คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ห้องเราเป็นค่ะอาการหนักมาก ราขึ้นทั้งห้องเพราะบินไปเรียนเป็นปีๆ กลับมาราเต็ม เคยจ้างแม่บ้านมาเช็ดล้างก็ไม่หาย
สาเหตุมาจากห้องมีเชื้อราค่ะ อยู่ตามเฟอร์นิเจอที่เป็นไม้อัดทั้งหลาย ประตูไม้เราก็ราขึ้นค่ะ
วิธีแก้มีค่ะ ทุกวันนี้เราก็อยู่ห้องที่ว่าจนถึงทุกวันนี้แต่มันคือมหกรรมงานช้างเลย เราทำดังนี้ค่ะ
อุปกรณ์
- หน้ากากกันจมูก
- ทิชชู่ใหญ่หลายๆม้วนเลย
- เดทตอล
- น้ำมันมะกอก
- ผ้าเช็ด
- สารดูดความชื้น
ก่อนทำการใดๆขอให้เอาหน้ากากปิดจมูกมาใช้ก่อนค่ะ เชื้อมันอันตราย
1.ย้ายของทุกสิ่งอย่าง ของใช้ส่วนตัวออกไปจากห้องให้หมดถ้าเป็นพวกผ่า ให้ซักและล้างด้วยเดทตอลหรืออะไรก็ได้ที่ฆ่าเชื้อค่ะ
2. พวกของที่ขนออกมาก็เช็ดด้วยเดทตอลมาปาดครั้งเดียวทิ้งค่ะ อย่าไปเสียดาย การทูเช็ดวนไปมาจะทำให้เชื้อรายังคงอยู่ค่ะ
3. ใช้ทิชชูชุบเดทตอล และปาดเชื้อราทิ้งกับทุกพื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์ค่ะ รวมถึงข้างหลังตู้ ใต้ตู้ และซอกซอนต่างๆด้วย และย้ำเหมือนเดิมว่าปาดทิ้ง อย่าเช็ดวนๆค่ะรามันไม่หาย
4. เราเอาเฟอร์นิเจอที่พอขนออกมาได้ มาตากแดดสักหนึ่งวันค่ะ ถ้าขนออกมาไม่ได้ ก็จะเปิดพัดลมให้มันระบายอากาศ
5. เช็ดพื้นและทุกพื้นผิวที่ทำได้ด้วยเดตตอลค่ะ
6.ถ้าทุกอย่างเริ่มแห้ง และระบายออกไปบ้างแล้วเราแนะนำว่าให้เช็ดพวกเฟอร์นิเจอด้วยน้ำมันมะกอกอีกครั้งค่ะเช็ดบางๆ นี่เป็นเทคนิคที่คนขายเฟอร์นิเจอร์เขากันไม่ให้ราขึ้นค่ะ
7. สุดท้ายถ้าทำอย่างที่ว่าข้างต้นเรียบร้อย คิดว่าฆ่าเชื้อราได้แล้ว ก็ขนของกลับเข้าที่ค่ะ แต่เราต้องอย่าปล่อยให้รากลับมา หาสารดูดความชื้นมาวางตามจุดต่างๆที่คิดว่าอับชื้นมากๆค่ะ เราวางไว้ห้องละสองสามจุด
เราทำตามข้างต้น ตอนนี้เราอยู่ในห้องที่ราเคยขึ้นเมื่อเกือบปีก่อนได้สบายค่ะ แต่เราห้องเล็กนิดเดียวใช้เวลาจัดการสามวันเต็มคนเดียวค่ะเหนื่อยมากๆเลย
แต่คำแนะนำที่ดีที่สุด คือทิ้งเฟอร์นิเจอร์ทิ้งไปเลยค่ะ
สาเหตุมาจากห้องมีเชื้อราค่ะ อยู่ตามเฟอร์นิเจอที่เป็นไม้อัดทั้งหลาย ประตูไม้เราก็ราขึ้นค่ะ
วิธีแก้มีค่ะ ทุกวันนี้เราก็อยู่ห้องที่ว่าจนถึงทุกวันนี้แต่มันคือมหกรรมงานช้างเลย เราทำดังนี้ค่ะ
อุปกรณ์
- หน้ากากกันจมูก
- ทิชชู่ใหญ่หลายๆม้วนเลย
- เดทตอล
- น้ำมันมะกอก
- ผ้าเช็ด
- สารดูดความชื้น
ก่อนทำการใดๆขอให้เอาหน้ากากปิดจมูกมาใช้ก่อนค่ะ เชื้อมันอันตราย
1.ย้ายของทุกสิ่งอย่าง ของใช้ส่วนตัวออกไปจากห้องให้หมดถ้าเป็นพวกผ่า ให้ซักและล้างด้วยเดทตอลหรืออะไรก็ได้ที่ฆ่าเชื้อค่ะ
2. พวกของที่ขนออกมาก็เช็ดด้วยเดทตอลมาปาดครั้งเดียวทิ้งค่ะ อย่าไปเสียดาย การทูเช็ดวนไปมาจะทำให้เชื้อรายังคงอยู่ค่ะ
3. ใช้ทิชชูชุบเดทตอล และปาดเชื้อราทิ้งกับทุกพื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์ค่ะ รวมถึงข้างหลังตู้ ใต้ตู้ และซอกซอนต่างๆด้วย และย้ำเหมือนเดิมว่าปาดทิ้ง อย่าเช็ดวนๆค่ะรามันไม่หาย
4. เราเอาเฟอร์นิเจอที่พอขนออกมาได้ มาตากแดดสักหนึ่งวันค่ะ ถ้าขนออกมาไม่ได้ ก็จะเปิดพัดลมให้มันระบายอากาศ
5. เช็ดพื้นและทุกพื้นผิวที่ทำได้ด้วยเดตตอลค่ะ
6.ถ้าทุกอย่างเริ่มแห้ง และระบายออกไปบ้างแล้วเราแนะนำว่าให้เช็ดพวกเฟอร์นิเจอด้วยน้ำมันมะกอกอีกครั้งค่ะเช็ดบางๆ นี่เป็นเทคนิคที่คนขายเฟอร์นิเจอร์เขากันไม่ให้ราขึ้นค่ะ
7. สุดท้ายถ้าทำอย่างที่ว่าข้างต้นเรียบร้อย คิดว่าฆ่าเชื้อราได้แล้ว ก็ขนของกลับเข้าที่ค่ะ แต่เราต้องอย่าปล่อยให้รากลับมา หาสารดูดความชื้นมาวางตามจุดต่างๆที่คิดว่าอับชื้นมากๆค่ะ เราวางไว้ห้องละสองสามจุด
เราทำตามข้างต้น ตอนนี้เราอยู่ในห้องที่ราเคยขึ้นเมื่อเกือบปีก่อนได้สบายค่ะ แต่เราห้องเล็กนิดเดียวใช้เวลาจัดการสามวันเต็มคนเดียวค่ะเหนื่อยมากๆเลย
แต่คำแนะนำที่ดีที่สุด คือทิ้งเฟอร์นิเจอร์ทิ้งไปเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
กำจัดรา และความชื้นในห้องยังไงเหรอค่ะ
ปัจจุบัน อยู่ในอพาทเม้นค่ะ ใช้แอร์ ยี่ห้อ Daikin (ซึ่งสงสัยว่าแอร์ทำให้ห้องชื้นไหม) ห้องน้ำอยู่ในตัวห้องเหมือนอพาตเม้นทั่วไป
ตอนแรกก็พยายามเปิดผ้าม่านเอาไว้ให้แสงเข้าเวลาไม่อยู่ห้อง จะได้ลดความชื้นแต่ก็ยังไม่ช่วย
เปิดตู้เสื้อผ้าไว้บ้างเผื่อจะลดความชื้นในตู้เสื้อผ้าได้ แต่ก็ยังไม่ค่อยดีขึ้น
เลยอยากถามว่า ควรจะทำยังไงบ้างเหรอค่ะ ถึงจะลดความชื้นในห้องได้ นอกจากการซื้อเครื่องลดความชื้น