Interstellar 8.5/10
Beyond imagination, Best of the best, Must see !!
ตัวอย่างหนัง
https://www.youtube.com/watch?v=zSWdZVtXT7E
เรื่องย่อๆนะครับ
ประมาณว่าโลกเรากำลังจะสลาย ทรัพยากรลดน้อยลง เลยต้องหาวิธีการอื่นในการดำรงชีวิต รักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์ การหาดวงดาวหรือที่อยู่ใหม่ก็เป็นวิธีหนึ่งในนั้น
หลายๆคนคงได้ดูไปเรียบร้อยแล้ว ... ผมเพิ่งได้มาเก็บตกในวัน movie day =.=
ถ้าชอบเรื่อง Lucy, Inception น่าจะชอบเรื่องนี้ครับ
ความเห็นส่วนตัวเลยนะครับ
เป็นหนังที่ดีที่สุดที่ผมเคยดูมา โดยรวมทุกองค์ประกอบที่หนังเรื่องหนึ่งควรจะเป็นได้ดีมาก ไม่ผิดหวังจริงๆกับ Noland ตั้งแต่ The Dark Knight Rise แล้ว
หนังมีความสมดุลดีมากครับ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของมุกตลก ดราม่า แอคชั่น วิทยาศาสตร์ (หนักมากนี้) อยู่นอกเหนือจินตนาการ (ของผม)
สำหรับผมมีน้อยครับ หนังที่ยาว 2 ชั่วโมงกว่า แต่รู้สึกว่าดูแล้วอยากดูอีก เกิดเป็นความภูมิใจที่คนเราสามารถทำหนังออกมาแบบนี้ได้ (ขนาดนั้น)
ผมดูแล้วยังหาข้อติกับความไม่ Make Sense ไม่ค่อยเจอนะครับ คิดไปคิดมา เหมือนมีอะไรมาปิดช่องไว้หมดแล้ว
การคาดเดาบอกได้ว่าผมคาดไม่ถูกจริงๆ ... ตอนแรกคิดว่าจะเป็นอีกแบบ โน่นนี่ (สรุปไม่ถูกเลย ฮา) ... สรุปดูไปเรื่อยๆดีกว่า ... ดูแบบไม่รู้จะหนุกกว่าฮะ
ในฐานะที่ผมเป็นคนเล่นกล้อง ชอบถ่ายภาพ มุมมองของหนังในการเล่าเรื่องเป็นเรื่องสำคัญมากครับ บางมุมเอียงนิดเดียว ให้อารมณ์คนละเรื่องกันเลย
สำหรับ Interstellar ผมบอกได้ว่า วินาทีแรกที่ดูหนัง (ฉากแรก) บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา รายละเอียดเล็กน้อยเรื่องนี้เก็บได้หมดเลยครับ มุมที่ดี บวกกับองค์ประกอบของเรื่องทำให้หนังเป็นหนังขั้นเทพจริงๆ
ด้านหนังแสดง fact เลยนะครับ ตัวแสดงหลักๆ มีออสการ์ติดตัว ก็ 4 คนแล้ว ทั้งแมทธิว, แอนนี่, ไมเคิล, แมท เดมอน ฝีมือไม่ต้องพูดถึงกันเลย สีหน้า แววตานี่ไม่มีใครยอมกันเลย นักแสดงคนอื่นๆก็มีผลงานให้เห็นกันอยู่หลายๆเรื่อง แต่แอบตกใจตอนเห็น Matt Demon (มาด้วย) ... ที่อยากจะชื่นชมเป็นการส่วนตัว คือตัวหนังแสดงเด็กครับ Mackenzie Foy เล่นได้ดีมากๆๆ จนผมคิดว่าน้องเค้ามีเหตุการณ์แบบนี้ที่บ้านจริงๆ ... อินตามไปด้วยเลย ^^
การลำดับเรื่อง ดนตรีและซาวเอฟเฟค เป็นอีกส่วนที่ผมชอบมากครับ
ซึ่งหนังบางเรื่องไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดขนาดนี้ โดยเฉพาะเรื่องดนตรีและซาว แบบว่ามาได้ถูกที่ถูกเวลาถูกอารมณ์ พอดีคำมากๆ ฉากนี้แนวนี้ อารมณ์นี้เสียงนี้ และผมบอกได้ว่าการเล่าเรื่องของเค้ามีเสน่ห์มากๆครับ บางที่ฉากง่ายๆ แต่เรียงสับไปสับมา ให้ได้ใช้สมองนิดๆ เพราะตอนหลังๆจะต้องใช้เยอะๆ
ผมว่าลงตัวแบบนี้หาดูได้ยากครับ ลองเปรียบเทียบกับหนังบ้านเราก็ได้
ในส่วนบทสนทนาออกแบบมาได้ดีเลยครับ มีคำคมๆอยู่มากมายให้เป็นวลีของเรื่อง ปกติผมไม่ค่อยอ่านซับ (เฉพาะช่วงดราม่า) ผมชอบที่หนังสามารถอธิบายเรื่องบางเรื่องที่ยากๆ ให้มันเข้าใจได้ในไม่กี่คำ
แนะนำว่าต้องมีพื้นทางวิทยาศาสตร์พอสมควรครับ ทฤษฎีสัมพันธภาพ, ควอนตัม, หลุมดำ, การกำเนิดจักรวาล, แรงโน้มถ่วง, คุณสมบัติของแสง เราจะเข้าใจหนังได้ลึกซึ้งมากขึ้นครับ
ความลงตัวของดราม่า นักแสดง มุมกล้อง บทสนทนา ทำให้หนังเรื่องนี้เป็น 1 ในเรื่องที่ผมคิดว่าดีที่สุดที่เคยดูมาครับ
หนังเรื่องนี้สอนอะไรเราเยอะมากๆ ครับ สอนให้แยกแยะเรื่องบางเรื่อง ความรัก ความรู้วิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหา ความไม่ท้อต่อปัญหา อื่นๆ มากมายครับ
สำหรับคอหนัง Noland แล้ว เรื่องนี้ห้ามพลาดครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดูหนังแล้วดูตัวเราครับ
สนุกกับการชมภาพยนตร์ครับ ^^
Tony Freeman
[CR] Tony Review: Interstellar 8.5/10 (ไม่มีสปอย)
Beyond imagination, Best of the best, Must see !!
ตัวอย่างหนัง
https://www.youtube.com/watch?v=zSWdZVtXT7E
เรื่องย่อๆนะครับ
ประมาณว่าโลกเรากำลังจะสลาย ทรัพยากรลดน้อยลง เลยต้องหาวิธีการอื่นในการดำรงชีวิต รักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์ การหาดวงดาวหรือที่อยู่ใหม่ก็เป็นวิธีหนึ่งในนั้น
หลายๆคนคงได้ดูไปเรียบร้อยแล้ว ... ผมเพิ่งได้มาเก็บตกในวัน movie day =.=
ถ้าชอบเรื่อง Lucy, Inception น่าจะชอบเรื่องนี้ครับ
ความเห็นส่วนตัวเลยนะครับ
เป็นหนังที่ดีที่สุดที่ผมเคยดูมา โดยรวมทุกองค์ประกอบที่หนังเรื่องหนึ่งควรจะเป็นได้ดีมาก ไม่ผิดหวังจริงๆกับ Noland ตั้งแต่ The Dark Knight Rise แล้ว
หนังมีความสมดุลดีมากครับ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของมุกตลก ดราม่า แอคชั่น วิทยาศาสตร์ (หนักมากนี้) อยู่นอกเหนือจินตนาการ (ของผม)
สำหรับผมมีน้อยครับ หนังที่ยาว 2 ชั่วโมงกว่า แต่รู้สึกว่าดูแล้วอยากดูอีก เกิดเป็นความภูมิใจที่คนเราสามารถทำหนังออกมาแบบนี้ได้ (ขนาดนั้น)
ผมดูแล้วยังหาข้อติกับความไม่ Make Sense ไม่ค่อยเจอนะครับ คิดไปคิดมา เหมือนมีอะไรมาปิดช่องไว้หมดแล้ว
การคาดเดาบอกได้ว่าผมคาดไม่ถูกจริงๆ ... ตอนแรกคิดว่าจะเป็นอีกแบบ โน่นนี่ (สรุปไม่ถูกเลย ฮา) ... สรุปดูไปเรื่อยๆดีกว่า ... ดูแบบไม่รู้จะหนุกกว่าฮะ
ในฐานะที่ผมเป็นคนเล่นกล้อง ชอบถ่ายภาพ มุมมองของหนังในการเล่าเรื่องเป็นเรื่องสำคัญมากครับ บางมุมเอียงนิดเดียว ให้อารมณ์คนละเรื่องกันเลย
สำหรับ Interstellar ผมบอกได้ว่า วินาทีแรกที่ดูหนัง (ฉากแรก) บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา รายละเอียดเล็กน้อยเรื่องนี้เก็บได้หมดเลยครับ มุมที่ดี บวกกับองค์ประกอบของเรื่องทำให้หนังเป็นหนังขั้นเทพจริงๆ
ด้านหนังแสดง fact เลยนะครับ ตัวแสดงหลักๆ มีออสการ์ติดตัว ก็ 4 คนแล้ว ทั้งแมทธิว, แอนนี่, ไมเคิล, แมท เดมอน ฝีมือไม่ต้องพูดถึงกันเลย สีหน้า แววตานี่ไม่มีใครยอมกันเลย นักแสดงคนอื่นๆก็มีผลงานให้เห็นกันอยู่หลายๆเรื่อง แต่แอบตกใจตอนเห็น Matt Demon (มาด้วย) ... ที่อยากจะชื่นชมเป็นการส่วนตัว คือตัวหนังแสดงเด็กครับ Mackenzie Foy เล่นได้ดีมากๆๆ จนผมคิดว่าน้องเค้ามีเหตุการณ์แบบนี้ที่บ้านจริงๆ ... อินตามไปด้วยเลย ^^
การลำดับเรื่อง ดนตรีและซาวเอฟเฟค เป็นอีกส่วนที่ผมชอบมากครับ
ซึ่งหนังบางเรื่องไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดขนาดนี้ โดยเฉพาะเรื่องดนตรีและซาว แบบว่ามาได้ถูกที่ถูกเวลาถูกอารมณ์ พอดีคำมากๆ ฉากนี้แนวนี้ อารมณ์นี้เสียงนี้ และผมบอกได้ว่าการเล่าเรื่องของเค้ามีเสน่ห์มากๆครับ บางที่ฉากง่ายๆ แต่เรียงสับไปสับมา ให้ได้ใช้สมองนิดๆ เพราะตอนหลังๆจะต้องใช้เยอะๆ
ผมว่าลงตัวแบบนี้หาดูได้ยากครับ ลองเปรียบเทียบกับหนังบ้านเราก็ได้
ในส่วนบทสนทนาออกแบบมาได้ดีเลยครับ มีคำคมๆอยู่มากมายให้เป็นวลีของเรื่อง ปกติผมไม่ค่อยอ่านซับ (เฉพาะช่วงดราม่า) ผมชอบที่หนังสามารถอธิบายเรื่องบางเรื่องที่ยากๆ ให้มันเข้าใจได้ในไม่กี่คำ
แนะนำว่าต้องมีพื้นทางวิทยาศาสตร์พอสมควรครับ ทฤษฎีสัมพันธภาพ, ควอนตัม, หลุมดำ, การกำเนิดจักรวาล, แรงโน้มถ่วง, คุณสมบัติของแสง เราจะเข้าใจหนังได้ลึกซึ้งมากขึ้นครับ
ความลงตัวของดราม่า นักแสดง มุมกล้อง บทสนทนา ทำให้หนังเรื่องนี้เป็น 1 ในเรื่องที่ผมคิดว่าดีที่สุดที่เคยดูมาครับ
หนังเรื่องนี้สอนอะไรเราเยอะมากๆ ครับ สอนให้แยกแยะเรื่องบางเรื่อง ความรัก ความรู้วิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหา ความไม่ท้อต่อปัญหา อื่นๆ มากมายครับ
สำหรับคอหนัง Noland แล้ว เรื่องนี้ห้ามพลาดครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดูหนังแล้วดูตัวเราครับ
สนุกกับการชมภาพยนตร์ครับ ^^
Tony Freeman