ที่ผ่านมาเราเป็นคนที่ค่อนข้างจะเจ้าชู้ เราคบซ้อนมาตลอด แฟนคนที่ผ่านๆมาที่ต้องเลิกกันก็เพราะความเจ้าชู้ของเราตลอด
รักพี่เสียดายน้อง คนนั้นก็นิสัยดี คนนี้ก็ตรงสเป็ค เวลาเราคบใครเราจะไม่ค่อยเปิดเผยเท่าไร คนอื่นเลยมักจะคิดว่าเราโสด เลยมีคนเข้ามาจีบเรื่อยๆ
แต่เราไม่ได้ไปมีไรกับใครน่ะ เราไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้สำคัญเท่าไร ก็แค่คุยอย่างเดียว ต่อมาก็มีรุ่นพี่คนนึงตามจีบเรา เรียนที่เดียวกัน มาตามจีบอยู่ 2ปี
แต่เราไม่ค่อยชอบเท่าไรเพราะแกไม่ตรงสเป็ค แต่เราก็คุยๆด้วยเพราะพี่เค้านิสัยดี คุยได้ซักพักก็มีอีกคนนึง โทรมาจีบ แบบที่ได้เราไม่ได้ให้เบอร์น่ะ
เค้าไปเอาเบอร์มาจากเพื่อนเราอีกที คุยทางโทรศัพท์ได้ซักพักเค้าก็มาดัดเจอที่หน้าบ้าน คือแบบเจอกันครั้งแรกไอนี้มันตรงสเป็คเลยอ่ะ หล่อ สูง ยาวเข่าดี
555 ใจเราก็เอนเอียงไปทางผู้ชายคนนี้ทันที ทั้งๆทีตอนนี้เราก็มีพี่คนนั้นที่คุยกันอยู่แล้ว แต่เราก็ยังไปตกลงคบกันผู้ชายอีกคนหน้าตาเฉย
ควบสองไปได้ซักพัก ก็อย่างที่เค้าบอกว่าความลับไม่มีในโลก สองคนนี้รู้แล้วว่าเราคบซ้อน ทั้งสองพยายามจะให้เราตัดสินใจเลือกใครซักคน
เราก็เลยตัดสินใจเลือกคนใหม่ไป เพราะมันตรงสเป็คอ่ะ แต่ก็ยังติดต่อกับพี่คนนั้นอยู่ตลอดน่ะ เพราะคิดว่าก็ยังเป็นพี่น้องกันได้
คราวนี้พอตัดสินใจมาคบกับผู้ชายคนนี้ เค้าโอเคมากเลยน่ะ ดูไม่เจ้าชู้ เอาใจใส่เทคเเคร์เราดี ไม่ค่อยมีปัญหากันเพราะเค้ายอมเราตลอด
ไม่เคยด่าเคยเถียงเวลาเราโมโห ไม่ค่อยจะห่างกัน ตัวติดกันยังกับปลาท่องโก๋ เราไว้ใจเค้ามาก คิดว่าคนนี้แหละคู่ชีวิต เราเลยถอดเขี้ยวถอดเล็บ
กะว่าชีวิตนี้จะไม่เจ้าชู้อีกแล้ว เจอคนดีแล้วคิดว่าต้องรักษาเค้าไว้ ใช้ชีวิตอยู๋ด้วยกันคบกันมาจน เกือบ 4 ปี เริ่มมีปัญหากัน เพราะเค้าต้องออกไปฝึกสอน
เราอยากให้เค้าอยู๋ใกล้ๆ แต่เค้าอยากไปไกลๆ เราก็เริ่มทะเลาะกัน สรุปแล้วเค้าก็ได้ไปไกลสมใจเค้า ก่อนไปก็มีปัญหาทะเลาะกันตลอด
จนเราทนไม่ได้บอกเลิกเค้าไป ที่จริงที่พูดไปก็แค่ประชดอ่ะน่ะ เพราะเวลาทะเลาะกันเราท้าเลิกตลอดอยู่แล้ว เราไม่คิดว่ามันจะไปจริงๆ
ทุกครั้งไม่เกินชั่วโมงมันก็ต้องมาง้อแล้ว แต่คราวนี้ไม่ มันไปจริงๆ เราตั้งสติได้โทรไปง้อมัน มันบอกว่า มันสายไปแล้ว มันรับไม่ได้ที่เราจู้จี้ขี้บ่น
กดดันชีวิตมัน วางแผนชีวิตให้มันมากเกินไป ทั้งๆที่เราหวังดีกับมัน มันมองว่าความหวังดีของเราเป็นเรื่องน่าเบื่อ น่ารำคาญ
เราได้ยินมันพูดมาแบบนั้น น้ำตาร่วงเลยอ่ะ แถมยังมารู้ทีหลังว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มันเเอบนอกใจไปมีคนอื่นตั้งหลายคน แถมบางคนก็เป็นเพื่อนมัน ที่เรารู้จักแท้ๆ มันก็ยังเเอบไปกินกันได้ ไปแข่งกีฬาต่างจังหวัด ก็ได้ไม่ต่ำกว่า 2 คน คือมันไปมีคนอื่นแบบที่เราไม่รู้เลย ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา โทรคุยกันตลอด คิดเสมอว่าเรามีมันคนเดียว มันก็คงไม่นอกใจเรา แต่ที่ไหนได้มันหนักกว่าเราอีก มันเหมือนเวกรรมตามสนองยังไงก็ไม่รู้ เจ็บสุดๆรักมันมาก เราใช้เวลาทำใจซักพักนึง
เราก็ไปฝึกงาน ก็ไปเจอผู้ชายอีกคนนึง เค้าเป็นตำรวจ อายุห่างกันพอสมควร มาตามจีบตอนแรกก็ไม่ได้คิดไรหรอก แต่คุยไปคุยมาก็โอเค
เป็นผู้ใหญ่ใจเย็น หน้าตาโอเค ไปไหนมาไหนมีของติดไม้ติดมือมาฝากตลอด เป็นที่ปรึกษาให้เราได้ทุกเรื่อง ตอนนั้นคิดว่าอาการอกหักเริ่มจะดีขึ้นแล้ว
คุยได้เดือนนึง ถึงรู้ว่าเค้ามีเมียแล้ว เอ่ออออ แบบว่าเจ็บซ้ำอ่ะตอนนั้น แต่ก็เลิกคุยกันไม่ได้อ่ะ ไม่ร็เป็นไรก็เลยคุยคุยกันไปเรื่อยๆ จนเราฝึกงานเสร็จ
ก็ไปอยู่กรุงเทพ ก็ไปเจอผู้ชายอีกคนนึง เป็นวิศวะกร อายุเท่ากับคุณตำรวจคนที่ผ่านมา หน้าตาก็ธรรมดา ไม่หล่อ ไม่ใช่สเป็คเลย แต่ก็ลองคุยๆดู
คุยกันได้ซักพักเค้าก็จับได้ว่าเราเเอบติดต่อกับคุณตำรวจ เค้าเลยยื่นคำขาดให้เรามาว่าถ้ายังอยากคบกับเค้าให้เลิกติดต่อกับคนเก่าให้หมด
ด้วยความที่เราเห็นเเววตาเค้าแล้วมันก็อดสงสารไม่ได้เลย เลิกติดต่อหมดทุกคนเลย คุยกันจนเรากลับมาเรียนเค้าก็มาสารภาพกับเราว่า
เค้ามีลูกแล้ว แต่เค้าบอกว่าเป็นลูกของลูกพี่ลูกน้องเค้า ที่ท้องเเล้วผู้ชายไม่รับผิดชอบ เค้าเลยสงสารรับเป็นพ่อเด็กให้ คือแบบ
จะมาบอกอย่างนี้แล้วให้เราเชื่อเลยนี่มันก็ยากอยู่น่ะ ตะขิดตะขวางใจอยู่ตลอดเวลา คือถ้าเป็นลูกเค้าจริงๆก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ขอแค่ให้เค้าพูดกับเราตรงๆ
คือกับคนนี้คุยกันได้เฉพาะกลางวันเวลาทำงาน ตอนเย็นถ้าเค้ากลับบ้านไปแล้วนอกจากเค้าจะออกมาข้างนอกเค้าจะไม่เคยโทรมาหาเราเลยถ้าอยู่บ้าน
หรือถ้าโทรมาก็จะเเค่ ไม่กี่วิก็วาง เราก็สงสัยอยู่น่ะว่ามันใช่เหรอ เค้าก็บอกต้องเลี้ยงลูกช่วยแม่เค้า ป้อนนมลูกบ้างอะไรบ้าง คือสรุปแล้วถ้าเค้าอยู่บ้าน
คุยไม่ได้ เรานี่โคตรสงสัย คาใจ บลาๆๆๆๆๆ มันมีเซ้นบางอย่างบอกว่ามันมีอะไรมากกว่านี้ เเต่ก็พยายามใช้สติ ไม่อยากวู่วาม
ถ้ามันเป็นอย่างที่คิดก็คงต้องทำใจ หนีไปบวชชีแล้วล่ะ อกหักบ่อยเกินนน T____T
เจ็บพอรึยัง
รักพี่เสียดายน้อง คนนั้นก็นิสัยดี คนนี้ก็ตรงสเป็ค เวลาเราคบใครเราจะไม่ค่อยเปิดเผยเท่าไร คนอื่นเลยมักจะคิดว่าเราโสด เลยมีคนเข้ามาจีบเรื่อยๆ
แต่เราไม่ได้ไปมีไรกับใครน่ะ เราไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้สำคัญเท่าไร ก็แค่คุยอย่างเดียว ต่อมาก็มีรุ่นพี่คนนึงตามจีบเรา เรียนที่เดียวกัน มาตามจีบอยู่ 2ปี
แต่เราไม่ค่อยชอบเท่าไรเพราะแกไม่ตรงสเป็ค แต่เราก็คุยๆด้วยเพราะพี่เค้านิสัยดี คุยได้ซักพักก็มีอีกคนนึง โทรมาจีบ แบบที่ได้เราไม่ได้ให้เบอร์น่ะ
เค้าไปเอาเบอร์มาจากเพื่อนเราอีกที คุยทางโทรศัพท์ได้ซักพักเค้าก็มาดัดเจอที่หน้าบ้าน คือแบบเจอกันครั้งแรกไอนี้มันตรงสเป็คเลยอ่ะ หล่อ สูง ยาวเข่าดี
555 ใจเราก็เอนเอียงไปทางผู้ชายคนนี้ทันที ทั้งๆทีตอนนี้เราก็มีพี่คนนั้นที่คุยกันอยู่แล้ว แต่เราก็ยังไปตกลงคบกันผู้ชายอีกคนหน้าตาเฉย
ควบสองไปได้ซักพัก ก็อย่างที่เค้าบอกว่าความลับไม่มีในโลก สองคนนี้รู้แล้วว่าเราคบซ้อน ทั้งสองพยายามจะให้เราตัดสินใจเลือกใครซักคน
เราก็เลยตัดสินใจเลือกคนใหม่ไป เพราะมันตรงสเป็คอ่ะ แต่ก็ยังติดต่อกับพี่คนนั้นอยู่ตลอดน่ะ เพราะคิดว่าก็ยังเป็นพี่น้องกันได้
คราวนี้พอตัดสินใจมาคบกับผู้ชายคนนี้ เค้าโอเคมากเลยน่ะ ดูไม่เจ้าชู้ เอาใจใส่เทคเเคร์เราดี ไม่ค่อยมีปัญหากันเพราะเค้ายอมเราตลอด
ไม่เคยด่าเคยเถียงเวลาเราโมโห ไม่ค่อยจะห่างกัน ตัวติดกันยังกับปลาท่องโก๋ เราไว้ใจเค้ามาก คิดว่าคนนี้แหละคู่ชีวิต เราเลยถอดเขี้ยวถอดเล็บ
กะว่าชีวิตนี้จะไม่เจ้าชู้อีกแล้ว เจอคนดีแล้วคิดว่าต้องรักษาเค้าไว้ ใช้ชีวิตอยู๋ด้วยกันคบกันมาจน เกือบ 4 ปี เริ่มมีปัญหากัน เพราะเค้าต้องออกไปฝึกสอน
เราอยากให้เค้าอยู๋ใกล้ๆ แต่เค้าอยากไปไกลๆ เราก็เริ่มทะเลาะกัน สรุปแล้วเค้าก็ได้ไปไกลสมใจเค้า ก่อนไปก็มีปัญหาทะเลาะกันตลอด
จนเราทนไม่ได้บอกเลิกเค้าไป ที่จริงที่พูดไปก็แค่ประชดอ่ะน่ะ เพราะเวลาทะเลาะกันเราท้าเลิกตลอดอยู่แล้ว เราไม่คิดว่ามันจะไปจริงๆ
ทุกครั้งไม่เกินชั่วโมงมันก็ต้องมาง้อแล้ว แต่คราวนี้ไม่ มันไปจริงๆ เราตั้งสติได้โทรไปง้อมัน มันบอกว่า มันสายไปแล้ว มันรับไม่ได้ที่เราจู้จี้ขี้บ่น
กดดันชีวิตมัน วางแผนชีวิตให้มันมากเกินไป ทั้งๆที่เราหวังดีกับมัน มันมองว่าความหวังดีของเราเป็นเรื่องน่าเบื่อ น่ารำคาญ
เราได้ยินมันพูดมาแบบนั้น น้ำตาร่วงเลยอ่ะ แถมยังมารู้ทีหลังว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มันเเอบนอกใจไปมีคนอื่นตั้งหลายคน แถมบางคนก็เป็นเพื่อนมัน ที่เรารู้จักแท้ๆ มันก็ยังเเอบไปกินกันได้ ไปแข่งกีฬาต่างจังหวัด ก็ได้ไม่ต่ำกว่า 2 คน คือมันไปมีคนอื่นแบบที่เราไม่รู้เลย ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา โทรคุยกันตลอด คิดเสมอว่าเรามีมันคนเดียว มันก็คงไม่นอกใจเรา แต่ที่ไหนได้มันหนักกว่าเราอีก มันเหมือนเวกรรมตามสนองยังไงก็ไม่รู้ เจ็บสุดๆรักมันมาก เราใช้เวลาทำใจซักพักนึง
เราก็ไปฝึกงาน ก็ไปเจอผู้ชายอีกคนนึง เค้าเป็นตำรวจ อายุห่างกันพอสมควร มาตามจีบตอนแรกก็ไม่ได้คิดไรหรอก แต่คุยไปคุยมาก็โอเค
เป็นผู้ใหญ่ใจเย็น หน้าตาโอเค ไปไหนมาไหนมีของติดไม้ติดมือมาฝากตลอด เป็นที่ปรึกษาให้เราได้ทุกเรื่อง ตอนนั้นคิดว่าอาการอกหักเริ่มจะดีขึ้นแล้ว
คุยได้เดือนนึง ถึงรู้ว่าเค้ามีเมียแล้ว เอ่ออออ แบบว่าเจ็บซ้ำอ่ะตอนนั้น แต่ก็เลิกคุยกันไม่ได้อ่ะ ไม่ร็เป็นไรก็เลยคุยคุยกันไปเรื่อยๆ จนเราฝึกงานเสร็จ
ก็ไปอยู่กรุงเทพ ก็ไปเจอผู้ชายอีกคนนึง เป็นวิศวะกร อายุเท่ากับคุณตำรวจคนที่ผ่านมา หน้าตาก็ธรรมดา ไม่หล่อ ไม่ใช่สเป็คเลย แต่ก็ลองคุยๆดู
คุยกันได้ซักพักเค้าก็จับได้ว่าเราเเอบติดต่อกับคุณตำรวจ เค้าเลยยื่นคำขาดให้เรามาว่าถ้ายังอยากคบกับเค้าให้เลิกติดต่อกับคนเก่าให้หมด
ด้วยความที่เราเห็นเเววตาเค้าแล้วมันก็อดสงสารไม่ได้เลย เลิกติดต่อหมดทุกคนเลย คุยกันจนเรากลับมาเรียนเค้าก็มาสารภาพกับเราว่า
เค้ามีลูกแล้ว แต่เค้าบอกว่าเป็นลูกของลูกพี่ลูกน้องเค้า ที่ท้องเเล้วผู้ชายไม่รับผิดชอบ เค้าเลยสงสารรับเป็นพ่อเด็กให้ คือแบบ
จะมาบอกอย่างนี้แล้วให้เราเชื่อเลยนี่มันก็ยากอยู่น่ะ ตะขิดตะขวางใจอยู่ตลอดเวลา คือถ้าเป็นลูกเค้าจริงๆก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ขอแค่ให้เค้าพูดกับเราตรงๆ
คือกับคนนี้คุยกันได้เฉพาะกลางวันเวลาทำงาน ตอนเย็นถ้าเค้ากลับบ้านไปแล้วนอกจากเค้าจะออกมาข้างนอกเค้าจะไม่เคยโทรมาหาเราเลยถ้าอยู่บ้าน
หรือถ้าโทรมาก็จะเเค่ ไม่กี่วิก็วาง เราก็สงสัยอยู่น่ะว่ามันใช่เหรอ เค้าก็บอกต้องเลี้ยงลูกช่วยแม่เค้า ป้อนนมลูกบ้างอะไรบ้าง คือสรุปแล้วถ้าเค้าอยู่บ้าน
คุยไม่ได้ เรานี่โคตรสงสัย คาใจ บลาๆๆๆๆๆ มันมีเซ้นบางอย่างบอกว่ามันมีอะไรมากกว่านี้ เเต่ก็พยายามใช้สติ ไม่อยากวู่วาม
ถ้ามันเป็นอย่างที่คิดก็คงต้องทำใจ หนีไปบวชชีแล้วล่ะ อกหักบ่อยเกินนน T____T