สวัสดีค่าา ไกด์ฟรุ๊งฟริ๊งมาอีกแล้วค่ะ วันนี้ จะมาแนะนำเเพื่อนๆเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน "ที่ใครๆก็ไปได้ ง่ายจัง" กับกรุงกัวลา ลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทษ มาเลเซียกันนะคะ
ถ้า จะพูดถึง กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย หลายคนคงต้องคิดอยู่นานถึงจะนึกออกว่า มีอะไรน่าเที่ยวน่าสนใจบ้าง ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะมองว่าประเทศมาเลเซีย ไม่ค่อยจะมีอะไรน่าสนใจซักเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจในการไปเที่ยวประเทศนี้มากนัก
แต่หารู้ ไม่ว่า กัวลาลัมเปอร์ หรือ “KL” ที่คนมาเลเรียกกันนั้น ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความน่าสนใจเมืองนึงเลยทีเดียว เพราะเป็นที่ที่มีทุกอย่างไว้สำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย เป็นที่ซึ่งมีความผสมผสานกันระหว่างประวิติศาสตร์และความทันสมัยได้อย่างกลม กลืน โดยคุณจะสามารถพบเห็นบูติคหรูๆจากดีไซเนอร์ชื่อดังที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกันกับ ร้านท้องถิ่นข้างทาง
และถ้าหากคุณเป็นนักช้อปตัวยง และการช้อปปิ้ง เป็นจุดมุ่งหมายหลักเวลาเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศในแต่ละครั้งแล้วละก็ “KL” น่าจะถูกจัดให้เป็นสถานที่ที่น่าสนใจอีกที่นึงเลยล่ะค่ะ
ซึ่ง สำหรับ เราเองก็จะหาเวลาเดินทางไปประมาณปีละ 1 – 2 ครั้ง เนื่องจาก KL เป็นเมืองปลอดภาษี ราคาสินค้าทั้งหลายจึงจะถูกกว่าบ้านเราเกือบทุกอย่าง รวมไปถึงค่าครองชีพด้วย รวมๆแล้วค่าใช้จ่ายในการกินการใช้ตลอดทริปแทบจะเรียกได้ว่าเหมือนใช้ชีวิต อยู่ที่บ้านเราเลยด้วยซ้ำ (เผลอๆ ถูกกว่าด้วยค่ะ)
และสาเหตุที่ทำให้ เราอยากเล่าเกี่ยวกับ ประเทศ มาเลเซีย ก็คือ ตามร้านหนังสือที่มักจะมีการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวตามประเทศต่างๆนั้น แทบไม่มีหนังสือที่แนะนำเมือง KL หรือประเทศมาเลเซียอยู่เลย
หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยทำให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์ และสิ่งที่ดีที่สุดของเมืองKL ไม่มากก็น้อย ซึ่งเราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆที่น่าสนใจ ภัตตาคารร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง สินค้าน่าซื้อ รวมไปถึงโรงแรมน่าพักตามย่านต่างๆ ให้ได้ลองไปค้นพบด้วยตัวคุณเอง
ที่นี้เราลองมาดูกันเลยที่กว่าค่ะว่า “KL” นั้น “Cheap & Chic” ยังไง
WELCOME TO KL
เมื่อ คุณเดินทางมาถึง KL สิ่งแรกที่คุณจะได้สัมผัสคือ สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ หรือ KLIA ซึ่งจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสนามบินที่ดีที่สุดของเอเชีย เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาแล้ว สิ่งแรกที่คุณควรจะมีคือเงินมาเลเซียซึ่งมีหน่วยเป็น ริงกิตมาเลเซีย หรือ RM (เวลาคำนวณก็ x 10 เข้าไปค่ะ) แต่ว่าไม่จำเป็นต้องแลกไว้เยอะ เพราะที่นี่จะสามารถหาที่แลกเงินหรือ money changer ได้ง่ายมากๆ มีอยู่แทบจะทุกห้างสรรพสินค้าเลยค่ะ
ในการเดินทางจากสนามบินไปยัง โรงแรม ที่พัก ก็มีรูปแบบการเดินทางให้เลือกหลายแบบตามงบ โดยจะมีแบบ นั่งตรงถึงโรงแรม หรือไปต่ิอรถที่ KL Sentral ซึ่งจัดว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคม (คล้ายๆ หมอชิตบ้านเรา ที่จะมีเส้นทางการเดินรถไปยังสถานที่ต่างๆทั่วเมือง ทั้งแท็กซี่ รถไฟฟ้า หรือรถเมล์) แล้วต่อรถอีกที ซึ่งหลังจากนี้ เวลาแนะนำ จะพยายามบอกงบคร่าวๆโดยจะแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ แบบ Budget $ ปานกลาง $$ และแบบ Luxury $$$ ตามแต่ความต้องการดังนี้ค่ะ
KLIA, LCCT นั่งรถบัสไป KL Sentral และต่อแท๊กซี่ไปโรงแรม (฿)
- ค่าตั๋วรถ bus ประมาณ 7 – 9 RM/คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.
KLIA, LCCT ขึ้นรถ KLIA Express ไป Sentral และต่อแท๊กซี่ไปโรงแรม (฿฿)
- ค่าตั๋วรถไฟ ประมาณ 35 RM/คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
KLIA, LCCT ขึ้นแท๊กซี่ตรงจากสนามบินไปยังโรงแรม (฿฿)
- ค่าแท็กซี่ ประมาณ 120 RM ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ถึงตัวเมือง
KLIA Airport Limo to Hotel (฿฿฿) คาดว่าราวๆ 2พันบาทขึ้น
- ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ถึงตัวเมือง
เวลาของที่มาเลเซียจะเร็วกว่าที่บ้านเรา 1 ชม. เมื่อไปถึงแล้ว อย่าลืมเทียบเวลาด้วยนะคะ ส่วนอากาศที่ KL มักจะร้อนชื้นซะเป็นส่วนมาก แต่ถ้าคนไทยอย่างเราๆ ภูมิอากาศที่นี่จะไม่แตกต่างจากทีบ้านเรา บางครั้งอาจร้อนกว่าด้วย และก่อนไป อย่าลืมศึกษาสภาพอากาศไปดีๆนะคะ จะได้เตรียมเสื้อผ้าไปให้เหมาะค่ะ
ประเทศ มาเลเซียเป็นประเทศที่ใช้ภาษา อังกฤษกันอย่างแพร่หลาย เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสารเลยค่ะ สปีคอิงลิชกับคน KL ได้เลย รับรองว่า 90% ของคนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้กันทั้งนั้นค่ัะ
โดยส่วนใหญ่แล้ว นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยัง KL นั้น ก็มักจะไปตามสถานที่ท่องเที่ยวย่านสำคัญๆเช่น ตึก Petronas Twin Tower, China Town, Central Market, KL Tower ไกลออกไปหน่อยก็จะมี Batu Cave และ The Lake Garden ซึ่งถ้าอยากไปมันไปทั้งหมดนี่ น่าจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์เลยค่ะ
ดังนั้น หากทริปของคุณมีเวลาจำกัด ก็จำเป็นจะต้องจัดตารางกันดีๆ ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก็เข้าไปที่ www.mc.gov.my จะมี informationบอกไว้ในทุกๆสถานที่ๆน่าไป ให้เลือกตัดสินใจกันตามความต้องการของแต่ละคน
สำ หรับขาช้อป KL ก็ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีห้างระดับบิ๊กๆอยู่พอสมควรทีเดียว ซึ่งที่ใหญ่ๆ และเป็น must see อันดับต้นๆเลยก็คือ
Suria KLCC
ซึ่งห้างนี้จะอยู่กับตึกแฝด ทำให้นักท่องเที่ยวจะกี่คนต่อกี่คน ก็ต้องไม่พลาดเยือนสถานที่สองแห่งนี้กันทั้งนั้น อีกที่นึงก็คือเหล่าบรรดา Shopping Mall ย่าน Bukit Bintang เช่น
Star Hill
Pavillion
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเดินทางไปช่วง Mega Sale (กรกฏาคม – สิงหาคม) บัตรเครดิตของคุณคงทำงานหนักกันแย่เลยล่ะค่ะ
อีกที่นึงก็คือ
Bangsar Baru ซึ่งน่าจะเทียบได้กับสยามสแควร์ บ้านเรา เพราะเป็นย่านที่นอกจากจะมีบรรดา expat หรือชาวต่างชาติที่เดินทางมาทำงานใน KL แล้ว ก็จะเป็นศูนยฺ์รวมของเด็ก hip ทั้งหลาย ซึ่งวัยรุ่นส่วนใหญ่ จะมาหาซื้อเสื้อผ้ากันที่นี่ค่ะ โดยร้านที่ย่านนี้ส่วนใหญ่จะอยู่บนชั้นสองของอาคารพาณิชย์และตกแต่งร้านกัน อย่างมี concept และ style ของตัวเองกันได้อย่างน่ารักมากๆ แต่แอบบอกว่า เสื้อผ้าส่วนใหญ่มากจากบ้านเราซะเยอะเลย ต้องดูดีๆนะคะ ดูเอาบรรยากาศอย่างเดียวก็ได้ค่ะ
หรือถ้าหากเป็นพวกชอบของ brand name แต่งบน้อย ก็ขอแนะนำให้ไป China Town เพราะที่นี่จะเป็นศูนย์รวมของสินค้า knock off ทั้งหลาย เหมือนกับ บ้านเรามี พัฒพงศ์ ฮ่องกงมี Mongkok, KL ก็มี China Town เนี่ยแหล่ะค่ะ แต่เวลาซื้ออย่าลืมต่อรองราคาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยนะคะ อย่าลืมว่าเราเป็นนักท่องเที่ยว ราคาขายจะต้อง “แพงเป็นพิเศษ” เสมอ
หาก ท่องเที่ยวมาทั้งวันแล้ว ยังไม่หมดไฟ อยากจะไปตระเวนราตรีต่อ ที่ KL ก็มี night club ที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง ยกตัวอย่างเช่น Zouk ซึ่งมีสาขาอยู่หลายประเทศในแถบเอเชียบ้านเรา หรือหากใครพักแถวๆย่าน Bukit Bintang แล้วละก็ แค่เดินออกมาจากโรงแรมก็จะเจอความสนุกอยู่ตรงหน้าแล้วค่ะ
หรือบางคน อาจอยากมีวันที่ต้องการเที่ยวแบบได้บรรยากาศหน่อยก็ต้องจัดวันไว้ซัก 1 วันเพื่อจะไป Genting Highlands เพื่อรับบรรยากาศความสนุกสนาน ทั้งจากสวนสนุก และ คาสิโน ให้เพลิดเพลินกันทั้งวันเลยทีเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอสรุปเกี่ยวกับ กัวลาลัมเปอร์ ดังนี้
1. KL มีรถไฟฟ้าทั่วถึง ถึงจะสู้ประเทศอื่นไม่ได้เลย แต่ก็ยังดีกว่าบ้านเรามาก มีแท๊กซี่ แต่ถ้าไม่จำเป็น ไม่ควรเรียก นางไม่ชอบกดมิเตอร์กัน ไม่เว้นแม้แต่คนมาเลด้วยกัน มรันก็ไม่กดมิเตอร์
2. เป็นสวรรค์ของนัก shop เพราะอะไรก็ตามที่มากับยี่ห้อ มักจะ < หรือ = ราคาที่บ้านเราเสมอ ไม่มีแพงกว่า แต่ถ้าไม่ช้อบใช้ของมีแบรนด์ เดินแพลทตินั่มกะสวนบ้านเราดีแล้ว
3. โรงแรมถูก ถ้าเทียบกับมาตรฐานโรงแรมเดียวกันที่ประเทศอื่น
4. ภาษาอังกฤษพวกนางเป็นเริ่ด ไม่ต้องกลัวเรื่องการสื่อสาร
5. ถ้าการเหล่หญฺิง เหล่หนุ่ม เป็นหนึ่งใน activity ที่คุณจัด ข้ามประเทศนี้ไป
6. คนที่นี่เที่ยวกลางคืนกันดึกโคตรรรร และ แพงโคตร
7. Dining in the dark (มีรีวิวเจาะลึก): ทานข้าวในความมืด แบบ totally dark เป็น "once in a lifetime experience" ที่ต้องลอง แต่ถ้าอยากจะได้ทานอาหารอร่อยๆด้วย ข้ามไป
(ปล. เมืองไทยมี ที่ The Ascott สาทร) ไปลองกันได้ ก่อนจะเจ๊ง
8. I-City ถ้าไม่ได้เป็นคนมีลูก "อย่าไป!!" เตือนละนะ
9. Genting Highlands ควรไป แต่เตรียมถึงกันอ้วกขึ้นรถไปหน่อยก็ดี
สรุป มาเลเซียมีดีอยู่นะ อย่ามองข้ามนาง ต้องลองกันไปกันดูค่ะ เด๋วมาแนะนำโรงแรมต่อนะคะ
KL ฟรุ๊งฟริ๊งไกด์ - มีอะไร ใน กัวลาลัมเปอร์
สวัสดีค่าา ไกด์ฟรุ๊งฟริ๊งมาอีกแล้วค่ะ วันนี้ จะมาแนะนำเเพื่อนๆเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน "ที่ใครๆก็ไปได้ ง่ายจัง" กับกรุงกัวลา ลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทษ มาเลเซียกันนะคะ
ถ้า จะพูดถึง กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย หลายคนคงต้องคิดอยู่นานถึงจะนึกออกว่า มีอะไรน่าเที่ยวน่าสนใจบ้าง ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะมองว่าประเทศมาเลเซีย ไม่ค่อยจะมีอะไรน่าสนใจซักเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจในการไปเที่ยวประเทศนี้มากนัก
แต่หารู้ ไม่ว่า กัวลาลัมเปอร์ หรือ “KL” ที่คนมาเลเรียกกันนั้น ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความน่าสนใจเมืองนึงเลยทีเดียว เพราะเป็นที่ที่มีทุกอย่างไว้สำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย เป็นที่ซึ่งมีความผสมผสานกันระหว่างประวิติศาสตร์และความทันสมัยได้อย่างกลม กลืน โดยคุณจะสามารถพบเห็นบูติคหรูๆจากดีไซเนอร์ชื่อดังที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกันกับ ร้านท้องถิ่นข้างทาง
และถ้าหากคุณเป็นนักช้อปตัวยง และการช้อปปิ้ง เป็นจุดมุ่งหมายหลักเวลาเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศในแต่ละครั้งแล้วละก็ “KL” น่าจะถูกจัดให้เป็นสถานที่ที่น่าสนใจอีกที่นึงเลยล่ะค่ะ
ซึ่ง สำหรับ เราเองก็จะหาเวลาเดินทางไปประมาณปีละ 1 – 2 ครั้ง เนื่องจาก KL เป็นเมืองปลอดภาษี ราคาสินค้าทั้งหลายจึงจะถูกกว่าบ้านเราเกือบทุกอย่าง รวมไปถึงค่าครองชีพด้วย รวมๆแล้วค่าใช้จ่ายในการกินการใช้ตลอดทริปแทบจะเรียกได้ว่าเหมือนใช้ชีวิต อยู่ที่บ้านเราเลยด้วยซ้ำ (เผลอๆ ถูกกว่าด้วยค่ะ)
และสาเหตุที่ทำให้ เราอยากเล่าเกี่ยวกับ ประเทศ มาเลเซีย ก็คือ ตามร้านหนังสือที่มักจะมีการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวตามประเทศต่างๆนั้น แทบไม่มีหนังสือที่แนะนำเมือง KL หรือประเทศมาเลเซียอยู่เลย
หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยทำให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์ และสิ่งที่ดีที่สุดของเมืองKL ไม่มากก็น้อย ซึ่งเราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆที่น่าสนใจ ภัตตาคารร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง สินค้าน่าซื้อ รวมไปถึงโรงแรมน่าพักตามย่านต่างๆ ให้ได้ลองไปค้นพบด้วยตัวคุณเอง
ที่นี้เราลองมาดูกันเลยที่กว่าค่ะว่า “KL” นั้น “Cheap & Chic” ยังไง
WELCOME TO KL
เมื่อ คุณเดินทางมาถึง KL สิ่งแรกที่คุณจะได้สัมผัสคือ สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ หรือ KLIA ซึ่งจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสนามบินที่ดีที่สุดของเอเชีย เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาแล้ว สิ่งแรกที่คุณควรจะมีคือเงินมาเลเซียซึ่งมีหน่วยเป็น ริงกิตมาเลเซีย หรือ RM (เวลาคำนวณก็ x 10 เข้าไปค่ะ) แต่ว่าไม่จำเป็นต้องแลกไว้เยอะ เพราะที่นี่จะสามารถหาที่แลกเงินหรือ money changer ได้ง่ายมากๆ มีอยู่แทบจะทุกห้างสรรพสินค้าเลยค่ะ
ในการเดินทางจากสนามบินไปยัง โรงแรม ที่พัก ก็มีรูปแบบการเดินทางให้เลือกหลายแบบตามงบ โดยจะมีแบบ นั่งตรงถึงโรงแรม หรือไปต่ิอรถที่ KL Sentral ซึ่งจัดว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคม (คล้ายๆ หมอชิตบ้านเรา ที่จะมีเส้นทางการเดินรถไปยังสถานที่ต่างๆทั่วเมือง ทั้งแท็กซี่ รถไฟฟ้า หรือรถเมล์) แล้วต่อรถอีกที ซึ่งหลังจากนี้ เวลาแนะนำ จะพยายามบอกงบคร่าวๆโดยจะแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ แบบ Budget $ ปานกลาง $$ และแบบ Luxury $$$ ตามแต่ความต้องการดังนี้ค่ะ
KLIA, LCCT นั่งรถบัสไป KL Sentral และต่อแท๊กซี่ไปโรงแรม (฿)
- ค่าตั๋วรถ bus ประมาณ 7 – 9 RM/คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.
KLIA, LCCT ขึ้นรถ KLIA Express ไป Sentral และต่อแท๊กซี่ไปโรงแรม (฿฿)
- ค่าตั๋วรถไฟ ประมาณ 35 RM/คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
KLIA, LCCT ขึ้นแท๊กซี่ตรงจากสนามบินไปยังโรงแรม (฿฿)
- ค่าแท็กซี่ ประมาณ 120 RM ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ถึงตัวเมือง
KLIA Airport Limo to Hotel (฿฿฿) คาดว่าราวๆ 2พันบาทขึ้น
- ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ถึงตัวเมือง
เวลาของที่มาเลเซียจะเร็วกว่าที่บ้านเรา 1 ชม. เมื่อไปถึงแล้ว อย่าลืมเทียบเวลาด้วยนะคะ ส่วนอากาศที่ KL มักจะร้อนชื้นซะเป็นส่วนมาก แต่ถ้าคนไทยอย่างเราๆ ภูมิอากาศที่นี่จะไม่แตกต่างจากทีบ้านเรา บางครั้งอาจร้อนกว่าด้วย และก่อนไป อย่าลืมศึกษาสภาพอากาศไปดีๆนะคะ จะได้เตรียมเสื้อผ้าไปให้เหมาะค่ะ
ประเทศ มาเลเซียเป็นประเทศที่ใช้ภาษา อังกฤษกันอย่างแพร่หลาย เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสารเลยค่ะ สปีคอิงลิชกับคน KL ได้เลย รับรองว่า 90% ของคนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้กันทั้งนั้นค่ัะ
โดยส่วนใหญ่แล้ว นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยัง KL นั้น ก็มักจะไปตามสถานที่ท่องเที่ยวย่านสำคัญๆเช่น ตึก Petronas Twin Tower, China Town, Central Market, KL Tower ไกลออกไปหน่อยก็จะมี Batu Cave และ The Lake Garden ซึ่งถ้าอยากไปมันไปทั้งหมดนี่ น่าจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์เลยค่ะ
ดังนั้น หากทริปของคุณมีเวลาจำกัด ก็จำเป็นจะต้องจัดตารางกันดีๆ ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก็เข้าไปที่ www.mc.gov.my จะมี informationบอกไว้ในทุกๆสถานที่ๆน่าไป ให้เลือกตัดสินใจกันตามความต้องการของแต่ละคน
สำ หรับขาช้อป KL ก็ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีห้างระดับบิ๊กๆอยู่พอสมควรทีเดียว ซึ่งที่ใหญ่ๆ และเป็น must see อันดับต้นๆเลยก็คือ
Suria KLCC
ซึ่งห้างนี้จะอยู่กับตึกแฝด ทำให้นักท่องเที่ยวจะกี่คนต่อกี่คน ก็ต้องไม่พลาดเยือนสถานที่สองแห่งนี้กันทั้งนั้น อีกที่นึงก็คือเหล่าบรรดา Shopping Mall ย่าน Bukit Bintang เช่น
Star Hill
Pavillion
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเดินทางไปช่วง Mega Sale (กรกฏาคม – สิงหาคม) บัตรเครดิตของคุณคงทำงานหนักกันแย่เลยล่ะค่ะ
อีกที่นึงก็คือ Bangsar Baru ซึ่งน่าจะเทียบได้กับสยามสแควร์ บ้านเรา เพราะเป็นย่านที่นอกจากจะมีบรรดา expat หรือชาวต่างชาติที่เดินทางมาทำงานใน KL แล้ว ก็จะเป็นศูนยฺ์รวมของเด็ก hip ทั้งหลาย ซึ่งวัยรุ่นส่วนใหญ่ จะมาหาซื้อเสื้อผ้ากันที่นี่ค่ะ โดยร้านที่ย่านนี้ส่วนใหญ่จะอยู่บนชั้นสองของอาคารพาณิชย์และตกแต่งร้านกัน อย่างมี concept และ style ของตัวเองกันได้อย่างน่ารักมากๆ แต่แอบบอกว่า เสื้อผ้าส่วนใหญ่มากจากบ้านเราซะเยอะเลย ต้องดูดีๆนะคะ ดูเอาบรรยากาศอย่างเดียวก็ได้ค่ะ
หรือถ้าหากเป็นพวกชอบของ brand name แต่งบน้อย ก็ขอแนะนำให้ไป China Town เพราะที่นี่จะเป็นศูนย์รวมของสินค้า knock off ทั้งหลาย เหมือนกับ บ้านเรามี พัฒพงศ์ ฮ่องกงมี Mongkok, KL ก็มี China Town เนี่ยแหล่ะค่ะ แต่เวลาซื้ออย่าลืมต่อรองราคาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยนะคะ อย่าลืมว่าเราเป็นนักท่องเที่ยว ราคาขายจะต้อง “แพงเป็นพิเศษ” เสมอ
หาก ท่องเที่ยวมาทั้งวันแล้ว ยังไม่หมดไฟ อยากจะไปตระเวนราตรีต่อ ที่ KL ก็มี night club ที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง ยกตัวอย่างเช่น Zouk ซึ่งมีสาขาอยู่หลายประเทศในแถบเอเชียบ้านเรา หรือหากใครพักแถวๆย่าน Bukit Bintang แล้วละก็ แค่เดินออกมาจากโรงแรมก็จะเจอความสนุกอยู่ตรงหน้าแล้วค่ะ
หรือบางคน อาจอยากมีวันที่ต้องการเที่ยวแบบได้บรรยากาศหน่อยก็ต้องจัดวันไว้ซัก 1 วันเพื่อจะไป Genting Highlands เพื่อรับบรรยากาศความสนุกสนาน ทั้งจากสวนสนุก และ คาสิโน ให้เพลิดเพลินกันทั้งวันเลยทีเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอสรุปเกี่ยวกับ กัวลาลัมเปอร์ ดังนี้
1. KL มีรถไฟฟ้าทั่วถึง ถึงจะสู้ประเทศอื่นไม่ได้เลย แต่ก็ยังดีกว่าบ้านเรามาก มีแท๊กซี่ แต่ถ้าไม่จำเป็น ไม่ควรเรียก นางไม่ชอบกดมิเตอร์กัน ไม่เว้นแม้แต่คนมาเลด้วยกัน มรันก็ไม่กดมิเตอร์
2. เป็นสวรรค์ของนัก shop เพราะอะไรก็ตามที่มากับยี่ห้อ มักจะ < หรือ = ราคาที่บ้านเราเสมอ ไม่มีแพงกว่า แต่ถ้าไม่ช้อบใช้ของมีแบรนด์ เดินแพลทตินั่มกะสวนบ้านเราดีแล้ว
3. โรงแรมถูก ถ้าเทียบกับมาตรฐานโรงแรมเดียวกันที่ประเทศอื่น
4. ภาษาอังกฤษพวกนางเป็นเริ่ด ไม่ต้องกลัวเรื่องการสื่อสาร
5. ถ้าการเหล่หญฺิง เหล่หนุ่ม เป็นหนึ่งใน activity ที่คุณจัด ข้ามประเทศนี้ไป
6. คนที่นี่เที่ยวกลางคืนกันดึกโคตรรรร และ แพงโคตร
7. Dining in the dark (มีรีวิวเจาะลึก): ทานข้าวในความมืด แบบ totally dark เป็น "once in a lifetime experience" ที่ต้องลอง แต่ถ้าอยากจะได้ทานอาหารอร่อยๆด้วย ข้ามไป
(ปล. เมืองไทยมี ที่ The Ascott สาทร) ไปลองกันได้ ก่อนจะเจ๊ง
8. I-City ถ้าไม่ได้เป็นคนมีลูก "อย่าไป!!" เตือนละนะ
9. Genting Highlands ควรไป แต่เตรียมถึงกันอ้วกขึ้นรถไปหน่อยก็ดี
สรุป มาเลเซียมีดีอยู่นะ อย่ามองข้ามนาง ต้องลองกันไปกันดูค่ะ เด๋วมาแนะนำโรงแรมต่อนะคะ