ตะลอน ภูกระดึง-เชียงคาน แบบปลายฝนต้นหนาว ^^

มีโอกาสตะลอนภูกระดึง-เชียงคานสักที จากที่ใฝ่ฝันอยากเดินขึ้นภูกระดึงแบบวัดใจกับใครสักคน ^^

ยอบรับเลยค่ะว่า..หายอยาก จะด้วยอายุก็ดี สุขภาพก็ดี แต่รู้สึกมีความสุขมากที่ได้ทำตามเป้าหมาย ก่อนชราภาพไปกว่านี้
เป็นการรีวิวในพันทิปเกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยวครั้งแรก ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ

เริ่มต้นจากวันที่ 2 พย. ที่ผ่านมา
นั่งเครื่องจากสนามบินดอนเมือง - สนามบินจังหวัดเลย พนักงานที่ขับเครื่องบิน เป็นผู้หญิงคู่เลยค่ะ เป็นต่างชาติ 1 ท่าน และ คนไทย 1 ท่าน



โดยนัดรถของรีสอร์ทมารับแล้วไปนอนที่แถวผานกเค้า เพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้สะดวกแก่การไปขึ้นภูกระดึงค่ะ



ซึ่งใกล้ ๆ รีสอร์ทจะมีจุดชมวิวด้านบนค่ะ มองเห็นภูกระดึงชัดเจน



พอเช้า วันที่ 3 พย. เวลา 6.30 น. เราก็เดินทางออกจากรีสอร์ทค่ะ ไปหาอะไรทานรองท้องที่ทำการอุทยาน จะเดินไกลไม่กล้าทานเยอะ
ซึ่งมีร้านให้เลือกทานหลายร้านค่ะ แล้วก็เอากระเป๋าไปชั่งน้ำหนักเพื่อจ้างลูกหาบแบกขึ้นไป โดนไป 14 กก. เค้าคิด กก.ละ 30 บาท ขึ้นลงเกือบพัน Y_Y
(กระเป๋าใบใหญ่มากค่ะ เพราะทริปนี้ไป 7 วันเต็ม เสื้อผ้าข้าวของสำหรับ 2 คน) ลงเวลาเดินขึ้นภูกระดึงคนแรก เวลา 07.15 น.

   

ค่อย ๆ เดินไป แนะนำว่าใส่รองเท้าแบบรัดส้น สะดวกมากกว่าผ้าใบ เพราะเปียกก็แห้งเร็ว เพราะขากลับลงภูกระดึงโดนฝนด้วย
ระหว่างเดินก็จะเจอลูกหาบเป็นระยะ พวกพี่เค้าเก่งมากค่ะ แบกคนละ 50- 60 กก. อย่างพี่ท่านนี้ก็เป็นผู้หญิงด้วย แข็งแกร่งจริง ๆ



ช่วงซำแฮก - -"


แต่ละซำจะมีของขายตลอด และก็มีป้ายบอกระยะทางทุกซำ
     



   

จุดชมวิวจุดแรก ที่ซำกกโดนค่ะ  ค่อยหายเหนื่อยหน่อย ^^



เดินกันต่อค่ะ  

     

และแล้วก็มาถึง..หลังแป  แฟนบอกว่า..แทบจะร้องเพลง we are the champion กันเลยทีเดียว
ตลอดทางแทบไม่ได้แวะพักเลย ยกเว้นหยุดถ่ายรูป ส่วนอาหารก็ไม่ได้แวะทานที่ซำไหนเลย ถึงหลังแปถึงได้เติมพลังด้วยขนมปังชิ้นนึง เหนื่อยค่ะ ทานแทบไม่ลง



เดินกันต่อไปที่ศูนย์นักท่องเที่ยว เพื่อติดต่อเรื่องที่พักที่จองเอาไว้


ถึงแล้วค่ะ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เวลา 11.45 น.ที่จองไว้เป็นบ้านพักค่ะ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ คืนละ 1,400 บาท
โชคดีที่จองเป็นบ้านไว้ เพราะถ้านอนเต๊นท์ห้องน้ำรวม เครื่องน้ำอุ่นเสีย
เลยรอดตัวมาหน่อย เพราะเป็นคนขี้หนาวมาก ๆๆๆๆ

     

ถึงที่พักแล้วก็ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นหน่อย แล้วก็ออกไปหาข้าวทานค่ะ ร้านมีให้เลือกค่อนข้างเยอะเหมือนกัน
ราคา..แน่นอนค่ะ บวกค่าหาบขึ้นมาเรียบร้อย โค้ก 1.25 ลิตร 80 บาท



ที่นี่มีเจ้าถิ่นค่ะ เดินเฉิดฉายไม่เกรงใจใคร



ปกติท่านอื่นขึ้นมาเที่ยวบนภูกระดึง เดินขึ้นมาก็จะพักผ่อน แต่นี่รอสัมภาระแล้วเดินต่อกันไปที่ผาหล่มสักเลยค่ะ
เดินขึ้นมาร่วม 10 กม. เดินไปดูพระอาทิตย์ตกอีกประมาณ 10 กม. เดินกลับมาที่พักอีก 10 กม.
ห๊า..าาา อะไรนะ เดินรวม ๆ ประมาณ 30 กม. เกิดมาไม่เคยเดินอย่างนี้เลย
แต่ก็เดินกันไปสองคนแบบเริงร่าท้าแดดค่ะ ไม่ปั่นด้วยนะคะจักรยาน แถมเดินก็ต้องจ้ำเพราะกลัวไม่ทันพระอาทิตย์ตก
เพราะรอกระเป๋าขึ้นมาก็บ่ายสองครึ่งแล้ว ดูพยากรณ์บอกว่าพระอาทิตย์จะตก เวลาประมาณ 17.45 น. แทบจะวิ่งสลับเดินเลยทีเดียว
แล้วเดินทางที่คนอื่นเค้าไม่เดินด้วยนะคะ คือเชื่อว่าใกล้กว่านิดนึง 5555  ร้อนได้ใจมาก ๆ


เดินทะลุไปที่ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ไปเรื่อย ๆ จนถึงผาหล่มสัก ที่ว่าเป็นไฮไลท์สำหรับจุดชมพระอาทิตย์ตกค่ะ





ในที่สุดก็มาถึง..ผาหล่มสัก 17.10 น. อย่างแรกที่ทำคือ ทานข้าวค่ะ หิวมากกก และก็อร่อยมาก ๆ ด้วย
ทานเสร็จรีบมาถ่ายรูปค่ะ พระอาทิตย์จะตกแล้ว





จากนั้นความมืดก็มาเยือนค่ะ  โชคดีมีเพื่อนร่วมเดินอยู่อีก 3 ท่าน มีแสงจันทร์นำทาง เหมือนจะโรแมนติก ^^
เดินกันเร็วมาก ๆ ออกกันมา 18.10 น. ถึงศูนย์ที่พัก 20.15 ค่ะ
โดยที่ขาพลิกไป 2 ครั้ง วันรุ่งขึ้นข้อเท้าบวม ไม่สามารถเดินไปน้ำตกหรือที่อื่นได้อีก ต้องรอเดินกลับอย่างเดียว

ค่ำ ๆ จะมารีวิวเชียงคานต่อ ขอตัวไปทานข้าวก่อนนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่