เมื่อวันที่ 19/11/2014
ได้ไปซื้อสิ้นค้าจากทางห้างแห่งหนึ่งค่ะ เวลาประมาณสามทุ่ม ขณะที่เลือกของอยู่เห็นว่าห้างใกล้ปิดแล้ว ห้างปิด 22 :00 น.
เลยรีบหยิบของและขนมแล้วไปชำระเงินที่เคาร์เตอร์ เสร็จแล้วก็กลับบ้านมา ตามปกติก็นั่งจิ้มแท็บเล็ตแล้วก็เอาขนมที่ซื้อจากห้างมานั่งแกะกินไปด้วย
ขนมที่ซื้อมาคือมาชร์เมลโล่ของโปรด ซองแรกฉีกซองกินเลยรู้สึกรสชาติแปลกๆ เปรี้ยวๆเลยแกะอีกซองทีนี้สักเกตว่าขนมมันติดซองเหนียวๆ เลยเอ๊ะใจ
พลิกดูวันที่ผลิต วันหมดอายุ ปรากฏว่าขนมที่กินไปเมื่อตะกี้มันหมดอายุแล้ว เท่านั้นแหละแทบอ้วกเลยค่ะ เลยเก็บขนมที่เหลือเอาไว้และใบเสร็จชำระเงิน

วันนี้ 20/11/2014
โทรศัพท์ติดต่อไปยังห้างไม่มีใครรับสาย เลยตัดสินใจขับรถไปที่ห้างเพื่อเรียกร้องสิทธิ์
ไปถึงห้างทีแรกยังไม่ได้คุยกับผู้จัดการสาขาค่ะ ลองเดินไปดูชั้นวางสิ้นค้าตรวจสอบขนมที่เหลือ ปรากฏว่ามีขนมที่หมดอายุอยู่หลายห่อ บางห่อหมดอายุนานกว่า 4 เดือน
เลยเดินไปแจ้งผู้จัดการสาขาเรื่องสินค้าที่หมดอายุที่ยังว่างจำหน่ายอยู่และได้เอาขนมที่หมดอายุและใบเสร็จให้ผู้จัดการสาขาดูค่ะ
ผู้จัดการก็ตรวจสอบสิ้นค้าและใบเสร็จชำระเงินค่ะ เห็นว่าทางห้างผิดจริงจึงได้กล่าวขอโทษและสอบถามอาการว่าทานเข้าไปมีอาการเป็นยังไง
และยังบอกว่าจะพาไปตรวจสุขภาพด้วย แต่คิดไม่อยากเสียเวลาเพราะกินไปไม่เยอะคงไม่เป็นไร แค่อยากจะให้ห้างตรวจสอบสินค้าให้ดีเท่านั้นเพราะถ้าหากว่าเป็นเด็ก

ที่หยิบขนมไปกินอาจจะไม่รู้เรื่องและกินจนหมดอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

จากนั้นห้างก็รับผิดชอบโดยการชดเชยเป็นเงินมาจำนวนหนึ่งค่ะ ซึ่งไม่ได้มากอะไรถ้าเทียบกับสุขภาพ
แต่ด้วยความที่เห็นว่าทางห้างเองก็ยอมรับผิดเลยยอมไม่เอาเรื่องอะไร
อยากจะเตือนเพื่อนๆ พันทิปค่ะ
เวลาซื้อของตรวจสอบสิ้นค้าสักนิดเพราเราอาจจะวางใจ มั่นใจไม่ได้ว่าร้านหรือห้างนั้นจะเช็คสินค้าละเอียดดีแล้ว

หลายคนอาจคิดว่าการเรียกร้องสิทธิ์ผู้บริโภคเป็นเรื่องเล็กน้อย อีกทั้งเสียเวลา แต่ถ้ามองในมุมการใช้สิทธิของผู้บริโภคในการเรียกร้องเพื่อ
ลงโทษผู้ประกอบการแล้ว คิดว่าสมควรนะคะอย่างน้อยก็อาจทำให้ผู้ประกอบการรับรู้ถึงแม้เราจะป็นเพียงผู้บริโจรายเล็กๆ แต่ก็ไม่ควรเอาเปรียบ
เราก็มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องค่าเสียหายค่ะ