ที่มา:
http://www.thairath.co.th/content/405379
กว่าจะประสบความสำเร็จร่ำรวยเป็นเสี่ยหลายพันล้านมีชื่อเสียงในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียวรายแรกๆของเมืองไทย และเป็นไอดอลของคนสู้ชีวิตที่ฝันอยากสร้างเนื้อสร้างตัวจากศูนย์ “เสี่ยตัน ภาสกรนที” เจ้าพ่ออิชิตัน กรุ๊ป วัย 55 ปี ต้องล้มลุกคลุกคลานฟันฝ่าวิกฤติมานับไม่ถ้วน โดยหลายต่อหลายครั้งที่เกือบจะจมน้ำตาย เขาเอาชีวิตรอดมาได้ เพราะมีคนหยิบยื่นโอกาสให้แท้ๆ!!
ก็เพราะตระหนักถึงความ สำคัญของ “การได้รับโอกาส” ในวันที่ ร่ำรวยมีเงินทองเพียบพร้อมแล้ว และมีครอบครัวอบอุ่นน่ารักสมกับที่ฝันไว้ “เจ้าพ่ออิชิตัน” ขอเปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้รับ” มาเป็น “ผู้ให้” บ้าง เพื่อใช้หนี้แผ่นดินไทย และส่งไม้ต่อหยิบยื่นโอกาสให้นักฝันนักสู้รุ่นต่อไป
“ผมเป็นคนชลบุรี ครอบครัวมีฐานะยากจน ผมเรียนจบแค่ชั้น ม. 3 ตอนเด็กๆฝันอยากเป็นเจ้าของร้านขายของเล็กๆ แต่ไม่เคยคิดฝันว่าจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ผมมาไกลเกินกว่าที่เคยฝันไว้มาก ผมมีวันนี้ได้ก็เพราะ “ได้รับโอกาส” จากงานแรกที่เป็นพนักงานส่งของ ผมได้รับโอกาสเลื่อน ตำแหน่งเป็นเซลส์ซุปเปอร์ไวเซอร์ ต่อมาผมก็ “ได้รับโอกาส” จากผู้ใหญ่และเพื่อนๆ สนับสนุนให้ขยายธุรกิจขายแผงหนังสือ พิมพ์ที่ชลบุรี ตอนผมเจ๊งเป็นหนี้ร้อยล้านบาท จากการทำเรียลเอสเตทที่ชลบุรี ช่วงเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540 ผมได้รับโอกาสช่วยเหลือจากผู้มีพระคุณ ทำให้รอดมาได้ถึงทุกวันนี้”
สร้างภาพหรือเปล่า จู่ๆลุกขึ้นมาประกาศจะใช้หนี้แผ่นดินไทย
ผมพูดอย่างไม่อายเลยนะ ตั้งแต่เกิดมาก็อยู่กับความจนตลอด และเป็นผู้รับอย่างเดียว ไม่เคยเป็นผู้ให้ มาถึงวันนี้เรามีเงินทองทุกอย่างพร้อมแล้ว ถ้าจะไม่ทำอะไรเลยเพื่อสังคมก็คงเกินไปล่ะ สิ่งที่ตั้งใจไว้คืออยากใช้หนี้แผ่นดินไทย เหมือนต้องใช้หนี้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่และผู้มีพระคุณ ผมกับ “คุณอิง” (ภรรยา) ได้ก่อตั้งมูลนิธิตันปันขึ้น เน้นทำเรื่องการศึกษาและสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนจะสร้างโรงเรียนและอาคารเรียน 4 แห่ง ใน 4 ภาคทั่วประเทศ ทำเสร็จไปแล้ว 2 แห่ง คือ สร้างอาคารเรียนใหม่ โรงเรียนอนุบาลบ่อทอง จ.ชลบุรี ซึ่ง “คุณอิง” เคยเรียนสมัยเด็ก และสร้างโรงเรียนไตรทักษะขึ้นใหม่ ที่ จ.ปทุมธานี นอกจากนี้ ผมยังมีโครงการนำร่องแจกทุนการศึกษาระดับ ปวช., ปวส. และปริญญาตรี รวม 1,174 ล้านบาท เพื่อ 1,174 โรงเรียนทั่วประเทศ ไอเดียนี้เกิดจากผมมีปมด้อยเรียนมาน้อย และรู้ว่าการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จ ผมกับ “คุณอิง” จึงอยากให้ทุนการศึกษาแบบไม่มีเงื่อนไข แต่มีกฎเกณฑ์เฉพาะ ต้องสอบได้เกรด 2.5 ขึ้นไป, เป็นคนดี และมีจิตสาธารณะ เราจะเริ่มแจกทุนการศึกษาในปี 2557 หรือปี 2558 เป็นอย่างช้า โดยจะแจกอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี
ทำไมเกิดเป็น “เสี่ยตัน ภาสกรนที” ทำอะไรก็ถูกจับจ้องตลอด?!
เหรียญมีสองด้านเสมอ ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง แต่ผมรับได้ครับ ผมโชคดีที่มีโอกาสเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กรุ่นใหม่ ผมไม่ได้เป็นคนดีนะ เป็นคนธรรมดาขี้เหม็นเหมือนกัน แต่สิ่งที่ผมพูดผมคิดสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นใหม่ได้พอสมควร ถือเป็นการให้ที่มีค่ามากกว่าการให้เงิน เมื่อเราประสบความสำเร็จถึงระดับที่พอใจแล้ว ก็ควรใช้หนี้คืนสังคมบ้าง สำหรับผมชีวิตคนเราก็เหมือนการวิ่งผลัด 4 คูณ 100 ในฐานะไม้สอง เรามีหน้าที่รอรับไม้จากไม้หนึ่งให้ดีๆ และต้องคอยส่งไม้ต่อให้ไม้สามด้วย ถ้าเราเอาแต่ตัวเองรวย ใคร
ไม่เกี่ยว สังคมก็อยู่ไม่ได้หรอก
ดูเหมือนจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด ชีวิตนี้ได้อะไรมาง่ายๆไหม
ชีวิตผมไม่มีอะไรได้มาง่ายๆครับ ความล้มเหลวผมจบด็อกเตอร์เลย เพราะโดนบ่อยครับ ก่อนจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ผมต้องผ่านวิกฤติมาก่อนทุกครั้ง จากวันแรกที่ขายหนังสือพิมพ์ก็เจ๊ง ตอนทำร้านเบเกอรี่ที่ชลบุรี หรือทำร้านถ่ายรูปเวดดิ้งที่ทองหล่อก็เจ๊ง หนักกว่านั้นคือตอนทำโรงงานผลิตอิชิตัน โรงงานยังไม่ทันเสร็จ ก็เจอน้ำท่วมซะแล้ว!! คือมันเหมือนพระเจ้าคอยกลั่นแกล้งเรา เพื่อให้ผ่านการทดสอบอย่างแรง แต่ทุกครั้งที่เจอวิกฤติ มันทำให้ผมรู้ว่าเราใกล้ประสบความสำเร็จแล้ว ถ้าสามารถผ่านไปได้นะ แต่คนส่วนใหญ่มักยอมแพ้ก่อนความสำเร็จจะมาถึง
เวลาเจอวิกฤติใหญ่ มีตัวช่วยอะไรให้ผ่านพ้นมาได้
กำลังใจจากครอบครัวสำคัญที่สุด ตัวช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤติ คือประสบการณ์ที่เราเคยโดนมาก่อน และความเป็นนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ที่โรงงานผลิตเครื่องดื่มอิชิตัน จะมีตัวหนังสือติดหน้าโรงงาน “เริ่มใหม่ได้ ถ้าหัวใจไม่ยอมแพ้” เป็นเครื่องเตือนสติว่า ชีวิตคนเราล้มได้ก็ต้องลุกได้ มันเป็นประสบการณ์จากอดีต คนที่ประสบความสำเร็จต้องผ่านจุดนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่เคยหนาวมาก่อน ก็ไม่รู้คุณค่าของแสง อาทิตย์ เราต้องตั้งสติให้พร้อมรับสิ่งร้ายๆด้วย
ล้มครั้งไหนเจ็บสุด และลุกยากที่สุด
เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ลงทุนไป 2-3 พันล้านบาท ยังไม่ทันลงมือผลิตอิชิตันเลย น้ำท่วมหมดไม่มีเหลือ เงินทองไม่เท่าไหร่ แต่เสียกำลังใจ เสียความมุ่งมั่น ก็เพราะเราสู้!! ทุกวันนี้จึงขยายกำลังผลิตเป็น 3 เท่า
ความฮึดสู้ไม่ถอยถือเป็นพรสวรรค์อย่างหนึ่งหรือเปล่า
ผมว่ามันเป็นดีเอ็นเอเลยนะ มันเป็นความเคยชิน ถ้าเราเจออะไรแล้วเราถอยเรายอมแพ้เราเลิก มันก็เป็นนิสัยติดตัวว่าเราชอบเลิก ชอบยอมแพ้ ชอบร้องไห้ ชอบโทษฟ้าดิน ตรงกันข้าม ถ้าทุกครั้งที่เจอปัญหา แล้วเราสู้ถึงที่สุด และมีความเชื่อว่าต้องสู้ถึงจะชนะ วันหนึ่งก็ต้องถึงเป้าหมายแน่นอน
มีแววนักสู้ตั้งแต่เด็กๆ เลยไหม
ผมเป็นนักสู้ตั้งแต่เด็กๆ แต่ทุกอย่างก็ฝึกฝนกันได้จนติดเป็นนิสัย ถ้าเราไม่เคยชิน ทำแป๊บเดียวอาจเหนื่อย เหมือนนิสัยอื่นๆอยู่ที่การฝึกฝน นิสัยประหยัด, ขยัน, ซื่อสัตย์ และจิตสาธารณะ ก็เกิดจากการฝึกฝน ยิ่งทำบ่อยยิ่งได้
อะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างการศึกษาสูงๆกับประสบการณ์ชีวิตจริง
มันก็สำคัญทั้งคู่ ผมโชคดีที่ประสบความสำเร็จทั้งๆที่เรียนไม่สูง แต่ผมก็เสียดายและน้อยใจในตัวเอง เคยคิดว่าถ้าเรามีการศึกษาสูงกว่านี้ก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้ เพราะการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดของชีวิต คนเรียนน้อยจะเข้าไม่ถึงข้อมูลเลย เข้าไม่ถึงโอกาส เข้าไม่ถึงแหล่งทุน การที่เราเรียนน้อยทำให้ต้องทำงานหนักกว่า 2-3 เท่า ถึงจะได้เท่ากับคนอื่น บางทีก็ผิดพลาดแล้วผิดพลาดอีก ถ้าเรามีพื้นฐานการศึกษาดีจะมีวิธีจัดการปัญหาได้ดีกว่าเยอะ
ทุกวันนี้ “เสี่ยตัน” รวยหรือยัง ประสบความสำเร็จหรือยัง
ความจริงแล้วผมก็ไม่ได้รวยนะ แต่เป็นคนพอเพียงและพอใจ เงินทองไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับผม ชีวิตคนเราเกิดมาต้องทำงาน และเมื่อทำธุรกิจแล้วต้องมีกำไร แต่มันไม่สำคัญเท่าเราพอใจ ถ้าเราพอใจซะอย่าง เงินทองที่หามาได้ก็ยังมีเหลือเยอะพอจะเอามาทำประโยชน์ การเอาเงินทั้งหมดที่หามาได้เก็บไว้ให้ลูก ผมว่ามันไม่ยุติธรรมกับลูกเลย เราควรให้การศึกษากับลูกมากกว่าเงิน ทุกคนหาเงินก็เพื่อความสุข ผมไม่ศรัทธาเงินเท่าไหร่ เรามีเงินเพื่อหาความสุข ผมไม่อยากรวย แต่อยากเป็นคนมีความสุข ได้ปลูกต้นไม้อยู่กับธรรมชาติ, ท่องเที่ยว และทำประโยชน์ให้สังคม
ทำงานหนักมาทั้งชีวิต เมื่อไหร่จะวางมือพักผ่อนบ้าง
ปีนี้ผมอายุ 55 ปีแล้ว ตั้งใจว่าหลังเกษียณ อายุ 60 ปี อยากทำงานจิตอาสาอย่างเดียวไม่ทำธุรกิจแล้ว ผมอยากนำเงินที่หามาได้ทั้งชีวิตไปใช้เพื่อสร้างประโยชน์ให้สังคม ชีวิตคนเรา ต้องมีช่วงหาเงินสร้างตัวและช่วงใช้หนี้คืนแผ่นดินไทย ไม่ใช่ตักตวงเข้ากระเป๋าอย่างเดียว
เตรียมลูกๆ ให้พร้อมรับช่วงสืบทอดกิจการหรือยัง
ลูกๆทั้ง 3 คน (กิ๊ฟ, เก็ทโต้ และใกล้ใกล้) จะได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เด็กว่า สิ่งที่ปะป๊ะให้คือการศึกษา และความอบอุ่นความรัก แต่เงินทั้งหมดที่มีอยู่อย่ามาคาดหวังว่าจะได้นะ ลูกๆต้องตั้งใจสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง อย่างลูกสาวคนโต “กิ๊ฟ” ก็เรียนรู้ ด้วยตัวเอง ผมให้ไป 20 ล้านบาท ทำร้านอาหารอิตาเลียนร้านแรกก็เจ๊ง พอเปลี่ยนมาทำร้านอาหารอีสาน Zaab Eli ปรากฏว่าขายดี แต่สาขาแรกขาดทุน เขาก็ร้องไห้ใหญ่ ขอให้ปะป๊ะส่งคนมาช่วย แต่ผมบอกไม่ได้หรอก ลูกต้องหัดเรียนรู้ด้วยตัวเอง และหาทางให้เจอว่าทำธุรกิจยังไงไม่ขาดทุน ถ้าคุณเจอปัญหา แล้วแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ในอนาคตเจอปัญหาอีก ก็สามารถแก้ไขได้ แต่ถ้ามีคนช่วยตลอดคุณไม่โตหรอก ผมไม่มีนโยบายให้ลูกสืบทอดตำแหน่งในบริษัท ต้องพิสูจน์ฝีมือเอง และจะไม่ยกสมบัติให้ลูก เพราะไม่อยากทำร้ายลูกทางอ้อม
เวลาเหนื่อยๆท้อๆ “เสี่ยตัน” มีวิธีชาร์จแบตอย่างไร
ผมจะไปเที่ยวไปพักผ่อนเลย เหนื่อยท้อก็หยุด แล้วค่อยเริ่มใหม่ ผมไม่ยึดติดและไม่เคยจมอยู่กับปัญหา บางอย่างไม่ต้องไปรับรู้มัน เดี๋ยวก็ผ่านไปได้ ช่วงนี้ชอบไปแถวบ่อทอง ผมสร้างสวนสาธารณะไว้ ได้ไปเดินเล่นอยู่กับธรรมชาติ ไปดูการเจริญเติบโตของต้นไม้ที่เราปลูกไว้ มีความสุขที่สุด ผมโชคดีมากที่ได้ “คุณอิง” เป็นคู่คิด ทุกวันนี้กลับบ้านแล้วมีความสุข ถ้าไม่มี “อิง” ผมก็ไม่มีวันนี้ และถ้าเขาไม่เข้าใจผม ก็คงบริจาคเงินเป็นพันล้านไม่ได้
อยากประสบความสำเร็จแบบ “เสี่ยตัน” ต้องมีเคล็ดลับอย่างไร
ผมทำมาแล้วทุกอย่าง จนค้นพบว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ให้ทำสิ่งที่ถนัดที่สุดแค่อย่างเดียว แล้วทุ่มเทให้สุดตัวไปเลย ทำแค่อย่างเดียวก็ประสบความสำเร็จได้ อีก 5 ปี ผมก็เกษียณแล้ว ตอนนี้ไม่คิดเรื่องธุรกิจแล้ว คนเราไม่อมตะหรอกครับ เราควรส่งมอบธุรกิจในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่กอดธุรกิจไว้จนวันตาย เกิดมีปัญหาอะไร เราก็มีโอกาสช่วยเหลือแนะนำได้ ผมมีวันนี้ได้เพราะไม่ยอมแพ้ และได้รับโอกาสหลายครั้ง การที่เคยเจ๊งมาหลายครั้ง ทำให้ผมเป็นคนไม่ประมาท ผมจะมีแว่นขยายติดตัวตลอดเวลา ทำอะไรก็ตามต้องหยิบแว่นขยายในสมองขึ้นมาส่องหาจุดแย่ที่สุดก่อน แล้วถามตัวเองว่าเราจะอยู่กับมันได้ไหม คือทำใจรับสิ่งเลวร้ายที่สุดไว้ก่อน แย่ที่สุดของผมคือกลับไปอยู่บ้านนอก ผมปลูกบ้านเล็กๆไว้ที่ชลบุรีแล้ว แค่ขี่มอเตอร์ไซค์นั่งซ้อนกันพ่อแม่ลูก ซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้ง 100 บาท ก็กินได้ทั้งบ้านแล้ว ไม่จำเป็นต้องกินภัตตาคารหรู นี่คือความสุขแท้จริง.
ทีมข่าวหน้าสตรี
สุขไม่มีตันของ "เสี่ยตัน ภาสกรนที" ทำเพื่อตัวเองเยอะแล้ว...ถึงเวลาใช้หนี้แผ่นดิน
กว่าจะประสบความสำเร็จร่ำรวยเป็นเสี่ยหลายพันล้านมีชื่อเสียงในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียวรายแรกๆของเมืองไทย และเป็นไอดอลของคนสู้ชีวิตที่ฝันอยากสร้างเนื้อสร้างตัวจากศูนย์ “เสี่ยตัน ภาสกรนที” เจ้าพ่ออิชิตัน กรุ๊ป วัย 55 ปี ต้องล้มลุกคลุกคลานฟันฝ่าวิกฤติมานับไม่ถ้วน โดยหลายต่อหลายครั้งที่เกือบจะจมน้ำตาย เขาเอาชีวิตรอดมาได้ เพราะมีคนหยิบยื่นโอกาสให้แท้ๆ!!
ก็เพราะตระหนักถึงความ สำคัญของ “การได้รับโอกาส” ในวันที่ ร่ำรวยมีเงินทองเพียบพร้อมแล้ว และมีครอบครัวอบอุ่นน่ารักสมกับที่ฝันไว้ “เจ้าพ่ออิชิตัน” ขอเปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้รับ” มาเป็น “ผู้ให้” บ้าง เพื่อใช้หนี้แผ่นดินไทย และส่งไม้ต่อหยิบยื่นโอกาสให้นักฝันนักสู้รุ่นต่อไป
“ผมเป็นคนชลบุรี ครอบครัวมีฐานะยากจน ผมเรียนจบแค่ชั้น ม. 3 ตอนเด็กๆฝันอยากเป็นเจ้าของร้านขายของเล็กๆ แต่ไม่เคยคิดฝันว่าจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ผมมาไกลเกินกว่าที่เคยฝันไว้มาก ผมมีวันนี้ได้ก็เพราะ “ได้รับโอกาส” จากงานแรกที่เป็นพนักงานส่งของ ผมได้รับโอกาสเลื่อน ตำแหน่งเป็นเซลส์ซุปเปอร์ไวเซอร์ ต่อมาผมก็ “ได้รับโอกาส” จากผู้ใหญ่และเพื่อนๆ สนับสนุนให้ขยายธุรกิจขายแผงหนังสือ พิมพ์ที่ชลบุรี ตอนผมเจ๊งเป็นหนี้ร้อยล้านบาท จากการทำเรียลเอสเตทที่ชลบุรี ช่วงเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540 ผมได้รับโอกาสช่วยเหลือจากผู้มีพระคุณ ทำให้รอดมาได้ถึงทุกวันนี้”
สร้างภาพหรือเปล่า จู่ๆลุกขึ้นมาประกาศจะใช้หนี้แผ่นดินไทย
ผมพูดอย่างไม่อายเลยนะ ตั้งแต่เกิดมาก็อยู่กับความจนตลอด และเป็นผู้รับอย่างเดียว ไม่เคยเป็นผู้ให้ มาถึงวันนี้เรามีเงินทองทุกอย่างพร้อมแล้ว ถ้าจะไม่ทำอะไรเลยเพื่อสังคมก็คงเกินไปล่ะ สิ่งที่ตั้งใจไว้คืออยากใช้หนี้แผ่นดินไทย เหมือนต้องใช้หนี้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่และผู้มีพระคุณ ผมกับ “คุณอิง” (ภรรยา) ได้ก่อตั้งมูลนิธิตันปันขึ้น เน้นทำเรื่องการศึกษาและสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนจะสร้างโรงเรียนและอาคารเรียน 4 แห่ง ใน 4 ภาคทั่วประเทศ ทำเสร็จไปแล้ว 2 แห่ง คือ สร้างอาคารเรียนใหม่ โรงเรียนอนุบาลบ่อทอง จ.ชลบุรี ซึ่ง “คุณอิง” เคยเรียนสมัยเด็ก และสร้างโรงเรียนไตรทักษะขึ้นใหม่ ที่ จ.ปทุมธานี นอกจากนี้ ผมยังมีโครงการนำร่องแจกทุนการศึกษาระดับ ปวช., ปวส. และปริญญาตรี รวม 1,174 ล้านบาท เพื่อ 1,174 โรงเรียนทั่วประเทศ ไอเดียนี้เกิดจากผมมีปมด้อยเรียนมาน้อย และรู้ว่าการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จ ผมกับ “คุณอิง” จึงอยากให้ทุนการศึกษาแบบไม่มีเงื่อนไข แต่มีกฎเกณฑ์เฉพาะ ต้องสอบได้เกรด 2.5 ขึ้นไป, เป็นคนดี และมีจิตสาธารณะ เราจะเริ่มแจกทุนการศึกษาในปี 2557 หรือปี 2558 เป็นอย่างช้า โดยจะแจกอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี
ทำไมเกิดเป็น “เสี่ยตัน ภาสกรนที” ทำอะไรก็ถูกจับจ้องตลอด?!
เหรียญมีสองด้านเสมอ ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง แต่ผมรับได้ครับ ผมโชคดีที่มีโอกาสเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กรุ่นใหม่ ผมไม่ได้เป็นคนดีนะ เป็นคนธรรมดาขี้เหม็นเหมือนกัน แต่สิ่งที่ผมพูดผมคิดสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นใหม่ได้พอสมควร ถือเป็นการให้ที่มีค่ามากกว่าการให้เงิน เมื่อเราประสบความสำเร็จถึงระดับที่พอใจแล้ว ก็ควรใช้หนี้คืนสังคมบ้าง สำหรับผมชีวิตคนเราก็เหมือนการวิ่งผลัด 4 คูณ 100 ในฐานะไม้สอง เรามีหน้าที่รอรับไม้จากไม้หนึ่งให้ดีๆ และต้องคอยส่งไม้ต่อให้ไม้สามด้วย ถ้าเราเอาแต่ตัวเองรวย ใครไม่เกี่ยว สังคมก็อยู่ไม่ได้หรอก
ดูเหมือนจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด ชีวิตนี้ได้อะไรมาง่ายๆไหม
ชีวิตผมไม่มีอะไรได้มาง่ายๆครับ ความล้มเหลวผมจบด็อกเตอร์เลย เพราะโดนบ่อยครับ ก่อนจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ผมต้องผ่านวิกฤติมาก่อนทุกครั้ง จากวันแรกที่ขายหนังสือพิมพ์ก็เจ๊ง ตอนทำร้านเบเกอรี่ที่ชลบุรี หรือทำร้านถ่ายรูปเวดดิ้งที่ทองหล่อก็เจ๊ง หนักกว่านั้นคือตอนทำโรงงานผลิตอิชิตัน โรงงานยังไม่ทันเสร็จ ก็เจอน้ำท่วมซะแล้ว!! คือมันเหมือนพระเจ้าคอยกลั่นแกล้งเรา เพื่อให้ผ่านการทดสอบอย่างแรง แต่ทุกครั้งที่เจอวิกฤติ มันทำให้ผมรู้ว่าเราใกล้ประสบความสำเร็จแล้ว ถ้าสามารถผ่านไปได้นะ แต่คนส่วนใหญ่มักยอมแพ้ก่อนความสำเร็จจะมาถึง
เวลาเจอวิกฤติใหญ่ มีตัวช่วยอะไรให้ผ่านพ้นมาได้
กำลังใจจากครอบครัวสำคัญที่สุด ตัวช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤติ คือประสบการณ์ที่เราเคยโดนมาก่อน และความเป็นนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ที่โรงงานผลิตเครื่องดื่มอิชิตัน จะมีตัวหนังสือติดหน้าโรงงาน “เริ่มใหม่ได้ ถ้าหัวใจไม่ยอมแพ้” เป็นเครื่องเตือนสติว่า ชีวิตคนเราล้มได้ก็ต้องลุกได้ มันเป็นประสบการณ์จากอดีต คนที่ประสบความสำเร็จต้องผ่านจุดนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่เคยหนาวมาก่อน ก็ไม่รู้คุณค่าของแสง อาทิตย์ เราต้องตั้งสติให้พร้อมรับสิ่งร้ายๆด้วย
ล้มครั้งไหนเจ็บสุด และลุกยากที่สุด
เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ลงทุนไป 2-3 พันล้านบาท ยังไม่ทันลงมือผลิตอิชิตันเลย น้ำท่วมหมดไม่มีเหลือ เงินทองไม่เท่าไหร่ แต่เสียกำลังใจ เสียความมุ่งมั่น ก็เพราะเราสู้!! ทุกวันนี้จึงขยายกำลังผลิตเป็น 3 เท่า
ความฮึดสู้ไม่ถอยถือเป็นพรสวรรค์อย่างหนึ่งหรือเปล่า
ผมว่ามันเป็นดีเอ็นเอเลยนะ มันเป็นความเคยชิน ถ้าเราเจออะไรแล้วเราถอยเรายอมแพ้เราเลิก มันก็เป็นนิสัยติดตัวว่าเราชอบเลิก ชอบยอมแพ้ ชอบร้องไห้ ชอบโทษฟ้าดิน ตรงกันข้าม ถ้าทุกครั้งที่เจอปัญหา แล้วเราสู้ถึงที่สุด และมีความเชื่อว่าต้องสู้ถึงจะชนะ วันหนึ่งก็ต้องถึงเป้าหมายแน่นอน
มีแววนักสู้ตั้งแต่เด็กๆ เลยไหม
ผมเป็นนักสู้ตั้งแต่เด็กๆ แต่ทุกอย่างก็ฝึกฝนกันได้จนติดเป็นนิสัย ถ้าเราไม่เคยชิน ทำแป๊บเดียวอาจเหนื่อย เหมือนนิสัยอื่นๆอยู่ที่การฝึกฝน นิสัยประหยัด, ขยัน, ซื่อสัตย์ และจิตสาธารณะ ก็เกิดจากการฝึกฝน ยิ่งทำบ่อยยิ่งได้
อะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างการศึกษาสูงๆกับประสบการณ์ชีวิตจริง
มันก็สำคัญทั้งคู่ ผมโชคดีที่ประสบความสำเร็จทั้งๆที่เรียนไม่สูง แต่ผมก็เสียดายและน้อยใจในตัวเอง เคยคิดว่าถ้าเรามีการศึกษาสูงกว่านี้ก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้ เพราะการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดของชีวิต คนเรียนน้อยจะเข้าไม่ถึงข้อมูลเลย เข้าไม่ถึงโอกาส เข้าไม่ถึงแหล่งทุน การที่เราเรียนน้อยทำให้ต้องทำงานหนักกว่า 2-3 เท่า ถึงจะได้เท่ากับคนอื่น บางทีก็ผิดพลาดแล้วผิดพลาดอีก ถ้าเรามีพื้นฐานการศึกษาดีจะมีวิธีจัดการปัญหาได้ดีกว่าเยอะ
ทุกวันนี้ “เสี่ยตัน” รวยหรือยัง ประสบความสำเร็จหรือยัง
ความจริงแล้วผมก็ไม่ได้รวยนะ แต่เป็นคนพอเพียงและพอใจ เงินทองไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับผม ชีวิตคนเราเกิดมาต้องทำงาน และเมื่อทำธุรกิจแล้วต้องมีกำไร แต่มันไม่สำคัญเท่าเราพอใจ ถ้าเราพอใจซะอย่าง เงินทองที่หามาได้ก็ยังมีเหลือเยอะพอจะเอามาทำประโยชน์ การเอาเงินทั้งหมดที่หามาได้เก็บไว้ให้ลูก ผมว่ามันไม่ยุติธรรมกับลูกเลย เราควรให้การศึกษากับลูกมากกว่าเงิน ทุกคนหาเงินก็เพื่อความสุข ผมไม่ศรัทธาเงินเท่าไหร่ เรามีเงินเพื่อหาความสุข ผมไม่อยากรวย แต่อยากเป็นคนมีความสุข ได้ปลูกต้นไม้อยู่กับธรรมชาติ, ท่องเที่ยว และทำประโยชน์ให้สังคม
ทำงานหนักมาทั้งชีวิต เมื่อไหร่จะวางมือพักผ่อนบ้าง
ปีนี้ผมอายุ 55 ปีแล้ว ตั้งใจว่าหลังเกษียณ อายุ 60 ปี อยากทำงานจิตอาสาอย่างเดียวไม่ทำธุรกิจแล้ว ผมอยากนำเงินที่หามาได้ทั้งชีวิตไปใช้เพื่อสร้างประโยชน์ให้สังคม ชีวิตคนเรา ต้องมีช่วงหาเงินสร้างตัวและช่วงใช้หนี้คืนแผ่นดินไทย ไม่ใช่ตักตวงเข้ากระเป๋าอย่างเดียว
เตรียมลูกๆ ให้พร้อมรับช่วงสืบทอดกิจการหรือยัง
ลูกๆทั้ง 3 คน (กิ๊ฟ, เก็ทโต้ และใกล้ใกล้) จะได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เด็กว่า สิ่งที่ปะป๊ะให้คือการศึกษา และความอบอุ่นความรัก แต่เงินทั้งหมดที่มีอยู่อย่ามาคาดหวังว่าจะได้นะ ลูกๆต้องตั้งใจสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง อย่างลูกสาวคนโต “กิ๊ฟ” ก็เรียนรู้ ด้วยตัวเอง ผมให้ไป 20 ล้านบาท ทำร้านอาหารอิตาเลียนร้านแรกก็เจ๊ง พอเปลี่ยนมาทำร้านอาหารอีสาน Zaab Eli ปรากฏว่าขายดี แต่สาขาแรกขาดทุน เขาก็ร้องไห้ใหญ่ ขอให้ปะป๊ะส่งคนมาช่วย แต่ผมบอกไม่ได้หรอก ลูกต้องหัดเรียนรู้ด้วยตัวเอง และหาทางให้เจอว่าทำธุรกิจยังไงไม่ขาดทุน ถ้าคุณเจอปัญหา แล้วแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ในอนาคตเจอปัญหาอีก ก็สามารถแก้ไขได้ แต่ถ้ามีคนช่วยตลอดคุณไม่โตหรอก ผมไม่มีนโยบายให้ลูกสืบทอดตำแหน่งในบริษัท ต้องพิสูจน์ฝีมือเอง และจะไม่ยกสมบัติให้ลูก เพราะไม่อยากทำร้ายลูกทางอ้อม
เวลาเหนื่อยๆท้อๆ “เสี่ยตัน” มีวิธีชาร์จแบตอย่างไร
ผมจะไปเที่ยวไปพักผ่อนเลย เหนื่อยท้อก็หยุด แล้วค่อยเริ่มใหม่ ผมไม่ยึดติดและไม่เคยจมอยู่กับปัญหา บางอย่างไม่ต้องไปรับรู้มัน เดี๋ยวก็ผ่านไปได้ ช่วงนี้ชอบไปแถวบ่อทอง ผมสร้างสวนสาธารณะไว้ ได้ไปเดินเล่นอยู่กับธรรมชาติ ไปดูการเจริญเติบโตของต้นไม้ที่เราปลูกไว้ มีความสุขที่สุด ผมโชคดีมากที่ได้ “คุณอิง” เป็นคู่คิด ทุกวันนี้กลับบ้านแล้วมีความสุข ถ้าไม่มี “อิง” ผมก็ไม่มีวันนี้ และถ้าเขาไม่เข้าใจผม ก็คงบริจาคเงินเป็นพันล้านไม่ได้
อยากประสบความสำเร็จแบบ “เสี่ยตัน” ต้องมีเคล็ดลับอย่างไร
ผมทำมาแล้วทุกอย่าง จนค้นพบว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ให้ทำสิ่งที่ถนัดที่สุดแค่อย่างเดียว แล้วทุ่มเทให้สุดตัวไปเลย ทำแค่อย่างเดียวก็ประสบความสำเร็จได้ อีก 5 ปี ผมก็เกษียณแล้ว ตอนนี้ไม่คิดเรื่องธุรกิจแล้ว คนเราไม่อมตะหรอกครับ เราควรส่งมอบธุรกิจในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่กอดธุรกิจไว้จนวันตาย เกิดมีปัญหาอะไร เราก็มีโอกาสช่วยเหลือแนะนำได้ ผมมีวันนี้ได้เพราะไม่ยอมแพ้ และได้รับโอกาสหลายครั้ง การที่เคยเจ๊งมาหลายครั้ง ทำให้ผมเป็นคนไม่ประมาท ผมจะมีแว่นขยายติดตัวตลอดเวลา ทำอะไรก็ตามต้องหยิบแว่นขยายในสมองขึ้นมาส่องหาจุดแย่ที่สุดก่อน แล้วถามตัวเองว่าเราจะอยู่กับมันได้ไหม คือทำใจรับสิ่งเลวร้ายที่สุดไว้ก่อน แย่ที่สุดของผมคือกลับไปอยู่บ้านนอก ผมปลูกบ้านเล็กๆไว้ที่ชลบุรีแล้ว แค่ขี่มอเตอร์ไซค์นั่งซ้อนกันพ่อแม่ลูก ซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้ง 100 บาท ก็กินได้ทั้งบ้านแล้ว ไม่จำเป็นต้องกินภัตตาคารหรู นี่คือความสุขแท้จริง.
ทีมข่าวหน้าสตรี