เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เรากับเพื่อนไปเช่ารถขับเที่ยวในยุโรปกัน
โดยแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรก จากเวียนนา - บูดาเปสต์ - เวียนนา
ช่วงสองเริ่มต้นจากเวียนนา และปลายทางที่เจนีวา
ระหว่างทางมีเรื่องเล่า และประสบการณ์มากมายจึงอยากนำมาแบ่งกัน
1) ตรวจจำนวนเงินที่จ่ายให้ละเอียด
เราเช่ารถกับ Europcar โดยตรง เวลารับรถที่ระบุไว้คือตอน 9 โมงเช้า แต่เราไปติดต่อเจ้าหน้าที่ตอน 8 โมงครึ่ง
ก็ทำตามกระบวนการไม่ได้มีปัญหาอะไร พอตอนจ่ายเงินเราก็ยื่นบัตรเครดิตไป พร้อมได้ใบสัญญาเช่ากลับมา
ระหว่างทางจากออฟฟิศมาที่ลานจอดรถ ก็เดินอ่านสัญญาเช่ามากับเพื่อนแล้วพบว่า ค่ารถแพงกว่าเดิมที่เราจองมาทางออนไลน์
จึงกลับไปถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่า เพราะเรามารับรถก่อนเวลาที่กำหนด เราจึงไม่ได้ราคาโปรโมชั่นที่เราจองมา
เราก็เลยบอกว่า งั้นขอยกเลิกสัญญาเช่านี้ และช่วยดำเนินการให้ใหม่ตามข้อมูลที่เราจองออนไลน์ไว้ด้วย
2) สตาร์ตเท่าไรไม่ติด
รถที่เราเช่า คือ Seat เป็น economy car ราคาประหยัด เกียร์กระปุก
หลังดำเนินการเรื่องสัญญาเสร็จเรียบร้อย ก็มารับรถกัน เจ้าหน้าที่ก็ยื่นกุญแจมาให้พร้อมบอกทะเบียนรถ
เดินหาสักพักก็เจอจอดอยู่เรียบร้อย จัดการเก็บกระเป๋า เปิดประตู สตาร์ตรถ แต่ว่า.....ไม่ติด
ไม่เป็นไร ลองอีกสักรอบ ก็สตาร์ตไม่ติด จึงตัดสินใจเดินไปถามเจ้าหน้าที่
เขาก็ใจดีเดินมาสตาร์ตให้ โดยบอกเราว่า ตอนสตาร์ตยูต้องเหยียบเบรคแล้วบิดกุญแจ เครื่องถึงจะติด
3) เข้าเกียร์ถอยหลังยังไง
หลังจากขับรถออกมา ก็มีปัญหางงๆเรื่องพวงมาลัยบ้าง เลียบฟุตบาทไปก็บ่อย แต่ก็ขับกันมาจนถึง Parndorf Outlet ที่เวียนนา
จอดรถหันหน้าทิ่มเข้าไป เดินแวะซื้อของกันเรียบร้อย กลับมาขึ้นรถสตาร์ต จะเข้าเกียร์ถอยหลัง แต่ว่า......เกียร์ถอยหลังอยู่ไหน
เกียร์กระปุกของรถรุ่นใหม่ในยุโรปมี 6 สปีด แล้วเกียร์ถอยหลังล่ะ จะซ่อนอยู่ตรงไหนได้ พยายามแล้ว พยายามอีก
เปิดคู่มือรถมากอ่าน ก็เจอแต่ภาษาเยอรมัน
ตัดสินใจบากหน้าขอความช่วยเหลือกันอีกรอบ เจอแก๊งกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งขับรถมาจอดเทียบข้างๆ
เพื่อนตรงปรี่เข้าไปถามว่า พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย หนึ่งในนั้นเซย์เยส จึงอัญเชิญเขามาที่รถ
และถามด้วยความเหนียมอายว่า เข้าเกียร์ถอยหลังยังไง?
ฮีก็มาถึงนั่งที่คนขับ แล้วบอกว่า ยูต้องใช้มือกดเกียร์ให้ยุบลงไปก่อน ค่อยตบมาด้านซ้าย แล้วผลักไปข้างหน้า
ง่ายกว่าปอกกล้วยเข้าปากจริงๆ
4) ชีวิตขับรถที่ไม่มี GPS
เนื่องจากช่วงสอง เราเช่าจากเวียนนา และไปคืนรถที่เจนีวา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งมาว่าไม่สามารถให้เช่าจีพีเอสได้
เพราะมีกรณีที่รถกลับมา แต่จีพีเอสไม่กลับมาด้วย เอาล่ะสิ ทำไงดีหว่า มองหน้ากันกับเพื่อน
เรื่องจะขับไปฮอลสแตทท์ยังไง ยังไม่ต้องคิด แต่ต้องขับไปรับเพื่อนอีกสามคนที่รออยู่ที่โฮสเทลในเวียนนา
ซึ่งตอนมาก็นั่งรถไฟมาไม่ได้ดูถนนหนทางเท่าไร
เจ้าหน้าที่ยื่นกุญแจมาให้ พร้อมกับแผนที่เมืองเวียนนาโดยละเอียด และแผนที่ของออสเตรียมาให้อีกหนึ่งฉบับ
ก่อนไปเราก็เลยใช้เวลาปรึกษาเส้นทางกับเจ้าหน้าที่ โดยให้เค้าช่วยขีดให้หน่อยว่าจากนี่ควรไปที่พักทางไหน
รวมถึงถามเส้นทางที่จะไปฮอลล์สแตทท์ด้วยเลยว่าไปทางหมายเลขอะไร exit ที่เท่าไร
จากระยะเวลาแค่ 15 นาทีที่ควรจะถึงที่พัก แต่เรากลับใช้เวลามากถึงเกือบชั่วโมง เหงื่อแตกพลั่ก รับเพื่อนเสร็จ
วนในเวียนนาอีกหนึ่งรอบกว่าจะเจอทางหลวงออกไปฮอลสแตทท์ หลังจากนั้น ทริปเราจะหลีกเลี่ยงการขับเข้าเมืองใหญ่ตลอด
ถึงที่พักในฮอลสแตทท์ไลน์ถามเพื่อนที่เคยมาขับรถเที่ยวยุโรป เพื่อนแนะนำ App ที่ชื่อว่า CoPilot มา
จัดการโหลดเสร็จสรรพเย็นวันนั้น พร้อมอัพเดทแผนที่ ทำให้ทริปนี้รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
เท่าที่นึกออกมีเท่านี้ เรื่องป้ายจราจร ทางด่วน หรือ Vignette คงหาข้อมูลกันไม่ยาก
เพราะเราเองก่อนไปก็พยายามหาข้อมูลเรืองการขับรถให้ได้มากที่สุด แต่ไม่เห็นข้อมูลแนวนี้เท่าไร
จึงอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆในพันทิปกัน
ขอให้ขับรถเที่ยวกันให้สนุกทุกคนนะคะ
แบ่งปันประสบการณ์ ขับรถในยุโรป
โดยแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรก จากเวียนนา - บูดาเปสต์ - เวียนนา
ช่วงสองเริ่มต้นจากเวียนนา และปลายทางที่เจนีวา
ระหว่างทางมีเรื่องเล่า และประสบการณ์มากมายจึงอยากนำมาแบ่งกัน
1) ตรวจจำนวนเงินที่จ่ายให้ละเอียด
เราเช่ารถกับ Europcar โดยตรง เวลารับรถที่ระบุไว้คือตอน 9 โมงเช้า แต่เราไปติดต่อเจ้าหน้าที่ตอน 8 โมงครึ่ง
ก็ทำตามกระบวนการไม่ได้มีปัญหาอะไร พอตอนจ่ายเงินเราก็ยื่นบัตรเครดิตไป พร้อมได้ใบสัญญาเช่ากลับมา
ระหว่างทางจากออฟฟิศมาที่ลานจอดรถ ก็เดินอ่านสัญญาเช่ามากับเพื่อนแล้วพบว่า ค่ารถแพงกว่าเดิมที่เราจองมาทางออนไลน์
จึงกลับไปถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่า เพราะเรามารับรถก่อนเวลาที่กำหนด เราจึงไม่ได้ราคาโปรโมชั่นที่เราจองมา
เราก็เลยบอกว่า งั้นขอยกเลิกสัญญาเช่านี้ และช่วยดำเนินการให้ใหม่ตามข้อมูลที่เราจองออนไลน์ไว้ด้วย
2) สตาร์ตเท่าไรไม่ติด
รถที่เราเช่า คือ Seat เป็น economy car ราคาประหยัด เกียร์กระปุก
หลังดำเนินการเรื่องสัญญาเสร็จเรียบร้อย ก็มารับรถกัน เจ้าหน้าที่ก็ยื่นกุญแจมาให้พร้อมบอกทะเบียนรถ
เดินหาสักพักก็เจอจอดอยู่เรียบร้อย จัดการเก็บกระเป๋า เปิดประตู สตาร์ตรถ แต่ว่า.....ไม่ติด
ไม่เป็นไร ลองอีกสักรอบ ก็สตาร์ตไม่ติด จึงตัดสินใจเดินไปถามเจ้าหน้าที่
เขาก็ใจดีเดินมาสตาร์ตให้ โดยบอกเราว่า ตอนสตาร์ตยูต้องเหยียบเบรคแล้วบิดกุญแจ เครื่องถึงจะติด
3) เข้าเกียร์ถอยหลังยังไง
หลังจากขับรถออกมา ก็มีปัญหางงๆเรื่องพวงมาลัยบ้าง เลียบฟุตบาทไปก็บ่อย แต่ก็ขับกันมาจนถึง Parndorf Outlet ที่เวียนนา
จอดรถหันหน้าทิ่มเข้าไป เดินแวะซื้อของกันเรียบร้อย กลับมาขึ้นรถสตาร์ต จะเข้าเกียร์ถอยหลัง แต่ว่า......เกียร์ถอยหลังอยู่ไหน
เกียร์กระปุกของรถรุ่นใหม่ในยุโรปมี 6 สปีด แล้วเกียร์ถอยหลังล่ะ จะซ่อนอยู่ตรงไหนได้ พยายามแล้ว พยายามอีก
เปิดคู่มือรถมากอ่าน ก็เจอแต่ภาษาเยอรมัน
ตัดสินใจบากหน้าขอความช่วยเหลือกันอีกรอบ เจอแก๊งกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งขับรถมาจอดเทียบข้างๆ
เพื่อนตรงปรี่เข้าไปถามว่า พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย หนึ่งในนั้นเซย์เยส จึงอัญเชิญเขามาที่รถ
และถามด้วยความเหนียมอายว่า เข้าเกียร์ถอยหลังยังไง?
ฮีก็มาถึงนั่งที่คนขับ แล้วบอกว่า ยูต้องใช้มือกดเกียร์ให้ยุบลงไปก่อน ค่อยตบมาด้านซ้าย แล้วผลักไปข้างหน้า
ง่ายกว่าปอกกล้วยเข้าปากจริงๆ
4) ชีวิตขับรถที่ไม่มี GPS
เนื่องจากช่วงสอง เราเช่าจากเวียนนา และไปคืนรถที่เจนีวา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งมาว่าไม่สามารถให้เช่าจีพีเอสได้
เพราะมีกรณีที่รถกลับมา แต่จีพีเอสไม่กลับมาด้วย เอาล่ะสิ ทำไงดีหว่า มองหน้ากันกับเพื่อน
เรื่องจะขับไปฮอลสแตทท์ยังไง ยังไม่ต้องคิด แต่ต้องขับไปรับเพื่อนอีกสามคนที่รออยู่ที่โฮสเทลในเวียนนา
ซึ่งตอนมาก็นั่งรถไฟมาไม่ได้ดูถนนหนทางเท่าไร
เจ้าหน้าที่ยื่นกุญแจมาให้ พร้อมกับแผนที่เมืองเวียนนาโดยละเอียด และแผนที่ของออสเตรียมาให้อีกหนึ่งฉบับ
ก่อนไปเราก็เลยใช้เวลาปรึกษาเส้นทางกับเจ้าหน้าที่ โดยให้เค้าช่วยขีดให้หน่อยว่าจากนี่ควรไปที่พักทางไหน
รวมถึงถามเส้นทางที่จะไปฮอลล์สแตทท์ด้วยเลยว่าไปทางหมายเลขอะไร exit ที่เท่าไร
จากระยะเวลาแค่ 15 นาทีที่ควรจะถึงที่พัก แต่เรากลับใช้เวลามากถึงเกือบชั่วโมง เหงื่อแตกพลั่ก รับเพื่อนเสร็จ
วนในเวียนนาอีกหนึ่งรอบกว่าจะเจอทางหลวงออกไปฮอลสแตทท์ หลังจากนั้น ทริปเราจะหลีกเลี่ยงการขับเข้าเมืองใหญ่ตลอด
ถึงที่พักในฮอลสแตทท์ไลน์ถามเพื่อนที่เคยมาขับรถเที่ยวยุโรป เพื่อนแนะนำ App ที่ชื่อว่า CoPilot มา
จัดการโหลดเสร็จสรรพเย็นวันนั้น พร้อมอัพเดทแผนที่ ทำให้ทริปนี้รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
เท่าที่นึกออกมีเท่านี้ เรื่องป้ายจราจร ทางด่วน หรือ Vignette คงหาข้อมูลกันไม่ยาก
เพราะเราเองก่อนไปก็พยายามหาข้อมูลเรืองการขับรถให้ได้มากที่สุด แต่ไม่เห็นข้อมูลแนวนี้เท่าไร
จึงอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆในพันทิปกัน
ขอให้ขับรถเที่ยวกันให้สนุกทุกคนนะคะ