"เมื่อที่สุดของทุกด้าน ผสานเป็นหนึ่งเดียว"
สโลแกนนี้มันทำให้ผมนึกถึงการระเบิดของบิ๊กแบง
มันเป็นปรากฏการณ์ที่ต้องการความบังเอิญอย่างที่สุดมาผสานกัน
ผมยอมรับเลยว่าวิศวกรฮอนด้าที่สร้างและออกแบบรถคันนี้ อ่านเกมขาดมาก
เขาอ่านไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันออกได้อย่างเฉียบขาด
เขารู้เลยว่าคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน ไม่อยากเป็นลูกจ้าง ไม่อยากเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ
ไม่ชอบทำงานออฟฟิศ
ดังนั้นพวกคุณๆจะเห็นได้ว่า เวลาคุณไปเดินตลาดนัด ตลาดเปิดท้าย คุณจะเห็นรถจักรยานยนต์ที่แม่ค้าใช้กันมากที่สุด คือ honda dream คุรุสภา
ซึ่งแม่ค้าพ่อค้าจะใช้ honda dream คุรุสภา ต่อพ่วง ขายกาแฟ, บรรทุกเสื้อผ้า ,ขนมปังหมูหยอง,ไส้กรอกไก่,กิ๊ฟช็อป สินค้าต่างๆ มาขาย เพราะมันขนของได้เยอะ และราคารถจับต้องได้
ภาพ honda dream ครุสภา
บางคนก็เอา honda dream คุรุสภา มาห้อยขนมกรุบกรอบ แล้วขายของกันแบบนั้นเลยก็มี
การเปิดท้ายรถขายของมันคือวัฒนธรรมที่อยู่ในสายเลือดคนไทยมากว่า50ปีแล้วครับ ตั้งแต่เราเกิดมาเราก็เห็นคนเอารถมาเปิดท้ายขายของแล้ว
ช่วง20ปีที่ผ่านมา ก็มีคนเอารถมอไซน์มาต่อพ่วงแล้วทำเป็นร้านกาแฟเคลื่อนที่ หรือขนแก๊สก็มี
ทีนี้ วิศวกรฮอนด้า เขาก็มองไปที่อนาคตเลยว่า honda dream คุรุสภา มันยังมีข้อจำกัดอีกหลายๆด้าน นั่นคือ
1. แม่ค้าบางคนบอกว่าเครื่องควรจะแรงกว่านี้ เพราะจะได้บรรทุกเสื้อผ้ามาขายได้มากกว่านี้ ครั้นจะให้ไปซื้อ CBR ก็แพงเกินไป ไม่คุ้มทุน
2. โช๊คอัพไม่ค่อยดี บางทีจะเข้าไปขายในถิ่นทุรกันดาร เช่น จะขับไปขนเงาะจากสวนเพื่อเอามาขายในเมือง เส้นทางมันก็กันดานเกิน มีหลุมบ่อมากไป
3. honda dream คุรุสภา ไม่มีที่เก็บหมวกกันน๊อค เพราะถ้ามัดไว้นอกรถมันจะโดนขโมย
วิศวกรจึงได้ระดมสมอง เพื่อจะคิดค้น รถที่อเนกประสงค์กว่า honda dream คุรุสภา เครื่องแรงกว่า โช๊คดีกว่า ที่มีเก็บหมวกกันน๊อค และเป็นรถสำหรับคนขายลูกโป่งหรือกาแฟทุกคน
นั่นจึงเป็นที่มาของ สุดยอดคอนเซ็ปคาร์ Urban Motorcycle ที่เป็นรถต้นแบบของ wave
ฮอนด้าได้ทำรถพรีโมเดลก่อนขายจริงออกมา และให้แม่ค้ามาวิจารณ์ว่าควรจะปรับอะไร
ส่วนมากทุกคนชอบมันมาก คนขายลูกโป่งก็ให้ผ่าน เพราะมีตะแกรงขนาดใหญ่ สามารถผูกลูกโป่งไว้หน้ารถได้ แล้วให้ตัวลูกโป่งมันลอยอยู่บนหัวได้
แต่คนขายต้นไม้ ได้ทำลองนำต้นไม้ที่เขาปลูก เป็นต้นไม้สูง มันไม่สามารถตั้งบนเบาะหลังได้ จึงเป็นที่มาของการที่วิศวกรต้องแก้จุดยึดน๊อตที่จับมือคนซ้อนท้าย ให้อยู่ด้านนอก ให้ง่ายต่อการต่อพ่วงข้าง เพื่อเอาใจคนขายต้นไม้
ผมถึงมองว่า Honda wave มันเป็นรถที่สร้างมาเพื่อนักธุรกิจเปิดท้ายขนาดแท้
หลายคนอาจจะอ่านแล้วคิดว่าเป็นเรื่องตลก แต่มันเป็นความจริง honda dream คุรุสภา เดิมทีก็ถูกออกแบบมาเพื่อขนของมากกว่าจะออกแบบมาให้ขนคน
คนญี่ปุ่นเป็นพวกบ้าขนของ ส่วนคนไทยก็บ้าค้าขาย
ผมดูตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์แล้วพบว่า แม่ค้าเปิดท้ายทั่วประเทศ มีประมาณ2ล้านคน
มันคือตลาดที่ยี่ห้ออื่นมองไม่เห็น แต่ฮอนด้ามองเห็นมัน
โตโยต้า คิดแต่จะทำรถยนต์สำหรับผู้บริหาร แต่ประเทศไทยมีผู้บริหารอยู่แค่1หมื่นคน ที่เหลืออีก60ล้านคนเป็นนักเรียน คนแก่ และลูกจ้าง
มาสด้า ก็คิดแต่จะทำรถยนต์แนวสปอต ขายวัยรุ่น แต่วัยรุ่นส่วนมากมีตังค์ซื้อแค่มอไซค์ วัยรุ่นที่มีตังค์ซื้อรถมีไม่เยอะครับ
ฮอนด้านี่แหละที่ฉลาดที่สุด ทำรถเพื่อแม่ค้าตลาดนัด แม่ค้าเปิดท้าย นี่คือสุดยอดของการมองธุรกิจอย่างเหนือชั้น
ส่วนของที่หนักๆอย่างสุกร ,อิฐ ,หิน ,ดิน ,ทราย อันนั้นก็ไปใช้ปิคอัพขนเอา คนละกลุ่ม
การออกแบบรถจักรยานยนต์ที่ผ่านมาในรอบ20ปี เน้นไปที่คนนั่งอย่างเดียว โดยไม่มีใครสนใจการขนของ
วิถีชีวิตคนมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ทุกวันนี้คนหนุ่มสาวใช้เงินกันมากกว่าคนยุคก่อน นิยมขี่รถไปเที่ยวต่างจังหวัดกันมากขึ้น
และ Wave จะตอบโจทย์เหล่านั้น เพราะโชคมันดีพอที่จะลุยในที่กันดาน ,เครื่อง 125i กับบอดี้หนักแค่ร้อยโล มันแรงพอที่จะพาคุณขึ้นเขาขึ้นดอยได้ทบทุกที่ในประเทศไทย และมันทำให้คุณสามารถบรรทุกสัมภาระรวมถึงของฝากได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังยกหัวเทียนไว้สูงที่สุดเพื่อป้องกันการขี่ลุยน้ำท่วม
ในขณะที่รถมอไซน์ทั่วไป ซึ่งโชคนิ่มกว่า มันทำให้คุณไปได้ไม่ไกล รวมถึงหน้าฝนที่น้ำท่วมก็ลำบาก
บางคนบอกว่าเน้นการขับขี่ อย่างอื่นไม่สน ผมถามคำเดียว รถมอไซน์ไม่พ่วงข้างบรรทุกหมู่แผ่นโคราชด้กี่ห่อ ,บรรทุกกุนเชียงสิงห์บุรีได้กี่ห่อ
ยิ่งถ้าใครอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่อายุมาก ผมแนะนำเลยครับ wave เท่านั้น
เพราะเวลาพ่อแม่คุณเจ็บป่วย ลุกขึ้นนั่งไม่ได้ ต้องนำส่งโรงพยาบาลในสภาพนอนเท่านั้น
และรถพยาบาลฉุกเฉินนาทีนั้นก็ไม่มี คุณจำเปนต้องนำพ่อแม่คุณไปส่งโรงพยาบาลเอง
มอไซน์ไม่พ่วงข้างจะช่วยคุณได้ไหม ไม่มีทาง
แต่ Honda wave พ่วงข้าง เมื่อคุณเปิดประตูพ่วงข้างไว้ คุณสามารถนำพ่อแม่คุณนอนในพ่วงข้างได้ครับ วางหมอนใบเดียวจบ
เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นกับเพื่อนผมมาแล้วครับ
คืนดึกสงัดคืนนึง พ่อเพื่อนผมเขาเกิดหายใจไม่ออก หลังแข็ง ลุกขึ้นนั่งไม่ได้ ต้องนำส่งโรงพยาบาลในสภาพนอน
โทรเรียกรถฉุกเฉิน เขาบอกว่ารถออกไปรับคนไข้พอดี รถไม่พอ
มันเอาเปลฉุกเฉินแบกพ่อออกมาหน้าบ้านจะขึ้นนั่งมอไซน์ ปรากฏว่าไม่สามารถเอาคนในสภาพนอน ฝืนให้นั่งมอไซน์ได้
มันต้องเอาเปลที่พ่อนอน วางไว้กับพื้น แล้วมัดเชือกเปล ขี่ลากไปแบบนั้น
(ภาพประกอบ วิธีการลาก)
(พ่อ)มันเข็ดเลยครับ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มันบอกว่าต้องซื้อรถแบบพ่วงข้างง่ายๆเท่านั้น
เพราะฉะนั้น ถ้าใครขายของตลาดนัด ใครชอบเที่ยว ใครมีพ่อป่วย
ผมแนะนำ Honda wave ครับ
ตอบทุกโจทย์
ผมก็กำลังจะซื้อเหมือนกันครับ ตัวท็อปด้วย มีสตารท์มือ
ผมไม่ใช่พวกมาเขียนเชียร์แล้วไม่ซื้อเองครับ มันไร้สาระ
ผมแค่นึกภาพว่าผมผูกลูกโป่ง99ลูกไว้กับพ่วงข้าง ให้ลอยไปบนฟ้า เพื่อไปเซอร์ไพรซ์แฟน แค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ
แฟนผมบอกมาเลยว่า ถ้าผมจะซื้อมอไซน์ ต้องซื้อคันที่ใส่หมาเกทเด็นของเธอได้
และชั่วโมงนี้ รถที่ใส่หมาสูงแบบเกทเดนได้ มีแค่ wave พ่วงข้างครับ
Honda Wave ในสายตาผมนี่คือ สิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่ารถจักรยานยนต์ ที่ดีที่สุดในรอบ20ปี มานี้
สโลแกนนี้มันทำให้ผมนึกถึงการระเบิดของบิ๊กแบง
มันเป็นปรากฏการณ์ที่ต้องการความบังเอิญอย่างที่สุดมาผสานกัน
ผมยอมรับเลยว่าวิศวกรฮอนด้าที่สร้างและออกแบบรถคันนี้ อ่านเกมขาดมาก
เขาอ่านไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันออกได้อย่างเฉียบขาด
เขารู้เลยว่าคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน ไม่อยากเป็นลูกจ้าง ไม่อยากเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ
ไม่ชอบทำงานออฟฟิศ
ดังนั้นพวกคุณๆจะเห็นได้ว่า เวลาคุณไปเดินตลาดนัด ตลาดเปิดท้าย คุณจะเห็นรถจักรยานยนต์ที่แม่ค้าใช้กันมากที่สุด คือ honda dream คุรุสภา
ซึ่งแม่ค้าพ่อค้าจะใช้ honda dream คุรุสภา ต่อพ่วง ขายกาแฟ, บรรทุกเสื้อผ้า ,ขนมปังหมูหยอง,ไส้กรอกไก่,กิ๊ฟช็อป สินค้าต่างๆ มาขาย เพราะมันขนของได้เยอะ และราคารถจับต้องได้
ภาพ honda dream ครุสภา
บางคนก็เอา honda dream คุรุสภา มาห้อยขนมกรุบกรอบ แล้วขายของกันแบบนั้นเลยก็มี
การเปิดท้ายรถขายของมันคือวัฒนธรรมที่อยู่ในสายเลือดคนไทยมากว่า50ปีแล้วครับ ตั้งแต่เราเกิดมาเราก็เห็นคนเอารถมาเปิดท้ายขายของแล้ว
ช่วง20ปีที่ผ่านมา ก็มีคนเอารถมอไซน์มาต่อพ่วงแล้วทำเป็นร้านกาแฟเคลื่อนที่ หรือขนแก๊สก็มี
ทีนี้ วิศวกรฮอนด้า เขาก็มองไปที่อนาคตเลยว่า honda dream คุรุสภา มันยังมีข้อจำกัดอีกหลายๆด้าน นั่นคือ
1. แม่ค้าบางคนบอกว่าเครื่องควรจะแรงกว่านี้ เพราะจะได้บรรทุกเสื้อผ้ามาขายได้มากกว่านี้ ครั้นจะให้ไปซื้อ CBR ก็แพงเกินไป ไม่คุ้มทุน
2. โช๊คอัพไม่ค่อยดี บางทีจะเข้าไปขายในถิ่นทุรกันดาร เช่น จะขับไปขนเงาะจากสวนเพื่อเอามาขายในเมือง เส้นทางมันก็กันดานเกิน มีหลุมบ่อมากไป
3. honda dream คุรุสภา ไม่มีที่เก็บหมวกกันน๊อค เพราะถ้ามัดไว้นอกรถมันจะโดนขโมย
วิศวกรจึงได้ระดมสมอง เพื่อจะคิดค้น รถที่อเนกประสงค์กว่า honda dream คุรุสภา เครื่องแรงกว่า โช๊คดีกว่า ที่มีเก็บหมวกกันน๊อค และเป็นรถสำหรับคนขายลูกโป่งหรือกาแฟทุกคน
นั่นจึงเป็นที่มาของ สุดยอดคอนเซ็ปคาร์ Urban Motorcycle ที่เป็นรถต้นแบบของ wave
ฮอนด้าได้ทำรถพรีโมเดลก่อนขายจริงออกมา และให้แม่ค้ามาวิจารณ์ว่าควรจะปรับอะไร
ส่วนมากทุกคนชอบมันมาก คนขายลูกโป่งก็ให้ผ่าน เพราะมีตะแกรงขนาดใหญ่ สามารถผูกลูกโป่งไว้หน้ารถได้ แล้วให้ตัวลูกโป่งมันลอยอยู่บนหัวได้
แต่คนขายต้นไม้ ได้ทำลองนำต้นไม้ที่เขาปลูก เป็นต้นไม้สูง มันไม่สามารถตั้งบนเบาะหลังได้ จึงเป็นที่มาของการที่วิศวกรต้องแก้จุดยึดน๊อตที่จับมือคนซ้อนท้าย ให้อยู่ด้านนอก ให้ง่ายต่อการต่อพ่วงข้าง เพื่อเอาใจคนขายต้นไม้
ผมถึงมองว่า Honda wave มันเป็นรถที่สร้างมาเพื่อนักธุรกิจเปิดท้ายขนาดแท้
หลายคนอาจจะอ่านแล้วคิดว่าเป็นเรื่องตลก แต่มันเป็นความจริง honda dream คุรุสภา เดิมทีก็ถูกออกแบบมาเพื่อขนของมากกว่าจะออกแบบมาให้ขนคน
คนญี่ปุ่นเป็นพวกบ้าขนของ ส่วนคนไทยก็บ้าค้าขาย
ผมดูตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์แล้วพบว่า แม่ค้าเปิดท้ายทั่วประเทศ มีประมาณ2ล้านคน
มันคือตลาดที่ยี่ห้ออื่นมองไม่เห็น แต่ฮอนด้ามองเห็นมัน
โตโยต้า คิดแต่จะทำรถยนต์สำหรับผู้บริหาร แต่ประเทศไทยมีผู้บริหารอยู่แค่1หมื่นคน ที่เหลืออีก60ล้านคนเป็นนักเรียน คนแก่ และลูกจ้าง
มาสด้า ก็คิดแต่จะทำรถยนต์แนวสปอต ขายวัยรุ่น แต่วัยรุ่นส่วนมากมีตังค์ซื้อแค่มอไซค์ วัยรุ่นที่มีตังค์ซื้อรถมีไม่เยอะครับ
ฮอนด้านี่แหละที่ฉลาดที่สุด ทำรถเพื่อแม่ค้าตลาดนัด แม่ค้าเปิดท้าย นี่คือสุดยอดของการมองธุรกิจอย่างเหนือชั้น
ส่วนของที่หนักๆอย่างสุกร ,อิฐ ,หิน ,ดิน ,ทราย อันนั้นก็ไปใช้ปิคอัพขนเอา คนละกลุ่ม
การออกแบบรถจักรยานยนต์ที่ผ่านมาในรอบ20ปี เน้นไปที่คนนั่งอย่างเดียว โดยไม่มีใครสนใจการขนของ
วิถีชีวิตคนมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ทุกวันนี้คนหนุ่มสาวใช้เงินกันมากกว่าคนยุคก่อน นิยมขี่รถไปเที่ยวต่างจังหวัดกันมากขึ้น
และ Wave จะตอบโจทย์เหล่านั้น เพราะโชคมันดีพอที่จะลุยในที่กันดาน ,เครื่อง 125i กับบอดี้หนักแค่ร้อยโล มันแรงพอที่จะพาคุณขึ้นเขาขึ้นดอยได้ทบทุกที่ในประเทศไทย และมันทำให้คุณสามารถบรรทุกสัมภาระรวมถึงของฝากได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังยกหัวเทียนไว้สูงที่สุดเพื่อป้องกันการขี่ลุยน้ำท่วม
ในขณะที่รถมอไซน์ทั่วไป ซึ่งโชคนิ่มกว่า มันทำให้คุณไปได้ไม่ไกล รวมถึงหน้าฝนที่น้ำท่วมก็ลำบาก
บางคนบอกว่าเน้นการขับขี่ อย่างอื่นไม่สน ผมถามคำเดียว รถมอไซน์ไม่พ่วงข้างบรรทุกหมู่แผ่นโคราชด้กี่ห่อ ,บรรทุกกุนเชียงสิงห์บุรีได้กี่ห่อ
ยิ่งถ้าใครอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่อายุมาก ผมแนะนำเลยครับ wave เท่านั้น
เพราะเวลาพ่อแม่คุณเจ็บป่วย ลุกขึ้นนั่งไม่ได้ ต้องนำส่งโรงพยาบาลในสภาพนอนเท่านั้น
และรถพยาบาลฉุกเฉินนาทีนั้นก็ไม่มี คุณจำเปนต้องนำพ่อแม่คุณไปส่งโรงพยาบาลเอง
มอไซน์ไม่พ่วงข้างจะช่วยคุณได้ไหม ไม่มีทาง
แต่ Honda wave พ่วงข้าง เมื่อคุณเปิดประตูพ่วงข้างไว้ คุณสามารถนำพ่อแม่คุณนอนในพ่วงข้างได้ครับ วางหมอนใบเดียวจบ
เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นกับเพื่อนผมมาแล้วครับ
คืนดึกสงัดคืนนึง พ่อเพื่อนผมเขาเกิดหายใจไม่ออก หลังแข็ง ลุกขึ้นนั่งไม่ได้ ต้องนำส่งโรงพยาบาลในสภาพนอน
โทรเรียกรถฉุกเฉิน เขาบอกว่ารถออกไปรับคนไข้พอดี รถไม่พอ
มันเอาเปลฉุกเฉินแบกพ่อออกมาหน้าบ้านจะขึ้นนั่งมอไซน์ ปรากฏว่าไม่สามารถเอาคนในสภาพนอน ฝืนให้นั่งมอไซน์ได้
มันต้องเอาเปลที่พ่อนอน วางไว้กับพื้น แล้วมัดเชือกเปล ขี่ลากไปแบบนั้น
(ภาพประกอบ วิธีการลาก)
(พ่อ)มันเข็ดเลยครับ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มันบอกว่าต้องซื้อรถแบบพ่วงข้างง่ายๆเท่านั้น
เพราะฉะนั้น ถ้าใครขายของตลาดนัด ใครชอบเที่ยว ใครมีพ่อป่วย
ผมแนะนำ Honda wave ครับ
ตอบทุกโจทย์
ผมก็กำลังจะซื้อเหมือนกันครับ ตัวท็อปด้วย มีสตารท์มือ
ผมไม่ใช่พวกมาเขียนเชียร์แล้วไม่ซื้อเองครับ มันไร้สาระ
ผมแค่นึกภาพว่าผมผูกลูกโป่ง99ลูกไว้กับพ่วงข้าง ให้ลอยไปบนฟ้า เพื่อไปเซอร์ไพรซ์แฟน แค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ
แฟนผมบอกมาเลยว่า ถ้าผมจะซื้อมอไซน์ ต้องซื้อคันที่ใส่หมาเกทเด็นของเธอได้
และชั่วโมงนี้ รถที่ใส่หมาสูงแบบเกทเดนได้ มีแค่ wave พ่วงข้างครับ