ทริปติ่งอปป้านายแบบได้กลับมาอีกครั้ง ภาค 2 นี้เดินทางเมื่อวันที่ 20 – 24 ต.ค. ค่ะ ภาคนี้เมาท์ยาวหน่อยนะคะ อิอิ
ติ่งภาคแรก เมื่อเดือนพ.ค. >>>
http://ppantip.com/topic/32686502
How to go to “Seoul Fashion Week” ฉบับติ่ง! >>>
http://ppantip.com/topic/33118985
รอบนี้เราเดินทางกับพี่ S คนเดิมจากภาคแรกเลย 555+ ตอนแรกกะว่าจะไม่ไปเพราะงบประมาณร่อยหลอ
แต่เพราะคำว่า “ไปเถอะ ไปงาน Seoul Fashion Week (SFW) กัน .. วันสุดท้ายก็ยังดี” นั่นไง.. เพราะงาน SFW นี่แหล่ะค่ะ
ตัวดูดสติเลย แน่นอนว่างานนี้จะต้องมีอปป้านายแบบและอนนี่นางแบบเดินกันให้วุ่น เอาวะ ไปก็ไป TOT ..
ตัดสินใจได้ก็เก็บเงินทันที
ครั้งนี้ไปไม่นาน แต่ดันวางแพลนกันแน่นมาก ฮ่าๆ กะว่าจะไปเก็บสถานที่ที่อยากไปแล้วพลาดเมื่อคราวที่แล้วด้วย
ภาคนี้ฝากชีวิตไว้กับ Air Asia X ด้วยตั๋วโปร 8 พันกว่าบาท แต่! แต่แต่ บินกับเจ้านี้ต้องมีแต่ให้น้ำตาเล็ด
เพราะเราต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มอีก 20 กิโล + ค่าเลือกที่นั่ง รวมทั้งหมดทั้งมวล ไป-กลับ ตกอยู่ที่
11,000 บาท
เราบินกัน 8 โมงเช้าวันที่ 20 ถึงเกาหลีประมาณบ่าย 3 ครึ่ง และเช่นเคยว่ายังตุ้มๆต่อมๆกับตม.เกาหลีขาโหด
รอบนี้คนเยอะมากๆ ต่อคิวรอยาว เห็นฝรั่งผิวสีโดนเชิญไปห้องเย็นก่อนหน้าเราไม่กี่คน
พอใกล้มาถึง คิวคุณลุงคาดว่าคนไทยมาเป็นทัวร์ แต่กระจายกันเข้าตม.โดนถามกันอยู่นานสองนาน
แต่ก็ผ่านไปได้ เอาแล้วไง.. คิวต่อไปพี่ S ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย พอคิวตัวเองก็ยื่นพาสปอร์ต มองหน้า แสกนนิ้ว ปั้มตึง!
ไม่ถงไม่ถามสุขภาพกันอีกแล้ว เย่!!
ที่พักภาคนี้เราพักกันที่ 24Guesthouse สาขา Cheonggye-Stream เหตุผลที่เลือกคือ ใหม่ / มีลิฟท์ /
ใกล้ซับเวย์สถานี Euljiro 3-ga / นั่งไปสถานี DDP ที่จัดงาน SFW แค่ 2 สถานี / เดินไป Myeong dong ก็ได้ด้วย /
ใกล้คลองชองเกชอน / บวกกับโปรเปิดเกสเฮาท์ใหม่ ใครจองผ่านแอพ Kakaotalk ได้ลดราคาทุกห้อง
เราเลยจองห้องเตียง 2 ชั้น ปกติราคา 60,000 วอน เหลือเพียง 48,000 วอน/คืน เองงงง >O< ...
ปล. 24Guesthouse มีหลายสาขานะคะ มีสาขาที่อยู่หน้า DDP ด้วย ราคา 65,000 วอนในวันปกติ
แน่นอนว่าเรายอมอยู่ไกลหน่อย แต่ถูกกว่า คุ้มกว่า
เปิดห้องมาถึงกับตกใจในความกว้างใหญ่มหาศาล แหม่! เดินเข้าไป 2 คนบวกกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ ก็คับห้องแล้ว !! อะไรกันนี่...
จะเปิดกระเป๋าที ต้องผลัดกันเปิด เพราะพื้นที่ทำให้เปิดได้ทีละใบเท่านั้น .. โอ้วจอร์จ นั่งทำใจแปปนึงก็ปลง
เพราะยังไงก็ไม่ค่อยได้อยู่ห้องกันอยู่แล้วนี่เนอะ
ค่าบินไป-กลับ : 11,000 บาท/คน
ค่าที่พัก 4 คืน : 96,000 วอน/คน
เติมเงินเข้าบัตร T-money (ใช้ใบเดิมจากคราวที่แล้ว) รวมทั้งทริป : 21,000w
(ค้างในบัตรกลับไทยประมาณ2พันกว่าวอน)
รอบนี้ได้บัตร Cash Bee 8,000 วอน มาใช้ฟรีๆ จาก KTO ด้วยค่ะ ขอบพระคุณแรงๆ ^^
*เรทเงินวอนที่ใช้ คือ 0.0315
แพลนที่วางไว้แน่นแบบนี้ค่ะ (ในแต่ละที่ก็จะมีไปนู่นนี่ย่อยๆ อีก)
Day 1 >>> DDP -> Doota -> หาของกิน
Day 2 >>> DDP (Seoul Fashion Week 2015 S/S) -> Klive -> looktique Café -> YGK+ -> ESteem
Day 3 >>> MMCA -> Hongdae -> YG -> ร้านต๊อก Uncles ที่ Shinchon -> Pingpong Pub
Day 4 >>> ไปหาน้อง Rubber Duck ที่ Seokchon lake -> Garosu-gil -> lotte mart -> Myeongdong
Day 5 >>> ไปส่ง Bigbang ที่สนามบิน -> กลับมา checkout ห้องพัก -> นั่ง Bus กลับไป Incheon Airport
แต่เอาเข้าจริงๆ ดันเป็นแบบนี้ค่ะ
Day 1 >>> DDP -> Doota -> หาของกิน
Day 2 >>> DDP (Seoul Fashion Week 2015 S/S) -> Klive -> looktique Café -> YGK+ -> ESteem
Day 3 >>> MMCA -> Hongdae -> DDP
Day 4 >>> Garosu-gil -> lotte mart -> Myeongdong
Day 5 >>> เก็บของหิ้ว Myeong-dong -> Incheon Airport (Arex)
DAY 1
1. DDP
ตึก DDP สถานที่จัดงาน Seoul Fashion Week 2015 S/S งานมีตั้งแต่วันที่ 17 – 22 ต.ค.
ซึ่งแบรนด์ผู้ชายได้เดินกันไปหมดแล้วตั้งแต่ 4 วันแรก 3 วันสุดท้ายเป็นแบรนด์ผู้หญิงล้วนๆ
ไปถึงงานก็เกือบๆ จะ 6 โมงเย็นแล้ว ยังมีคนอยู่เยอะพอประมาณ อากาศหนาวพอสมควร เพราะเหมือนฝนเพิ่งหยุดตก
ก็เลยเดินหลบลมหนาวเข้าไปในโซนแสดง ด้านในจะเป็นโถง มีเสื้อผ้าจากหลายๆแบรนด์เปิดบูธขาย
ข้างในมีฮอล 1-2 สำหรับเดินแฟชั่นโชว์ Seoul Collection (แบรนด์ดังๆ คนสนใจเยอะจะโชว์ที่นี่)
ส่วนแฟชั่นโชว์ Generation Next (แบรนด์ใหม่ แบรนด์เล็ก) จะเป็นฮอล 3 ด้านนอก
ซึ่งงานได้สร้างขึ้นเองเป็นโดมใสๆ เบลอๆ คนที่ไม่มีบัตรก็ยืนดูจากข้างนอกได้ แต่จะเห็นไม่ชัดเท่าไหร่นัก
จากการยืนสังเกตการณ์ได้สักพัก เราได้ค้นพบว่า การยืนอุ่นๆ ในโถงเป็นอะไรที่ฟินมาก
เพราะจะมีนายแบบและนางแบบเดินกันเข้าออก ให้ได้ยลกันไปเพลินๆ .. นางแบบนี่เห็นบ่อยมาก เดินชิลๆ
เด็กเกาหลีขอถ่ายรูปกันหลายคน แต่ด้วยความที่ไม่ใช่สายนางแบบ เลยแทบไม่รู้จักชื่อ!
55+ แต่ก็พอคุ้นหน้าคุ้นตาบ้าง ส่วนนายแบบก็เดินชิลมากกกก บางคนก็สาวเท้าก้าวขายาวๆ จนขาสั้นๆ อย่างเราไม่คิดจะเดินตาม
เพราะยังไงคงตามไม่ทันแน่นอน แต่ไม่ค่อยเห็นเด็กเกาหลีขอถ่ายรูปนายแบบหรือตามสักเท่าไหร่ จะเห็นแค่คนที่ดังๆ
หรือออกทีวี ออกรายการบ่อยๆ ถึงจะมีคนขอถ่ายรูปบ้าง
Kim In Sik & Jeong Yong Soo เบลอได้รุนแรงมาก ขออภัยเจ้าค่ะ
พวกนางเดินชิลมากๆ แต่ด้วยความที่วันนี้มาสังเกตการณ์ เลยยังไม่กล้าประชิดตัว ฮ่าๆๆๆ
เจอ Kim Jong Hoon หรือ Rano ด้วยอ่ะ หากใครเป็นสายผับเกาหลี จะคุ้นหน้ามาก เพราะนางเคยอยู่ Hunters ปาร์ตี้แบนด์ชื่อดังของเกาหลี แต่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นนายแบบเต็มตัว มีสาวเกาหลีวิ่งตามขอถ่ายรูปนะ แต่นางยกมือห้าม ไม่สะดวกให้ถ่ายรูปสักเท่าไหร่ คือดูนางรีบๆ เราเลยวิ่งตามบ้าง 555+ ถ่ายคลิปซะเลย นี่แน่ะๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/video.php?v=361722620672011&set=vb.158779840966291&type=3&theater
ก็ยืนฟินไปสักพัก ดูคนโหลงเหลงๆแล้ว เลยข้ามถนนไปอีกฝั่ง เดินไปห้าง Doota กันค่ะ
2. DOOTA
แน่นอนว่าไม่พลาด เพราะที่นี่มีชอปของแบรนด์เสื้อผ้าดังๆ สาวกติ่งโมเดลอย่างเราๆ คุ้นเคยกันดี
อย่าง 87MM และ beyond closet รวมไปถึงแบรนด์ที่มีโชว์ในงาน SFW ครั้งนี้ ก็มีชอปอยู่ที่นี่กันเกือบทั้งหมด
เป้าหมายอยู่ที่ 2 แบรนด์ฮิตแอนด์เลิฟ .. แม่เจ้า แค่เดินเข้าตึกก็ตระการตาแล้ว เสื้อผ้าสวยๆ เต็มไปหมด ..
ใครชอบช้อปปิ้งคิดว่ามาที่นี่ได้หมดตัวแน่ๆ เราตรงไปที่ชั้น B2 กันก่อน เดินวนหาชอป 87MM กันสักพัก หายากนิดนึง
เพราะร้านมันเยอะมาก แล้วตั้งอยู่ติดๆ กัน เหมือนเขาวงกต เดินวนๆ สักพักก็เจอ
ชอป 87MM เหมือนสวรรค์ของเราสองคน เพราะ staff ที่ดูแลร้านนอกจากจะน่ารักแล้ว
ยังตอบคำถามที่พวกเราถามซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดแบบไม่เหวี่ยงเลย 55+ แบบว่าเสื้อตัวนี้ราคาเท่าไหร่ มีไซต์นี้มั้ย มีสีนี้มั้ย
ไม่กี่คำถามหรอกค่ะ แต่ถามซ้ำไปมานั่นแหล่ะ แบบว่าพอถามตัวใหม่ ก็ลืมที่ถามตัวเก่าไปละ เลยต้องถามใหม่ตลอด (แหะๆ)
สุดท้ายเราได้มา 1 ตัว (87,000 วอน เฮือก!)
ชอป beyond closet อยู่ชั้น B1 หลังจากไปลูบๆคลำๆที่ 87MM มาแล้ว เราก็มาลูบๆ คลำๆ ที่นี่กันต่อ
แบรนด์นี้แพงกว่า ดังกว่า วัยรุ่นที่นี่ใส่เสื้อของแบรนด์นี้กันเยอะทีเดียว .. ขอบอกว่าเนื้อผ้าสวยมาก T^T ฮรือ อยากได้
แต่เงินในกระเป๋าไม่เป็นใจ แถมไซต์จะใหญ่ไปไหน!! สาวเอวบางร่างเล็ก(หรา)อย่างเราเลยต้องชอกช้ำระกำใจ
ตัดใจกลับไปที่ 87MM กันอีกรอบ ไปสอยมาอีก 2 ตัว 36,000x2 = 72,000 วอน นี่แน่ะๆๆ
staff สาวผู้น่ารักจำเราได้ ยอดที่เราซื้อถ้ารวมกันได้ 159,000 วอน ซึ่งที่ร้านกำลังมีโปรฯ ซื้อเกิน 150,000 วอนได้หมวกฟรี 1 ใบ !!
เป็นรุ่นที่ไม่มีวางขายแล้ว (ในรูปคือหมวกสีกรม-ขาว เลข 87 นะ ส่วนสีเหลืองนั้นเป็นใบที่สั่งซื้อมานานแล้ว)
ฟินเกินบรรยาย ถึงแม้จะซื้อคนละรอบบิล แต่นางก็จัดให้ น่าร๊ากกกกกกกกกก
หลังจากเสียทรัพย์พอหอมปากหอมคอ ก็ขึ้นมาที่ชั้น 1F ตรงไปร้านไอติม Remicone
ไปลองชิม Thunder Bomb (6,100 วอน) กับ Hawaiian Beach (4,800 วอน) เมนูฮิตของร้าน
ขอบอกว่าอร่อยมากกกก ฟินลืมกันเลยทีเดียว แต่สายไหมแอบกินยากนิดนุง พอโดนลมหนาวแล้วมันเริ่มละลาย
เริ่มเหนียว ก็เลยใช้ช้อนขย้ำๆให้เหลือก้อนเล็กๆ เข้าปากสะดวก 555+
อากาศก็หนาว กินของเย็นๆ เลยร่างสั่นไปกันใหญ่ เดินหาของร้อนๆ กินหน้าห้าง hello apm
ได้เป็นต๊อกโบกกีกับโอเด้งประทังชีวิตในวันนี้ก่อนกลับที่พัก
DOOTA เปิด Sun-Thu 10.30-24.00 น. และ Fri-Sat 10.30-05.00 น. (next morning)
เพราะฉะนั้นขาช้อปที่อยากซื้อของดึกๆ ก็มาแถวๆ นี้ได้ค่ะ ห้างแถวนี้ปิดดึกกันหลายตึก
ปิดทริปวันแรก
[CR] +++ Backpack in Korea .. ตามหานายแบบกิมจิ ! ภาค 2 (SFW)
ติ่งภาคแรก เมื่อเดือนพ.ค. >>> http://ppantip.com/topic/32686502
How to go to “Seoul Fashion Week” ฉบับติ่ง! >>> http://ppantip.com/topic/33118985
รอบนี้เราเดินทางกับพี่ S คนเดิมจากภาคแรกเลย 555+ ตอนแรกกะว่าจะไม่ไปเพราะงบประมาณร่อยหลอ
แต่เพราะคำว่า “ไปเถอะ ไปงาน Seoul Fashion Week (SFW) กัน .. วันสุดท้ายก็ยังดี” นั่นไง.. เพราะงาน SFW นี่แหล่ะค่ะ
ตัวดูดสติเลย แน่นอนว่างานนี้จะต้องมีอปป้านายแบบและอนนี่นางแบบเดินกันให้วุ่น เอาวะ ไปก็ไป TOT ..
ตัดสินใจได้ก็เก็บเงินทันที
ครั้งนี้ไปไม่นาน แต่ดันวางแพลนกันแน่นมาก ฮ่าๆ กะว่าจะไปเก็บสถานที่ที่อยากไปแล้วพลาดเมื่อคราวที่แล้วด้วย
ภาคนี้ฝากชีวิตไว้กับ Air Asia X ด้วยตั๋วโปร 8 พันกว่าบาท แต่! แต่แต่ บินกับเจ้านี้ต้องมีแต่ให้น้ำตาเล็ด
เพราะเราต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มอีก 20 กิโล + ค่าเลือกที่นั่ง รวมทั้งหมดทั้งมวล ไป-กลับ ตกอยู่ที่ 11,000 บาท
เราบินกัน 8 โมงเช้าวันที่ 20 ถึงเกาหลีประมาณบ่าย 3 ครึ่ง และเช่นเคยว่ายังตุ้มๆต่อมๆกับตม.เกาหลีขาโหด
รอบนี้คนเยอะมากๆ ต่อคิวรอยาว เห็นฝรั่งผิวสีโดนเชิญไปห้องเย็นก่อนหน้าเราไม่กี่คน
พอใกล้มาถึง คิวคุณลุงคาดว่าคนไทยมาเป็นทัวร์ แต่กระจายกันเข้าตม.โดนถามกันอยู่นานสองนาน
แต่ก็ผ่านไปได้ เอาแล้วไง.. คิวต่อไปพี่ S ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย พอคิวตัวเองก็ยื่นพาสปอร์ต มองหน้า แสกนนิ้ว ปั้มตึง!
ไม่ถงไม่ถามสุขภาพกันอีกแล้ว เย่!!
ที่พักภาคนี้เราพักกันที่ 24Guesthouse สาขา Cheonggye-Stream เหตุผลที่เลือกคือ ใหม่ / มีลิฟท์ /
ใกล้ซับเวย์สถานี Euljiro 3-ga / นั่งไปสถานี DDP ที่จัดงาน SFW แค่ 2 สถานี / เดินไป Myeong dong ก็ได้ด้วย /
ใกล้คลองชองเกชอน / บวกกับโปรเปิดเกสเฮาท์ใหม่ ใครจองผ่านแอพ Kakaotalk ได้ลดราคาทุกห้อง
เราเลยจองห้องเตียง 2 ชั้น ปกติราคา 60,000 วอน เหลือเพียง 48,000 วอน/คืน เองงงง >O< ...
ปล. 24Guesthouse มีหลายสาขานะคะ มีสาขาที่อยู่หน้า DDP ด้วย ราคา 65,000 วอนในวันปกติ
แน่นอนว่าเรายอมอยู่ไกลหน่อย แต่ถูกกว่า คุ้มกว่า
เปิดห้องมาถึงกับตกใจในความกว้างใหญ่มหาศาล แหม่! เดินเข้าไป 2 คนบวกกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ ก็คับห้องแล้ว !! อะไรกันนี่...
จะเปิดกระเป๋าที ต้องผลัดกันเปิด เพราะพื้นที่ทำให้เปิดได้ทีละใบเท่านั้น .. โอ้วจอร์จ นั่งทำใจแปปนึงก็ปลง
เพราะยังไงก็ไม่ค่อยได้อยู่ห้องกันอยู่แล้วนี่เนอะ
ค่าบินไป-กลับ : 11,000 บาท/คน
ค่าที่พัก 4 คืน : 96,000 วอน/คน
เติมเงินเข้าบัตร T-money (ใช้ใบเดิมจากคราวที่แล้ว) รวมทั้งทริป : 21,000w
(ค้างในบัตรกลับไทยประมาณ2พันกว่าวอน)
รอบนี้ได้บัตร Cash Bee 8,000 วอน มาใช้ฟรีๆ จาก KTO ด้วยค่ะ ขอบพระคุณแรงๆ ^^
*เรทเงินวอนที่ใช้ คือ 0.0315
แพลนที่วางไว้แน่นแบบนี้ค่ะ (ในแต่ละที่ก็จะมีไปนู่นนี่ย่อยๆ อีก)
Day 1 >>> DDP -> Doota -> หาของกิน
Day 2 >>> DDP (Seoul Fashion Week 2015 S/S) -> Klive -> looktique Café -> YGK+ -> ESteem
Day 3 >>> MMCA -> Hongdae -> YG -> ร้านต๊อก Uncles ที่ Shinchon -> Pingpong Pub
Day 4 >>> ไปหาน้อง Rubber Duck ที่ Seokchon lake -> Garosu-gil -> lotte mart -> Myeongdong
Day 5 >>> ไปส่ง Bigbang ที่สนามบิน -> กลับมา checkout ห้องพัก -> นั่ง Bus กลับไป Incheon Airport
แต่เอาเข้าจริงๆ ดันเป็นแบบนี้ค่ะ
Day 1 >>> DDP -> Doota -> หาของกิน
Day 2 >>> DDP (Seoul Fashion Week 2015 S/S) -> Klive -> looktique Café -> YGK+ -> ESteem
Day 3 >>> MMCA -> Hongdae -> DDP
Day 4 >>> Garosu-gil -> lotte mart -> Myeongdong
Day 5 >>> เก็บของหิ้ว Myeong-dong -> Incheon Airport (Arex)
DAY 1
1. DDP
ตึก DDP สถานที่จัดงาน Seoul Fashion Week 2015 S/S งานมีตั้งแต่วันที่ 17 – 22 ต.ค.
ซึ่งแบรนด์ผู้ชายได้เดินกันไปหมดแล้วตั้งแต่ 4 วันแรก 3 วันสุดท้ายเป็นแบรนด์ผู้หญิงล้วนๆ
ไปถึงงานก็เกือบๆ จะ 6 โมงเย็นแล้ว ยังมีคนอยู่เยอะพอประมาณ อากาศหนาวพอสมควร เพราะเหมือนฝนเพิ่งหยุดตก
ก็เลยเดินหลบลมหนาวเข้าไปในโซนแสดง ด้านในจะเป็นโถง มีเสื้อผ้าจากหลายๆแบรนด์เปิดบูธขาย
ข้างในมีฮอล 1-2 สำหรับเดินแฟชั่นโชว์ Seoul Collection (แบรนด์ดังๆ คนสนใจเยอะจะโชว์ที่นี่)
ส่วนแฟชั่นโชว์ Generation Next (แบรนด์ใหม่ แบรนด์เล็ก) จะเป็นฮอล 3 ด้านนอก
ซึ่งงานได้สร้างขึ้นเองเป็นโดมใสๆ เบลอๆ คนที่ไม่มีบัตรก็ยืนดูจากข้างนอกได้ แต่จะเห็นไม่ชัดเท่าไหร่นัก
จากการยืนสังเกตการณ์ได้สักพัก เราได้ค้นพบว่า การยืนอุ่นๆ ในโถงเป็นอะไรที่ฟินมาก
เพราะจะมีนายแบบและนางแบบเดินกันเข้าออก ให้ได้ยลกันไปเพลินๆ .. นางแบบนี่เห็นบ่อยมาก เดินชิลๆ
เด็กเกาหลีขอถ่ายรูปกันหลายคน แต่ด้วยความที่ไม่ใช่สายนางแบบ เลยแทบไม่รู้จักชื่อ!
55+ แต่ก็พอคุ้นหน้าคุ้นตาบ้าง ส่วนนายแบบก็เดินชิลมากกกก บางคนก็สาวเท้าก้าวขายาวๆ จนขาสั้นๆ อย่างเราไม่คิดจะเดินตาม
เพราะยังไงคงตามไม่ทันแน่นอน แต่ไม่ค่อยเห็นเด็กเกาหลีขอถ่ายรูปนายแบบหรือตามสักเท่าไหร่ จะเห็นแค่คนที่ดังๆ
หรือออกทีวี ออกรายการบ่อยๆ ถึงจะมีคนขอถ่ายรูปบ้าง
Kim In Sik & Jeong Yong Soo เบลอได้รุนแรงมาก ขออภัยเจ้าค่ะ
พวกนางเดินชิลมากๆ แต่ด้วยความที่วันนี้มาสังเกตการณ์ เลยยังไม่กล้าประชิดตัว ฮ่าๆๆๆ
เจอ Kim Jong Hoon หรือ Rano ด้วยอ่ะ หากใครเป็นสายผับเกาหลี จะคุ้นหน้ามาก เพราะนางเคยอยู่ Hunters ปาร์ตี้แบนด์ชื่อดังของเกาหลี แต่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นนายแบบเต็มตัว มีสาวเกาหลีวิ่งตามขอถ่ายรูปนะ แต่นางยกมือห้าม ไม่สะดวกให้ถ่ายรูปสักเท่าไหร่ คือดูนางรีบๆ เราเลยวิ่งตามบ้าง 555+ ถ่ายคลิปซะเลย นี่แน่ะๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก็ยืนฟินไปสักพัก ดูคนโหลงเหลงๆแล้ว เลยข้ามถนนไปอีกฝั่ง เดินไปห้าง Doota กันค่ะ
2. DOOTA
แน่นอนว่าไม่พลาด เพราะที่นี่มีชอปของแบรนด์เสื้อผ้าดังๆ สาวกติ่งโมเดลอย่างเราๆ คุ้นเคยกันดี
อย่าง 87MM และ beyond closet รวมไปถึงแบรนด์ที่มีโชว์ในงาน SFW ครั้งนี้ ก็มีชอปอยู่ที่นี่กันเกือบทั้งหมด
เป้าหมายอยู่ที่ 2 แบรนด์ฮิตแอนด์เลิฟ .. แม่เจ้า แค่เดินเข้าตึกก็ตระการตาแล้ว เสื้อผ้าสวยๆ เต็มไปหมด ..
ใครชอบช้อปปิ้งคิดว่ามาที่นี่ได้หมดตัวแน่ๆ เราตรงไปที่ชั้น B2 กันก่อน เดินวนหาชอป 87MM กันสักพัก หายากนิดนึง
เพราะร้านมันเยอะมาก แล้วตั้งอยู่ติดๆ กัน เหมือนเขาวงกต เดินวนๆ สักพักก็เจอ
ชอป 87MM เหมือนสวรรค์ของเราสองคน เพราะ staff ที่ดูแลร้านนอกจากจะน่ารักแล้ว
ยังตอบคำถามที่พวกเราถามซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดแบบไม่เหวี่ยงเลย 55+ แบบว่าเสื้อตัวนี้ราคาเท่าไหร่ มีไซต์นี้มั้ย มีสีนี้มั้ย
ไม่กี่คำถามหรอกค่ะ แต่ถามซ้ำไปมานั่นแหล่ะ แบบว่าพอถามตัวใหม่ ก็ลืมที่ถามตัวเก่าไปละ เลยต้องถามใหม่ตลอด (แหะๆ)
สุดท้ายเราได้มา 1 ตัว (87,000 วอน เฮือก!)
ชอป beyond closet อยู่ชั้น B1 หลังจากไปลูบๆคลำๆที่ 87MM มาแล้ว เราก็มาลูบๆ คลำๆ ที่นี่กันต่อ
แบรนด์นี้แพงกว่า ดังกว่า วัยรุ่นที่นี่ใส่เสื้อของแบรนด์นี้กันเยอะทีเดียว .. ขอบอกว่าเนื้อผ้าสวยมาก T^T ฮรือ อยากได้
แต่เงินในกระเป๋าไม่เป็นใจ แถมไซต์จะใหญ่ไปไหน!! สาวเอวบางร่างเล็ก(หรา)อย่างเราเลยต้องชอกช้ำระกำใจ
ตัดใจกลับไปที่ 87MM กันอีกรอบ ไปสอยมาอีก 2 ตัว 36,000x2 = 72,000 วอน นี่แน่ะๆๆ
staff สาวผู้น่ารักจำเราได้ ยอดที่เราซื้อถ้ารวมกันได้ 159,000 วอน ซึ่งที่ร้านกำลังมีโปรฯ ซื้อเกิน 150,000 วอนได้หมวกฟรี 1 ใบ !!
เป็นรุ่นที่ไม่มีวางขายแล้ว (ในรูปคือหมวกสีกรม-ขาว เลข 87 นะ ส่วนสีเหลืองนั้นเป็นใบที่สั่งซื้อมานานแล้ว)
ฟินเกินบรรยาย ถึงแม้จะซื้อคนละรอบบิล แต่นางก็จัดให้ น่าร๊ากกกกกกกกกก
หลังจากเสียทรัพย์พอหอมปากหอมคอ ก็ขึ้นมาที่ชั้น 1F ตรงไปร้านไอติม Remicone
ไปลองชิม Thunder Bomb (6,100 วอน) กับ Hawaiian Beach (4,800 วอน) เมนูฮิตของร้าน
ขอบอกว่าอร่อยมากกกก ฟินลืมกันเลยทีเดียว แต่สายไหมแอบกินยากนิดนุง พอโดนลมหนาวแล้วมันเริ่มละลาย
เริ่มเหนียว ก็เลยใช้ช้อนขย้ำๆให้เหลือก้อนเล็กๆ เข้าปากสะดวก 555+
อากาศก็หนาว กินของเย็นๆ เลยร่างสั่นไปกันใหญ่ เดินหาของร้อนๆ กินหน้าห้าง hello apm
ได้เป็นต๊อกโบกกีกับโอเด้งประทังชีวิตในวันนี้ก่อนกลับที่พัก
DOOTA เปิด Sun-Thu 10.30-24.00 น. และ Fri-Sat 10.30-05.00 น. (next morning)
เพราะฉะนั้นขาช้อปที่อยากซื้อของดึกๆ ก็มาแถวๆ นี้ได้ค่ะ ห้างแถวนี้ปิดดึกกันหลายตึก
ปิดทริปวันแรก