“ เส้นทาง ขวากหนามการเข้ารับราชการ “
บทนำ
เส้นลิขิตบากบั่นขีดคั่นชอบ ตามระบอบวิถีดีนักหนา
เกียรติ์ประวัติส่งเสริมเพิ่มกายา สมดังข้ารับใช้ในแผ่นดิน
ทุกย่างก้าวเชื่อมั่นเพื่อวันนี้ ประกอบดีปัญญาพาถวิล
สุขสมหวังดังคาดวาดเพียงยิน โลกระบิลชมชื่นระรื่นทรวง...
เส้นทางทุกสาขาอาชีพ ล้วนแล้วแต่ได้มาด้วยความยากลำบาก บ้างก็เส้นสาย บ้างด้วยความสามารถ บ้างก็พื้นฐานทางครอบครัว การรับราชการในยุคสมัยปัจจุบัน ไม่ได้กระจุกตัวเฉพาะกลุ่มหรือวงศาคณาญาติ แต่มีการเปิดกว้างถึงข้อมูลข่าวสารกันอย่างแพร่หลาย มีการสอบแข่งขันกันอย่างชอบธรรม จากการสำรวจมีเพียงสาขาไม่กี่อาชีพเท่านั้นที่เรียนจบแล้วสามารถรับราชการได้ต่อเนื่องเลย หลักๆทั่วๆไป ก็จะมี แพทย์ , พยาบาล ( ระยะหลังต้องมีการสอบเข้ารับราชการ ) , ครู ( บางรุ่นบางโครงการ ) , ทหาร ทั้ง 3 เหล่าทัพ ไม่ว่าจะจบจาก นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า , นักเรียนนายเรืออากาศ , นักเรียนนายเรือ , ตำรวจ ต้องจบจาก โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน , นอกเหนือจากนี้ ก็จะเป็น บรรดา โรงเรียนหรือวิทยาลัยต่างๆ ของหน่วยราชการนั้น เช่น โรงเรียนไปรษณีย์ โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ ฯลฯ
การเข้ารับราชการในปัจจุบัน ฐานเงินเดือน ถือว่าไม่ทิ้งห่างจากภาคเอกชนมากนัก เริ่มบรรจุครั้งแรกที่อัตรา 15,000 บาท สำหรับคุณวุฒิปริญญาตรี ข้อดีของการรับราชการมีมากมายร้อยแปดพันเก้า ตั้งแต่ ซึ่งในบรรดาตำแหน่งที่เปิดรับของหน่วยงานราชการในปัจจุบัน จะต้องผ่าน ภาค ก. ของ สำนักงาน กพ. ก่อน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับ ปวส. ระดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโท ซึ่ง สำนักงาน กพ. จะเปิดสอบในทุกๆปี เนื้อหาที่สอบของ ภาค ก. จะเป็นพื้นฐานในด้านภาษาไทย เลขอนุกรม และที่เพิ่มเข้ามาใน ปี พ.ศ.2557 คือ ภาษาอังกฤษ แต่ก็มีบางหน่วยงานที่ มีข้อสอบภาค ก. เป็นของตัวเอง เช่นบรรดา องค์กรส่วนท้องถิ่นต่างๆ รวมไปถึง กทม. และพัทยา โดยแต่เดิมที องค์กรท้องถิ่น เช่น อบต. อบจ. และเทศบาล เหล่านี้ จะเปิดรับกันเอง ต่อมา กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้ เปิดสอบเอง โดยแบ่งเป็นภูมิภาค เพื่อความโปร่งใส ป้องกันการทุจริต และบรรดาเด็กฝากนักการเมือง
การปรับเปลี่ยนระบบโครงสร้างอัตราของข้าราชการใหม่ ทำให้มีการยุบ ยกเลิก บางตำแหน่งไปโดยไม่มีการขออัตราเพิ่มเติม เช่น ลูกจ้างประจำ ซึ่งในปัจจุบัน หากอัตราดังกล่าวเกษียณจะปรับเปลี่ยนสถานะมาเป็น พนักงานราชการ แทน ตำแหน่งนี้อย่าเพิ่งมองข้ามเป็นอันขาด แม้สวัสดิการต่างๆ จะน้อยกว่าข้าราชการ คือจะมีเพียง ประกันสังคม และสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ แต่เงินเดือนกลับได้ถึง 18,000 บาทสำหรับคุณวุฒิปริญญาตรี ความมั่นคงมีแน่นอนแม้จะมีระยะเวลาในการประเมินต่อสัญญาทุก 4 ปีก็ตามที แวดวงหน่วยงานราชการในปัจจุบันจะมีตำแหน่งพนักงานราชการค่อนข้างมาก และจะมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนแนวโน้มอัตราข้าราชการจะเริ่มลดลง ในทุกขณะ
เส้นทางอีกเส้นในการรับราชการ ก็อาจจะสมัครสอบเป็นพนักงานราชการก่อน จากนั้นค่อยขยับขยาย สอบรับราชการตามหน่วยงานต่างๆ แต่ทั้งนี้ต้องดูประวัติประกาศรับสมัครข้าราชการของกรมดังกล่าวด้วยว่า คุณวุฒิเราสามารถสมัครสอบได้หรือไม่ รับมากน้อยเพียงใด การได้ทำงานในกรม หรือหน่วยงานราชการ ทำให้เราสามารถเข้าเป็นคนภายในได้ ข้อมูลข่าวสาร ต่างๆ ก็ย่อมเข้าถึงได้ง่ายกว่าบุคคลภายนอก นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีอีกเส้นทางหนึ่ง เพียงแต่เส้นทางนี้อาจต้องอาศัยระยะเวลา อดทน และมีความมุ่งมั่นมากเป็นพิเศษ
ภาคโอโม่ เป็นภาพขาวใสบริสุทธิ์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับเส้นทางทั้งปวง โดยเริ่มจากการหาข้อมูลข่าวสารการรับสมัครซึ่งมีเว็บไซค์มากมาย ที่สามารถสืบเสาะได้ เช่น
http://www.sheetram.com/ ,
http://perdsorbtoday.com/ จากนั้นจึงอ่านประกาศรับสมัคร โดยจะมีรายละเอียด เช่น เรื่อง ตำแหน่งที่รับสมัคร จำนวนตำแหน่งว่างในครั้งแรก คุณสมบัติ การรับสมัคร หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน เกณฑ์การตัดสิน การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ การบรรจุและแต่งตั้ง ต่อมาให้สำรวจคุณวุฒิของตนเอง ว่าตรงตามเงื่อนไข ในตำแหน่งนั้นหรือไม่ หากสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการครู หรือตำแหน่งวิศวกร ต้องมีใบประกอบวิชาชีพประกอบ การประกาศรับสมัคร จะมีทั้งรับสมัครทางอินเตอร์เน็ต และรับสมัครที่หน่วยงานนั้นๆโดยตรง การกรอกข้อมูลในใบสมัครต้องกรอกตามจริง และให้ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ และเป็นหลักแหล่ง เพราะที่อยู่ดังกล่าวสำคัญมาก ในการติดต่อส่งหนังสือทางราชการ เวลาได้รับการเรียกบรรจุ หลักฐานเอกสารต่างๆ ที่ต้องเตรียม สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียน , สำเนาปริญญาบัตร , รูปถ่าย , สำเนาหนังสือผ่านภาค ก. ของสำนักงาน กพ. , เงินค่าสมัครสอบ ฯลฯ โดยมากตำแหน่งที่ประกาศรับสมัครที่ใช้ปริญญาตรีทุกคุณวุฒิ จะมี นักจัดการงานทั่วไป , นักทัณฑวิทยา , นักวิชาการพัฒนาชุมชน ฯลฯ นอกนั้นส่วนใหญ่จะรับคุณวุฒิเฉพาะทาง ที่กำหนดในประกาศด้วยกันทั้งสิ้น หากเห็นหัวข้อ จำนวนตำแหน่งว่างในครั้งแรก หนึ่งหรือสอง ตำแหน่งก็ไม่ต้องท้อแท้ เพราะมีการขึ้นบัญชีไว้ประมาณ 2 ปี อาจเรียกเพิ่มอีก
ตำแหน่งใด ที่มีความเจริญก้าวหน้า ก็ให้สังเกต ชื่อตำแหน่งจะคล้ายคลึงกับชื่อของกรมฯนั้นๆ เช่น นักวิชาการพัฒนาชุมชน ของ กรมพัฒนาชุมชน นักวิชาการอุตสาหกรรม ของ กระทรวงอุตสาหกรรม นักวิชาการพลังงาน ของกรมพลังงานทดแทน นักวิชาการพัฒนาฝีมือแรงงาน ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นักวิชาการแรงงงาน ของกระทรวงแรงงาน เนื่องจาก ตำแหน่งดังกล่าวจะถือเป็นตำแหน่งหลักของกรมฯนั้นๆ และมีโอกาสในการเจริญเติบโตตามสายงาน นั้นได้อย่างรวดเร็ว
สถิติที่ผ่านมา ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตำแหน่งที่มีการเรียกบรรจุ และเรียกหมดบัญชี ก็มี ตำแหน่ง นักวิชาการการเงินและบัญชี ( เรียกหมดบัญชี ) ประมาณ 800 ตำแหน่ง ของ สำนักงาน กพ. , นักวิชาการพัฒนาชุมชน ( เรียกหมดบัญชี ) ประมาณ 900 ตำแหน่ง , ปลัดอำเภอ ประมาณ 600 ตำแหน่ง ( ปัจจุบันยังไม่หมดบัญชี )
" เส้นทางและขวากหนามการเข้ารับราชการ" สำหรับผู้ที่อยากก้าวเข้ามาในสายอาชีพนี้
บทนำ
เส้นลิขิตบากบั่นขีดคั่นชอบ ตามระบอบวิถีดีนักหนา
เกียรติ์ประวัติส่งเสริมเพิ่มกายา สมดังข้ารับใช้ในแผ่นดิน
ทุกย่างก้าวเชื่อมั่นเพื่อวันนี้ ประกอบดีปัญญาพาถวิล
สุขสมหวังดังคาดวาดเพียงยิน โลกระบิลชมชื่นระรื่นทรวง...
เส้นทางทุกสาขาอาชีพ ล้วนแล้วแต่ได้มาด้วยความยากลำบาก บ้างก็เส้นสาย บ้างด้วยความสามารถ บ้างก็พื้นฐานทางครอบครัว การรับราชการในยุคสมัยปัจจุบัน ไม่ได้กระจุกตัวเฉพาะกลุ่มหรือวงศาคณาญาติ แต่มีการเปิดกว้างถึงข้อมูลข่าวสารกันอย่างแพร่หลาย มีการสอบแข่งขันกันอย่างชอบธรรม จากการสำรวจมีเพียงสาขาไม่กี่อาชีพเท่านั้นที่เรียนจบแล้วสามารถรับราชการได้ต่อเนื่องเลย หลักๆทั่วๆไป ก็จะมี แพทย์ , พยาบาล ( ระยะหลังต้องมีการสอบเข้ารับราชการ ) , ครู ( บางรุ่นบางโครงการ ) , ทหาร ทั้ง 3 เหล่าทัพ ไม่ว่าจะจบจาก นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า , นักเรียนนายเรืออากาศ , นักเรียนนายเรือ , ตำรวจ ต้องจบจาก โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน , นอกเหนือจากนี้ ก็จะเป็น บรรดา โรงเรียนหรือวิทยาลัยต่างๆ ของหน่วยราชการนั้น เช่น โรงเรียนไปรษณีย์ โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ ฯลฯ
การเข้ารับราชการในปัจจุบัน ฐานเงินเดือน ถือว่าไม่ทิ้งห่างจากภาคเอกชนมากนัก เริ่มบรรจุครั้งแรกที่อัตรา 15,000 บาท สำหรับคุณวุฒิปริญญาตรี ข้อดีของการรับราชการมีมากมายร้อยแปดพันเก้า ตั้งแต่ ซึ่งในบรรดาตำแหน่งที่เปิดรับของหน่วยงานราชการในปัจจุบัน จะต้องผ่าน ภาค ก. ของ สำนักงาน กพ. ก่อน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับ ปวส. ระดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโท ซึ่ง สำนักงาน กพ. จะเปิดสอบในทุกๆปี เนื้อหาที่สอบของ ภาค ก. จะเป็นพื้นฐานในด้านภาษาไทย เลขอนุกรม และที่เพิ่มเข้ามาใน ปี พ.ศ.2557 คือ ภาษาอังกฤษ แต่ก็มีบางหน่วยงานที่ มีข้อสอบภาค ก. เป็นของตัวเอง เช่นบรรดา องค์กรส่วนท้องถิ่นต่างๆ รวมไปถึง กทม. และพัทยา โดยแต่เดิมที องค์กรท้องถิ่น เช่น อบต. อบจ. และเทศบาล เหล่านี้ จะเปิดรับกันเอง ต่อมา กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้ เปิดสอบเอง โดยแบ่งเป็นภูมิภาค เพื่อความโปร่งใส ป้องกันการทุจริต และบรรดาเด็กฝากนักการเมือง
การปรับเปลี่ยนระบบโครงสร้างอัตราของข้าราชการใหม่ ทำให้มีการยุบ ยกเลิก บางตำแหน่งไปโดยไม่มีการขออัตราเพิ่มเติม เช่น ลูกจ้างประจำ ซึ่งในปัจจุบัน หากอัตราดังกล่าวเกษียณจะปรับเปลี่ยนสถานะมาเป็น พนักงานราชการ แทน ตำแหน่งนี้อย่าเพิ่งมองข้ามเป็นอันขาด แม้สวัสดิการต่างๆ จะน้อยกว่าข้าราชการ คือจะมีเพียง ประกันสังคม และสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ แต่เงินเดือนกลับได้ถึง 18,000 บาทสำหรับคุณวุฒิปริญญาตรี ความมั่นคงมีแน่นอนแม้จะมีระยะเวลาในการประเมินต่อสัญญาทุก 4 ปีก็ตามที แวดวงหน่วยงานราชการในปัจจุบันจะมีตำแหน่งพนักงานราชการค่อนข้างมาก และจะมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนแนวโน้มอัตราข้าราชการจะเริ่มลดลง ในทุกขณะ
เส้นทางอีกเส้นในการรับราชการ ก็อาจจะสมัครสอบเป็นพนักงานราชการก่อน จากนั้นค่อยขยับขยาย สอบรับราชการตามหน่วยงานต่างๆ แต่ทั้งนี้ต้องดูประวัติประกาศรับสมัครข้าราชการของกรมดังกล่าวด้วยว่า คุณวุฒิเราสามารถสมัครสอบได้หรือไม่ รับมากน้อยเพียงใด การได้ทำงานในกรม หรือหน่วยงานราชการ ทำให้เราสามารถเข้าเป็นคนภายในได้ ข้อมูลข่าวสาร ต่างๆ ก็ย่อมเข้าถึงได้ง่ายกว่าบุคคลภายนอก นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีอีกเส้นทางหนึ่ง เพียงแต่เส้นทางนี้อาจต้องอาศัยระยะเวลา อดทน และมีความมุ่งมั่นมากเป็นพิเศษ
ภาคโอโม่ เป็นภาพขาวใสบริสุทธิ์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับเส้นทางทั้งปวง โดยเริ่มจากการหาข้อมูลข่าวสารการรับสมัครซึ่งมีเว็บไซค์มากมาย ที่สามารถสืบเสาะได้ เช่น http://www.sheetram.com/ , http://perdsorbtoday.com/ จากนั้นจึงอ่านประกาศรับสมัคร โดยจะมีรายละเอียด เช่น เรื่อง ตำแหน่งที่รับสมัคร จำนวนตำแหน่งว่างในครั้งแรก คุณสมบัติ การรับสมัคร หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน เกณฑ์การตัดสิน การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ การบรรจุและแต่งตั้ง ต่อมาให้สำรวจคุณวุฒิของตนเอง ว่าตรงตามเงื่อนไข ในตำแหน่งนั้นหรือไม่ หากสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการครู หรือตำแหน่งวิศวกร ต้องมีใบประกอบวิชาชีพประกอบ การประกาศรับสมัคร จะมีทั้งรับสมัครทางอินเตอร์เน็ต และรับสมัครที่หน่วยงานนั้นๆโดยตรง การกรอกข้อมูลในใบสมัครต้องกรอกตามจริง และให้ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ และเป็นหลักแหล่ง เพราะที่อยู่ดังกล่าวสำคัญมาก ในการติดต่อส่งหนังสือทางราชการ เวลาได้รับการเรียกบรรจุ หลักฐานเอกสารต่างๆ ที่ต้องเตรียม สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียน , สำเนาปริญญาบัตร , รูปถ่าย , สำเนาหนังสือผ่านภาค ก. ของสำนักงาน กพ. , เงินค่าสมัครสอบ ฯลฯ โดยมากตำแหน่งที่ประกาศรับสมัครที่ใช้ปริญญาตรีทุกคุณวุฒิ จะมี นักจัดการงานทั่วไป , นักทัณฑวิทยา , นักวิชาการพัฒนาชุมชน ฯลฯ นอกนั้นส่วนใหญ่จะรับคุณวุฒิเฉพาะทาง ที่กำหนดในประกาศด้วยกันทั้งสิ้น หากเห็นหัวข้อ จำนวนตำแหน่งว่างในครั้งแรก หนึ่งหรือสอง ตำแหน่งก็ไม่ต้องท้อแท้ เพราะมีการขึ้นบัญชีไว้ประมาณ 2 ปี อาจเรียกเพิ่มอีก
ตำแหน่งใด ที่มีความเจริญก้าวหน้า ก็ให้สังเกต ชื่อตำแหน่งจะคล้ายคลึงกับชื่อของกรมฯนั้นๆ เช่น นักวิชาการพัฒนาชุมชน ของ กรมพัฒนาชุมชน นักวิชาการอุตสาหกรรม ของ กระทรวงอุตสาหกรรม นักวิชาการพลังงาน ของกรมพลังงานทดแทน นักวิชาการพัฒนาฝีมือแรงงาน ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นักวิชาการแรงงงาน ของกระทรวงแรงงาน เนื่องจาก ตำแหน่งดังกล่าวจะถือเป็นตำแหน่งหลักของกรมฯนั้นๆ และมีโอกาสในการเจริญเติบโตตามสายงาน นั้นได้อย่างรวดเร็ว
สถิติที่ผ่านมา ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตำแหน่งที่มีการเรียกบรรจุ และเรียกหมดบัญชี ก็มี ตำแหน่ง นักวิชาการการเงินและบัญชี ( เรียกหมดบัญชี ) ประมาณ 800 ตำแหน่ง ของ สำนักงาน กพ. , นักวิชาการพัฒนาชุมชน ( เรียกหมดบัญชี ) ประมาณ 900 ตำแหน่ง , ปลัดอำเภอ ประมาณ 600 ตำแหน่ง ( ปัจจุบันยังไม่หมดบัญชี )