คือละครเรื่องนี้ จะบทดีครอบจักรวาลไปเลยไหม
ฮ่าๆๆ
แต่ละสัปดาห์ละครจะเสนอปมเด่นๆให้ผู้ชม
เช่น การต่อสู้ความยากจน การไล่ตามความฝัน ความรักและการให้อภัยกับคนในครอบครัว การอบรมเลี้ยงดูบุตรหลาน การรักนวลสงวนตัวและปกป้องสิทธิทางเพศของสตรีที่ถูกล่วงละเมิด การไม่ลืมรากเหง้าบ้านเกิดและผู้มีพระคุณ การไม่ชิงสุกก่อนห่าม และความหลากหลาบทางเพศ เป็นต้น (จริงๆมีอีกมากมาย ไล่ไม่หมด)
วันนี้มาอีกแล้วกับประเด็น เชื้อเอชไอวี หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม
โรคเอดส์
แน่นอน คนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ย่อมกลัว ไม่กล้าไปตรวจโรค แถมยังมีโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นอีก(ถ้ายังไม่หยุดพฤติกรรมมั่วสุม)
บทพูดที่ดีมากคือ ตอนที่เจ๊โรสบอกว่า
"เพศที่สามรู้จักโรคนี้ดี"
แต่บอยพูดต่อว่า
"โรคนี้เกิดจากความ someซ่อนของคนทุกเพศนั่นแหละ ไม่ใช่แค่เพศที่สาม"
2สัปดาห์ที่แล้ว จขกท.ได้ดูรายการ
ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ทางช่องไทยพีบีเอส เสนอเรื่องหมู่บ้านที่พักพิงของผู้ติดเชื้อที่ก่อตั้งโดยพระรูปหนึ่ง รายการไปสัมภาษณ์ผู้ติดเชื้อที่ไปพึ่งใบบุญ ดูแล้วน่าสงสารมากๆ ผู้หญิงหลายคนติดจากสามีที่นอกใจ บางคนต้องมาอยู่ที่นี่เพราะ ญาติพี่น้องไม่เอา รังเกียจนั่นแหละถ้าพูดตรงๆ
ซึ่งรายการยังนำเสนอว่า แรกๆชาวบ้านในพื้นที่ต่อต้านการสร้างที่พักให้ผู้ติดเชื้อ เพราะยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้มากนัก ทุกคนกลัว คิดว่าจะติดกันง่ายๆ
ต่อมาพอพวกผู้ติดเชื้อปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เอาไปขายก็ไม่มีใครซื้อ เพราะชาวบ้านกลัวติดโรค ขนาดมีรถกับข้าวเคยมาขายในหมู่บ้าน พอชาวบ้านรู้ก็ไม่ซื้อรถกับข้าวนั้น เพราะมาขายให้ผู้ติดเชื้อ ก็พากันรังเกียจ หลังๆเลยไม่มีใครมาขายเลย
สุดท้ายเขาต้องอยู่กันเอง ช่วยเหลือกันเอง
ถ้ามีใครเสียชีวิตก็เผายางกันแบบพอเป็นพิธีภายใน 24 ชั่วโมง น่าเวทนาจริงๆครับ
ได้ข่าวว่า ที่พักพิงนี้ใกล้จะต้องปิดแล้ว เนื่องจากไม่มีรายได้เพียงพอ
วันนี้ละครมาลีเริงระบำก็เสนอประเด็นเรื่องการใช้ชีวิตกับผู้ติดเชื้อ ว่าไม่ได้ติดกันง่ายๆ แต่ที่น่าประทับใจคือ เพื่อนๆพี่ๆของชงโคต่างเข้าใจและให้กำลังใจ ไม่รังเกียจ สุดท้ายชงโคก็ยอมไปตรวจ พอรู้ว่าไม่เป็นก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก
ขอบคุณทั้งรายการดีๆอย่าง ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร (ส่วนตัวผมชอบมากๆ ดูแทบทุกอาทิตย์)
และชื่นชมทีมเขียนบทละครมาลีเริงระลำด้วยครับ กับการใส่ใจแม้รายะเอียดเล็กๆน้อยๆ แถมให้ความรู้คนดูอีก
ขอชื่นชม(อวย)...บทละครมาลีเริงระบำกับประเด็นผู้ติดเชื้อHIV (+รายการชีวิตจริงยิ่งกว่าละครทางไทยพีบีเอส)
ฮ่าๆๆ
แต่ละสัปดาห์ละครจะเสนอปมเด่นๆให้ผู้ชม
เช่น การต่อสู้ความยากจน การไล่ตามความฝัน ความรักและการให้อภัยกับคนในครอบครัว การอบรมเลี้ยงดูบุตรหลาน การรักนวลสงวนตัวและปกป้องสิทธิทางเพศของสตรีที่ถูกล่วงละเมิด การไม่ลืมรากเหง้าบ้านเกิดและผู้มีพระคุณ การไม่ชิงสุกก่อนห่าม และความหลากหลาบทางเพศ เป็นต้น (จริงๆมีอีกมากมาย ไล่ไม่หมด)
วันนี้มาอีกแล้วกับประเด็น เชื้อเอชไอวี หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม โรคเอดส์
แน่นอน คนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ย่อมกลัว ไม่กล้าไปตรวจโรค แถมยังมีโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นอีก(ถ้ายังไม่หยุดพฤติกรรมมั่วสุม)
บทพูดที่ดีมากคือ ตอนที่เจ๊โรสบอกว่า
"เพศที่สามรู้จักโรคนี้ดี"
แต่บอยพูดต่อว่า "โรคนี้เกิดจากความ someซ่อนของคนทุกเพศนั่นแหละ ไม่ใช่แค่เพศที่สาม"
2สัปดาห์ที่แล้ว จขกท.ได้ดูรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ทางช่องไทยพีบีเอส เสนอเรื่องหมู่บ้านที่พักพิงของผู้ติดเชื้อที่ก่อตั้งโดยพระรูปหนึ่ง รายการไปสัมภาษณ์ผู้ติดเชื้อที่ไปพึ่งใบบุญ ดูแล้วน่าสงสารมากๆ ผู้หญิงหลายคนติดจากสามีที่นอกใจ บางคนต้องมาอยู่ที่นี่เพราะ ญาติพี่น้องไม่เอา รังเกียจนั่นแหละถ้าพูดตรงๆ
ซึ่งรายการยังนำเสนอว่า แรกๆชาวบ้านในพื้นที่ต่อต้านการสร้างที่พักให้ผู้ติดเชื้อ เพราะยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้มากนัก ทุกคนกลัว คิดว่าจะติดกันง่ายๆ
ต่อมาพอพวกผู้ติดเชื้อปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เอาไปขายก็ไม่มีใครซื้อ เพราะชาวบ้านกลัวติดโรค ขนาดมีรถกับข้าวเคยมาขายในหมู่บ้าน พอชาวบ้านรู้ก็ไม่ซื้อรถกับข้าวนั้น เพราะมาขายให้ผู้ติดเชื้อ ก็พากันรังเกียจ หลังๆเลยไม่มีใครมาขายเลย
สุดท้ายเขาต้องอยู่กันเอง ช่วยเหลือกันเอง
ถ้ามีใครเสียชีวิตก็เผายางกันแบบพอเป็นพิธีภายใน 24 ชั่วโมง น่าเวทนาจริงๆครับ
ได้ข่าวว่า ที่พักพิงนี้ใกล้จะต้องปิดแล้ว เนื่องจากไม่มีรายได้เพียงพอ
วันนี้ละครมาลีเริงระบำก็เสนอประเด็นเรื่องการใช้ชีวิตกับผู้ติดเชื้อ ว่าไม่ได้ติดกันง่ายๆ แต่ที่น่าประทับใจคือ เพื่อนๆพี่ๆของชงโคต่างเข้าใจและให้กำลังใจ ไม่รังเกียจ สุดท้ายชงโคก็ยอมไปตรวจ พอรู้ว่าไม่เป็นก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก
ขอบคุณทั้งรายการดีๆอย่าง ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร (ส่วนตัวผมชอบมากๆ ดูแทบทุกอาทิตย์)
และชื่นชมทีมเขียนบทละครมาลีเริงระลำด้วยครับ กับการใส่ใจแม้รายะเอียดเล็กๆน้อยๆ แถมให้ความรู้คนดูอีก