http://blog.setinsight.net/2014/11/vi-%E0%B9%83%E0%B8%99-svi/
เทรดกันจนจอสะเทือนทีเดียวสำหรับ SVI เมื่อเจอข่าวร้ายไฟไหม้โรงงาน ทั้งที่ราคาขึ้นมารอข่าวงบ Q3 ล่วงหน้าเสียดิบดี และบทวิเคราะห์ค่ายต่างๆ ก็เชียร์กันให้ควั่ก ราคาก็หล่นวูบจาก 6 บาทสู่ฟลอร์ 4.24 และยังมี aftershock ลงมาต่อถึง 3 บาทปลายๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กำไร 100 ล้านของเซียน VI 3 คนที่เชยชมในบัญชีมาตลอด 3 เดือน ถ้าหากไม่ทันได้ขายตอน 6 บาทไปก่อน ก็หายไปได้ใน 3 นาที
ปิดสมุดผู้ถือหุ้นรายใหญ่ SVI ล่าสุดเมื่อปลายเดือนแปดที่ผ่านมา SETinsight ตรวจพบว่า มีเซียน VI อย่างน้อย 3 คนเริ่มเข้ามาถือครอง SVI ได้แก่ อนุรักษ์ บุญแสวง “จากทุน 8 แสน สู่หลักร้อยล้าน” ธนะสิน พิพัฒน์ กิตติกุล ผู้ “ตีแตก” TFD ตั้งแต่ 2 บาท ก่อนไปเทขายออกหมดแถวๆ 15 บาทในเวลาไม่ถึง 1 ปีดี และ อนันต์ ระวีแสงสูรย์ เจ้าของพอร์ต 600 ล้าน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ TKS อันดับสอง
จากกราฟราคาของช่วงปิดสมุดก่อน ประมาณได้ว่า ต้นทุนของเซียน VI ทั้ง 3 คนนี้อยู่ที่ 4 บาทต้นๆ และเมื่อมีปิดสมุดในปลายเดือนสิงหา เริ่มมีผู้รู้ว่า VI เข้าเก็บ SVI ราคาก็วิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนมีการกดให้รายย่อยคายของออกมา แล้วลากผลัวะเดียวขึ้นไป 6 บาท ก่อนจะเจอโศกนาฏกรรมอัคคีภัยที่ไม่มีใครคาดคิด
ด้วยจำนวนหุ้นกว่า 50 ล้านหุ้นของเซียน VI ทั้ง 3 คน ในวันที่ SVI ราคา 6 บาท ก็เป็นกำไรอย่างน้อย 100 ล้านบาท (ถ้าหากไม่มีการซื้อเพิ่มช่วงที่ราคาหุ้นหนุนเนื่องขึ้นมา) เราไม่อาจรู้ได้ว่า เซียน VI ทั้ง 3 คนจะล่วงรู้เหตุการณ์นี้ และขายเอากำไรออกไปก่อนหรือไม่ แต่ถ้าพูดถึงวิสัย VI ถือครองสามเดือน และกำไรขึ้นมาเพีย 50% ก็ดูยังไม่ได้เต็มน้ำเต็มเนื้อนัก ถ้ายังไม่ได้ขาย กำไรก้อนนี้ก็พูดได้ว่า หายไปในพริบตา แต่ถ้าขายแล้ว ก็คงจะเรียกว่า ล่วงรู้อนาคตอย่างยิ่ง ส่วนว่า จะเข้ามาซื้อใหม่ เพราะพื้นฐานยังไม่เปลี่ยน เพียงแต่มีเหตุการณ์เลวร้ายมากระทบ อันนี้ ก็เป็นเรื่องการมองเกมขาดไม่ขาดส่วนบุคคล
ใครที่เคยอ่านสามก๊ก คงจำได้ว่า สุมาอี้ที่หลายคนมองว่า เก่งยิ่งกว่าขงเบ้ง เพราะบั้นปลายท้ายสุด ลูกหลานของเขาก็ได้เป็นกษัตริย์ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตกไปในวงล้อมกลแห่งไฟของขงเบ้ง ซึ่งเป็นกลศึกที่ขงเบ้งถนัดที่สุด ทว่า เมื่อสวรรค์กำหนดให้ตระกูลสุมาได้เป็นกษัตริย์ สวรรค์ก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด ฝนจึงตกมาห่าใหญ่ให้สามพ่อลูกรอดกลแห่งไฟออกไปได้ นี่คือสวรรค์โปรด จนขงเบ้งต้องรำพันออกมาว่า “谋事在人，成事在天，不可强也。” หรือแปลเป็นไทยว่า “แผนอยู่ที่คน ผลอยู่ที่ฟ้า มิอาจบังคับ” แต่สำหรับ SVI ไม่มีฝนตกลงมาช่วย มีแต่หุ้นตกซ้ำเติม คนที่ถืออยู่ก็ต้องรำพึงอย่างขงเบ้ง …นั่นแล
นายกสมาคมThai VI กำไร SVI 100 ล้าน 3 เดือน แต่หายใน 3 นาที! เหล่าเซียนก็ขาดทุนเป็น ??!!!
เทรดกันจนจอสะเทือนทีเดียวสำหรับ SVI เมื่อเจอข่าวร้ายไฟไหม้โรงงาน ทั้งที่ราคาขึ้นมารอข่าวงบ Q3 ล่วงหน้าเสียดิบดี และบทวิเคราะห์ค่ายต่างๆ ก็เชียร์กันให้ควั่ก ราคาก็หล่นวูบจาก 6 บาทสู่ฟลอร์ 4.24 และยังมี aftershock ลงมาต่อถึง 3 บาทปลายๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กำไร 100 ล้านของเซียน VI 3 คนที่เชยชมในบัญชีมาตลอด 3 เดือน ถ้าหากไม่ทันได้ขายตอน 6 บาทไปก่อน ก็หายไปได้ใน 3 นาที
ปิดสมุดผู้ถือหุ้นรายใหญ่ SVI ล่าสุดเมื่อปลายเดือนแปดที่ผ่านมา SETinsight ตรวจพบว่า มีเซียน VI อย่างน้อย 3 คนเริ่มเข้ามาถือครอง SVI ได้แก่ อนุรักษ์ บุญแสวง “จากทุน 8 แสน สู่หลักร้อยล้าน” ธนะสิน พิพัฒน์ กิตติกุล ผู้ “ตีแตก” TFD ตั้งแต่ 2 บาท ก่อนไปเทขายออกหมดแถวๆ 15 บาทในเวลาไม่ถึง 1 ปีดี และ อนันต์ ระวีแสงสูรย์ เจ้าของพอร์ต 600 ล้าน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ TKS อันดับสอง
จากกราฟราคาของช่วงปิดสมุดก่อน ประมาณได้ว่า ต้นทุนของเซียน VI ทั้ง 3 คนนี้อยู่ที่ 4 บาทต้นๆ และเมื่อมีปิดสมุดในปลายเดือนสิงหา เริ่มมีผู้รู้ว่า VI เข้าเก็บ SVI ราคาก็วิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนมีการกดให้รายย่อยคายของออกมา แล้วลากผลัวะเดียวขึ้นไป 6 บาท ก่อนจะเจอโศกนาฏกรรมอัคคีภัยที่ไม่มีใครคาดคิด
ด้วยจำนวนหุ้นกว่า 50 ล้านหุ้นของเซียน VI ทั้ง 3 คน ในวันที่ SVI ราคา 6 บาท ก็เป็นกำไรอย่างน้อย 100 ล้านบาท (ถ้าหากไม่มีการซื้อเพิ่มช่วงที่ราคาหุ้นหนุนเนื่องขึ้นมา) เราไม่อาจรู้ได้ว่า เซียน VI ทั้ง 3 คนจะล่วงรู้เหตุการณ์นี้ และขายเอากำไรออกไปก่อนหรือไม่ แต่ถ้าพูดถึงวิสัย VI ถือครองสามเดือน และกำไรขึ้นมาเพีย 50% ก็ดูยังไม่ได้เต็มน้ำเต็มเนื้อนัก ถ้ายังไม่ได้ขาย กำไรก้อนนี้ก็พูดได้ว่า หายไปในพริบตา แต่ถ้าขายแล้ว ก็คงจะเรียกว่า ล่วงรู้อนาคตอย่างยิ่ง ส่วนว่า จะเข้ามาซื้อใหม่ เพราะพื้นฐานยังไม่เปลี่ยน เพียงแต่มีเหตุการณ์เลวร้ายมากระทบ อันนี้ ก็เป็นเรื่องการมองเกมขาดไม่ขาดส่วนบุคคล
ใครที่เคยอ่านสามก๊ก คงจำได้ว่า สุมาอี้ที่หลายคนมองว่า เก่งยิ่งกว่าขงเบ้ง เพราะบั้นปลายท้ายสุด ลูกหลานของเขาก็ได้เป็นกษัตริย์ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตกไปในวงล้อมกลแห่งไฟของขงเบ้ง ซึ่งเป็นกลศึกที่ขงเบ้งถนัดที่สุด ทว่า เมื่อสวรรค์กำหนดให้ตระกูลสุมาได้เป็นกษัตริย์ สวรรค์ก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด ฝนจึงตกมาห่าใหญ่ให้สามพ่อลูกรอดกลแห่งไฟออกไปได้ นี่คือสวรรค์โปรด จนขงเบ้งต้องรำพันออกมาว่า “谋事在人，成事在天，不可强也。” หรือแปลเป็นไทยว่า “แผนอยู่ที่คน ผลอยู่ที่ฟ้า มิอาจบังคับ” แต่สำหรับ SVI ไม่มีฝนตกลงมาช่วย มีแต่หุ้นตกซ้ำเติม คนที่ถืออยู่ก็ต้องรำพึงอย่างขงเบ้ง …นั่นแล