คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 134
จากที่อ่านชื่นชมในความคิดหลายๆอย่างของคุณ ดีแล้วครับที่ปรับแผนใหม่ให้รัดกุมยิ่งขึ้น จะได้ทำตามความฝันได้โดยที่ยังมีความมั่นคงทางการเงินอยู่ ความฝันและความมั่นคงสามารถไปพร้อมกันได้หากเราวางแผนการเงินให้ดี ตามสูตร รายรับ-รายจ่าย=เงินออม
รายรับ ก็ต้องวางแผนหารายได้ให้มากขึ้น (โดยที่ไม่เสียสุขภาพมากจนเกินไป) วิเคราะห์ growth ของรายได้ในอนาคตว่ากี่% ต่อปี วิเคราะห์ความเสี่ยงที่จะตกงานว่ามีมากน้อยแค่ไหน
รายจ่าย ก็ต้องคำนวนให้ครบจริงๆ ทั้งค่ารถที่มีมากกว่าเงินผ่อน กับรายจ่ายชีวิตประจำวันในหลายๆแง่มุมที่เราอาจลืมนำมาคำนวน แนะนำว่าควรคำนวนรายจ่ายในระดับที่ยังรักษาคุณภาพชีวิตของพวกคุณไม่แย่จนเกินไป
เงินออม ถ้าคำนวนสองตัวแรกอย่างดีแล้ว ยังเหลือเงินออม แสดงว่าเบื้องต้นคุณผ่านแล้ว สิ่งที่คุณควรมีคือเงินออมหลังดาวน์สัก 3-6 เดือน เพื่อกันความเสี่ยงอาจตกงานกระทันหัน จะได้มีเวลาหางานใหม่ และคุณควรมีเงินออมคงเหลือในแต่ละเดือนสำหรับเหตุฉุกเฉินและเป็นทุนในการทำตามความฝันในเรื่องอื่นๆ
หากคิดสมการอย่างรอบคอบแล้วทำได้อย่างครบถ้วน และไม่เสียดายกับมูลค่าของรถที่ลดลง ก็ลุยครับ ทำตามความฝันเพื่อความสุขของเรา ไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่าพวกคุณ ผมว่าพวกคุณเป็นเคสที่ต่างจากคนอื่นที่ฟุ้งเฟ้อเกินตัวแบบสิ้นคิด เพราะเห็นมีวินัยและมีความคิดความระวังในระดับนึง ประเมินตัวเราเองให้ได้ครับ บนหลักการของตัวเลขล้วนๆอย่าประเมินโดยใช้ความรู้สึก สู้ๆครับ ^^
รายรับ ก็ต้องวางแผนหารายได้ให้มากขึ้น (โดยที่ไม่เสียสุขภาพมากจนเกินไป) วิเคราะห์ growth ของรายได้ในอนาคตว่ากี่% ต่อปี วิเคราะห์ความเสี่ยงที่จะตกงานว่ามีมากน้อยแค่ไหน
รายจ่าย ก็ต้องคำนวนให้ครบจริงๆ ทั้งค่ารถที่มีมากกว่าเงินผ่อน กับรายจ่ายชีวิตประจำวันในหลายๆแง่มุมที่เราอาจลืมนำมาคำนวน แนะนำว่าควรคำนวนรายจ่ายในระดับที่ยังรักษาคุณภาพชีวิตของพวกคุณไม่แย่จนเกินไป
เงินออม ถ้าคำนวนสองตัวแรกอย่างดีแล้ว ยังเหลือเงินออม แสดงว่าเบื้องต้นคุณผ่านแล้ว สิ่งที่คุณควรมีคือเงินออมหลังดาวน์สัก 3-6 เดือน เพื่อกันความเสี่ยงอาจตกงานกระทันหัน จะได้มีเวลาหางานใหม่ และคุณควรมีเงินออมคงเหลือในแต่ละเดือนสำหรับเหตุฉุกเฉินและเป็นทุนในการทำตามความฝันในเรื่องอื่นๆ
หากคิดสมการอย่างรอบคอบแล้วทำได้อย่างครบถ้วน และไม่เสียดายกับมูลค่าของรถที่ลดลง ก็ลุยครับ ทำตามความฝันเพื่อความสุขของเรา ไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่าพวกคุณ ผมว่าพวกคุณเป็นเคสที่ต่างจากคนอื่นที่ฟุ้งเฟ้อเกินตัวแบบสิ้นคิด เพราะเห็นมีวินัยและมีความคิดความระวังในระดับนึง ประเมินตัวเราเองให้ได้ครับ บนหลักการของตัวเลขล้วนๆอย่าประเมินโดยใช้ความรู้สึก สู้ๆครับ ^^
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 78
คุณนี่โลกสวยจริง ๆ บอกได้เลยว่ารายได้ระดับคุณนี่ ผ่อนไม่ไหวหรอก
แค่คิดจะผ่อน 72 เดือนก็ผิดแล้ว ... คุณรู้หรือเปล่าว่าไอ้พวกคอนเซปต์ดาวน์น้อย ผ่อนนานน่ะ คนผ่อนโดนดอกเบี้ยเท่าไหร่ ?
รายได้อย่างคุณ 2 คน ผมว่า Nissan March หรือ Suzuki Swift ก็พอแล้วครับ รถ 4 ล้อเหมือนกัน ติดแอร์เหมือนกัน อย่าคิดมาก
คุณทำงานคอนโดก็ติดที่ทำงาน ไปไหนมาไหนก็ใช้มอเตอร์ไซค์เพราะสะดวกกว่า จะได้ใช้รถเดือน ๆ นึงซักเท่าไหร่กันเชียว
เคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าค่าเสื่อมราคาของรถน่ะ คิดเป็นวันละเท่าไหร่ ? นั่นคือเงินที่ิทิ้งไปเปล่า ๆ เลยนะ
ผมคำนวณให้ก็ได้ ... อ่านดี ๆ นะ ซื้อ HRV รุ่นล่างสุด 1 คัน ราคา 890,000 บาท
ดาวน์ 180,000 บาท ผ่อน 60 เดือน 15,403 บาท เอามาจากเวบ Honda เลยนะเนี่ย สรุปราคารถคือ 1,104,180 บาท ...
เคยคิดเปล่าว่ารถราคา 890,000 บาท แต่เงินจ่ายจริง ๆ น่ะ คือ 1.1 ล้านบาท ? ลืมคิดใช่มั้ย
สมมติคุณใช้ไป 5 ปีแล้วอยากขาย ราคาขายต่อรถน่าจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาท สุด ๆ เลย
เท่ากับ 5 ปีที่ผ่านมา แค่ราคารถ ไม่รวมค่าประกัน ค่าบำรุงรักษาทุกชนิด ค่าน้ำมัน ค่าใช้จ่ายของคุณต่อวันคือ
(1,104,180-400,000) / (365*5) = 385 บาท ต่อวัน หรือ 11,575 บาท ต่อเดือน
คุณลองถามตัวเองดู ว่าค่าความสุขของการมี HRV ขับในแต่ละเดือน คุณยอมทิ้งเงิน 11,575 บาทหรือไม่ ?
ถ้ายอม งั้นลองดูความสามารถในการดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด
สมมติว่าคุณใช้เงินดาวน์จากเงินเก็บ ดังนั้น คุณต้องมีรายจ่ายต่อเดือนดังนี้
ค่าผ่อนรถ 15,403 บาท
ค่าน้ำมันรถ 5,000 บาท อย่าฝันเลยว่าจะใช้แค่เดือนละ 2,000 น่ะ
แต่ถ้าใช้ค่าน้ำมันเดือนละแค่ 2,000 หรือวิ่งเดือนละ 4-500km เทียบกับค่าเสื่อมรถเดือนละ 11,575 มันจะคุ้มมั้ย?
ค่าบำรุงรักษา ปีละ 5,000
ค่าประกันชั้น 1 ปีละ 20,000
เปลี่ยนยางปีที่ 3-4 หรือห้าหมื่นกิโล ขอโทษนะ ยาง HRV 4 เส้นถ้าเอาตามมาตรฐานประมาณ 25,000 บาท แต่เอาถูก ๆ ให้ 18,000 ละกัน
สรุปค่าใช้จ่ายต่อเดือน = 21,361 บาท ...
...
.....
......
ไหวมั้ย 21,361 บาท +/- 2,000 บาท น่ะ
ถ้าไหว แล้วอยากได้จนตัวสั่น ทนไม่ไหวล่ะ ก็จัดไป
จองเสร็จ อย่าลืมไปอ่านกระทู้นี้ต่อ จะได้มีแนวทางในการเคลียร์หนี้ต่อไป
http://ppantip.com/topic/32864677
แค่คิดจะผ่อน 72 เดือนก็ผิดแล้ว ... คุณรู้หรือเปล่าว่าไอ้พวกคอนเซปต์ดาวน์น้อย ผ่อนนานน่ะ คนผ่อนโดนดอกเบี้ยเท่าไหร่ ?
รายได้อย่างคุณ 2 คน ผมว่า Nissan March หรือ Suzuki Swift ก็พอแล้วครับ รถ 4 ล้อเหมือนกัน ติดแอร์เหมือนกัน อย่าคิดมาก
คุณทำงานคอนโดก็ติดที่ทำงาน ไปไหนมาไหนก็ใช้มอเตอร์ไซค์เพราะสะดวกกว่า จะได้ใช้รถเดือน ๆ นึงซักเท่าไหร่กันเชียว
เคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าค่าเสื่อมราคาของรถน่ะ คิดเป็นวันละเท่าไหร่ ? นั่นคือเงินที่ิทิ้งไปเปล่า ๆ เลยนะ
ผมคำนวณให้ก็ได้ ... อ่านดี ๆ นะ ซื้อ HRV รุ่นล่างสุด 1 คัน ราคา 890,000 บาท
ดาวน์ 180,000 บาท ผ่อน 60 เดือน 15,403 บาท เอามาจากเวบ Honda เลยนะเนี่ย สรุปราคารถคือ 1,104,180 บาท ...
เคยคิดเปล่าว่ารถราคา 890,000 บาท แต่เงินจ่ายจริง ๆ น่ะ คือ 1.1 ล้านบาท ? ลืมคิดใช่มั้ย
สมมติคุณใช้ไป 5 ปีแล้วอยากขาย ราคาขายต่อรถน่าจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาท สุด ๆ เลย
เท่ากับ 5 ปีที่ผ่านมา แค่ราคารถ ไม่รวมค่าประกัน ค่าบำรุงรักษาทุกชนิด ค่าน้ำมัน ค่าใช้จ่ายของคุณต่อวันคือ
(1,104,180-400,000) / (365*5) = 385 บาท ต่อวัน หรือ 11,575 บาท ต่อเดือน
คุณลองถามตัวเองดู ว่าค่าความสุขของการมี HRV ขับในแต่ละเดือน คุณยอมทิ้งเงิน 11,575 บาทหรือไม่ ?
ถ้ายอม งั้นลองดูความสามารถในการดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด
สมมติว่าคุณใช้เงินดาวน์จากเงินเก็บ ดังนั้น คุณต้องมีรายจ่ายต่อเดือนดังนี้
ค่าผ่อนรถ 15,403 บาท
ค่าน้ำมันรถ 5,000 บาท อย่าฝันเลยว่าจะใช้แค่เดือนละ 2,000 น่ะ
แต่ถ้าใช้ค่าน้ำมันเดือนละแค่ 2,000 หรือวิ่งเดือนละ 4-500km เทียบกับค่าเสื่อมรถเดือนละ 11,575 มันจะคุ้มมั้ย?
ค่าบำรุงรักษา ปีละ 5,000
ค่าประกันชั้น 1 ปีละ 20,000
เปลี่ยนยางปีที่ 3-4 หรือห้าหมื่นกิโล ขอโทษนะ ยาง HRV 4 เส้นถ้าเอาตามมาตรฐานประมาณ 25,000 บาท แต่เอาถูก ๆ ให้ 18,000 ละกัน
สรุปค่าใช้จ่ายต่อเดือน = 21,361 บาท ...
...
.....
......
ไหวมั้ย 21,361 บาท +/- 2,000 บาท น่ะ
ถ้าไหว แล้วอยากได้จนตัวสั่น ทนไม่ไหวล่ะ ก็จัดไป
จองเสร็จ อย่าลืมไปอ่านกระทู้นี้ต่อ จะได้มีแนวทางในการเคลียร์หนี้ต่อไป
http://ppantip.com/topic/32864677
ความคิดเห็นที่ 310
จขกท ครับ ผม #78 เอง ด้วยความหวังดีนะ รีบ ๆ ไปออกรถเลย จะได้ไม่เป็นภาระทางจิตใจ
คืองี้ ผมจะบอกอะไรให้ ในสถานการณ์แบบนี้
คุณกับแฟน เปรียบเสมือนคน 2 แบบ คือ คนที่มีความทะเยอทะยาน กับคนที่ อยากแต่ไม่เจียมตัว ... คุณกับแฟนคือแบบที่ 2 ครับ
คนทะเยอทะยาน คือคนที่มีเป้าหมาย มองศักยภาพของตัวเอง มีการวางแผน และก้าวไปข้างหน้า "อย่างมั่นคง"
คนที่อยากแต่ไม่เจียมตัว คือพวกเห็นอะไรก็เห่อตาม อยากได้อยากมี เอาแค่ปัจจุบัน ไม่มองอนาคต ไม่เผื่อเหตุฉุกเฉิน
ทำไมผมถึงพูดแบบนั้น เหตุผลตามข้างล่างเลย
1. คุณใช้ความอยาก มากกว่าเหตุผล มองแต่กิเลสของตัวเองเป็นหลัก ปัญหาในอนาคตช่างมัน
2. คุณกับแฟนบริหารการเงินไม่เป็น ทำตัวเป็นคนมีก็กิน มีก็ใช้ อยากได้ก็ซื้อ ไม่มีการวางแผนเผื่อเหลือเผื่อขาด
3. คุณดื้อรั้น ต่อต้านความคิดผู้อื่น มองแค่ในกรอบของตัวเอง โดยลืมไปว่านอกกะลายังมีประสบการณ์ที่ตนเองไม่รู้อีกมากมาย โดยเฉพาะเรื่องออกรถ
4. ฐานะคุณ ณ ปัจจุบัน "ดีไม่พอ" ที่จะออกรถระดับนี้ เพราะคุณจะต้องใช้รายได้และเงินเก็บทั้งหมด เพื่อค่าใช้จ่ายนี้ตัวเดียว
5. คุณลืมไปว่า คุณและแฟน "ทำงานที่เดียวกัน" และความเสี่ยงคืออะไรรู้มั้ย ? ถ้าบริษัทมีปัญหาใน 5 ปีนี้ จะเกิดอะไรขึ้น
6. คุณไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจ คุณไม่คิดเลยว่า สถานการณ์บ้านเมือง ณ ปัจจุบันเริ่ิมเงินฝืด หายนะทางเศรษฐกิจกำลังมาช้า ๆ ... กลับไปอ่านข้อ 5
7. รถที่คุณ 2 คนใช้เงินทั้งชีวิต และอีกตลอด 6 ปีข้างหน้าออกมา ไม่สร้างมูลค่าอะไร มีแต่เสื่อมลงอย่างไร้คุณค่า นอกจากความสุขทางใจที่ได้ในวันออกรถ
8. สำคัญที่สุด ... คุณและแฟน "ไม่เก่งพอ", "ดีไม่พอ" ที่จะออกรถระดับนี้ เงินเดือนแฟนแค่ 9,500 เงินเดือนคุณ หมื่นต้น ๆ ... น้อยกว่าเด็กจบใหม่อีกนะครับ
9. ตรรกกะความคิดคุณเป็นแบบเข้าข้างตัวเอง โลกสวย มองแต่ในแง่ดี คุณควรจะเรียนรู้คำว่า .. คาดหวังในสิ่งที่ดีที่สุด เตรียมพร้อมรับมือในสิ่งที่แย่ที่สุด ดูบ้าง
พอแล้วเนอะ ...
เอาล่ะ สิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต
1. คุณทั้ง 2 คนจะต้องทำงานหนัก หารายได้พิเศษ เพื่อค่าใช้จ่ายรถคันนี้ และคุณแทบจะไม่มีเวลาได้ใช้มันแสวงหาความสุขเลย
2. คุณมีโอกาสที่จะทะเลาะกันเรื่องค่าใช้จ่าย ที่จะต้องช่วยกัน ทั้งผ่อนรถ ค่าน้ำมัน ค่าประกัน บำรุงรักษา ฯลฯ
3. คุณจะเอาเวลาที่ไหนขับรถไปเที่ยว ในเมื่อต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ ถ้ามีเวลา แล้วมีเงินเหลือพอที่จะเติมน้ำมันไปเที่ยว ไปเที่ยวแล้วมีเงินพอสำหรับใช้จ่ายหรือไม่
4. บัตรเครดิตวงเงินรวมกัน 5 แสน จะเริ่มถูกเอามาใช้ ในวันที่เริ่มหมดหนทาง (หายนะเริ่มบังเกิด)
5. ในวันที่ทางเริ่มตัน คุณจะนึกถึงวันที่คุณตั้งกระทู้นี้ และรู้ตัวว่า ความดื้อรั้นที่ไม่ฟังผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน มันเจ็บเพียงไร เข้าข่ายไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา
ภายใน 5 ปี ถึงผมจะหวังดีอยากให้คุณกับแฟนประสบความสำเร็จ มีรายได้มากขึ้น ผ่อนรถได้สบาย และอยากจะแสดงความยินดีด้วย
ผมกลับประเมินศักยภาพของคุณและแฟน ตลอดจนนิสัยทางการเงินของคุณทั้งคู่ สรุปได้เลย ...
..
...
ผมบอก ณ ตอนนี้ได้เลยว่า "ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ ปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ" ไม่เกิน 3 ปีหรอก ชัวร์ !
คืองี้ ผมจะบอกอะไรให้ ในสถานการณ์แบบนี้
คุณกับแฟน เปรียบเสมือนคน 2 แบบ คือ คนที่มีความทะเยอทะยาน กับคนที่ อยากแต่ไม่เจียมตัว ... คุณกับแฟนคือแบบที่ 2 ครับ
คนทะเยอทะยาน คือคนที่มีเป้าหมาย มองศักยภาพของตัวเอง มีการวางแผน และก้าวไปข้างหน้า "อย่างมั่นคง"
คนที่อยากแต่ไม่เจียมตัว คือพวกเห็นอะไรก็เห่อตาม อยากได้อยากมี เอาแค่ปัจจุบัน ไม่มองอนาคต ไม่เผื่อเหตุฉุกเฉิน
ทำไมผมถึงพูดแบบนั้น เหตุผลตามข้างล่างเลย
1. คุณใช้ความอยาก มากกว่าเหตุผล มองแต่กิเลสของตัวเองเป็นหลัก ปัญหาในอนาคตช่างมัน
2. คุณกับแฟนบริหารการเงินไม่เป็น ทำตัวเป็นคนมีก็กิน มีก็ใช้ อยากได้ก็ซื้อ ไม่มีการวางแผนเผื่อเหลือเผื่อขาด
3. คุณดื้อรั้น ต่อต้านความคิดผู้อื่น มองแค่ในกรอบของตัวเอง โดยลืมไปว่านอกกะลายังมีประสบการณ์ที่ตนเองไม่รู้อีกมากมาย โดยเฉพาะเรื่องออกรถ
4. ฐานะคุณ ณ ปัจจุบัน "ดีไม่พอ" ที่จะออกรถระดับนี้ เพราะคุณจะต้องใช้รายได้และเงินเก็บทั้งหมด เพื่อค่าใช้จ่ายนี้ตัวเดียว
5. คุณลืมไปว่า คุณและแฟน "ทำงานที่เดียวกัน" และความเสี่ยงคืออะไรรู้มั้ย ? ถ้าบริษัทมีปัญหาใน 5 ปีนี้ จะเกิดอะไรขึ้น
6. คุณไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจ คุณไม่คิดเลยว่า สถานการณ์บ้านเมือง ณ ปัจจุบันเริ่ิมเงินฝืด หายนะทางเศรษฐกิจกำลังมาช้า ๆ ... กลับไปอ่านข้อ 5
7. รถที่คุณ 2 คนใช้เงินทั้งชีวิต และอีกตลอด 6 ปีข้างหน้าออกมา ไม่สร้างมูลค่าอะไร มีแต่เสื่อมลงอย่างไร้คุณค่า นอกจากความสุขทางใจที่ได้ในวันออกรถ
8. สำคัญที่สุด ... คุณและแฟน "ไม่เก่งพอ", "ดีไม่พอ" ที่จะออกรถระดับนี้ เงินเดือนแฟนแค่ 9,500 เงินเดือนคุณ หมื่นต้น ๆ ... น้อยกว่าเด็กจบใหม่อีกนะครับ
9. ตรรกกะความคิดคุณเป็นแบบเข้าข้างตัวเอง โลกสวย มองแต่ในแง่ดี คุณควรจะเรียนรู้คำว่า .. คาดหวังในสิ่งที่ดีที่สุด เตรียมพร้อมรับมือในสิ่งที่แย่ที่สุด ดูบ้าง
พอแล้วเนอะ ...
เอาล่ะ สิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต
1. คุณทั้ง 2 คนจะต้องทำงานหนัก หารายได้พิเศษ เพื่อค่าใช้จ่ายรถคันนี้ และคุณแทบจะไม่มีเวลาได้ใช้มันแสวงหาความสุขเลย
2. คุณมีโอกาสที่จะทะเลาะกันเรื่องค่าใช้จ่าย ที่จะต้องช่วยกัน ทั้งผ่อนรถ ค่าน้ำมัน ค่าประกัน บำรุงรักษา ฯลฯ
3. คุณจะเอาเวลาที่ไหนขับรถไปเที่ยว ในเมื่อต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ ถ้ามีเวลา แล้วมีเงินเหลือพอที่จะเติมน้ำมันไปเที่ยว ไปเที่ยวแล้วมีเงินพอสำหรับใช้จ่ายหรือไม่
4. บัตรเครดิตวงเงินรวมกัน 5 แสน จะเริ่มถูกเอามาใช้ ในวันที่เริ่มหมดหนทาง (หายนะเริ่มบังเกิด)
5. ในวันที่ทางเริ่มตัน คุณจะนึกถึงวันที่คุณตั้งกระทู้นี้ และรู้ตัวว่า ความดื้อรั้นที่ไม่ฟังผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน มันเจ็บเพียงไร เข้าข่ายไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา
ภายใน 5 ปี ถึงผมจะหวังดีอยากให้คุณกับแฟนประสบความสำเร็จ มีรายได้มากขึ้น ผ่อนรถได้สบาย และอยากจะแสดงความยินดีด้วย
ผมกลับประเมินศักยภาพของคุณและแฟน ตลอดจนนิสัยทางการเงินของคุณทั้งคู่ สรุปได้เลย ...
..
...
ผมบอก ณ ตอนนี้ได้เลยว่า "ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ ปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ" ไม่เกิน 3 ปีหรอก ชัวร์ !
ความคิดเห็นที่ 136
สวัสดีครับ จขกท.
แว๊บแรกที่เห็น honda hrv ผมบอกได้เลยว่า ฮอนด้ามาถูกทางแล้ว
crv ก็ราคาสูงไป jazz ก็เล็กไป
ตัวนี้ตอบโจทย์หลายอย่างมาก คุ้มนะ ใช้ e85ได้ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าน้ำมันเท่าไหร่
เข้าเรื่องก็แล้วกัน
ผมเองก็มีความฝันเหมือนกันกับคุณ
เราจะคว้าฝันมาก่อนที่จะหมดแรง หรือรอให้พร้อมก่อนค่อยคว้ามา
หากคุณเชื่อว่าต้องผ่านอุปสรรคไปได้แน่ๆไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภาวะข้างหน้า คิดถ้วนถี่ดีแล้วละก็
"ซื้อเถอะครับ"
หรือ "รอ" ความฝัน แล้วลองผ่อนหลอกๆดู ฝากแบ้งค์ไปเลยห้ามถอนจำนวนเท่าเงินดาวน์ +ประกัน+ค่าใช้จ่ายในการออกรถวันแรกทั้งหมด
ฝากแบ้งค์ทุกเดือน ผ่อนตามเรตนั้นแหละ
ค่าเติมน้ำมันระหว่างใช้งานต้องฝากด้วย สมมุติ เดือนละ 5000 บาท ก็ตามนั้น
ครบ 6 เดือน ค่าเช็คระยะ ถ่ายน้ำมันเครื่อง ฯลฯ ฝากเพิ่มอีกในเดือนที่ 6 อีกประมาณ 2000
แล้วลองรวบรวมเงินที่ฝากใว้ดูว่าได้เท่าใหร่ ซึ่งแน่นอนว่า จะตอบโจทย์ จขกท.ได้มากมาย เมื่อเห็นเงินในบัญชี
บางทีถึงเวลานั้นค่อยมาคิดอีกทีว่า จะผ่อนหลอกต่ออีกซัก 6 เดือน หรือ"จะไล่ล่าความฝันดี" หรือ "จะรออีกนิดส์......."
ผมเชื่อว่าผ่านไปอีกซัก 6 เดือน hrv มันก็ยังอยู่ครับ ไม่หายไปใหน ยังมีขายอยู่ ไม่ใช่ผลิตมา 100 คันเท่านั้น
โชคดีครับ จขกท.
แว๊บแรกที่เห็น honda hrv ผมบอกได้เลยว่า ฮอนด้ามาถูกทางแล้ว
crv ก็ราคาสูงไป jazz ก็เล็กไป
ตัวนี้ตอบโจทย์หลายอย่างมาก คุ้มนะ ใช้ e85ได้ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าน้ำมันเท่าไหร่
เข้าเรื่องก็แล้วกัน
ผมเองก็มีความฝันเหมือนกันกับคุณ
เราจะคว้าฝันมาก่อนที่จะหมดแรง หรือรอให้พร้อมก่อนค่อยคว้ามา
หากคุณเชื่อว่าต้องผ่านอุปสรรคไปได้แน่ๆไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภาวะข้างหน้า คิดถ้วนถี่ดีแล้วละก็
"ซื้อเถอะครับ"
หรือ "รอ" ความฝัน แล้วลองผ่อนหลอกๆดู ฝากแบ้งค์ไปเลยห้ามถอนจำนวนเท่าเงินดาวน์ +ประกัน+ค่าใช้จ่ายในการออกรถวันแรกทั้งหมด
ฝากแบ้งค์ทุกเดือน ผ่อนตามเรตนั้นแหละ
ค่าเติมน้ำมันระหว่างใช้งานต้องฝากด้วย สมมุติ เดือนละ 5000 บาท ก็ตามนั้น
ครบ 6 เดือน ค่าเช็คระยะ ถ่ายน้ำมันเครื่อง ฯลฯ ฝากเพิ่มอีกในเดือนที่ 6 อีกประมาณ 2000
แล้วลองรวบรวมเงินที่ฝากใว้ดูว่าได้เท่าใหร่ ซึ่งแน่นอนว่า จะตอบโจทย์ จขกท.ได้มากมาย เมื่อเห็นเงินในบัญชี
บางทีถึงเวลานั้นค่อยมาคิดอีกทีว่า จะผ่อนหลอกต่ออีกซัก 6 เดือน หรือ"จะไล่ล่าความฝันดี" หรือ "จะรออีกนิดส์......."
ผมเชื่อว่าผ่านไปอีกซัก 6 เดือน hrv มันก็ยังอยู่ครับ ไม่หายไปใหน ยังมีขายอยู่ ไม่ใช่ผลิตมา 100 คันเท่านั้น
โชคดีครับ จขกท.
แสดงความคิดเห็น
ความฝันของมนุษย์เงินเดือนอย่างดิฉันคือ HONDA HRV ใครกำลังจะออกขอเชิญด้านในจร้า
เผื่อพลาดข้อมลูสำคัญไปอาจตกหล่น อาจจะ
ทำให้คำแนะนำคลาดเคลื่อนไปด้วยจ๊♡♡♡♡♡♡
เรากับแฟน กำลังจะออก HRV ค่ะ มันเป็นความฝันของ ผู้ญ/ผู้ชาย คู่หนึ่งที้จะสร้าง ครอบครัวด้วยกัน ด้วยน้ำพักน้ำแรง ของเราเอง
ตอนแรกเราทำงานที่นี่มา4ปีแล้ว คะ แต่แฟนเพิ่งมาทำ
ก่อนหน้านี้แฟน ขับวิน ส่งเครื่องสำอางที่ขายตามเนท มาเป็น แมสที่บริษัทด้วย คือเค้าทำทุกอย่างพร้อมๆกัน จนทุกวันนี้ได้ดี มาเป็นเชลล ที่ออฟฟิตที่เราทำอยู่
เราเก็บเงินมาประมาน ปีเศษ มีเงินอยู่ สองแสน (เก็บบันชีกลาง)
ตอนแรกความฝันเรา เล็กมาแค่อยากจะมี รถสักคัน ECO ก้อได้
เลยจะออก YARIS แต่พอเก็บเงินได้มากขึ้นเรื่อยๆ ก้อเลยเปลี่ยนฝันให้ใหญ่ขึ้น เป็น FORD เอคโค่สป๊อต เพราะว่าบ้านเราหลายคน (5คน)
อยากได้รถนั่งสบาย เราชอบFORD ตัวนี้ สวยดี แฟนก้อชอบ
แต่ติดเรื่องศูนย์ แฟนไม่มั่นใจเลย บอกไม่ผ่อนกุญแจ เถียงกันอยู่ช่วงนึง
จนหาทางออกได้ เมื่อเจอ VESEL เปิดตัวที่ ญี่ปุ่น แฟนชอบรถคันนี้มามาก เราก้อชอบ ชื่อเสียงโอเค ศูนย์โอเคร พังซ่อมที่ไหนก้อได้อะไหล่หาง่าย แม้ประกอบภายใน และตัวถังจะสู้FORD ไม่ได้ แต่ก้อได้ความสบายใจ
ตอนแรกคิดว่าจะ ราคาตัวเริ่มต้น น่าจะอยู่ที่ 8.3-8.5 แต่พอ ออกมา
8.9 แฟนก้อบอกยังไหว อยู่นะ
อยากจะบอกว่า ตัวTOP ของ FORD เอคโค่สป๊อต แค่ 8.2เองอะ มาครบเลย แต่ชอบความหรูหราของ HRV มากกว่า
เราเลือกตัว เริ่มต้น นะค่ะ ราคา 8.9แสน ดาวน์ 178××× ผ่อน 11000กว่า
(ตามตารางผ่อน) 72 งวด เรามีเงินพร้อมจ่ายค่าดาวน์ ประมาน 2แสน
นี่เป็น ตารางเงินประจำเดือนที่เราและแฟน คำนวนออกมา เอาแบบต่ำที่สุดแย่ที่สุด (จริงๆมันมากกว่านี้ อีกคนละ2000-3000 แต่มันเป็นเงินพิเศษ และแฟนก้อยังรับงานส่งของอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าจะได้อีกนานไหม ไม่รู้จะยกเลิก เมื่อไหร่ เราเลย เอาตัวเลขพื้นฐานที่ได้แน่ๆ มาคำนวนคะ
แฟน จขกท.
ค่าคอม 18000
เงินเดือน 9500
รวม 27500
ค่ารถ 7000
ค่าน้ำมัน 2000
ค่าเนท 600
ซื้อของเข้าห้อง 1000
ให้แม่ 2500
บันชีคู่ 3000
เก็บตัวเอง 2500
ใช้ส่วนตัว 8900
รวม 27500
ตัว จขกท...
เงินเดือน 11970
ค่าคอม 3200
รวม 15,170
ค่ารถ 5000
บันชีคู่ 3000
ประกันชีวิต 1500
ของเข้าห้อง 1000
คชจ.อื่นๆ 1500
ใช้รายเดือน 3000
รวม= 14,000
รายรับ-จ่าย=15,170-14,000=1,170บาท
ปล.ปกติกินเที่ยวแฟนออกตลอด 3000 ของเราแทบไม่ได้ใช้ค่ะ
ก่อนหน้านี้เก็บเดือนละ 2หมื่น-3หมื่น แฟนได้ใช้แค่เดือนละ 6-7พัน
แต่ออก กินเที่ยว ให้เราหมดเลย ไปไหนเราไม่เคยพกเงินเลย แฮ่ๆ
ตามนี้ค่ะ เราไม่ประสบการ ออกรถเลยค่ะ ไม่แน่ใจ ว่ามีอะไรต้องจ่ายเพิ่ม
ระหว่าง มีรถ หากใคร เพิ่งออกรถ หรือเคยออกมานานแล้ว มีอะไรจะแนะนำ รบกวนหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
ขอฝากถึงford ถ้าชื่อเสีย ในเรื่องบริการน้อยกว่านี้ เราอาจจะได้ขับford ไปแล้ว แต่ เพราะชื่อเสียง ในการบริการหลังการขาย ไม่ดีแบบนี้ มันกระทบ ต่อการตัดสินใจ ในการออกรถมากๆนะค่ะ เพราะเราไม่มั่นใจ ในบริการของคุณเลย แม้ตัวรถจะดี ประกอบดี วัสดุเยี่ยม (จากที่ไปลองมา)
แต่พอคิดถึง เวลาพังหรือเข้าศูนย์บอกเลย ถอยดีกว่า อ่านเอาจากหลายที่นะค่ะ ไม่ใช่ประสบการตรง แต่ส่วนมากมันแย่จริงๆ เลยไม่อยากเสี่ยง
สถานการณ์ปัจจุบัน
เราไม่มีหนี้ใดๆเลย
แฟนก้อไม่มีหนี้ใดๆเลย
เรามีบัตรเครดิต ยอดเงินรวมกัน5แสน ของแฟน 2แสน แต่ไม่คิดจะกดมาใช้เล่นๆนะ แฟนบอกมีไว้เท่ๆแค่นั้น เผื่อไว้ฉุกเฉินค่ะ เลยยังไม่ได้กดสักใบ ทั้งคู่
ใครกำลังจะออกรถ ร่วมแชร์ประสบการกันได้นะค่ะ อยากฟังของเพื่อนๆบ้าง