สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ตอบจากไกลบ้าน เฟสบุ๊คในวิถีไทยต่างจากวัฒนธรรมคนไทยในต่างแดนอย่างมาก
สถิติการเลิกเล่น เพิ่มมากขึ้น สำหรับผู้มีวุฒิภาวะและต้องการความเป็นส่วนตัวสูง
สังเกตให้ดี คนไทยส่วนมาก โพสต์รูปอาหารการกินแทบจะทุกมื้อ เหมือนกับเป็นวัฒนธรรมไทยไปแล้ว
รวมทั้งการไปไหนมาไหน เหมือนกับว่าต้องการให้โลกรับรู้การปรากฏตัวตน จนกลายเป็นเปิดบ้านออนไลน์
ส่วนตัวเรามองดูเฉยๆ รู้สึกดีกับการได้เห็นหน้าตาของเพื่อนๆที่เปลี่ยนไป และญาติของเพื่อนที่เคยรู้จักกัน
รับรู้บางเหตุการณ์ และพยายามไม่ไปแแสดงความคิดเห็นมากนัก เพราะอยู่คนละวัฒนธรรม คนละระบบสังคม
แต่ที่ไม่ค่อยเข้าใจนัก คือคนที่แอดรับคนไว้เรื่อยๆนับพัน โดยที่ไม่ใช่เป็นเซเล็บ อันนี้น่าวิเคราะห์มาก
เคยมีคนทำการ์ตูนล้อ ว่าพวกที่มีเพื่อนหลายร้อยหลายพัน โพสต์รูปตัวเองทุกวัน เปลี่ยนชุดวันละหลายชุด
ว่า (ขอโทษนะ) เวลาเสียชีวิต จะเหลือคนไปงานศพสักเท่าไรกัน จะมากันทั้งพันที่แอดไว้หรือเปล่าก็ไม่รู้
คือมีกลุ่มคนที่ใช้โซเชี่ยลมีเดีย เป็นการสร้างกระแส หรือเป็นทางเข้าสังคม หรืออัพเกรดน่ะแหละ อย่าปฏิเสธ
บางคนก็มีความรู้ดีจริง มีหน้าที่การงาน และถือว่าเป็นเสรีภาพของเขานะ ที่จะแสดงรูป ครอบครัว หรือไลฟ์สไตล์
แต่มีผลสองด้าน ไม่ใช่ว่าจะมีคนชื่นชอบไปหมด คนไม่นิยมก็มี ทางทำลายหรือล่อแหลมทางด้านข้อมูลก็มีด้วย
บางเพจ คนมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงๆ ถ้าโพสต์ไม่ยั้งคิด ก็มีสิทธิ์โดนนำไปวิจารณ์อย่างหนักเสื่อมถึงที่ทำงาน
หลายๆเรื่องที่เกิดขึ้นจนเป็นคดีดังๆ ก็มาจากเฟสบุ๊ค เพราะผู้คนให้ความสำคัญกับข้อความที่อ่านหรือรูปที่เห็น
มันกลายเป็นวัฒนธรรมนานาชาติ ที่ผู้เสพสารต้องบริโภคข้อมูลข่าวสารร่วมกัน เป็นทั้งกลไกก้าวหน้าและอาวุธ
สิ่งที่ไม่ดีมากๆ จากการเล่นเฟสคือการเสพติด และกลายเป็นเหยื่อของพวกบูลลี่ (แบบที่พันทิปก็เป็น)
วัยรุ่น ฆ่าตัวตายจากกระแสในเฟส หรือการไม่ยับยั้งอารมณ์ คนขวัญอ่อน จิตอ่อน ไม่มีจุดยืนในชีวิต ไม่ควรเล่นมาก
ว่าจะไม่เขียนยาว แต่เผอิญว่า เพิ่งลบเฟร็นด์ออนไลน์ออกไปเกือบ ๒๐๐ คน เพราะไม่มีความจริงใจต่อกันในเฟส
ส่วนใหญ่ เราเปิดเพจไว้โพสต์รูปภาพจากต่างประเทศ หรือติดต่อคนอยู่ไกล ช่วยเหลือพึ่งพาในบางโอกาสเท่านั้น
แต่ไม่ได้เล่นแบบคนที่เอาชีวิตส่วนตัวมาเปิดโชว์ เหมือนขาดไม่ได้ที่จะต้องให้โลกเห็นหน้าในทุกๆวัน เพื่ออะไรไม่รู้
คนอาการหนักที่เราพบ คือ พอพบตัวจริงก็ขอให้แอด แต่ในชีวิตจริง พบกันแล้วไม่มีอะไรจะพูดจะสื่อสารได้เลย
คล้ายกับว่า ให้ความสำคัญกับโลกในจอไซเบอร์เต็มร้อย แต่งตัวดี รูปสวย มีอาหารดีๆทาน ไปในที่หรูหราทุกวัน
แต่พอเจอข้างนอก มันกลายเป็นหุ่นทึ่มทื่อไปได้ ยกมือถือกดรูปคนรอบตัว เอาลงไปโพสต์ ว่าวันๆไปเห็นใครมา
ไปรวมกันที่ไหน กดโพสต์ แต่ในความเป็นจริง ไม่ได้รู้เลยว่า คนที่ไปยืนอยู่ข้างๆเป็นยังไง ชีวิตเป็นอย่างไรจริงๆ
อ่านข่าวดูละกัน คนที่ไม่เล่น หรือเข้าไปสื่อสารน้อยลง เป็นธรรมดา ความเป็นส่วนตัวทำให้ชีวิตเราเป็นปกติสุข
ข่าวราชการ ควรจะไปตามดูที่เว็บทางการโดยตรงมากกว่า เอ่อ...เรื่องนี้ก็ขอวิจารณ์ไปด้วยเลยละกัน
เพจของหน่วยงานราชการในเฟซ แลดูไม่เป็นผู้ใหญ่ เพราะวัฒนธรรมการโพสต์ภาพที่ต้องใสกิ๊งฟรุ้งฟริ้งเสมอ
คล้ายว่า ขรก.กลายเป็นดาราในเพจนั้นๆ ดูไปดูมา โครงการต่างๆแทนที่จะทำเพื่อบริการประชาชนตามหน้าที่นั้น
พอออกมาในเฟซสักระยะ ภาพรวมมันกลายเป็นเหมือนดาราในหน่วยงาน ให้ปชช.มาตามไลค์ตามเลิฟ เพื่ออะไร
พูดจริงนะ เราว่า..ควรจะปฏิรูปตรงนี้ด้วย การใช้งานเฟสของหน่วยราชการเนี่ย กรุณาอย่าทำให้เป็นละครมากไป
ภาพที่ทำออกมา หลายๆงาน เหมือนจะโปรโมทเจ้าหน้าที่ มากกว่าจะสื่อสารว่า นี่คือผลประโยชน์ของประเทศชาติ
กรณีที่ผู้ใช้งานเฟส อยากจะงดเสพข้อมูลของผู้คนที่แชร์กันแบบไม่ยั้ง แค่เว้นวรรค ดีแอคติเวท ข้อมูลจะอยู่ในระบบ
เราอยู่ต่างประเทศ ข้อมูลข่าวสาร ค้นหาได้เอง ไม่ต้องรอไปอ่านที่คนไทยเอาบทแปลจากข่าวมาแชร์กันว่อนไปมา
แต่บางครั้งบางครา เข้าไปศึกษาชีวิตของคนที่เขาอยากบอกให้โลกรู้ ว่าก๊วนแก็งค์ของเขาเป็นใครทำอะไรกันบ้าง
มันก็ได้ข้อมูลมาว่า ในแต่ละวันคนกลุ่มนั้น ใช้เวลาหลายชั่วโมงกับการทำภาพ มากกว่าทำประโยชน์ในชีวิตจริง
ตอบจากไกลบ้าน เฟสบุ๊คในวิถีไทยต่างจากวัฒนธรรมคนไทยในต่างแดนอย่างมาก
สถิติการเลิกเล่น เพิ่มมากขึ้น สำหรับผู้มีวุฒิภาวะและต้องการความเป็นส่วนตัวสูง
สังเกตให้ดี คนไทยส่วนมาก โพสต์รูปอาหารการกินแทบจะทุกมื้อ เหมือนกับเป็นวัฒนธรรมไทยไปแล้ว
รวมทั้งการไปไหนมาไหน เหมือนกับว่าต้องการให้โลกรับรู้การปรากฏตัวตน จนกลายเป็นเปิดบ้านออนไลน์
ส่วนตัวเรามองดูเฉยๆ รู้สึกดีกับการได้เห็นหน้าตาของเพื่อนๆที่เปลี่ยนไป และญาติของเพื่อนที่เคยรู้จักกัน
รับรู้บางเหตุการณ์ และพยายามไม่ไปแแสดงความคิดเห็นมากนัก เพราะอยู่คนละวัฒนธรรม คนละระบบสังคม
แต่ที่ไม่ค่อยเข้าใจนัก คือคนที่แอดรับคนไว้เรื่อยๆนับพัน โดยที่ไม่ใช่เป็นเซเล็บ อันนี้น่าวิเคราะห์มาก
เคยมีคนทำการ์ตูนล้อ ว่าพวกที่มีเพื่อนหลายร้อยหลายพัน โพสต์รูปตัวเองทุกวัน เปลี่ยนชุดวันละหลายชุด
ว่า (ขอโทษนะ) เวลาเสียชีวิต จะเหลือคนไปงานศพสักเท่าไรกัน จะมากันทั้งพันที่แอดไว้หรือเปล่าก็ไม่รู้
คือมีกลุ่มคนที่ใช้โซเชี่ยลมีเดีย เป็นการสร้างกระแส หรือเป็นทางเข้าสังคม หรืออัพเกรดน่ะแหละ อย่าปฏิเสธ
บางคนก็มีความรู้ดีจริง มีหน้าที่การงาน และถือว่าเป็นเสรีภาพของเขานะ ที่จะแสดงรูป ครอบครัว หรือไลฟ์สไตล์
แต่มีผลสองด้าน ไม่ใช่ว่าจะมีคนชื่นชอบไปหมด คนไม่นิยมก็มี ทางทำลายหรือล่อแหลมทางด้านข้อมูลก็มีด้วย
บางเพจ คนมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงๆ ถ้าโพสต์ไม่ยั้งคิด ก็มีสิทธิ์โดนนำไปวิจารณ์อย่างหนักเสื่อมถึงที่ทำงาน
หลายๆเรื่องที่เกิดขึ้นจนเป็นคดีดังๆ ก็มาจากเฟสบุ๊ค เพราะผู้คนให้ความสำคัญกับข้อความที่อ่านหรือรูปที่เห็น
มันกลายเป็นวัฒนธรรมนานาชาติ ที่ผู้เสพสารต้องบริโภคข้อมูลข่าวสารร่วมกัน เป็นทั้งกลไกก้าวหน้าและอาวุธ
สิ่งที่ไม่ดีมากๆ จากการเล่นเฟสคือการเสพติด และกลายเป็นเหยื่อของพวกบูลลี่ (แบบที่พันทิปก็เป็น)
วัยรุ่น ฆ่าตัวตายจากกระแสในเฟส หรือการไม่ยับยั้งอารมณ์ คนขวัญอ่อน จิตอ่อน ไม่มีจุดยืนในชีวิต ไม่ควรเล่นมาก
ว่าจะไม่เขียนยาว แต่เผอิญว่า เพิ่งลบเฟร็นด์ออนไลน์ออกไปเกือบ ๒๐๐ คน เพราะไม่มีความจริงใจต่อกันในเฟส
ส่วนใหญ่ เราเปิดเพจไว้โพสต์รูปภาพจากต่างประเทศ หรือติดต่อคนอยู่ไกล ช่วยเหลือพึ่งพาในบางโอกาสเท่านั้น
แต่ไม่ได้เล่นแบบคนที่เอาชีวิตส่วนตัวมาเปิดโชว์ เหมือนขาดไม่ได้ที่จะต้องให้โลกเห็นหน้าในทุกๆวัน เพื่ออะไรไม่รู้
คนอาการหนักที่เราพบ คือ พอพบตัวจริงก็ขอให้แอด แต่ในชีวิตจริง พบกันแล้วไม่มีอะไรจะพูดจะสื่อสารได้เลย
คล้ายกับว่า ให้ความสำคัญกับโลกในจอไซเบอร์เต็มร้อย แต่งตัวดี รูปสวย มีอาหารดีๆทาน ไปในที่หรูหราทุกวัน
แต่พอเจอข้างนอก มันกลายเป็นหุ่นทึ่มทื่อไปได้ ยกมือถือกดรูปคนรอบตัว เอาลงไปโพสต์ ว่าวันๆไปเห็นใครมา
ไปรวมกันที่ไหน กดโพสต์ แต่ในความเป็นจริง ไม่ได้รู้เลยว่า คนที่ไปยืนอยู่ข้างๆเป็นยังไง ชีวิตเป็นอย่างไรจริงๆ
อ่านข่าวดูละกัน คนที่ไม่เล่น หรือเข้าไปสื่อสารน้อยลง เป็นธรรมดา ความเป็นส่วนตัวทำให้ชีวิตเราเป็นปกติสุข
ข่าวราชการ ควรจะไปตามดูที่เว็บทางการโดยตรงมากกว่า เอ่อ...เรื่องนี้ก็ขอวิจารณ์ไปด้วยเลยละกัน
เพจของหน่วยงานราชการในเฟซ แลดูไม่เป็นผู้ใหญ่ เพราะวัฒนธรรมการโพสต์ภาพที่ต้องใสกิ๊งฟรุ้งฟริ้งเสมอ
คล้ายว่า ขรก.กลายเป็นดาราในเพจนั้นๆ ดูไปดูมา โครงการต่างๆแทนที่จะทำเพื่อบริการประชาชนตามหน้าที่นั้น
พอออกมาในเฟซสักระยะ ภาพรวมมันกลายเป็นเหมือนดาราในหน่วยงาน ให้ปชช.มาตามไลค์ตามเลิฟ เพื่ออะไร
พูดจริงนะ เราว่า..ควรจะปฏิรูปตรงนี้ด้วย การใช้งานเฟสของหน่วยราชการเนี่ย กรุณาอย่าทำให้เป็นละครมากไป
ภาพที่ทำออกมา หลายๆงาน เหมือนจะโปรโมทเจ้าหน้าที่ มากกว่าจะสื่อสารว่า นี่คือผลประโยชน์ของประเทศชาติ
กรณีที่ผู้ใช้งานเฟส อยากจะงดเสพข้อมูลของผู้คนที่แชร์กันแบบไม่ยั้ง แค่เว้นวรรค ดีแอคติเวท ข้อมูลจะอยู่ในระบบ
เราอยู่ต่างประเทศ ข้อมูลข่าวสาร ค้นหาได้เอง ไม่ต้องรอไปอ่านที่คนไทยเอาบทแปลจากข่าวมาแชร์กันว่อนไปมา
แต่บางครั้งบางครา เข้าไปศึกษาชีวิตของคนที่เขาอยากบอกให้โลกรู้ ว่าก๊วนแก็งค์ของเขาเป็นใครทำอะไรกันบ้าง
มันก็ได้ข้อมูลมาว่า ในแต่ละวันคนกลุ่มนั้น ใช้เวลาหลายชั่วโมงกับการทำภาพ มากกว่าทำประโยชน์ในชีวิตจริง
แสดงความคิดเห็น
จะเลิกเล่นเฟส เพราะเหมือนกับว่า วันๆ รับรู้เรื่องของคนอื่นมากไป โดยที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เฮ้อๆๆๆ
แต่เฟสมีประโยชน์ตรงที่ได้คุยกับเพื่อนสนิท + ติดตามข่าวสาร + พวกสอบราชการต่างๆ