ลองไล่เรียงแบบคร่าวๆ ตกหล่น/ผิดพลาด ตรงไหนเติมได้เลยนะคะ
2013
สิงหาคม
- โอซิลไม่ได้ฟอร์มตก ก่อนย้ายออกจากมาดริด มีปัญหาเรื่องฟอร์มจริง แต่กลับมาเล่นดีแบบเดิมแล้ว แม้จะไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ไม่ได้ย่ำแย่
- อันเชล็อตติ จับโอซิลไปเล่นปีกขวา แม้เขาจะเคยเล่นปีกขวาอยู่บ่อยๆในยุคมู แต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งประจำ แต่อันเชล็อตติอยากให้เขาเล่นประจำตรงนั้นมันเลยลำบากอยู่บ้างสำหรับเมซุต
- เกมที่ 2 ในฤดูกาล 201-14 กับ รีล มาดริด เมซุตถูกเปลี่ยนออกท้ายเกม เขาทำท่ากระฟัดกระเฟียด และไม่ยอมอยู่ที่ม้านั่งสำรอง แต่เดินลงไปอาบน้ำเลย นี่ไม่ใช่พฤติกรรมปกติของเมซุต เกมนั้นรีลมาดริดชนะ กรานาดา ในเกมเยือน
- เมซุตออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีปัญหากับอันเชล็อตติ เขาพยายามจะเล่นปีกขวา แม้ไม่ถนัด และ ข่าวลือเรื่องที่เขาจะย้ายทีมคือเรื่องเหลวไหล
กันยายน
- ในตลาดซื้อขายฤดูร้อนวันสุดท้าย เมซุต โอซิล ย้ายทีมก่อนตลาดปิด 2 ชั่วโมง
- เมซุตย้ายทีมวันสุดท้ายของตลาดหน้าร้อน เพื่อนร่วมทีมในมาดริดทุกคนช็อค เพราะไม่มีวี่แววหรือท่าทีอะไรที่บอกว่าเมซุตอยากย้าย หรือ จะย้ายทีมเลย
- เมซุตย้ายไปอาร์เซนอล ให้เหตุผลว่า คิดว่า อันเชล็อตติ ไม่วางใจในตัวเขา และเขาได้คุยกับเวนเกอร์โดยตรงแล้วคิดว่า เวนเกอร์ วางใจเขามากกว่า เลยตัดสินใจย้าย
- เพราะย้ายในราคาที่สูงพอสมควรคือ 40 กว่าล้าน สโมสรอย่างรีล มาดริดเลยไม่มีปัญหา แต่ทางฝั่งอันเชล็อตติ ไม่ได้ออกมาพูดอะไร แค่บอกว่า จะให้โอกาสทุกคนเสมอ
- ปีนั้น ไม่มีใครคิดว่าเมซุตจะย้าย คนที่น่าจะย้ายที่สุดคือ ดิมาเรีย เพราะตำแหน่งทับกับเบลโดยตรง แต่กลายเป็นเมซุตที่ไปแทน ดิมาเรีย เลือกอยู่สู้ในตำแหน่งตัวจริงต่อ (และก็ได้เป็นตัวจริงด้วย)
ตุลาคม
- เมซุตย้ายมาอาร์เซนอล ถือว่าจบสวยกับ มาดริด ทุกคนแฮปปี้ ไม่มีด่าไล่หลัง หรือ สาวไส้อะไรกัน
- อันเชล็อตติเปิดเผยว่า ที่เลือกปล่อย เมซุต โอซิลไป เพราะคิดว่า เมื่อเบลมาถึง ดิมาเรียจะมีประโยชน์กับทีมมากกว่า แม้ดิมาเรียในตอนนั้น จะไม่พีคเท่าโอซิล
- อีกเหตุผลหนึ่งที่อันเชล้อตติเลือกเปล่อยโอซิลไปเพราะคิดว่า “อิสโก” กับ “โอซิล” คล้ายกัน เพราะฉะนั้นอิสโกพึ่งย้ายเข้าทีมมา และมีนักเตะต้องย้ายออกไป 1 คน เมื่อเลือกเอาไว้ได้คนเดียว จึงเลือกดิมาเรีย
- เข้าใจว่า ทั้งดิมาเรียและโอซิล ต่างก็มีความต้องการอยากย้ายออก ในฤดูกาล 2013-14 หรือมีข้อเสนอจากสโมสรอื่นมาทั้งคู่แต่ อันเชล็อตติเลือกโน้มน้าวดิมาเรียให้อยู่ต่อ แต่ไม่ได้โน้มน้าวโอซิล
พฤศจิกายน
- ช่วงแรกกับอาร์เซนอล เมซุตโชว์ฟอร์มดีมาก แอสซิตบ่อย ขยัน เป็นคนจับทางบอลเพื่อนร่วมทีมได้เร็ว
- อาร์เซนอลเข้าสู่ฤดู Hospital Band เมซุตเริ่มฟอร์มอืด ท่าทีแบบเดิมๆเริ่มมีมาให้เห็นคือ เดินบ่อย ไม่ค่อยกระตือรือร้นในการเล่น พอบอลเสียแล้วเสียเลย
ธันวาคม
- แฟนๆเริ่มออกมาด่าว่า นักเตะคนนี้ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมขี้เกียจ? ทำไมดูไม่อยากเล่น? ทำไมดูหยิ่งกับแฟนบอล? ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ในเกม
- โอซิลถูกรุ่นพี่ร่วมทีมชาติและร่วมสโมสรอย่าง แพร์ เมแตร์ซัคเกอร์ ตำหนิเรื่องที่ไม่อยู่ขอบคุณแฟนบอลในสนามในเกมพ่ายแมนฯซิตี้
2014
มกราคม
- โอซิลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องเรื่องฟอร์มที่ไม่โดดเด่นแบบตอนอยู่ที่ รีล มาดริด และนับวันยิ่งดูเล่นไม่ค่อยเข้ากับระบบทีมที่อาร์เซนอล เขายังถูกแฟนๆโจมตีเรื่องฟอร์มการเล่นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีการตอบรับใดๆจากโอซิล
- ตามปกติ ในช่วงเดือน มกราคมคือช่วงเบรคหนีหนาวของหลายสโมสรในยุโรป มีแค่ในอังกฤษที่ไม่มีการพักเบรคหนีหนาว
- แฟนๆเริ่มค่อนแขะเรื่องปัญหาหลักๆของโอซิลคือการหมดไฟ
- พอถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องฟอร์ม เมซุตก็ทำแบบเดิมอีก คือ ไม่ตอบโต้อะไร ไม่มีสัมภาษณ์ ไม่มีมุกตลก ไม่ไปออกงานเรียกเรตติ้ง หรือ การพูดถึงฟอร์มการเล่น แค่ลงสนามแล้วก็เล่นๆไปแบบนั้น
- แฟนๆยิ่งไม่พอใจ ส่วนหนึ่งเพราะเขาย้ายมาในราคาที่สูง แต่กลับยกระดับทีมไม่ได้ดีอย่างที่คิด เลยถูกตั้งเป็นเป้าให้แฟนๆโจมตี
กุมภาพันธ์
- เมซุตบาดเจ็บหนแรกกับอาร์เซนอลราวๆเดือน กุมภาพันธ์ พัก 1 สัปดาห์
บาดเจ็บครั้งที่ 2 เดือนมีนาคม พัก 5 สัปดาห์
เมษายน – พฤษภาคม
- อาร์เซนอลให้โอซิลเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย หลายคนบอกว่า เพลย์เมกเกอร์ที่เทพๆ จะโยกไปเล่นซ้ายบ้างขวาบ้างก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่สำหรับโอซิลมันต่างอยู่บ้าง เขาบอกว่า พอให้นักเตะที่ถนัดซ้ายมาเล่นปีกซ้าย ทำให้การต้องจ่ายบอลสุดท้ายด้วยเท้าซ้ายเป็นไปได้ยาก และเขาจะถูกบังคับให้เล่นเท้าขวาแทน ซึ่งบอลจังหวะนั้นก็ไม่ดีนัก
- นอกจากถูกจับไปเล่นปีกซ้ายในสโมสร เมซุตยังถูกจับไปเล่นปีกซ้ายในทีมชาติเยอรมันด้วย แต่กับทีมชาติมันไม่มีปัญหาที่เห็นชัดเจนเท่าในสโมสร อาจเพราะในทีมชาติ พวกเขาคุ้นเคยกับจังหวะบอล และสไตล์บอลที่ไม่เร็วมากแบบในอังกฤษ
- ฉลองแชมป์แรกกับอาร์เซนอลคือ FA CUP เป็นแชมป์แรกในรอบ 9 ปีของสโมสรด้วย
(EDIT เพิ่มโดยคุณ ปั้นโลมา)
มิถุนายน – กรกฎาคม
- เขาไปเล่นกับทีมชาติเยอรมันที่บราซิล แม้จะโชว์ผลงานได้ไม่ค่อยโดดเด่นหรือหวือหวา แต่พวกเขาก็คว้าแชมป์โลกมาได้
สิงหาคม
- กลับมายังอาร์เซน่อล ยังโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนัก แต่ไม่ย่ำแย่ เสียงบ่นจากแฟนๆเริ่มซาไปบ้าง เขากลับมาเล่นแบบตั้งใจกับเกมมากขึ้น
กันยายน
- เรื่องตำแหน่งการเล่นกลับมามีปัญหากับโอซิลอีกครั้ง เขาดูฟอร์มตกต่ำมากในการเล่นปีกซ้าย แต่เวนเกอร์ยังคงส่งเขาลงเล่นในตำแหน่งนั้น
- แฟนๆโจมตีเรื่องที่เขาไม่สามารถปรับตัวได้กับสไตล์ในอังกฤษ แม้จะอยู่กับทีมมาแล้ว 1 ฤดูกาล
** ว่าด้วยเรื่องตำแหน่งการเล่นและธรรมชาติของโอซิล **
- 3 ปีของเมซุต โอซิล ในรีล มาดริดมา 3 ปี เขาไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องตำแหน่งการเล่น แม้จะเคยถูกโยกเล่นทั้งซ้าย กลาง ขวา แต่ก็ปรับตัวได้ดี เพราะนักเตะมาดริดโดดเด่นที่เกมบุกและกองหน้าและปีกเล่นบอลเร็ว ปีกธรรมชาติจึงมักวิ่งทำทางอยู่แล้ว หน้าที่ของ โอซิล คือคุมจังหวะการจ่ายบอล และสร้างสรรค์เกมบุกให้กองหน้า
- แม้จะอยู่ในทีมที่มีสงครามภายในและภายนอกตลอดเวลา แต่โอซิล เป็นหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนของทีม ที่ไม่เคยทะเลาะกับใคร ไม่เคยมีปากเสียง และไม่เคยให้สัมภาษณ์ถึงใครในทางไม่ดี เพราะจริงๆแล้ว เมซุตเป็นคนไม่พูด พูดน้อยมาก จะใส่ใจแค่การเล่นบนสนาม และไม่เคยตอบโต้แฟนๆเลย ไม่ว่าจะถูกด่าแค่ไหน
- ที่สเปนมีทั้งวัฒนธรรมเป่านกหวีด และวัฒนธรรมโห่ไล่ เมื่อเล่นไม่ดี นักเตะทุกคนที่ย้ายมาร่วมทีมเจอมาหมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่โอซิล แต่นั่นคือแรงผลักสำหรับนักเตะที่นี่ และหลายคนผ่านมาได้
- เมซุตถนัดเล่นในตำแหน่ง เบอร์ 10 เพลย์เมกเกอร์ แต่ที่รีล มาดริด ในยุคมูรินโญ่เขามักถูกจับมาเล่นปีกขวาอยู่บ้าง แต่ก็เป็นตำแหน่งที่ทำให้เขาเล่นได้ดี เพราะเขาถนัดซ้าย พอเล่นขวาเลยสามารถวิ่งตัดเข้าในมาใช้เท้าซ้ายยิงในมุมที่ถนัดกว่า และหรือ เปิดบอลสุดท้ายได้ง่ายขึ้นด้วย
ตุลาคม
- บาดเจ็บครั้งที่ 3 ในเดือนตุลาคม อาการนี้ถูกพบโดยทีมแพทย์ในแคมป์ทีมชาติที่คาดว่าเป็นอาการสะสมมาจากเกมสโมสร เขาพักอีก 3 เดือน
ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยสมัยที่เขาอยู่ รีล มาดริด
(ตลอดระยะเวลา 2 ฤดูกาล เมซุต โอซิลไม่เคยบาดเจ็บจนต้องพักเลย เขาลงเล่นเกือบทุกนัด)
- มีข่าวเลิกกับแฟนสาว แมนดี้ โดยมีการแฉภาพแชทลับ ที่โอซิลแอบไปคุยกับแฟนของอดีตนักเตะบาร์เยิร์นคนหนึ่ง ถึงขั้นนัดแนะไปพบกันที่โรงแรม แมนดี้จึงขอเลิกกับโอซิล
- มีข่าวว่าโอซิลอยากย้ายออกจากอาร์เซนอล โดยมีเป้าหมายคือ บาร์เยิร์น มิวนิค
พฤศจิกายน
- พ่อแท้ๆ มุสตาฟา โอซิลยื่นเรื่องฟ้องร้อง เมซุต โอซิลที่ไล่เขาออกจากการบริหารแบรนด์ OZIL
- ก่อนพ่อจะฟ้องโอซิลรอบนี้ ออกมาบอกว่า แมนดี้นี่ตัวยุให้พ่อลูกแตกกัน
- สื่อสเปนและเยอรมันรายงานว่า โอซิลหักกับพ่อ เพราะเรื่องย้ายมาอาร์เซนอล เพราะ พ่อมาแอบตกลงกับอาร์เซนอล ลับหลังโอ โอซิลเลยต้องย้ายตามน้ำมา ทั้งที่ยังอยากอยู่สเปนต่อ และมีการรายงานว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นหลายครั้งแล้วเรื่องที่มุสตาฟาตัดสินใจในธุรกิจโดยไม่แจ้งลูกชายก่อน โอซิลจึงปลดพ่อออกจากบริษัทและแต่งตั้งพี่ชายให้เป็นคนดูแลบริษัทแทน
"คร่าวๆ" ก็ประมาณนี้แหละ
ว่าแต่ ช่วงดีๆ มันอยู่ตรงไหน
ทำไมมีแต่ช่วงเจอมรสุมฟร่ะ
เราไม่ได้ตามโอซิลตลอดเหมือนกัน พอดีเห็นช่วงนี้คนถามถึงเยอะ
เลยเอามาเรียงให้ดู น่าจะหายไปหลายช่วงเหมือนกัน (ช่วงดีๆไรแบบนี้)
แลดูเห็นคนมาตั้งเป้าบ่นมันตลอดเลย มรสุมชีวิตมากหลังๆมานี่ ..
สรุปไทม์ไลน์ชีวิต Mesut Ozil หลังย้ายออกจาก Real Madrid สู่ Arsenal
สิงหาคม
- โอซิลไม่ได้ฟอร์มตก ก่อนย้ายออกจากมาดริด มีปัญหาเรื่องฟอร์มจริง แต่กลับมาเล่นดีแบบเดิมแล้ว แม้จะไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ไม่ได้ย่ำแย่
- อันเชล็อตติ จับโอซิลไปเล่นปีกขวา แม้เขาจะเคยเล่นปีกขวาอยู่บ่อยๆในยุคมู แต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งประจำ แต่อันเชล็อตติอยากให้เขาเล่นประจำตรงนั้นมันเลยลำบากอยู่บ้างสำหรับเมซุต
- เกมที่ 2 ในฤดูกาล 201-14 กับ รีล มาดริด เมซุตถูกเปลี่ยนออกท้ายเกม เขาทำท่ากระฟัดกระเฟียด และไม่ยอมอยู่ที่ม้านั่งสำรอง แต่เดินลงไปอาบน้ำเลย นี่ไม่ใช่พฤติกรรมปกติของเมซุต เกมนั้นรีลมาดริดชนะ กรานาดา ในเกมเยือน
- เมซุตออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีปัญหากับอันเชล็อตติ เขาพยายามจะเล่นปีกขวา แม้ไม่ถนัด และ ข่าวลือเรื่องที่เขาจะย้ายทีมคือเรื่องเหลวไหล
กันยายน
- ในตลาดซื้อขายฤดูร้อนวันสุดท้าย เมซุต โอซิล ย้ายทีมก่อนตลาดปิด 2 ชั่วโมง
- เมซุตย้ายทีมวันสุดท้ายของตลาดหน้าร้อน เพื่อนร่วมทีมในมาดริดทุกคนช็อค เพราะไม่มีวี่แววหรือท่าทีอะไรที่บอกว่าเมซุตอยากย้าย หรือ จะย้ายทีมเลย
- เมซุตย้ายไปอาร์เซนอล ให้เหตุผลว่า คิดว่า อันเชล็อตติ ไม่วางใจในตัวเขา และเขาได้คุยกับเวนเกอร์โดยตรงแล้วคิดว่า เวนเกอร์ วางใจเขามากกว่า เลยตัดสินใจย้าย
- เพราะย้ายในราคาที่สูงพอสมควรคือ 40 กว่าล้าน สโมสรอย่างรีล มาดริดเลยไม่มีปัญหา แต่ทางฝั่งอันเชล็อตติ ไม่ได้ออกมาพูดอะไร แค่บอกว่า จะให้โอกาสทุกคนเสมอ
- ปีนั้น ไม่มีใครคิดว่าเมซุตจะย้าย คนที่น่าจะย้ายที่สุดคือ ดิมาเรีย เพราะตำแหน่งทับกับเบลโดยตรง แต่กลายเป็นเมซุตที่ไปแทน ดิมาเรีย เลือกอยู่สู้ในตำแหน่งตัวจริงต่อ (และก็ได้เป็นตัวจริงด้วย)
ตุลาคม
- เมซุตย้ายมาอาร์เซนอล ถือว่าจบสวยกับ มาดริด ทุกคนแฮปปี้ ไม่มีด่าไล่หลัง หรือ สาวไส้อะไรกัน
- อันเชล็อตติเปิดเผยว่า ที่เลือกปล่อย เมซุต โอซิลไป เพราะคิดว่า เมื่อเบลมาถึง ดิมาเรียจะมีประโยชน์กับทีมมากกว่า แม้ดิมาเรียในตอนนั้น จะไม่พีคเท่าโอซิล
- อีกเหตุผลหนึ่งที่อันเชล้อตติเลือกเปล่อยโอซิลไปเพราะคิดว่า “อิสโก” กับ “โอซิล” คล้ายกัน เพราะฉะนั้นอิสโกพึ่งย้ายเข้าทีมมา และมีนักเตะต้องย้ายออกไป 1 คน เมื่อเลือกเอาไว้ได้คนเดียว จึงเลือกดิมาเรีย
- เข้าใจว่า ทั้งดิมาเรียและโอซิล ต่างก็มีความต้องการอยากย้ายออก ในฤดูกาล 2013-14 หรือมีข้อเสนอจากสโมสรอื่นมาทั้งคู่แต่ อันเชล็อตติเลือกโน้มน้าวดิมาเรียให้อยู่ต่อ แต่ไม่ได้โน้มน้าวโอซิล
พฤศจิกายน
- ช่วงแรกกับอาร์เซนอล เมซุตโชว์ฟอร์มดีมาก แอสซิตบ่อย ขยัน เป็นคนจับทางบอลเพื่อนร่วมทีมได้เร็ว
- อาร์เซนอลเข้าสู่ฤดู Hospital Band เมซุตเริ่มฟอร์มอืด ท่าทีแบบเดิมๆเริ่มมีมาให้เห็นคือ เดินบ่อย ไม่ค่อยกระตือรือร้นในการเล่น พอบอลเสียแล้วเสียเลย
ธันวาคม
- แฟนๆเริ่มออกมาด่าว่า นักเตะคนนี้ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมขี้เกียจ? ทำไมดูไม่อยากเล่น? ทำไมดูหยิ่งกับแฟนบอล? ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ในเกม
- โอซิลถูกรุ่นพี่ร่วมทีมชาติและร่วมสโมสรอย่าง แพร์ เมแตร์ซัคเกอร์ ตำหนิเรื่องที่ไม่อยู่ขอบคุณแฟนบอลในสนามในเกมพ่ายแมนฯซิตี้
มกราคม
- โอซิลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องเรื่องฟอร์มที่ไม่โดดเด่นแบบตอนอยู่ที่ รีล มาดริด และนับวันยิ่งดูเล่นไม่ค่อยเข้ากับระบบทีมที่อาร์เซนอล เขายังถูกแฟนๆโจมตีเรื่องฟอร์มการเล่นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีการตอบรับใดๆจากโอซิล
- ตามปกติ ในช่วงเดือน มกราคมคือช่วงเบรคหนีหนาวของหลายสโมสรในยุโรป มีแค่ในอังกฤษที่ไม่มีการพักเบรคหนีหนาว
- แฟนๆเริ่มค่อนแขะเรื่องปัญหาหลักๆของโอซิลคือการหมดไฟ
- พอถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องฟอร์ม เมซุตก็ทำแบบเดิมอีก คือ ไม่ตอบโต้อะไร ไม่มีสัมภาษณ์ ไม่มีมุกตลก ไม่ไปออกงานเรียกเรตติ้ง หรือ การพูดถึงฟอร์มการเล่น แค่ลงสนามแล้วก็เล่นๆไปแบบนั้น
- แฟนๆยิ่งไม่พอใจ ส่วนหนึ่งเพราะเขาย้ายมาในราคาที่สูง แต่กลับยกระดับทีมไม่ได้ดีอย่างที่คิด เลยถูกตั้งเป็นเป้าให้แฟนๆโจมตี
กุมภาพันธ์
- เมซุตบาดเจ็บหนแรกกับอาร์เซนอลราวๆเดือน กุมภาพันธ์ พัก 1 สัปดาห์
บาดเจ็บครั้งที่ 2 เดือนมีนาคม พัก 5 สัปดาห์
เมษายน – พฤษภาคม
- อาร์เซนอลให้โอซิลเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย หลายคนบอกว่า เพลย์เมกเกอร์ที่เทพๆ จะโยกไปเล่นซ้ายบ้างขวาบ้างก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่สำหรับโอซิลมันต่างอยู่บ้าง เขาบอกว่า พอให้นักเตะที่ถนัดซ้ายมาเล่นปีกซ้าย ทำให้การต้องจ่ายบอลสุดท้ายด้วยเท้าซ้ายเป็นไปได้ยาก และเขาจะถูกบังคับให้เล่นเท้าขวาแทน ซึ่งบอลจังหวะนั้นก็ไม่ดีนัก
- นอกจากถูกจับไปเล่นปีกซ้ายในสโมสร เมซุตยังถูกจับไปเล่นปีกซ้ายในทีมชาติเยอรมันด้วย แต่กับทีมชาติมันไม่มีปัญหาที่เห็นชัดเจนเท่าในสโมสร อาจเพราะในทีมชาติ พวกเขาคุ้นเคยกับจังหวะบอล และสไตล์บอลที่ไม่เร็วมากแบบในอังกฤษ
- ฉลองแชมป์แรกกับอาร์เซนอลคือ FA CUP เป็นแชมป์แรกในรอบ 9 ปีของสโมสรด้วย
(EDIT เพิ่มโดยคุณ ปั้นโลมา)
มิถุนายน – กรกฎาคม
- เขาไปเล่นกับทีมชาติเยอรมันที่บราซิล แม้จะโชว์ผลงานได้ไม่ค่อยโดดเด่นหรือหวือหวา แต่พวกเขาก็คว้าแชมป์โลกมาได้
สิงหาคม
- กลับมายังอาร์เซน่อล ยังโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนัก แต่ไม่ย่ำแย่ เสียงบ่นจากแฟนๆเริ่มซาไปบ้าง เขากลับมาเล่นแบบตั้งใจกับเกมมากขึ้น
กันยายน
- เรื่องตำแหน่งการเล่นกลับมามีปัญหากับโอซิลอีกครั้ง เขาดูฟอร์มตกต่ำมากในการเล่นปีกซ้าย แต่เวนเกอร์ยังคงส่งเขาลงเล่นในตำแหน่งนั้น
- แฟนๆโจมตีเรื่องที่เขาไม่สามารถปรับตัวได้กับสไตล์ในอังกฤษ แม้จะอยู่กับทีมมาแล้ว 1 ฤดูกาล
** ว่าด้วยเรื่องตำแหน่งการเล่นและธรรมชาติของโอซิล **
- 3 ปีของเมซุต โอซิล ในรีล มาดริดมา 3 ปี เขาไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องตำแหน่งการเล่น แม้จะเคยถูกโยกเล่นทั้งซ้าย กลาง ขวา แต่ก็ปรับตัวได้ดี เพราะนักเตะมาดริดโดดเด่นที่เกมบุกและกองหน้าและปีกเล่นบอลเร็ว ปีกธรรมชาติจึงมักวิ่งทำทางอยู่แล้ว หน้าที่ของ โอซิล คือคุมจังหวะการจ่ายบอล และสร้างสรรค์เกมบุกให้กองหน้า
- แม้จะอยู่ในทีมที่มีสงครามภายในและภายนอกตลอดเวลา แต่โอซิล เป็นหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนของทีม ที่ไม่เคยทะเลาะกับใคร ไม่เคยมีปากเสียง และไม่เคยให้สัมภาษณ์ถึงใครในทางไม่ดี เพราะจริงๆแล้ว เมซุตเป็นคนไม่พูด พูดน้อยมาก จะใส่ใจแค่การเล่นบนสนาม และไม่เคยตอบโต้แฟนๆเลย ไม่ว่าจะถูกด่าแค่ไหน
- ที่สเปนมีทั้งวัฒนธรรมเป่านกหวีด และวัฒนธรรมโห่ไล่ เมื่อเล่นไม่ดี นักเตะทุกคนที่ย้ายมาร่วมทีมเจอมาหมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่โอซิล แต่นั่นคือแรงผลักสำหรับนักเตะที่นี่ และหลายคนผ่านมาได้
- เมซุตถนัดเล่นในตำแหน่ง เบอร์ 10 เพลย์เมกเกอร์ แต่ที่รีล มาดริด ในยุคมูรินโญ่เขามักถูกจับมาเล่นปีกขวาอยู่บ้าง แต่ก็เป็นตำแหน่งที่ทำให้เขาเล่นได้ดี เพราะเขาถนัดซ้าย พอเล่นขวาเลยสามารถวิ่งตัดเข้าในมาใช้เท้าซ้ายยิงในมุมที่ถนัดกว่า และหรือ เปิดบอลสุดท้ายได้ง่ายขึ้นด้วย
ตุลาคม
- บาดเจ็บครั้งที่ 3 ในเดือนตุลาคม อาการนี้ถูกพบโดยทีมแพทย์ในแคมป์ทีมชาติที่คาดว่าเป็นอาการสะสมมาจากเกมสโมสร เขาพักอีก 3 เดือน
ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยสมัยที่เขาอยู่ รีล มาดริด
(ตลอดระยะเวลา 2 ฤดูกาล เมซุต โอซิลไม่เคยบาดเจ็บจนต้องพักเลย เขาลงเล่นเกือบทุกนัด)
- มีข่าวเลิกกับแฟนสาว แมนดี้ โดยมีการแฉภาพแชทลับ ที่โอซิลแอบไปคุยกับแฟนของอดีตนักเตะบาร์เยิร์นคนหนึ่ง ถึงขั้นนัดแนะไปพบกันที่โรงแรม แมนดี้จึงขอเลิกกับโอซิล
- มีข่าวว่าโอซิลอยากย้ายออกจากอาร์เซนอล โดยมีเป้าหมายคือ บาร์เยิร์น มิวนิค
พฤศจิกายน
- พ่อแท้ๆ มุสตาฟา โอซิลยื่นเรื่องฟ้องร้อง เมซุต โอซิลที่ไล่เขาออกจากการบริหารแบรนด์ OZIL
- ก่อนพ่อจะฟ้องโอซิลรอบนี้ ออกมาบอกว่า แมนดี้นี่ตัวยุให้พ่อลูกแตกกัน
- สื่อสเปนและเยอรมันรายงานว่า โอซิลหักกับพ่อ เพราะเรื่องย้ายมาอาร์เซนอล เพราะ พ่อมาแอบตกลงกับอาร์เซนอล ลับหลังโอ โอซิลเลยต้องย้ายตามน้ำมา ทั้งที่ยังอยากอยู่สเปนต่อ และมีการรายงานว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นหลายครั้งแล้วเรื่องที่มุสตาฟาตัดสินใจในธุรกิจโดยไม่แจ้งลูกชายก่อน โอซิลจึงปลดพ่อออกจากบริษัทและแต่งตั้งพี่ชายให้เป็นคนดูแลบริษัทแทน
"คร่าวๆ" ก็ประมาณนี้แหละ
ว่าแต่ ช่วงดีๆ มันอยู่ตรงไหน
ทำไมมีแต่ช่วงเจอมรสุมฟร่ะ
เราไม่ได้ตามโอซิลตลอดเหมือนกัน พอดีเห็นช่วงนี้คนถามถึงเยอะ
เลยเอามาเรียงให้ดู น่าจะหายไปหลายช่วงเหมือนกัน (ช่วงดีๆไรแบบนี้)
แลดูเห็นคนมาตั้งเป้าบ่นมันตลอดเลย มรสุมชีวิตมากหลังๆมานี่ ..