สืบเนื่องมาจากผมเป็นคนที่เวลาตื่นขึ้นมาแล้วขยับตัวไม่ได้ยกตัวไม่ขึ้น ทำได้แค่มองไปรอบๆ ได้แค่นั้นและเป็นบ่อยมาก
ตอนเด็กๆ ก็มีความเชื่อเรื่องผี เพราะแม่บอกว่าเพราะผีอำ พอโตขึ้นความเชื่อเรื่องผีของผมหมดไป แต่อาการผีอำก็ยังคงวงเวียนอยู่ไม่หายไปไหน
ไหนๆ ก็ผีชอบอำบ่อยๆ เลยต้องขอสังเกตุหน่อยว่าส่วนมากเป็นช่วงไหนเวลาไหนบ้าง
จากการสังเหตุ
1. เกือบทุกครั้งจะเป็นเวลากลางวัน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะบางครั้งก็เป็นตอนเช้าได้เหมือนกัน
2. เกือบทุกครั้งอากาศร้อน หรืออากาศไม่เย็นสบายรู้สึกอึดอัดตอนตื่นขึ้นมา อันนั้นเกือบ 100%
3. ต้องเป็นตอนกึ่งหลับกึ่งตื่นเท่านั้น อยู่ๆ สะดุ้งตื่นแล้วขยับไม่ได้ไม่เคยเป็น
4. นอนคว่ำนอนหงายนอนตะแคง โดยอำได้ทุกท่าไม่มีข้อยกเว้น
ฉนั้น เวลานอนต้องพยายามนอนหงาย โดยเฉพาะตอนกลางวัน ถ้าเผลอหลับ เวลาโดยอำจะทรมานมาก เพราะนอนคว่ำหายใจลำบาก แน่หน้าอกด้วย
5. ต้องเป็นสถานที่คุ้นเคย เช่นที่ห้องนอนของตัวเองเท่านั้น ต่อให้ย้ายไปที่ใหม่สักพักก็เริ่มโดยอำเหมือนเดิม ถ้าไปนอนที่อื่นไม่เป็น แต่พอดีไม่ค่อยไปนอนที่อื่นเลยไม่แน่ใจในข้อนี้
สรุป จาก 5 ข้อที่กล่าวมาที่ทำให้เกิดอาการผีอำ เพราะเราฝันไปนั้นเองครับ แต่เราไม่รู้ตัว เหมือนอาการหลับใน
อธิบายง่ายๆ ก็คือช่วงที่เราตื่นขึ้นมาแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น เราจะเห็นภาพห้องของเรา หรือภาพที่เห็นอาจมาจากความเคยชินตาของเรา
แล้วเราก็หลับไปอีกรอบทำให้เกิดความฝันที่ดูเหมือนจริงมาก
เหมือนตอนหลับใน เห็นรถวิ่งบนท้องถนนปกติ แต่มันดันเป็นภาพที่เราฝันไม่ใช่ภาพจริงๆ จากสายตา
ส่วนการที่ลุกไม่ได้เพราะอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น บวกกับร่างกายมันไม่สบายตัวเพราะอากาศ ทำให้แยกความฝันกับความจริงไม่ได้
จากการสังเกตุหลังตื่นจากอาการผีอำ จะรู้สึกเหนื่อย เพลีย อึดอัด ร้อน
วิธีแก้ไข
1. เลิกเชื่อเรื่องผีก่อนลดอาการผีอำไปได้เยอะเลยครับ
2. นอนในที่ อากาศถ่ายเท อย่านอนคว่ำตอนอากาศในห้องร้อนๆ มันทำให้หายใจลำบาก
3. เวลาตื่นอย่านอนต่อ ยกเว้นตอนกลางคืน หรืออากาศเย็นสบาย
ป.ล. อาการแบบนี้มันก็แปลกที่ไม่ได้เป็นกันทุกคน
สำหรับคนที่เป็นลองสังเกตุดูได้ครับ ว่าตัวเองมีประวัติ การนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นบ่อยไหม เคยนอนละเมอหรือเปล่า
นอนละเมอแบบ ลุกขึ้นจากเตียงไปทำอะไรต่างๆ นาๆ แล้วกลับมาตอนนอนต่อ
เพราะตอนเด็กผมเคยเป็นถึงขนาด เดินลงจากบ้านชั้น 2 มาฉี่ แล้วกลับขึ้นไปนอนต่อ คนทีบ้านหัวเรอะกับบ่อย
เพระเหมือนผี คือใครถามใครทักก็ไม่ตอบ หลับตาเดินลงบันไดขึ้นบันไดได้โดยไม่ตกบันไดครับ
ผมหาสาเหตุของผีอำได้แล้วครับ
ตอนเด็กๆ ก็มีความเชื่อเรื่องผี เพราะแม่บอกว่าเพราะผีอำ พอโตขึ้นความเชื่อเรื่องผีของผมหมดไป แต่อาการผีอำก็ยังคงวงเวียนอยู่ไม่หายไปไหน
ไหนๆ ก็ผีชอบอำบ่อยๆ เลยต้องขอสังเกตุหน่อยว่าส่วนมากเป็นช่วงไหนเวลาไหนบ้าง
จากการสังเหตุ
1. เกือบทุกครั้งจะเป็นเวลากลางวัน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะบางครั้งก็เป็นตอนเช้าได้เหมือนกัน
2. เกือบทุกครั้งอากาศร้อน หรืออากาศไม่เย็นสบายรู้สึกอึดอัดตอนตื่นขึ้นมา อันนั้นเกือบ 100%
3. ต้องเป็นตอนกึ่งหลับกึ่งตื่นเท่านั้น อยู่ๆ สะดุ้งตื่นแล้วขยับไม่ได้ไม่เคยเป็น
4. นอนคว่ำนอนหงายนอนตะแคง โดยอำได้ทุกท่าไม่มีข้อยกเว้น
ฉนั้น เวลานอนต้องพยายามนอนหงาย โดยเฉพาะตอนกลางวัน ถ้าเผลอหลับ เวลาโดยอำจะทรมานมาก เพราะนอนคว่ำหายใจลำบาก แน่หน้าอกด้วย
5. ต้องเป็นสถานที่คุ้นเคย เช่นที่ห้องนอนของตัวเองเท่านั้น ต่อให้ย้ายไปที่ใหม่สักพักก็เริ่มโดยอำเหมือนเดิม ถ้าไปนอนที่อื่นไม่เป็น แต่พอดีไม่ค่อยไปนอนที่อื่นเลยไม่แน่ใจในข้อนี้
สรุป จาก 5 ข้อที่กล่าวมาที่ทำให้เกิดอาการผีอำ เพราะเราฝันไปนั้นเองครับ แต่เราไม่รู้ตัว เหมือนอาการหลับใน
อธิบายง่ายๆ ก็คือช่วงที่เราตื่นขึ้นมาแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น เราจะเห็นภาพห้องของเรา หรือภาพที่เห็นอาจมาจากความเคยชินตาของเรา
แล้วเราก็หลับไปอีกรอบทำให้เกิดความฝันที่ดูเหมือนจริงมาก
เหมือนตอนหลับใน เห็นรถวิ่งบนท้องถนนปกติ แต่มันดันเป็นภาพที่เราฝันไม่ใช่ภาพจริงๆ จากสายตา
ส่วนการที่ลุกไม่ได้เพราะอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น บวกกับร่างกายมันไม่สบายตัวเพราะอากาศ ทำให้แยกความฝันกับความจริงไม่ได้
จากการสังเกตุหลังตื่นจากอาการผีอำ จะรู้สึกเหนื่อย เพลีย อึดอัด ร้อน
วิธีแก้ไข
1. เลิกเชื่อเรื่องผีก่อนลดอาการผีอำไปได้เยอะเลยครับ
2. นอนในที่ อากาศถ่ายเท อย่านอนคว่ำตอนอากาศในห้องร้อนๆ มันทำให้หายใจลำบาก
3. เวลาตื่นอย่านอนต่อ ยกเว้นตอนกลางคืน หรืออากาศเย็นสบาย
ป.ล. อาการแบบนี้มันก็แปลกที่ไม่ได้เป็นกันทุกคน
สำหรับคนที่เป็นลองสังเกตุดูได้ครับ ว่าตัวเองมีประวัติ การนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นบ่อยไหม เคยนอนละเมอหรือเปล่า
นอนละเมอแบบ ลุกขึ้นจากเตียงไปทำอะไรต่างๆ นาๆ แล้วกลับมาตอนนอนต่อ
เพราะตอนเด็กผมเคยเป็นถึงขนาด เดินลงจากบ้านชั้น 2 มาฉี่ แล้วกลับขึ้นไปนอนต่อ คนทีบ้านหัวเรอะกับบ่อย
เพระเหมือนผี คือใครถามใครทักก็ไม่ตอบ หลับตาเดินลงบันไดขึ้นบันไดได้โดยไม่ตกบันไดครับ