ความเดิมตอนที่แล้ว
http://m.ppantip.com/topic/32780921 ตามลิ้งค์เลยนะคะ
ปัจจุบันนี้รถใช้ได้ปกติแล้วคะ หลังจากเอารถเข้าร้านเช็กปั้ม (ร้านนอก) [ร้านเสียบคอมให้แล้วให้ถ่ายรูปโค้ด]
แล้วเราก็เอารูปไปให้ศูนย์บริการดู (ออกแนวไปเถียงซ่อมรถหน่ะคะ) ก็เล่าเหตุการณ์ให้ศูนย์บริการฟัง (ครั้งนี้ไปศูนย์บริการที่ใหม่คะ) หลังจากเล่าเสร็จเอารูปโค้ดให้ดู ก็ได้ข้อสรุปมาว่า ปั้มติ๊กถังน้ำมันเชื้อเพลิงเสีย ต้องเปลี่ยนใหม่ (ช่างก็รื้อถังน้ำมันอยู่ 2 ชม.) แล้วก็โทรตามเราให้ไปตกลงอนุมัติซ่อม ตอนไปคุยตกลงอนุมัติการซ่อม พนง.ศูนย์ บอกว่าอยากให้รีบตัดสินใจว่าจะซ่อมหรือไม่ เพราะทาง กทม. แจ้งมาว่า ปั้มติ๊กเหลืออยู่แค่ 2 ตัว (ทั้งประเทศอ่ะนะ เหลือ 2 ตัว) เรากับแม่เลยตัดสินใจซ่อม ค่าปั้มติ๊กราคา 7,450 บาท ลูกลอยถังน้ำมัน 3,000 บาท โอริง (ชุดที่ 1) 480 บาท (ชุดที่ 2) 372 บาท ค่าบริการ 2,472 บาท หลังจากซ่อมเสร็จรถใช้งานได้ปกติคะ ไม่มีอาการอีก แต่เจ้ากรรมคะ วันที่เราไปรับรถออกมา แวะเข้าไปเติมน้ำมัน อัดเต็มถัง เกจ์น้ำมันไม่ขึ้นคะ ค้างอยู่ที่ 285 กม. ขับไปเรื่อยๆ เกจ์น้ำมันลงมาแค่ 247 กม. ขับจาก จ.อุดรธานี จนถึง จ.บึงกาฬ ก็ยังเท่าเดิมอีก งานงอกเอารถเข้าศูนย์อีกแล้วคะ ครั้งนี้ช่างบอกว่า สายปลั๊กปั้มติ๊กพันกับลูกลอยคะ ช่างก็แก้ไขให้ไม่ถึง 30 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย (ครั้งนี้ไม่มีค่าบริการคะ) และตอนนี้รถก็ใช้งานได้ปกติแล้วคะ ไม่ต้องมัวกังวลว่ารถจะวูบตอนไหน จะมีปัญหาอะไรอีกรึป่าว และที่สำคัญปลอดภัยกับชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่น
ปล.1 ขอบคุณเฮียร้านเช็กปั้มอย่างสูงคะ ที่เสียบคอมให้ และบอกให้ถ่ายรูปไปให้ศูนย์ดู และแนะนำอะไรหลายๆอย่าง (ร้านบำรุงดีเซล อ.เมือง จ.อุดรธานี)
ปล.2 Chevrolet : Captiva รุ่นปี 2011 มีถังน้ำมันเชื้อเพลิง 2 ถังนะคะ และทั้ง 2 ถัง มีลูกลอยทั้งหมดคะ
ข้อมูลข้างต้นอาจเป็นประโยชน์เล็กๆน้อยๆ สำหรับผู้ต้องการศึกษา หรือ อาจเป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการเลือกซื้อรถในอนาคตได้นะคะ
Chevrolet : Captiva ตอนจบ
ปัจจุบันนี้รถใช้ได้ปกติแล้วคะ หลังจากเอารถเข้าร้านเช็กปั้ม (ร้านนอก) [ร้านเสียบคอมให้แล้วให้ถ่ายรูปโค้ด]
แล้วเราก็เอารูปไปให้ศูนย์บริการดู (ออกแนวไปเถียงซ่อมรถหน่ะคะ) ก็เล่าเหตุการณ์ให้ศูนย์บริการฟัง (ครั้งนี้ไปศูนย์บริการที่ใหม่คะ) หลังจากเล่าเสร็จเอารูปโค้ดให้ดู ก็ได้ข้อสรุปมาว่า ปั้มติ๊กถังน้ำมันเชื้อเพลิงเสีย ต้องเปลี่ยนใหม่ (ช่างก็รื้อถังน้ำมันอยู่ 2 ชม.) แล้วก็โทรตามเราให้ไปตกลงอนุมัติซ่อม ตอนไปคุยตกลงอนุมัติการซ่อม พนง.ศูนย์ บอกว่าอยากให้รีบตัดสินใจว่าจะซ่อมหรือไม่ เพราะทาง กทม. แจ้งมาว่า ปั้มติ๊กเหลืออยู่แค่ 2 ตัว (ทั้งประเทศอ่ะนะ เหลือ 2 ตัว) เรากับแม่เลยตัดสินใจซ่อม ค่าปั้มติ๊กราคา 7,450 บาท ลูกลอยถังน้ำมัน 3,000 บาท โอริง (ชุดที่ 1) 480 บาท (ชุดที่ 2) 372 บาท ค่าบริการ 2,472 บาท หลังจากซ่อมเสร็จรถใช้งานได้ปกติคะ ไม่มีอาการอีก แต่เจ้ากรรมคะ วันที่เราไปรับรถออกมา แวะเข้าไปเติมน้ำมัน อัดเต็มถัง เกจ์น้ำมันไม่ขึ้นคะ ค้างอยู่ที่ 285 กม. ขับไปเรื่อยๆ เกจ์น้ำมันลงมาแค่ 247 กม. ขับจาก จ.อุดรธานี จนถึง จ.บึงกาฬ ก็ยังเท่าเดิมอีก งานงอกเอารถเข้าศูนย์อีกแล้วคะ ครั้งนี้ช่างบอกว่า สายปลั๊กปั้มติ๊กพันกับลูกลอยคะ ช่างก็แก้ไขให้ไม่ถึง 30 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย (ครั้งนี้ไม่มีค่าบริการคะ) และตอนนี้รถก็ใช้งานได้ปกติแล้วคะ ไม่ต้องมัวกังวลว่ารถจะวูบตอนไหน จะมีปัญหาอะไรอีกรึป่าว และที่สำคัญปลอดภัยกับชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่น
ปล.1 ขอบคุณเฮียร้านเช็กปั้มอย่างสูงคะ ที่เสียบคอมให้ และบอกให้ถ่ายรูปไปให้ศูนย์ดู และแนะนำอะไรหลายๆอย่าง (ร้านบำรุงดีเซล อ.เมือง จ.อุดรธานี)
ปล.2 Chevrolet : Captiva รุ่นปี 2011 มีถังน้ำมันเชื้อเพลิง 2 ถังนะคะ และทั้ง 2 ถัง มีลูกลอยทั้งหมดคะ
ข้อมูลข้างต้นอาจเป็นประโยชน์เล็กๆน้อยๆ สำหรับผู้ต้องการศึกษา หรือ อาจเป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการเลือกซื้อรถในอนาคตได้นะคะ