อยากจะมาเล่าประสบการณืที่เพิ่งเจอมาให้ฟัง
เรื่องมีอยู่ว่าผมมีจักรยาน ไฮบริดอยู่ 2 คัน ซึ่งไม่ค่อยได้ปั่นเท่าไรก็เลยคิดว่าจะเอาไปขายเอาเงินมาใช้ดีกว่า สายๆวันนั้นก็เลยเอาออกมาทำความสะอาดเตรียมตั้งขายตรงโณงจอดรถในบ้าน ทีนี้เพื่อนบ้านที่บ้านอยู่ติดกันเขาออกมาเห็น บทสนทนาประมาณนี้
เพื่อนบ้าน:รถของน้องหรอ
ผม:ว่าใช่ครับ
เพื่อนบ้าน:จะเอาไปปั่นข้างนอกหรอ
ผม:อ่อ ป่าวครับผมจะเอาไปขายครับไม่ค่อยได้ปั่น
เพื่อนบ้าน:อ่อหรอ ขายเท่าไรอะ สวยดีอะ เดี๊ยวพี่เรียกลูกมาดูก่อน เผื่อลูกพี่อยากได้
ผม: 16000 ครับพี่
เพื่อนบ้าน:ลดหน่อยได้ไหม
ก็ต่อราคากันไปมาสักพักจนมาจบที่ 10000 บาทถ้วน แล้วผมก็ให้น้องเขา(ลูกเพื่อนบ้าน)เข้ามาเลือกว่าจะเอาคันไหนมีสีเขียวกับสีดำ แล้วน้องเขาก็เลือกสีเขียวไปครับ
พอทำความสะอาดเสร็จผมก็เข็นรถไปให้ในบ้านเขา แล้วเขาก็บอกว่าเดี๊ยวเงินพี่เอามาให้ตอนเย็นนะ ผมก็โอเคครับมาแล้วก็เรียกผมละกัน เย็นมาก็จบเรื่องราวไปเรียบร้อยดี
ประมาณ 1 อาทิตย์ถัดมา ผมก็นั่งทำอะไรอยู่หน้าบ้านไปเรื่อยแล้วสักพักเพื่อนบ้านเขาก็มาเรียกผม
เพื่อนบ้าน:น้อง จักรยานมันยางรั่วอะ ลูกของพี่ไปปั่นมาแล้วอยู่ดีๆก็รั่ว (ตัวผมก็แปลกใจเอ๊ะอยู่ดีๆไม่น่ารั่ว เพราะก่อนขายให้เขาผมก็เอาไปปั่นเล่นอยู่ เพราะถ้ามันเกิดจากผมมาก่อนแล้ว ก็คงรับผิดชอบให้)
ผม:อ่อครับ ไปปั่นแถวไหนมาอะครับ สงสัยโดนเศษแก้วโดนตะปูรึเปล่า
เพื่อนบ้าน:ก็ปั่นรอบๆหมู่บ้าน แถวๆเนี่ยแหละ ตอนนี้พ่อเขาเอาไปเปลี่ยนยางในที่ร้านมาเรียบร้อยละ
ผม:อ่อครับ คราวหลังก็บอกน้องเขาอย่าไปปั่นแถวนั้นละกันครับ
วันนั้นก็จบไปปกติ แล้วประมาณ 2 อาทิตย์ต่อมาก็เกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง ล้อเดิมยางรั่วอีก แล้วเขาก็มาพูดเหมือนบ่นๆให้พ่อผมฟังตอนเช้า ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่ตื่น พอผมตื่นมาพ่อก็มาเล่าให้ฟัง
พ่อ:ข้างบ้านเขาบอกรถยางรั่วอีกแล้ว
ผม:แล้วเขาไปทำยังไงให้โดนมาอีกล่ะ ยางก็เพิ่งเปลี่ยนไปไม่นานนี่เอง
พ่อ:เปลี่ยนเอาคัน(สีดำ)ของเราให้เขาไหม จะได้จบๆสักที(ที่พ่อผมบอกแบบนี้เพราะว่าเพื่อนบ้านเขาชอบมาบ่นเปรยๆให้พ่อผมฟังเวลาพ่อผมนั่งอยู่หน้าบ้านตลอด และเพื่อจะได้จบปัญหาที่ว่าเราเอาของไม่ดีไปให้เขารึเปล่า)
ผม:ก็แล้วแต่ยังไงก็ได้ เปลี่ยนเลยก็ได้ จะได้สบายใจกันเพื่อนบ้านกันอยู่แล้ว
หลังจากนั้นผมก็ไปเรียก น้องลูกของเพื่อนบ้านมา ว่าให้เอาคันของผมไป(คันสีดำ) แลกกัน แล้วเดี๊ยวคันสีเขียวพี่เอามาใช้ต่อเอง ก็แลกกันมาเสร็จผมก็เลยลองเติมลมดู เติมไปได้สักพักได้ยินเสียงฟู่ๆของลมออก ผมก็เลยมาร์คจุดตรงที่ลมออกไว้
แล้วจากนั้นก็ถอดยางในออกมาแล้วเติมลมเพื่อเอาไปหาจุดรั่วอีกทีในน้ำ คราวนี้กลายเป็นว่ารูที่มาร์คไว้ตอนแรกไม่รั่ว มารั่วตรงฐานจุ๊บเต็มลมของยางในแทน โดยรอยเหมือนยางมันพับจนรั่ว พอถึงจุดนี้ผมก็เลยสงสัยร้านอาจจะทำไม่ดีมั้ง แล้วผมก็ออกไปซื้อยางใน
จากร้านเดียวกันกับที่ เพื่อนบ้านเขาเอาไปเปลี่ยนมา แต่ผมเอามาเปลี่ยนเองที่บ้านเสร็จเรียบร้อยเติมลมเอาไปลองปั่นก็ ปกติไม่รั่วไม่ซึม เหตุการณ์วันนั้นก็จบไปได้ด้วยดีและคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
แต่!! ไม่ครับยังไม่จบ จนเวลาผ่านจากวันนั้นมา 1 เดือนกว่าๆ เพื่อนบ้านเขามาอีกแล้วครับเมื่อเช้าวันนี้เลย มาบ่นให้พี่ผมฟังว่า ยางมันรั่วอีกแล้ว จากวันนั้นยังไมได้ปั่นไปไหนเลย พี่(เพื่อนบ้าน)ขอคืนรถให้ได้ไหมเนี่ย
พี่ผมก็ตอบไปว่า เดี๊ยวขอไปถามน้องก่อน(ตัวผม) ว่าจะให้ทำยังไง แล้วหลังจากนั้นพี่ผมก็มาเล่าให้ฟังเมื่อเช้า ว่าจะทำเอายังไงต่อ ผมก็เลยบอกว่าแล้วแต่พี่กับพ่อเลยละกัน
ก็เลยสรุปได้ว่าไม่ขอรับคืนครับ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเราด้วย ตอนผมใช้อยู่ทั้ง 2 คันก็ปกติดีไม่รั่วไม่ซึม แล้วทำไมเขาเอาไปทั้ง 2 คันกลับเป็นล่ะ นี่มันไม่ใช่ปัญหาที่รถแล้วล่ะ
เพราะคันสีเขียวที่ผมสลับเอาคืนมาจากวันที่แลกกันไปนั้นยางก็ยังปกติดี มีซึมออกบ้างเพราะไม่ค่อยได้ปั่นเท่าไร
ก็ไม่มีอะไรมากครับ อยากมาแชร์ประสบการณ์เล่าสู่กันฟังครับ
มีคำถามด้วย
คือถ้าเติมลมไม่ถึง 100-120 บาร์ ทำให้ยางรั่ว หรือ อ่อนง่ายรึเปล่าครับ ส่วนตัวผมเติมรถตัวเองที่ 100 บาร์ตลอดก็ปกติ แต่ทางเพื่อนบ้านเขาเติมแค่ยางรู้สึกแข็งเพราะที่เติมเขาไม่มีเกจวัด เลยสงสัยว่ามันจะเกี่ยวไหมครับ
เล่าประสบการณ์ "ขายจักรยานให้เพื่อนบ้าน" แล้วมีปัญหาครับ
เรื่องมีอยู่ว่าผมมีจักรยาน ไฮบริดอยู่ 2 คัน ซึ่งไม่ค่อยได้ปั่นเท่าไรก็เลยคิดว่าจะเอาไปขายเอาเงินมาใช้ดีกว่า สายๆวันนั้นก็เลยเอาออกมาทำความสะอาดเตรียมตั้งขายตรงโณงจอดรถในบ้าน ทีนี้เพื่อนบ้านที่บ้านอยู่ติดกันเขาออกมาเห็น บทสนทนาประมาณนี้
เพื่อนบ้าน:รถของน้องหรอ
ผม:ว่าใช่ครับ
เพื่อนบ้าน:จะเอาไปปั่นข้างนอกหรอ
ผม:อ่อ ป่าวครับผมจะเอาไปขายครับไม่ค่อยได้ปั่น
เพื่อนบ้าน:อ่อหรอ ขายเท่าไรอะ สวยดีอะ เดี๊ยวพี่เรียกลูกมาดูก่อน เผื่อลูกพี่อยากได้
ผม: 16000 ครับพี่
เพื่อนบ้าน:ลดหน่อยได้ไหม
ก็ต่อราคากันไปมาสักพักจนมาจบที่ 10000 บาทถ้วน แล้วผมก็ให้น้องเขา(ลูกเพื่อนบ้าน)เข้ามาเลือกว่าจะเอาคันไหนมีสีเขียวกับสีดำ แล้วน้องเขาก็เลือกสีเขียวไปครับ
พอทำความสะอาดเสร็จผมก็เข็นรถไปให้ในบ้านเขา แล้วเขาก็บอกว่าเดี๊ยวเงินพี่เอามาให้ตอนเย็นนะ ผมก็โอเคครับมาแล้วก็เรียกผมละกัน เย็นมาก็จบเรื่องราวไปเรียบร้อยดี
ประมาณ 1 อาทิตย์ถัดมา ผมก็นั่งทำอะไรอยู่หน้าบ้านไปเรื่อยแล้วสักพักเพื่อนบ้านเขาก็มาเรียกผม
เพื่อนบ้าน:น้อง จักรยานมันยางรั่วอะ ลูกของพี่ไปปั่นมาแล้วอยู่ดีๆก็รั่ว (ตัวผมก็แปลกใจเอ๊ะอยู่ดีๆไม่น่ารั่ว เพราะก่อนขายให้เขาผมก็เอาไปปั่นเล่นอยู่ เพราะถ้ามันเกิดจากผมมาก่อนแล้ว ก็คงรับผิดชอบให้)
ผม:อ่อครับ ไปปั่นแถวไหนมาอะครับ สงสัยโดนเศษแก้วโดนตะปูรึเปล่า
เพื่อนบ้าน:ก็ปั่นรอบๆหมู่บ้าน แถวๆเนี่ยแหละ ตอนนี้พ่อเขาเอาไปเปลี่ยนยางในที่ร้านมาเรียบร้อยละ
ผม:อ่อครับ คราวหลังก็บอกน้องเขาอย่าไปปั่นแถวนั้นละกันครับ
วันนั้นก็จบไปปกติ แล้วประมาณ 2 อาทิตย์ต่อมาก็เกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง ล้อเดิมยางรั่วอีก แล้วเขาก็มาพูดเหมือนบ่นๆให้พ่อผมฟังตอนเช้า ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่ตื่น พอผมตื่นมาพ่อก็มาเล่าให้ฟัง
พ่อ:ข้างบ้านเขาบอกรถยางรั่วอีกแล้ว
ผม:แล้วเขาไปทำยังไงให้โดนมาอีกล่ะ ยางก็เพิ่งเปลี่ยนไปไม่นานนี่เอง
พ่อ:เปลี่ยนเอาคัน(สีดำ)ของเราให้เขาไหม จะได้จบๆสักที(ที่พ่อผมบอกแบบนี้เพราะว่าเพื่อนบ้านเขาชอบมาบ่นเปรยๆให้พ่อผมฟังเวลาพ่อผมนั่งอยู่หน้าบ้านตลอด และเพื่อจะได้จบปัญหาที่ว่าเราเอาของไม่ดีไปให้เขารึเปล่า)
ผม:ก็แล้วแต่ยังไงก็ได้ เปลี่ยนเลยก็ได้ จะได้สบายใจกันเพื่อนบ้านกันอยู่แล้ว
หลังจากนั้นผมก็ไปเรียก น้องลูกของเพื่อนบ้านมา ว่าให้เอาคันของผมไป(คันสีดำ) แลกกัน แล้วเดี๊ยวคันสีเขียวพี่เอามาใช้ต่อเอง ก็แลกกันมาเสร็จผมก็เลยลองเติมลมดู เติมไปได้สักพักได้ยินเสียงฟู่ๆของลมออก ผมก็เลยมาร์คจุดตรงที่ลมออกไว้
แล้วจากนั้นก็ถอดยางในออกมาแล้วเติมลมเพื่อเอาไปหาจุดรั่วอีกทีในน้ำ คราวนี้กลายเป็นว่ารูที่มาร์คไว้ตอนแรกไม่รั่ว มารั่วตรงฐานจุ๊บเต็มลมของยางในแทน โดยรอยเหมือนยางมันพับจนรั่ว พอถึงจุดนี้ผมก็เลยสงสัยร้านอาจจะทำไม่ดีมั้ง แล้วผมก็ออกไปซื้อยางใน
จากร้านเดียวกันกับที่ เพื่อนบ้านเขาเอาไปเปลี่ยนมา แต่ผมเอามาเปลี่ยนเองที่บ้านเสร็จเรียบร้อยเติมลมเอาไปลองปั่นก็ ปกติไม่รั่วไม่ซึม เหตุการณ์วันนั้นก็จบไปได้ด้วยดีและคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
แต่!! ไม่ครับยังไม่จบ จนเวลาผ่านจากวันนั้นมา 1 เดือนกว่าๆ เพื่อนบ้านเขามาอีกแล้วครับเมื่อเช้าวันนี้เลย มาบ่นให้พี่ผมฟังว่า ยางมันรั่วอีกแล้ว จากวันนั้นยังไมได้ปั่นไปไหนเลย พี่(เพื่อนบ้าน)ขอคืนรถให้ได้ไหมเนี่ย
พี่ผมก็ตอบไปว่า เดี๊ยวขอไปถามน้องก่อน(ตัวผม) ว่าจะให้ทำยังไง แล้วหลังจากนั้นพี่ผมก็มาเล่าให้ฟังเมื่อเช้า ว่าจะทำเอายังไงต่อ ผมก็เลยบอกว่าแล้วแต่พี่กับพ่อเลยละกัน
ก็เลยสรุปได้ว่าไม่ขอรับคืนครับ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเราด้วย ตอนผมใช้อยู่ทั้ง 2 คันก็ปกติดีไม่รั่วไม่ซึม แล้วทำไมเขาเอาไปทั้ง 2 คันกลับเป็นล่ะ นี่มันไม่ใช่ปัญหาที่รถแล้วล่ะ
เพราะคันสีเขียวที่ผมสลับเอาคืนมาจากวันที่แลกกันไปนั้นยางก็ยังปกติดี มีซึมออกบ้างเพราะไม่ค่อยได้ปั่นเท่าไร
ก็ไม่มีอะไรมากครับ อยากมาแชร์ประสบการณ์เล่าสู่กันฟังครับ
มีคำถามด้วย
คือถ้าเติมลมไม่ถึง 100-120 บาร์ ทำให้ยางรั่ว หรือ อ่อนง่ายรึเปล่าครับ ส่วนตัวผมเติมรถตัวเองที่ 100 บาร์ตลอดก็ปกติ แต่ทางเพื่อนบ้านเขาเติมแค่ยางรู้สึกแข็งเพราะที่เติมเขาไม่มีเกจวัด เลยสงสัยว่ามันจะเกี่ยวไหมครับ