโทรถามเพื่อความชัวร์อีกรอบว่ากลับบ้านมั้ย พอโทรไปถามว่าอยู่ไหน
เรา : พี่อยู่ไหนอ่ะ
พี่ : ทำไม?
เรา : คือพี่อยู่ไหนล่ะ
พี่ : อยากรู้ไปทำไม (เสียงรอบข้างในสายฝั่งนู้น คือเงียบมากค่ะ ซึ่งเราคิดว่ายังไงก็ห้อง ไม่ใช่บนรถแน่ๆ)
เรา : โอเคงั้นไม่เป็นไร แค่นี้ก่อนนะ..แล้ววางสาย
ตอนโทรเราอยู่หอเพื่อนอยู่กับเพื่อน เลยว่าจะไปเอาแคร็กเกอร์ทูน่ามากินเล่น ก็ชวนเพื่อนไปที่ห้องพี่เค้าเลยเพราะมันไม่ไกลกันเท่าไหร่
พอไปถึงหน้าห้องเท่านั้นแหละ เห็นรองเท้า2คู่ คู่นึงก็คุ้นเคยดีเพราะรู้ว่าของใคร คราวนี้ก็รู้ละว่าอยู่ห้องชัวร์ แต่รองเท้าอีกคู่ดูยังไงก็รองเท้าผู้ชายค่ะ
เราเลยคิดว่าอาจจะเป็นรุ่นพี่ผู้ชายที่อยู่กลุ่มเดียวกัน (ยังมองโลกสวยงามอยู่ *-*) เราก็เกรงใจจะไปเคาะห้องเพื่อขอของกินของเรา
เลยให้เพื่อนไปเคาะ นานค่ะกว่าจะเปิดนานมาก เพื่อนก็เคาะอีกเพื่อความชัวร์ แล้วก็ได้ยินเสียงปลดกลอนหลายชั้นมาก คือล็อคทุกอันที่มีอ่ะ
แล้วเปิดมาคือ ผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนที่บอกว่าอยู่คนละจังหวัดกัน นอนอยู่บนเตียง.. คือมาถึงขั้นนี้แล้วเราก็ไม่ใช่เด็กอนุบาลที่จะไม่รู้เรื่องอะไร ก็เกรงใจมากเลยมาเคาะผิดเวลาแต่ตอนนั้นมันก็เวลาบ่ายๆนะ +.+
เพื่อนก็เดินเข้าไปเอาขนมให้ เรารอหน้าห้อง เพื่อนออกมาเพื่อนบอกว่าพี่เค้าถามว่าเรามาด้วยรึเปล่า แล้วสีหน้าพี่เค้าก็ดูเหมือนกลัว..กลัวจะรู้ว่านอนอยู่กับแฟน ซึ่งเราก็ช็อคนะ คือเป็นผญเรียบร้อยรับไม่ค่อยได้กับเรื่องแบบนี้5555
ตอนเย็นไปกินเนื้อย่างกัน เราเลยชวนพี่เค้ากับแฟนมานั่งกินด้วย แล้วมีเพื่อนต่างคณะไปอีกคนน่าตาน่ารักมาก นั่งข้างเรา
ระหว่างที่กินพี่เค้าไม่มองหน้าเราเลยค่ะ แต่มองหน้าเพื่อนเราตลอด แล้วเราก็ได้รับข้อความจากพี่เค้าว่า "แฟนน่ารักดีนะ มีความสุขมากๆล่ะ"
แล้วเราก็เดินไปปิ้งขนมปังกับเพื่อนกลับมาคือพี่เค้ากับแฟนกลับไปกันซะแล้ว
ช่วงที่แฟนพี่เค้ามา พี่เค้าไม่โทรหาเรา ไม่เฟสหา ไม่ไปกินข้าวดูหนังกับทุกคนเหมือนเดิม มีแค่บางมื้อกลางวันที่จะออกมาแพคคู่
เราก็พอจะเดาออกละว่าสถานะเราคืออะไร เพราะงั้นรีบออกจากสถานะแบบนี้ให้เร็วที่สุด แต่พอเราคิดแบบนี้เรียบร้อย แฟนพี่เค้าก็กลับไป
แล้วพี่เค้าก็กลับมาทำแบบเดิมคือโทรหาเฟสหา พอเราพูดถึงผชคนนั้น ก็บอกว่าตอนนี้มีแค่เราจะพูดถึงคนอื่นทำไม แล้วทำอารมณ์เสีย
(คือยอมรับผิดจริงๆ ว่าเราเป็นคนใจอ่อนมาก แฟนมาเราก็กลายเป็นอากาศ พอแฟนไปเราสำคัญทันที จะด่าจะว่ากันยังไงตามสบายเลยค่ะ
เพื่อนเราก็ด่าว่าเราจนชินละ 55555555 คือยอมรับนะว่าโง่จริงเป็นตัวแทนแบบนี้ แต่เราไม่เคยคิดเเย่งอ่ะบอกตรงๆ อยากให้ไปด้วยซ้ำ)
วันนึงที่ฝนตกแรง พี่เค้าทักเฟสมาหาเราบอกให้เราไปหาเอาatmไปด้วย เรารีบตากฝนออกไปเพราะคิดว่าคงมีเรื่องด่วนแน่ๆ บอกว่าขอยืมเงินเราหน่อย500บาทโอนเงินไปธนาคารเดียวกันจะได้ไม่เสียค่าธรรมเนียม เราก็ให้พร้อมใส่รหัส เค้าก็โอน500บาทจริงค่ะ โอนให้ชื่อแฟน (:
ต่อให้เราไม่คิดอะไรกับพี่เค้าเราก็รู้สึกเจ็บปวดค่ะ ตากฝนเพื่อเอาatmมาให้เพื่อให้พี่เค้าโอนเงินให้แฟน
พอถึงห้องพี่เค้า เราก็นิ่งไปเลยไม่พูดอะไร พี่เค้าก็เอาเงินมาให้เรา500บาท แล้วบอกขอบคุณนะ เราถามว่าโอนให้ใครก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบ เปลี่ยนเรื่องคุย
(แต่มีอยู่อีกครั้งเราถามขึ้นอีกว่าวันนั้นโอนค่าอะไร บอกโอนค่าครีม เรานี่เป็นคนเก็บคำพูดไม่ค่อยอยู่ เลยบอกว่าชื่อคนขายครีมนี่เหมือนเเฟนพี่เลยเนาะ พี่เค้าก็นิ่งไปซักพักก็หัวเราะค่ะ บอกว่ายังเด็กอยู่ไม่เข้าใจหรอก)
เดี๋ยวมาต่อนะ..ตอนนี้ตีสองแล้ว ง่วงๆ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย จะปิดคอร์สแล้ว เย่ๆๆ
ชีวิต(ห่วยๆ)ในมหาลัยปีแรก
และด้วยบุคลิคที่นิ่งถึงนิ่งมาก จึงไม่มีเพื่อนซักคนตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของเราเลย จนถึงเวลารับน้องคณะ
เราเริ่มรู้จักคนมากขึ้น รู้จักเพื่อนรู้จักรุ่นพี่... คงเริ่มน่าเบื่อแล้วเพ้ออะไรมากมาย เข้าเรื่องเลยดีกว่า5555555
วันสุดท้ายของกิจกรรมรับน้องเราได้รู้จักกับรุ่นพี่คนนึงเป็นผู้หญิง เค้าอยู่ปี3 เป็นสต๊าฟพยาบาล ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะทุกคนที่เรารู้จักก็คือแค่คุยทักทายกันตอนเจอหน้าแค่นั้น
พี่เค้าขอเราถ่ายรูปคู่ด้วย ถ่ายไปทั้งหมดสองรูป พร้อมให้เฟสเรามาบอกเราว่าให้แอดไปหาด้วยนะ แล้วเเซวเราด้วยการเรียกที่รักๆ (ในใจคือแบบอะไรวะเนี่ย แต่ก็จะแอดอยู่หรอกก็รุ่นพี่คณะเนาะ)
พอแอดเฟสไปก็ยังไม่รับแอดเรานะ แต่เข้ามากระหน่ำไลค์รูป ซักพักถึงกดรับแอด แล้วก็คุยกันเรื่องเรียนนู่นนี่นั่น จนเรามีปัญหาเรื่องการบ้านฟิสิกส์
เราเลยให้ช่วยสอน เค้าเลยบอกให้ไปหาที่ห้องจะสอนให้ เราบอกไม่รู้จักหอ พี่เค้าก็ให้เบอร์แล้วโทรบอกว่าจะมีเพื่อนออกมารับ(นำทาง)ไปหอ
พอถึงหอก็เหมือนไปลอกการบ้านอ่ะ ไม่ได้สอนอะไรมากมายคือก็ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วด้วย พอมีเบอร์กันก็โทรหาโทรคุย กินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน แต่คือทำทุกอย่างไปกันเป็นกลุ่มใหญ่ตลอด เราเลยมีเพื่อนมีพี่มีกลุ่มแล้วตอนนี้ มีประมาณ7-8คน ไปดูหนังรอบดึกงี้สนุกดีนะไปกันเยอะๆ
ไม่รู้มันเริ่มตอนไหนนะที่พี่เค้าชอบเดินจับมือเรา คุยโทรศัพท์ สไกป์กันเกือบทุกคืน ในความรู้สึกมันไม่พี่น้องแล้วแหละแต่พี่เค้าก็เทคแคร์ในบางเรื่องเราดีอยู่นะ เช่นพาไปหาหมอเพราะเราป่วยบ่อย
แต่เราก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ค้างคา เราเป็นคนตรงๆเลยถามไปว่าพี่ไม่คุยกับแฟนพี่หรอ? (ที่ถามงี้ไม่ใช่ลองเชิงอยากจีบ
แต่เพราะในเฟสพี่เค้าเพ้อถึงเเฟนเต็มเลยจ้า55555 แต่ไม่ขึ้นสถานะด้วยกัน เลยมารู้ทีหลังว่า เเฟนอยู่คนละจังหวัดกันนานๆมาหากันที
แล้วผู้ชายไม่ให้ไปโพสต์หน้าเฟส ไปให้แท็กอะไรไป ก็เลยเพ้อหน้าเฟสตัวเองแล้วแฮชแท็กชื่อตัวเองกับชื่อแฟน)
พี่เค้าตอบเรามาแค่ว่า มีก็เหมือนไม่มี ช่างมันเถอะ..
เราก็ไม่ใช่คนเซ้าซี้อะไรเลยไม่ถามอะไรต่อแค่บอกไปว่ามีอะไรก็ปรึกษาได้ทุกเรื่องนะ ...แล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุยกันไป...
แล้วเราก็คุยกันแบบมากกว่าพี่น้องแต่ไม่ใช่แฟนมาตลอด พี่เค้าบอกไม่ต้องพูดหรอกเรื่องแบบนี้(เพราะเราข้องใจเรื่องสถานะตอนนี้ที่เราเป็นอยู่)
บอกว่าให้ดูการกระทำเอาเองว่าเป็นอะไร เราก็เห็นว่าไม่เพ้อหาเเฟนละ นึกว่าเลิกกันแล้วค่ะ เพราะบอกว่าผชเนี่ยเจ้าชู้มาก มีผญเข้ามาเยอะแยะ
คุยเยอะ แต่พอเราเห็นหน้าเเล้วแบบ..เนี่ยนะ อึ้งไปแปปนึง55555
แล้วเราก็ไม่ได้อะไรนะเพราะเราก็ผญพี่เค้าก็ผญ มันคงไม่มีอะไรมั้ง
วันนึงรุ่นพี่ปีสี่ชวนไปบ้านที่ตจว. ก็ไปกันหมด8คน นั่งท้ายกะบะไปถึงจะมีหลังคาก็เถอะร้อนมากร้อนสุดๆ แถมเหมือนรถกำลังจะแยกชิ้นส่วนได้ มันเก่ามากกกกกก -0-
แต่ก็ไม่อยากพูดไรมากมายเพราะในเมื่อตัดสินใจมาแล้วก็ต้องมา ก็เเวะซื้อของกัน มีรุ่นพี่ถามเราว่าอยากกินไรอีกมั้ย เราบอกว่าอยากกินมาชเมโล่ (พึ่งมาแอบรู้ทีหลังจ้า ว่าไปบ่นเราว่าเรื่องมากหัวสูง อยากกินมาชเมโล่ คือผมนี่ก็อึ้งไปเลยครับ ไอขนมนี่มันกินยากหรือว่ามันชิ้นละสามแสนฟร้ะ พูดซะไม่กล้ากินเลย555555)
เราบอกว่าอยากกินแต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้กินนะ แล้วก็ถึงบ้านพี่ปีสี่ พวกเราก็พากันกินข้าวฝีมือพวกเรา แล้วอาบน้ำสวดมันต์เข้านอนตามปกติ
เช้ามาก็เที่ยวน้ำตก บลาๆๆๆ ช่างมันไม่เล่ามันนอกเรื่องมากเกินไปแล้ว-*-
มีวันเสาร์อาทิตย์นึง พี่เค้าบอกเราว่าจะกลับบ้านเราก็เชื่อ แต่คือเราเอาขนม แคร็กเกอร์ทูน่าไปไว้ที่ห้องพี่เค้าและรูมเมทที่เป็นพี่ปีสี่หมดเลย ก็เลยว่าจะแวะเข้าไปก็เลยโทรถามเพื่อความชัวร์อีกรอบว่ากลับบ้านมั้ย พอโทรไปถามว่าอยู่ไหน
เรา : พี่อยู่ไหนอ่ะ
พี่ : ทำไม?
เรา : คือพี่อยู่ไหนล่ะ
พี่ : อยากรู้ไปทำไม (เสียงรอบข้างในสายฝั่งนู้น คือเงียบมากค่ะ ซึ่งเราคิดว่ายังไงก็ห้อง ไม่ใช่บนรถแน่ๆ)
เรา : โอเคงั้นไม่เป็นไร แค่นี้ก่อนนะ..แล้ววางสาย
ตอนโทรเราอยู่หอเพื่อนอยู่กับเพื่อน เลยว่าจะไปเอาแคร็กเกอร์ทูน่ามากินเล่น ก็ชวนเพื่อนไปที่ห้องพี่เค้าเลยเพราะมันไม่ไกลกันเท่าไหร่
พอไปถึงหน้าห้องเท่านั้นแหละ เห็นรองเท้า2คู่ คู่นึงก็คุ้นเคยดีเพราะรู้ว่าของใคร คราวนี้ก็รู้ละว่าอยู่ห้องชัวร์ แต่รองเท้าอีกคู่ดูยังไงก็รองเท้าผู้ชายค่ะ
เราเลยคิดว่าอาจจะเป็นรุ่นพี่ผู้ชายที่อยู่กลุ่มเดียวกัน (ยังมองโลกสวยงามอยู่ *-*) เราก็เกรงใจจะไปเคาะห้องเพื่อขอของกินของเรา
เลยให้เพื่อนไปเคาะ นานค่ะกว่าจะเปิดนานมาก เพื่อนก็เคาะอีกเพื่อความชัวร์ แล้วก็ได้ยินเสียงปลดกลอนหลายชั้นมาก คือล็อคทุกอันที่มีอ่ะ
แล้วเปิดมาคือ ผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนที่บอกว่าอยู่คนละจังหวัดกัน นอนอยู่บนเตียง.. คือมาถึงขั้นนี้แล้วเราก็ไม่ใช่เด็กอนุบาลที่จะไม่รู้เรื่องอะไร ก็เกรงใจมากเลยมาเคาะผิดเวลาแต่ตอนนั้นมันก็เวลาบ่ายๆนะ +.+
เพื่อนก็เดินเข้าไปเอาขนมให้ เรารอหน้าห้อง เพื่อนออกมาเพื่อนบอกว่าพี่เค้าถามว่าเรามาด้วยรึเปล่า แล้วสีหน้าพี่เค้าก็ดูเหมือนกลัว..กลัวจะรู้ว่านอนอยู่กับแฟน ซึ่งเราก็ช็อคนะ คือเป็นผญเรียบร้อยรับไม่ค่อยได้กับเรื่องแบบนี้5555
ตอนเย็นไปกินเนื้อย่างกัน เราเลยชวนพี่เค้ากับแฟนมานั่งกินด้วย แล้วมีเพื่อนต่างคณะไปอีกคนน่าตาน่ารักมาก นั่งข้างเรา
ระหว่างที่กินพี่เค้าไม่มองหน้าเราเลยค่ะ แต่มองหน้าเพื่อนเราตลอด แล้วเราก็ได้รับข้อความจากพี่เค้าว่า "แฟนน่ารักดีนะ มีความสุขมากๆล่ะ"
แล้วเราก็เดินไปปิ้งขนมปังกับเพื่อนกลับมาคือพี่เค้ากับแฟนกลับไปกันซะแล้ว
ช่วงที่แฟนพี่เค้ามา พี่เค้าไม่โทรหาเรา ไม่เฟสหา ไม่ไปกินข้าวดูหนังกับทุกคนเหมือนเดิม มีแค่บางมื้อกลางวันที่จะออกมาแพคคู่
เราก็พอจะเดาออกละว่าสถานะเราคืออะไร เพราะงั้นรีบออกจากสถานะแบบนี้ให้เร็วที่สุด แต่พอเราคิดแบบนี้เรียบร้อย แฟนพี่เค้าก็กลับไป
แล้วพี่เค้าก็กลับมาทำแบบเดิมคือโทรหาเฟสหา พอเราพูดถึงผชคนนั้น ก็บอกว่าตอนนี้มีแค่เราจะพูดถึงคนอื่นทำไม แล้วทำอารมณ์เสีย
(คือยอมรับผิดจริงๆ ว่าเราเป็นคนใจอ่อนมาก แฟนมาเราก็กลายเป็นอากาศ พอแฟนไปเราสำคัญทันที จะด่าจะว่ากันยังไงตามสบายเลยค่ะ
เพื่อนเราก็ด่าว่าเราจนชินละ 55555555 คือยอมรับนะว่าโง่จริงเป็นตัวแทนแบบนี้ แต่เราไม่เคยคิดเเย่งอ่ะบอกตรงๆ อยากให้ไปด้วยซ้ำ)
วันนึงที่ฝนตกแรง พี่เค้าทักเฟสมาหาเราบอกให้เราไปหาเอาatmไปด้วย เรารีบตากฝนออกไปเพราะคิดว่าคงมีเรื่องด่วนแน่ๆ บอกว่าขอยืมเงินเราหน่อย500บาทโอนเงินไปธนาคารเดียวกันจะได้ไม่เสียค่าธรรมเนียม เราก็ให้พร้อมใส่รหัส เค้าก็โอน500บาทจริงค่ะ โอนให้ชื่อแฟน (:
ต่อให้เราไม่คิดอะไรกับพี่เค้าเราก็รู้สึกเจ็บปวดค่ะ ตากฝนเพื่อเอาatmมาให้เพื่อให้พี่เค้าโอนเงินให้แฟน
พอถึงห้องพี่เค้า เราก็นิ่งไปเลยไม่พูดอะไร พี่เค้าก็เอาเงินมาให้เรา500บาท แล้วบอกขอบคุณนะ เราถามว่าโอนให้ใครก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบ เปลี่ยนเรื่องคุย
(แต่มีอยู่อีกครั้งเราถามขึ้นอีกว่าวันนั้นโอนค่าอะไร บอกโอนค่าครีม เรานี่เป็นคนเก็บคำพูดไม่ค่อยอยู่ เลยบอกว่าชื่อคนขายครีมนี่เหมือนเเฟนพี่เลยเนาะ พี่เค้าก็นิ่งไปซักพักก็หัวเราะค่ะ บอกว่ายังเด็กอยู่ไม่เข้าใจหรอก)
เดี๋ยวมาต่อนะ..ตอนนี้ตีสองแล้ว ง่วงๆ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย จะปิดคอร์สแล้ว เย่ๆๆ