เมื่อวานเย็น ขณะที่เราเอาข้าวไปให้หมาจร ที่สถานที่ก่อสร้างอาคารชุดแห่งหนึ่ง ริมถนนเจริญกรุง คนในละแวกนั้นได้บอกเราว่า หมาจรตัวหนึ่งที่เราให้ข้าวมันทุกครั้ง ได้รับเกียรติให้เป็นอาหารของคนงานชาวต่างชาติ เพื่อนบ้านชายแดนด้านตะวันออกของประเทศเรา.....สัพเพ สัตตา อะเวราโหนตุ อัพยาปัชฌาโหนตุ อะนีฆาโหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
คนในละแวกสถานที่ก่อสร้างอาคารชุดฯ ได้เล่าว่า เมื่อคืนวันศุกร์ หมาตัวนี้ถูกรถมอเตอร์ไซด์เฉี่ยวชน เพราะวิ่งข้ามถนนไปมา ระหว่างด้านหน้าไซด์งานก่อสร้าง สถานที่มันอาศัยอยู่ตั้งแต่ยังเป็นที่รกร้าง กับอีกฟากถนน ที่มีรถเข็นขายของ ทำให้มันบาดเจ็บเล็กๆ และมีอาการหวาดกลัว ด้วยความที่หมาตัวนี้ มีอาการบาดเจ็บ หลังจากกินข้าว+ขนม ที่เราเอาไปเลี้ยงเมื่อเย็นวันเสาร์ มันจึงเดินเข้าไปซ่อนด้านในไซด์งานก่อสร้าง ด้วยขาที่เจ็บของมัน คงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มันวิ่งไม่ไหว เมื่อถูกคนงานต่ารงชาติล้อมกรอบ และนั่นเป็นเหตุให้มันได้รับเกียรติยศอันสูงสุดในชีวิต คือ พลีร่างกายให้เป็นอาหารแก่ชาวต่างชาติผู้หิวโหย
ภาพความทรงจำครั้งสุดท้ายที่มีต่อกัน...เมื่อเย็นวันเสาร์ เราเพิ่งสังเกตุเห็นตอนให้ข้าว ว่าหมาตัวนี้มีอาการหวาดกลัว ตื่นตระหนกเล็กๆ และขาเหมือนจะเจ็บ แต่ยังเดินได้ปกติ มากินข้าว กินขนมหมาที่เรามักพกไปแจกทุกครั้ง ที่มันกินข้าวเสร็จ ครั้งนั้น มันกินข้างและขนมเสร็จ ก็เดินกลับไปในไซด์ก่อสร้างเหมือนทุกครั้ง
"กัมมุนา วัตตติ โลโก" สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม.....หากเป็นไปเช่นนี้แล้ว หวังว่าผลบุญที่หมาจรตัวนี้ได้ทำในครั้งสุดท้ายของชีวิต คงส่งผลให้มันไม่ต้องเกิดเป็นหมาจรอีกในชาติภพต่อไป อย่างน้อยหากเกิดเป็นหมาอีก ก็ขอให้เป็นหมาที่มีบ้านมีเจ้าของ
ลาก่อนนะ...."ไอ้หน้าจืด" แม้เราจะรู้จักกันได้ไม่นาน แม้เราจะได้มีโอกาสให้ข้าวแกได้ไม่นาน แต่เราก็ดีใจนะ ที่ครั้งหนึ่งเราเคยได้พบกัน ได้รู้จักกัน ได้มีกิจกรรมด้วยกัน เรายินดีมาก ที่ได้ให้ข้าวแก ให้ขนมแก แม้ว่า "ไอ้หน้าจืด" จะกินขนมเปลืองมาก แต่เราก็ยินดี เพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่า ชีวิตหมาจร จะกินอิ่ม กินดี ได้ไม่นานนัก เราให้แกได้แค่นี้จริงๆ เราช่วยแกได้เท่านี้จริงๆ..."อนิจจา วต สังขารา อุปปาทวยธัมมิโน อุปปัชชิตวา นิรุชชันติ เตสัง วูปสโม สุโข" เย็นวันเสาร์ยังเห็นกันอยู๋ หาอยู่หลายวัน กลับได้ฟังเรื่องอันเป็นเกียรติยศอย่างสูงสุดในชีวิตของแกเสียแล้ว ---- "ไอ้หน้าจืด"
เกียรติยศอันสูงสุดในชีวิตของ "ไอ้หน้าจืด"
คนในละแวกสถานที่ก่อสร้างอาคารชุดฯ ได้เล่าว่า เมื่อคืนวันศุกร์ หมาตัวนี้ถูกรถมอเตอร์ไซด์เฉี่ยวชน เพราะวิ่งข้ามถนนไปมา ระหว่างด้านหน้าไซด์งานก่อสร้าง สถานที่มันอาศัยอยู่ตั้งแต่ยังเป็นที่รกร้าง กับอีกฟากถนน ที่มีรถเข็นขายของ ทำให้มันบาดเจ็บเล็กๆ และมีอาการหวาดกลัว ด้วยความที่หมาตัวนี้ มีอาการบาดเจ็บ หลังจากกินข้าว+ขนม ที่เราเอาไปเลี้ยงเมื่อเย็นวันเสาร์ มันจึงเดินเข้าไปซ่อนด้านในไซด์งานก่อสร้าง ด้วยขาที่เจ็บของมัน คงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มันวิ่งไม่ไหว เมื่อถูกคนงานต่ารงชาติล้อมกรอบ และนั่นเป็นเหตุให้มันได้รับเกียรติยศอันสูงสุดในชีวิต คือ พลีร่างกายให้เป็นอาหารแก่ชาวต่างชาติผู้หิวโหย
ภาพความทรงจำครั้งสุดท้ายที่มีต่อกัน...เมื่อเย็นวันเสาร์ เราเพิ่งสังเกตุเห็นตอนให้ข้าว ว่าหมาตัวนี้มีอาการหวาดกลัว ตื่นตระหนกเล็กๆ และขาเหมือนจะเจ็บ แต่ยังเดินได้ปกติ มากินข้าว กินขนมหมาที่เรามักพกไปแจกทุกครั้ง ที่มันกินข้าวเสร็จ ครั้งนั้น มันกินข้างและขนมเสร็จ ก็เดินกลับไปในไซด์ก่อสร้างเหมือนทุกครั้ง
"กัมมุนา วัตตติ โลโก" สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม.....หากเป็นไปเช่นนี้แล้ว หวังว่าผลบุญที่หมาจรตัวนี้ได้ทำในครั้งสุดท้ายของชีวิต คงส่งผลให้มันไม่ต้องเกิดเป็นหมาจรอีกในชาติภพต่อไป อย่างน้อยหากเกิดเป็นหมาอีก ก็ขอให้เป็นหมาที่มีบ้านมีเจ้าของ
ลาก่อนนะ...."ไอ้หน้าจืด" แม้เราจะรู้จักกันได้ไม่นาน แม้เราจะได้มีโอกาสให้ข้าวแกได้ไม่นาน แต่เราก็ดีใจนะ ที่ครั้งหนึ่งเราเคยได้พบกัน ได้รู้จักกัน ได้มีกิจกรรมด้วยกัน เรายินดีมาก ที่ได้ให้ข้าวแก ให้ขนมแก แม้ว่า "ไอ้หน้าจืด" จะกินขนมเปลืองมาก แต่เราก็ยินดี เพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่า ชีวิตหมาจร จะกินอิ่ม กินดี ได้ไม่นานนัก เราให้แกได้แค่นี้จริงๆ เราช่วยแกได้เท่านี้จริงๆ..."อนิจจา วต สังขารา อุปปาทวยธัมมิโน อุปปัชชิตวา นิรุชชันติ เตสัง วูปสโม สุโข" เย็นวันเสาร์ยังเห็นกันอยู๋ หาอยู่หลายวัน กลับได้ฟังเรื่องอันเป็นเกียรติยศอย่างสูงสุดในชีวิตของแกเสียแล้ว ---- "ไอ้หน้าจืด"