เราทำธุรกิจหุ้นกับเพื่อนคนนี้มาเกือบ 10 ปีแล้ว เพื่อนเรามีนิสัยเป็นผู้ชายเจ้าชู้ประตูดิน หยอดไปทั่ว ที่ผ่านมาเราเห็นมันเจ้าชู้มาตลอด แต่ไม่ได้สนใจอะไร บางคนแค่แซวเล่นๆ บางคนเลยเถิดถึงขั้นมีอะไรกัน แต่ก็ออกแนวนอนกันเฉยๆ ไม่ได้ผูกพัน ถึงขั้นต้องดูแลเลี้ยงดูปูเสื่อ เราก็เลยเฉยๆ ไม่ได้ยุ่งอะไร
เราสนิทกับเพื่อนคนนี้ตั้งแต่สมัยมันยังไม่มีลูก แต่กับเมียเพื่อนก่อนหน้านี้ไม่สนิท ไม่ค่อยได้เจอกันเพราะเธอทำงาน เรื่องธุรกิจก็ไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้องวุ่นวาย จนกระทั่งเมียเพื่อนท้อง เธอจึงลาออกจากงาน และแวะเวียนมาที่ออฟฟิศของเราบ่อยๆ เราก็เลยได้คุยกันมากขึ้น แต่ก็คุยผ่านๆ เพราะเมียเพื่อนเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว
กระทั่งเมียเพื่อนคลอดลูกชาย เรารักลูกเพื่อนมาก เห็นมาตั้งแต่แรกเกิด เราก็ยิ่งรักยิ่งเอ็นดู ส่วนเพื่อนชายภายนอกใครก็มองว่าเป็นแฟมิลี่แมน เพราะทำงานเลี้ยงดูลูกเมีย เมียก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกทำกับข้าวทำงานบ้านไม่มีขาดตกบกพร่อง คนไม่รู้ก็อิจฉาชีวิตครอบครัวมันนะ แต่มันก็ยังเจ้าชู้เหมือนเดิมแหละ เราไปไหนมาไหนกับมันก็ยังเห็นมันป้อผู้หญิงไปทั่ว ได้มั่ง ไม่ได้มั่งของมันเหมือนเดิม
พอลูกคนแรกของเพื่อนได้ประมาณสองขวบกว่า เมียเพื่อนก็ท้องอีก คราวนี้เราเลยได้มีโอกาสช่วยเพื่อนเลี้ยงลูกคนโตอยู่บ่อยๆ เพราะยิ่งเธอท้องแก่ ยิ่งทำอะไรไม่ค่อยถนัด และสักช่วงที่เมียเพื่อนท้องได้ 6-7 เดือน เราก็มีโอกาสคุยกับเธอมากขึ้น และสนิทกันขึ้นมาอีกหน่อย ซึ่งช่วงเวลานี้เองเพื่อนก็เริ่มไปติดเมียน้อย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เรารู้จักดี เพราะเธอเป็นเลขาของซัพพลายเออร์ที่บริษัทเราดีลงานด้วย พูดง่ายๆ คือเจอกันทุกวัน ตอนแรกเราก็ไม่แน่ใจ เพราะดูนิสัยเธอไม่น่าเป็นคนอย่างนั้น แถมอายุก็สามสิบกว่าแล้วนะ (เรากับเพื่อนอายุเท่ากันคือ 37) แรกที่คุยงานกัน เลขาคนนี้ยังเคยเข้าใจว่าเรากับเพื่อนเป็นแฟนกันด้วยซ้ำ เพราะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จนกระทั่งเราบอกว่า ไม่ใช่คร่า...เพื่อนเรามีลูกเมียแล้ว ลูกกำลังน่ารักเชียว คือหลังจากบอกไปไม่เท่าไหร่ เรารู้สึกว่าเลขาคนนี้เดินเกมส์อ่อยเพื่อนเราเลย คือผู้หญิงออกตัวแรงมาก ส่วนเพื่อนเรามีหรือจะปฏิเสธ เมื่อเธอเสนอ เพื่อนก็สนอง แล้วก็ลงเอยด้วยการคบกัน
(แต่คนในบริษัทเมียน้อยนี่ก็รู้หมดนะ เพราะเพื่อนเราไปรับไปส่งทุกวันเลย เลขาคนสวยก็ไม่เห็นมีท่าทีจะปิดบังใคร ขนาดเราเจอเค้าเดินหนุงหนิงๆ มาด้วยกัน เธอมองหน้าเรา แล้วก็ไม่เห็นหลบสายตาหรือมีท่าทีสลดอะไรนะ...งงเหมือนกัน)
ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สนใจอะไรอ่ะ เพราะคิดว่าเดี๋ยวเพื่อนมันก็คงเลิกๆ ไปเหมือนผู้หญฺิงคนอื่นที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าไม่คร่าาาา...ยิ่งนานวันยิ่งติดหนึบ ไม่รู้มีไรดีนักหนา โกหกเมีย แถมยังมาขอให้เราช่วยโกหกด้วย เราเคยถามว่า เฮ้ย...มันไม่ถลำลึกไปเหรอ หยุดได้แล้วมั้ง สงสารลูกเมียเหอะ มันบอก...เรื่องของกรู (แป่ว)
ไม่นานหลังจากนั้นเมียเพื่อนคลอดลูกคนที่สอง เรานี้เห็นแล้วทั้งรักทั้งหลง เด็กมันน่ารักอ่ะ เลยยิ่งได้สนิทกับเมียเพื่อนมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นเธอรักสามี ทำโน่นทำนี่ให้ กับข้าวอร่อยๆ อาหารดีๆ สรรหาสารพัดมาให้ผัวกินหลังเลิกงาน วันทั้งวันสาระวนกับการเลี้ยงลูกที่ยังเล็กทั้งคู่ หัวเหอฟู ร่างกายผ่ายผอม หมดความสวย เห็นแล้วมันสะท้อนใจอ่ะ สงสาร ยิ่งไอ้ตัวเล็กยิ่งน่าสงสาร เห็นหน้าเราก็ถามอยู่นั่นอ่ะ พ่อเมื่อไหร่จะกลับครับ พ่อเมื่อไหร่จะมาครับ เราก็ไม่รู้จะตอบยังไง
ไปๆ มาๆ เพื่อนเราเหมือนจะหลงเมียน้อยคนนี้หัวปักหัวปำ บ้านช่องไม่กลับ หลอกเมียว่ามีงานต่างจังหวัดมั่ง นอนค้างออฟฟิศมั่ง เวลาเมียมันถามเราว่า งานเยอะเหรอคะพี่ช่วงนี้ เราก็รู้สึกกระดากปากที่ต้องโกหกอ่ะ ก็มันไม่ใช่อย่างที่เพื่อนเราบอกเมียมันเลยสักนิด
เราเลยนำความไปปรึกษาแฟนตัวเอง แฟนบอกว่าอย่าไปยุ่งเรื่องของเค้าเลย เพราะถ้าเราบอกเพื่อนก็ต้องโกรธเรา หาว่าเราไปยุแยงให้ครอบครัวเค้าแตก แล้วคงกระทบกับธุรกิจที่ทำด้วยกัน แต่พอปรึกษาพี่สาว พี่สาวบอกลุยเลย เรื่องแบบนี้ไปช่วยมันปกปิดความชั่วทำไม
เราก็อยากบอกนะ แต่กลัวปัญหาตามมาจัง เป็นเพื่อนๆ คิดว่าจะบอกเมียมันดีมั้ยคะ????
เพื่อนสนิทติดเมียน้อย เรารู้จักทั้งเมียหลวงและเมียน้อย เป็นคุณจะบอกเมียเพื่อนมั้ย???
เราสนิทกับเพื่อนคนนี้ตั้งแต่สมัยมันยังไม่มีลูก แต่กับเมียเพื่อนก่อนหน้านี้ไม่สนิท ไม่ค่อยได้เจอกันเพราะเธอทำงาน เรื่องธุรกิจก็ไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้องวุ่นวาย จนกระทั่งเมียเพื่อนท้อง เธอจึงลาออกจากงาน และแวะเวียนมาที่ออฟฟิศของเราบ่อยๆ เราก็เลยได้คุยกันมากขึ้น แต่ก็คุยผ่านๆ เพราะเมียเพื่อนเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว
กระทั่งเมียเพื่อนคลอดลูกชาย เรารักลูกเพื่อนมาก เห็นมาตั้งแต่แรกเกิด เราก็ยิ่งรักยิ่งเอ็นดู ส่วนเพื่อนชายภายนอกใครก็มองว่าเป็นแฟมิลี่แมน เพราะทำงานเลี้ยงดูลูกเมีย เมียก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกทำกับข้าวทำงานบ้านไม่มีขาดตกบกพร่อง คนไม่รู้ก็อิจฉาชีวิตครอบครัวมันนะ แต่มันก็ยังเจ้าชู้เหมือนเดิมแหละ เราไปไหนมาไหนกับมันก็ยังเห็นมันป้อผู้หญิงไปทั่ว ได้มั่ง ไม่ได้มั่งของมันเหมือนเดิม
พอลูกคนแรกของเพื่อนได้ประมาณสองขวบกว่า เมียเพื่อนก็ท้องอีก คราวนี้เราเลยได้มีโอกาสช่วยเพื่อนเลี้ยงลูกคนโตอยู่บ่อยๆ เพราะยิ่งเธอท้องแก่ ยิ่งทำอะไรไม่ค่อยถนัด และสักช่วงที่เมียเพื่อนท้องได้ 6-7 เดือน เราก็มีโอกาสคุยกับเธอมากขึ้น และสนิทกันขึ้นมาอีกหน่อย ซึ่งช่วงเวลานี้เองเพื่อนก็เริ่มไปติดเมียน้อย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เรารู้จักดี เพราะเธอเป็นเลขาของซัพพลายเออร์ที่บริษัทเราดีลงานด้วย พูดง่ายๆ คือเจอกันทุกวัน ตอนแรกเราก็ไม่แน่ใจ เพราะดูนิสัยเธอไม่น่าเป็นคนอย่างนั้น แถมอายุก็สามสิบกว่าแล้วนะ (เรากับเพื่อนอายุเท่ากันคือ 37) แรกที่คุยงานกัน เลขาคนนี้ยังเคยเข้าใจว่าเรากับเพื่อนเป็นแฟนกันด้วยซ้ำ เพราะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จนกระทั่งเราบอกว่า ไม่ใช่คร่า...เพื่อนเรามีลูกเมียแล้ว ลูกกำลังน่ารักเชียว คือหลังจากบอกไปไม่เท่าไหร่ เรารู้สึกว่าเลขาคนนี้เดินเกมส์อ่อยเพื่อนเราเลย คือผู้หญิงออกตัวแรงมาก ส่วนเพื่อนเรามีหรือจะปฏิเสธ เมื่อเธอเสนอ เพื่อนก็สนอง แล้วก็ลงเอยด้วยการคบกัน
(แต่คนในบริษัทเมียน้อยนี่ก็รู้หมดนะ เพราะเพื่อนเราไปรับไปส่งทุกวันเลย เลขาคนสวยก็ไม่เห็นมีท่าทีจะปิดบังใคร ขนาดเราเจอเค้าเดินหนุงหนิงๆ มาด้วยกัน เธอมองหน้าเรา แล้วก็ไม่เห็นหลบสายตาหรือมีท่าทีสลดอะไรนะ...งงเหมือนกัน)
ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สนใจอะไรอ่ะ เพราะคิดว่าเดี๋ยวเพื่อนมันก็คงเลิกๆ ไปเหมือนผู้หญฺิงคนอื่นที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าไม่คร่าาาา...ยิ่งนานวันยิ่งติดหนึบ ไม่รู้มีไรดีนักหนา โกหกเมีย แถมยังมาขอให้เราช่วยโกหกด้วย เราเคยถามว่า เฮ้ย...มันไม่ถลำลึกไปเหรอ หยุดได้แล้วมั้ง สงสารลูกเมียเหอะ มันบอก...เรื่องของกรู (แป่ว)
ไม่นานหลังจากนั้นเมียเพื่อนคลอดลูกคนที่สอง เรานี้เห็นแล้วทั้งรักทั้งหลง เด็กมันน่ารักอ่ะ เลยยิ่งได้สนิทกับเมียเพื่อนมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นเธอรักสามี ทำโน่นทำนี่ให้ กับข้าวอร่อยๆ อาหารดีๆ สรรหาสารพัดมาให้ผัวกินหลังเลิกงาน วันทั้งวันสาระวนกับการเลี้ยงลูกที่ยังเล็กทั้งคู่ หัวเหอฟู ร่างกายผ่ายผอม หมดความสวย เห็นแล้วมันสะท้อนใจอ่ะ สงสาร ยิ่งไอ้ตัวเล็กยิ่งน่าสงสาร เห็นหน้าเราก็ถามอยู่นั่นอ่ะ พ่อเมื่อไหร่จะกลับครับ พ่อเมื่อไหร่จะมาครับ เราก็ไม่รู้จะตอบยังไง
ไปๆ มาๆ เพื่อนเราเหมือนจะหลงเมียน้อยคนนี้หัวปักหัวปำ บ้านช่องไม่กลับ หลอกเมียว่ามีงานต่างจังหวัดมั่ง นอนค้างออฟฟิศมั่ง เวลาเมียมันถามเราว่า งานเยอะเหรอคะพี่ช่วงนี้ เราก็รู้สึกกระดากปากที่ต้องโกหกอ่ะ ก็มันไม่ใช่อย่างที่เพื่อนเราบอกเมียมันเลยสักนิด
เราเลยนำความไปปรึกษาแฟนตัวเอง แฟนบอกว่าอย่าไปยุ่งเรื่องของเค้าเลย เพราะถ้าเราบอกเพื่อนก็ต้องโกรธเรา หาว่าเราไปยุแยงให้ครอบครัวเค้าแตก แล้วคงกระทบกับธุรกิจที่ทำด้วยกัน แต่พอปรึกษาพี่สาว พี่สาวบอกลุยเลย เรื่องแบบนี้ไปช่วยมันปกปิดความชั่วทำไม
เราก็อยากบอกนะ แต่กลัวปัญหาตามมาจัง เป็นเพื่อนๆ คิดว่าจะบอกเมียมันดีมั้ยคะ????