ความคืบหน้าหลังจากมีการถอด The Hunger Games: Mockingjay Part 1 ออกจากโรงภาพยนตร์ในเครือเอเพ็กซ์อย่างลิโดและสกาลา โดยมีข่าวลือหลายกระแส ทั้งฉากชู 3 นิ้ว และเนื้อหาของหนังที่อาจส่งผลต่อบรรยากาศการปรองดอง และการมีกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังไปเหมารอบดูพร้อมมีการเสวนา ซึ่งขัดกับกฎอัยการศึก
https://th-th.facebook.com/poojidtakorn
เพื่อคำตอบที่ชัดเจนว่าเหตุผลการถอนภาพยนตร์เรื่องนี้ออกจากโปรแกรมเกิดจากอะไร บันเทิงไทยรัฐได้สอบถามไปทางเจ้าหน้าที่ภายในของทางเครือเอเพ็กซ์ (ขอสงวนนาม) ที่ยืนยันว่า ลิโดและสกาลา ถอด The Hunger Games: Mockingjay Part 1 ออกจากโปรแกรมแบบถาวร เพราะมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองจากกลุ่มนักศึกษาแห่งหนึ่งที่มีการจัดกิจกรรมโพสต์เชิญชวนในเฟซบุ๊กให้มาร่วมกิจกรรมการดู The Hunger Games ที่โรงภาพยนตร์สกาลา
"ต้องเรียนก่อนว่าไม่ได้มีการเสวนาเกิดขึ้น ไม่ได้มีการเหมารอบดูอย่างที่เป็นข่าว วันนั้นทั้งโรงมี 800 ที่นั่ง มีการซื้อไป 200 ที่นั่ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทางโรงหนังของเราจะมีคนมาซื้อตัวเหมาลักษณะนี้อยู่แล้ว ส่วนการเสวนาก็ไม่มี แต่ที่เราเอาออกจากโปรมแกรม เกิดจากประเด็นมีการโพสต์เฟซบุ๊กของนักศึกษากลุ่มหนึ่งให้มาทำกิจกรรมดูหนังที่จัดขึ้นที่สกาลา ซึ่งที่ผ่านมาทางเราเจ็บปวดกับเรื่องราวทางการเมืองมามากพอแล้ว เราเลยตัดสินใจถอดภาพยนตร์เรื่องนี้ออกเพราะไม่อย่างถูกดึงไปใช้ในเรื่องการเมือง (ตัดสินใจถอดออกจากโปรแกรมอย่างนี้ The Hunger Games เป็นหนังโปรแกรมใหญ่รายได้น่าจะหายไปเยอะ) เยอะมากวันละหลายแสน แต่เราตัดสินใจเอาออก เพื่อรักษาไว้ซึ่งบรรยากาศในการดูหนังของลูกค้าคนอื่น นี่ขนาดเราถอดออกแล้วนะเมื่อเช้ายังมีมารวมกลุ่มกันหน้าโรงอยู่เลย"
เปิดใจ"เครือเอเพ็กซ์" หนังชู3นิ้ว จำใจถอดถาวร(**บางโรงหนัง) เสียรายได้วันละแสน
https://th-th.facebook.com/poojidtakorn
เพื่อคำตอบที่ชัดเจนว่าเหตุผลการถอนภาพยนตร์เรื่องนี้ออกจากโปรแกรมเกิดจากอะไร บันเทิงไทยรัฐได้สอบถามไปทางเจ้าหน้าที่ภายในของทางเครือเอเพ็กซ์ (ขอสงวนนาม) ที่ยืนยันว่า ลิโดและสกาลา ถอด The Hunger Games: Mockingjay Part 1 ออกจากโปรแกรมแบบถาวร เพราะมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองจากกลุ่มนักศึกษาแห่งหนึ่งที่มีการจัดกิจกรรมโพสต์เชิญชวนในเฟซบุ๊กให้มาร่วมกิจกรรมการดู The Hunger Games ที่โรงภาพยนตร์สกาลา
"ต้องเรียนก่อนว่าไม่ได้มีการเสวนาเกิดขึ้น ไม่ได้มีการเหมารอบดูอย่างที่เป็นข่าว วันนั้นทั้งโรงมี 800 ที่นั่ง มีการซื้อไป 200 ที่นั่ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทางโรงหนังของเราจะมีคนมาซื้อตัวเหมาลักษณะนี้อยู่แล้ว ส่วนการเสวนาก็ไม่มี แต่ที่เราเอาออกจากโปรมแกรม เกิดจากประเด็นมีการโพสต์เฟซบุ๊กของนักศึกษากลุ่มหนึ่งให้มาทำกิจกรรมดูหนังที่จัดขึ้นที่สกาลา ซึ่งที่ผ่านมาทางเราเจ็บปวดกับเรื่องราวทางการเมืองมามากพอแล้ว เราเลยตัดสินใจถอดภาพยนตร์เรื่องนี้ออกเพราะไม่อย่างถูกดึงไปใช้ในเรื่องการเมือง (ตัดสินใจถอดออกจากโปรแกรมอย่างนี้ The Hunger Games เป็นหนังโปรแกรมใหญ่รายได้น่าจะหายไปเยอะ) เยอะมากวันละหลายแสน แต่เราตัดสินใจเอาออก เพื่อรักษาไว้ซึ่งบรรยากาศในการดูหนังของลูกค้าคนอื่น นี่ขนาดเราถอดออกแล้วนะเมื่อเช้ายังมีมารวมกลุ่มกันหน้าโรงอยู่เลย"