เรื่องยาวหน่อยนะครับ... แต่อยากให้อ่านกันจริงๆ
เหตุจากเมื่อวาน ผมขับรถกำลังจะเลี้ยวซ้ายเข้าคอนโด บังเอิญมีพี่วินมอเตอร์ไซค์มาจากไหนไม่ทราบ บิดแทรกซ้ายเพื่อจะแซง
ผมเปิดไฟเลี้ยวตั้งแต่เนิ่นๆ มั่นใจว่าเกินระยะ 30 เมตรแน่ๆ กำลังจะเลี้ยวซ้ายเข้าคอนโด
ด้วยความประมาทของผมด้วยส่วนหนึ่งที่ไม่ได้สังเกตกระจกมองข้างทางด้านซ้าย ไม่เห็นว่ามีมอเตอร์ไซค์กำลังจะแซงซ้าย
สรุปคือมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวประตูฝั่งคนนั่งด้านซ้าย ยาวไปถึงบังโคลนหน้า ปาดล้อแม็กไปหน่อยนึง
ด้วยความที่ผมโมโหมาก เปิดประตูรถลงไปได้ก็ตะโกนถามเลย ไม่เห็นผมเปิดไฟเลี้ยวเหรอ ทำไมยังแซงซ้ายมาอีก
พี่วินมอไซค์ก็ตอบหงอยๆว่าครับ ขอโทษครับ ผมเบรคไม่ทัน พอดีรีบ
ผมก็ไซโคต่อ รีบแล้วไง งั้นผมก็รีบเหมือนกันเนี่ย เข้าคอนโด พี่จะมาอ้างแบบนี้ไม่ได้
(พอผ่านช่วงเวลานั้นมา นั่งทำใจเย็นๆแล้ว ตอนนี้รู้สึกสงสาร พี่มอไซค์รถล้ม ผมไม่ได้ช่วยเลย ยืนตะโกนว่าพี่เค้าอย่างเดียว T^T)
ผมก็บอกให้เข้าไปเคลียร์กันข้างในคอนโดเพราะรถจอดกลางถนน ขวางรถคันอื่นอยู่
พอเข้ามาจอดในคอนโด ก็กำลังจะลงไปเคลียร์กัน พี่วินมอไซค์เดินมาทำหน้าจ๋อย บอกว่ากระจกข้างพี่ราคาเท่าไร ผมจ่ายเลยได้ไหม รถเค้าไม่มีประกัน
(สภาพหลังเฉี่ยวชนกัน กระจกพับไปอีกด้านหนึ่ง แต่ไม่หลุด ไม่เสียหาย)
ผมยังโมโหอยู่ เดือดหลายทีแล้วที่มอไซค์ชอบแซงซ้ายตอนผมกำลังจะเลี้ยวเข้าซอย ทั้งๆที่ก็เห็นว่าเปิดไฟเลี้ยวอยู่
ผมเลยบอกไปว่า กระจกราคาไม่กี่พันหรอก แต่สีรถเนี่ยสิพี่ ผมเคยชนแล้วทำสีมา หมดไปเป็นหมื่น พี่ไม่ต้องมาพูดไรอ่ะ ผมโทรหาประกันก่อน
พี่วินมอไซค์หน้าเสีย บอกขอเดินไปกดเงิน เติมเงิน หรืออะไรสักอย่าง ผมได้ยินไม่ถนัด ทิ้งรถมอเตอร์ไซค์ไว้ที่คอนโดพร้อมกุญแจรถ แล้วก็หายไปเลย
ผมก็โทรเรียกประกัน ไม่ได้สนใจพี่เค้า รอประกันมาเคลียร์อย่างเดียว จนประกันมา ถ่ายรูปรถ ร่องรอยความเสียหาย พร้อมทั้งรถคู่กรณี
เบื้องต้นประกันบอกว่าเป็นเคสประมาทร่วม เราเสียเปรียบหรือได้เปรียบในช่องทาง อะไรสักอย่าง ไม่แน่ใจ
จากนั้นก็แต่รอคู่กรณีกลับมาเพื่อเคลียร์เรื่องอุบัติเหตุ เหตุเกิดประมาณ 17.30 จนกระทั่ง 18.30 พี่วินก็ยังไม่มา
จนผมและประกันตัดสินใจ คิดว่าวินมอเตอร์ไซค์คงจะหนีแน่ๆ เลยไปลงบันทึกประจำวันที่ สน. เพื่อผมจะได้ปิดเคส รับใบเคลม แล้วทำธุระส่วนตัวต่อ
ผลสรุปคือ หลังจากลงบันทึกประจำวันเรียบร้อย ทางประกันได้ตัดสินว่าเคสนี้ผมเป็นฝ่ายถูกเลย เพราะมอเตอร์ไซค์หลบหนี
ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผมทราบมาว่าหากเราเป็นฝ่ายถูกและมีคู่กรณี ทางประกันจะจัดเก็บค่าใช้จ่ายกับคู่กรณีแทน ซึ่ง
พี่วินมอไซค์ไม่มีประกัน
กลับมาถึงคอนโด 20.30น. มอไซค์พี่วินก็ยังจอดอยู่ที่เดิม แต่ไร้วี่แววของพี่วินมอไซค์
ยามของคอนโดจึงได้นำมอเตอร์ไซค์ไปจอดไว้ และผมได้ให้ยามช่วยจดชื่อ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ของวินมอไซค์ หากวินมอไซค์มาเอารถ
จนวันนี้ผมกลับมาจากมหาลัย กำลังจะขึ้นห้อง ยามก็ได้เรียกให้ไปติดต่อนิติบุคคล ได้สำเนาใบขับขี่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ของพี่วินมอไซค์
ผมจึงโทรศัพท์ไปหาคุณแม่ เล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมด คุณแม่บอกว่าสงสารวินมอไซค์ อะไรอลุ่มอล่วยได้ก็ควรใจเย็น ไม่ควรไปใช้อารมณ์กับเค้าขนาดนั้น
ผมเลยให้เบอร์โทรศัพท์พี่วินมอไซค์กับคุณแม่ของผมไป
หลังจากนั้นคุณแม่ของผมได้โทรมาบอกว่า วินมอไซค์ได้ให้เบอร์โทรศัพท์คุณแม่ของเค้าไว้
แล้วเมื่อวานที่เค้าหายไปเพราะเค้าเดินกลับบ้าน ไปบอกแม่ จะเอาเงินเป็นหมื่นๆ ซึ่งเค้าไม่มี ไม่รู้จะทำอย่างไร
(อันนี้ผมผิดเอง เป็นความผิดพลาดจากการสื่อสาร ด้วยความที่ผมใช้อารมณ์ไปด้วย ผมจึงบอกว่าค่าทำสีเคยทำมาเป็นหมื่นๆ เจตนาของผมคืออยากให้วินมอไซค์เคลียร์กับประกัน ไม่ได้มีเจตนาจะเอาเงินใครเป็นหมื่นๆมาซ่อมรถ เพราะเหมือนผมเคยได้ยินว่า หากรถใหญ่ชนรถเล็ก รถใหญ่ยังไงก็ผิด ผมก็เลยไม่ทราบว่าผมผิดหรือไม่ แล้วทางประกันจะตัดสินอุบัติเหตุดังกล่าวอย่างไร อยากให้ทางวินมอไซค์เคลียร์กับประกันของผมเอง)
ตอนนี้ผมไม่สบายใจมาก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากใจเย็นกว่านี้ พูดกับพี่วินมอไซค์ดีๆ
รู้อย่างนี้ผมยอมเป็นฝ่ายผิด ให้เบี้ยประกันปีหน้าเพิ่มดีกว่า
ตอนนี้ผมเลยอยากมาเล่าเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ หลายครั้งที่ผมขับรถมาแล้วพี่มอไซค์ไม่เคยจอดชะลอดูรถเลย คิดจะออกจากซอยก็ออก
บางคันกระจกบิดเข้าส่องหาตัว เค้ามีกระจกมาให้ส่องด้านข้าง ก็ใช้ส่องดูรถเถอะครับ จะเปลี่ยนเลน พี่คิดอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยน
คนขับรถใหญ่ ปลอดภัยจริง แต่บางทีก็เดาใจไม่ไหว อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดหรอกครับ ทุกครั้งที่ผมขับรถ ผมพยายามชะลอตรงบริเวณปากซอยตลอด
ไม่รู้ว่าจะออกมาจากปากซอยตอนไหน บางทีรถติดๆอยู่ พี่ก็ขี่มุดกันมันส์เลย กระจกข้างผมโดนข้อศอกพี่ บิดกันเพลินเป็นของเล่นเลยครับ
ไฟเลี้ยวมอเตอร์ไซค์ก็สำคัญครับ เปิดเถอะครับพี่ครับ จะเปลี่ยนเลนน่ะ ผมเดาใจไม่ไหว ปวดสมองเหลือเกิน ไม่รู้พี่จะปาดไปไหนบ้าง
ส่วนตัวผมขับทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ครับ ใจเขาใจเรา
ผมขับรถยนต์ ผมก็พยายามระวังมอเตอร์ไซค์เสมอ ต้องคอยเดาใจตลอด ชะลอรถทุกครั้งที่ผ่านปากซอย
เวลาขี่มอเตอร์ไซค์ ถ้ารู้คันหน้าเปิดไฟเลี้ยวซ้าย ผมก็ตีไฟเลี้ยวออกขวาตั้งแต่เนิ่นๆ รู้ว่าไปไม่ได้ เบรคแล้วจอดก่อนครับ ไม่ใช่ปาดหน้ารถคันอื่น
ให้รถยนต์ต้องมาเบรคกระทันหันเอา จะเลี้ยว จะเปลี่ยนเลน ผมเปิดไฟเลี้ยวทุกครั้ง
พยายามอยู่ในเลนมอไซค์ ไม่ให้เกะกะรถยนต์ บางทีเข้าใจครับถนนมีสองเลน เลนมอไซค์ก็ไม่มี จะวิ่งชิดซ้าย บางวันเจอรถยนต์จอดข้างทางเปิดประตูรถไม่มอง เกือบเฉี่ยวก็มี
พอจะขี่ด้านขวา รถใหญ่ก็บีบแตรไล่อีก ยังไงก็ขับขี่ด้วยความระมัดระวังกันด้วยนะครับ
ปล. ขอแท็กรัชดา เกี่ยวกับเรื่องขับขี่รถ จราจรบนท้องถนน
ขอแท็กศาลาประชาคม ขอสอบถามเรื่องประกันหน่อยนะครับ หากผมถูกเคลมว่าเป็นฝ่ายถูกแล้ว เกิดกรณีแบบนี้ขึ้น
ผมไม่อยากให้มอไซค์ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ สงสารพี่วินมอเตอร์ไซค์ ผมสามารถทำอย่างไรได้บ้างครับ? ไม่สบายเลยจริงๆ
รบกวนพี่คนขับมอเตอร์ไซค์ อย่าปาด อย่าแทรก อย่าพยายามมุด เสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเลยครับ
เหตุจากเมื่อวาน ผมขับรถกำลังจะเลี้ยวซ้ายเข้าคอนโด บังเอิญมีพี่วินมอเตอร์ไซค์มาจากไหนไม่ทราบ บิดแทรกซ้ายเพื่อจะแซง
ผมเปิดไฟเลี้ยวตั้งแต่เนิ่นๆ มั่นใจว่าเกินระยะ 30 เมตรแน่ๆ กำลังจะเลี้ยวซ้ายเข้าคอนโด
ด้วยความประมาทของผมด้วยส่วนหนึ่งที่ไม่ได้สังเกตกระจกมองข้างทางด้านซ้าย ไม่เห็นว่ามีมอเตอร์ไซค์กำลังจะแซงซ้าย
สรุปคือมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวประตูฝั่งคนนั่งด้านซ้าย ยาวไปถึงบังโคลนหน้า ปาดล้อแม็กไปหน่อยนึง
ด้วยความที่ผมโมโหมาก เปิดประตูรถลงไปได้ก็ตะโกนถามเลย ไม่เห็นผมเปิดไฟเลี้ยวเหรอ ทำไมยังแซงซ้ายมาอีก
พี่วินมอไซค์ก็ตอบหงอยๆว่าครับ ขอโทษครับ ผมเบรคไม่ทัน พอดีรีบ
ผมก็ไซโคต่อ รีบแล้วไง งั้นผมก็รีบเหมือนกันเนี่ย เข้าคอนโด พี่จะมาอ้างแบบนี้ไม่ได้
(พอผ่านช่วงเวลานั้นมา นั่งทำใจเย็นๆแล้ว ตอนนี้รู้สึกสงสาร พี่มอไซค์รถล้ม ผมไม่ได้ช่วยเลย ยืนตะโกนว่าพี่เค้าอย่างเดียว T^T)
ผมก็บอกให้เข้าไปเคลียร์กันข้างในคอนโดเพราะรถจอดกลางถนน ขวางรถคันอื่นอยู่
พอเข้ามาจอดในคอนโด ก็กำลังจะลงไปเคลียร์กัน พี่วินมอไซค์เดินมาทำหน้าจ๋อย บอกว่ากระจกข้างพี่ราคาเท่าไร ผมจ่ายเลยได้ไหม รถเค้าไม่มีประกัน
(สภาพหลังเฉี่ยวชนกัน กระจกพับไปอีกด้านหนึ่ง แต่ไม่หลุด ไม่เสียหาย)
ผมยังโมโหอยู่ เดือดหลายทีแล้วที่มอไซค์ชอบแซงซ้ายตอนผมกำลังจะเลี้ยวเข้าซอย ทั้งๆที่ก็เห็นว่าเปิดไฟเลี้ยวอยู่
ผมเลยบอกไปว่า กระจกราคาไม่กี่พันหรอก แต่สีรถเนี่ยสิพี่ ผมเคยชนแล้วทำสีมา หมดไปเป็นหมื่น พี่ไม่ต้องมาพูดไรอ่ะ ผมโทรหาประกันก่อน
พี่วินมอไซค์หน้าเสีย บอกขอเดินไปกดเงิน เติมเงิน หรืออะไรสักอย่าง ผมได้ยินไม่ถนัด ทิ้งรถมอเตอร์ไซค์ไว้ที่คอนโดพร้อมกุญแจรถ แล้วก็หายไปเลย
ผมก็โทรเรียกประกัน ไม่ได้สนใจพี่เค้า รอประกันมาเคลียร์อย่างเดียว จนประกันมา ถ่ายรูปรถ ร่องรอยความเสียหาย พร้อมทั้งรถคู่กรณี
เบื้องต้นประกันบอกว่าเป็นเคสประมาทร่วม เราเสียเปรียบหรือได้เปรียบในช่องทาง อะไรสักอย่าง ไม่แน่ใจ
จากนั้นก็แต่รอคู่กรณีกลับมาเพื่อเคลียร์เรื่องอุบัติเหตุ เหตุเกิดประมาณ 17.30 จนกระทั่ง 18.30 พี่วินก็ยังไม่มา
จนผมและประกันตัดสินใจ คิดว่าวินมอเตอร์ไซค์คงจะหนีแน่ๆ เลยไปลงบันทึกประจำวันที่ สน. เพื่อผมจะได้ปิดเคส รับใบเคลม แล้วทำธุระส่วนตัวต่อ
ผลสรุปคือ หลังจากลงบันทึกประจำวันเรียบร้อย ทางประกันได้ตัดสินว่าเคสนี้ผมเป็นฝ่ายถูกเลย เพราะมอเตอร์ไซค์หลบหนี
ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผมทราบมาว่าหากเราเป็นฝ่ายถูกและมีคู่กรณี ทางประกันจะจัดเก็บค่าใช้จ่ายกับคู่กรณีแทน ซึ่งพี่วินมอไซค์ไม่มีประกัน
กลับมาถึงคอนโด 20.30น. มอไซค์พี่วินก็ยังจอดอยู่ที่เดิม แต่ไร้วี่แววของพี่วินมอไซค์
ยามของคอนโดจึงได้นำมอเตอร์ไซค์ไปจอดไว้ และผมได้ให้ยามช่วยจดชื่อ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ของวินมอไซค์ หากวินมอไซค์มาเอารถ
จนวันนี้ผมกลับมาจากมหาลัย กำลังจะขึ้นห้อง ยามก็ได้เรียกให้ไปติดต่อนิติบุคคล ได้สำเนาใบขับขี่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ของพี่วินมอไซค์
ผมจึงโทรศัพท์ไปหาคุณแม่ เล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมด คุณแม่บอกว่าสงสารวินมอไซค์ อะไรอลุ่มอล่วยได้ก็ควรใจเย็น ไม่ควรไปใช้อารมณ์กับเค้าขนาดนั้น
ผมเลยให้เบอร์โทรศัพท์พี่วินมอไซค์กับคุณแม่ของผมไป
หลังจากนั้นคุณแม่ของผมได้โทรมาบอกว่า วินมอไซค์ได้ให้เบอร์โทรศัพท์คุณแม่ของเค้าไว้
แล้วเมื่อวานที่เค้าหายไปเพราะเค้าเดินกลับบ้าน ไปบอกแม่ จะเอาเงินเป็นหมื่นๆ ซึ่งเค้าไม่มี ไม่รู้จะทำอย่างไร
(อันนี้ผมผิดเอง เป็นความผิดพลาดจากการสื่อสาร ด้วยความที่ผมใช้อารมณ์ไปด้วย ผมจึงบอกว่าค่าทำสีเคยทำมาเป็นหมื่นๆ เจตนาของผมคืออยากให้วินมอไซค์เคลียร์กับประกัน ไม่ได้มีเจตนาจะเอาเงินใครเป็นหมื่นๆมาซ่อมรถ เพราะเหมือนผมเคยได้ยินว่า หากรถใหญ่ชนรถเล็ก รถใหญ่ยังไงก็ผิด ผมก็เลยไม่ทราบว่าผมผิดหรือไม่ แล้วทางประกันจะตัดสินอุบัติเหตุดังกล่าวอย่างไร อยากให้ทางวินมอไซค์เคลียร์กับประกันของผมเอง)
ตอนนี้ผมไม่สบายใจมาก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากใจเย็นกว่านี้ พูดกับพี่วินมอไซค์ดีๆ
รู้อย่างนี้ผมยอมเป็นฝ่ายผิด ให้เบี้ยประกันปีหน้าเพิ่มดีกว่า
ตอนนี้ผมเลยอยากมาเล่าเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ หลายครั้งที่ผมขับรถมาแล้วพี่มอไซค์ไม่เคยจอดชะลอดูรถเลย คิดจะออกจากซอยก็ออก
บางคันกระจกบิดเข้าส่องหาตัว เค้ามีกระจกมาให้ส่องด้านข้าง ก็ใช้ส่องดูรถเถอะครับ จะเปลี่ยนเลน พี่คิดอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยน
คนขับรถใหญ่ ปลอดภัยจริง แต่บางทีก็เดาใจไม่ไหว อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดหรอกครับ ทุกครั้งที่ผมขับรถ ผมพยายามชะลอตรงบริเวณปากซอยตลอด
ไม่รู้ว่าจะออกมาจากปากซอยตอนไหน บางทีรถติดๆอยู่ พี่ก็ขี่มุดกันมันส์เลย กระจกข้างผมโดนข้อศอกพี่ บิดกันเพลินเป็นของเล่นเลยครับ
ไฟเลี้ยวมอเตอร์ไซค์ก็สำคัญครับ เปิดเถอะครับพี่ครับ จะเปลี่ยนเลนน่ะ ผมเดาใจไม่ไหว ปวดสมองเหลือเกิน ไม่รู้พี่จะปาดไปไหนบ้าง
ส่วนตัวผมขับทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ครับ ใจเขาใจเรา
ผมขับรถยนต์ ผมก็พยายามระวังมอเตอร์ไซค์เสมอ ต้องคอยเดาใจตลอด ชะลอรถทุกครั้งที่ผ่านปากซอย
เวลาขี่มอเตอร์ไซค์ ถ้ารู้คันหน้าเปิดไฟเลี้ยวซ้าย ผมก็ตีไฟเลี้ยวออกขวาตั้งแต่เนิ่นๆ รู้ว่าไปไม่ได้ เบรคแล้วจอดก่อนครับ ไม่ใช่ปาดหน้ารถคันอื่น
ให้รถยนต์ต้องมาเบรคกระทันหันเอา จะเลี้ยว จะเปลี่ยนเลน ผมเปิดไฟเลี้ยวทุกครั้ง
พยายามอยู่ในเลนมอไซค์ ไม่ให้เกะกะรถยนต์ บางทีเข้าใจครับถนนมีสองเลน เลนมอไซค์ก็ไม่มี จะวิ่งชิดซ้าย บางวันเจอรถยนต์จอดข้างทางเปิดประตูรถไม่มอง เกือบเฉี่ยวก็มี
พอจะขี่ด้านขวา รถใหญ่ก็บีบแตรไล่อีก ยังไงก็ขับขี่ด้วยความระมัดระวังกันด้วยนะครับ
ปล. ขอแท็กรัชดา เกี่ยวกับเรื่องขับขี่รถ จราจรบนท้องถนน
ขอแท็กศาลาประชาคม ขอสอบถามเรื่องประกันหน่อยนะครับ หากผมถูกเคลมว่าเป็นฝ่ายถูกแล้ว เกิดกรณีแบบนี้ขึ้น
ผมไม่อยากให้มอไซค์ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ สงสารพี่วินมอเตอร์ไซค์ ผมสามารถทำอย่างไรได้บ้างครับ? ไม่สบายเลยจริงๆ