เอาเป็นว่า การจะวิจารณ์ต่อไปนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ
เราดีใจที่เห็น นัททิว กลับไปยืนบนเวที M countdown อีกครั้ง หลังจาก single เปิดตัว She's bad.
ไม่บ่อยนักที่จะมีคนไทยไปยืนตรงนั้น การเต้น/การร้อง บุคคลิก เสน่ห์ ทุกอย่างนัททิวทำได้แบบมืออาชีพ
แต่.....
ทำไมเรารู้สึกว่า มันช่างเป็นเพลงที่ฟังแล้ว เรื่อยๆ ชิวๆ หาจุดพีคไม่เจอ สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนของนัททิว หรือแฟนของนักร้องที่มาร้องฟีทเชอริ่งด้วยแบบเรา ฟังแล้วเฉยๆ อาจจะเปิดฟังผ่านๆไม่ได้รู้สึกติดหูอะไร ถ้าเทียบกับซิงเกิลแรกอย่าง she's bad เรายังหยิบเอามาเปิดฟัง/ดูไลน์การเต้น แบบมันอยากดู/ฟัง ซ้ำๆอีก
และอีกอย่างคือ นักร้องที่มาร้องฟิทเชอริ่งด้วย ทำไมรู้สึกว่ามีพาร์ทการร้องที่เรียกว่าเด่นกว่าตัวนักร้องหลักไปสะงั้น ตกลงเป็นเพลง comeback ของนัททิวจริงๆเหรอ บอกตรงๆ แอบเสียดายนะ คือน่าจะมีเพลงที่ได้โชว์ของมากกว่านี้ หรือเพลงที่ฟังติดหูกว่านี้
ความรู้สึกที่มีต่อ single 'Love will be ok' ของ Natthew จากใจคนที่ไม่ใช่แฟนคลับ
เราดีใจที่เห็น นัททิว กลับไปยืนบนเวที M countdown อีกครั้ง หลังจาก single เปิดตัว She's bad.
ไม่บ่อยนักที่จะมีคนไทยไปยืนตรงนั้น การเต้น/การร้อง บุคคลิก เสน่ห์ ทุกอย่างนัททิวทำได้แบบมืออาชีพ
แต่.....
ทำไมเรารู้สึกว่า มันช่างเป็นเพลงที่ฟังแล้ว เรื่อยๆ ชิวๆ หาจุดพีคไม่เจอ สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนของนัททิว หรือแฟนของนักร้องที่มาร้องฟีทเชอริ่งด้วยแบบเรา ฟังแล้วเฉยๆ อาจจะเปิดฟังผ่านๆไม่ได้รู้สึกติดหูอะไร ถ้าเทียบกับซิงเกิลแรกอย่าง she's bad เรายังหยิบเอามาเปิดฟัง/ดูไลน์การเต้น แบบมันอยากดู/ฟัง ซ้ำๆอีก
และอีกอย่างคือ นักร้องที่มาร้องฟิทเชอริ่งด้วย ทำไมรู้สึกว่ามีพาร์ทการร้องที่เรียกว่าเด่นกว่าตัวนักร้องหลักไปสะงั้น ตกลงเป็นเพลง comeback ของนัททิวจริงๆเหรอ บอกตรงๆ แอบเสียดายนะ คือน่าจะมีเพลงที่ได้โชว์ของมากกว่านี้ หรือเพลงที่ฟังติดหูกว่านี้