นี่ไม่ใช่กระทู้ความรักครับ...
วันนี้วันอาทิตย์ Movies Day ของผมครับ
ตัดสินใจดูหนังเรื่อง Interstellar ครับ ที่ Lido รอบ บ่ายสาม โรงที่ 2 คนเดียว
ผมได้ที่นั่ง C15 ก่อนเข้าโรงก็แวะซื้อขนมนิดหน่อยน่ะครับ แล้วก็เข้าโรงตอน 15:03 นาที (เห็นนาฬิกาตอนปิดมือถือ ... ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋าเป้แล้ววางไว้ที่พื้น)
ผมเข้าไปต้องเดินผ่านผู้หญิงคนนึงที่ที่นั่ง C14 แล้วก็มีคนนั่งอยู่แล้วที่ที่นั่ง C16-17 ครับ
เข้าไปคือ เป็น Trailor เรื่องสุดท้าย (ผมมาไม่ทันเพลงสรรเสริญพระบารมี) ยังแปลกใจเลยว่า หนังเริ่มเร็วจัง
ที่เล่าไปนี่คือพยายามเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มให้ฟังก่อนน่ะครับ...
ตามประสาครับ ผมก็แกะขนมกิน คือผมเองก็ขี้เกรงใจอยู่แล้ว กะพยายามแกะเบาๆ ฉีกทีละนิด
คุณผู้หญิง (ทางกายภาพ) คนข้างๆ ที่นั่ง C14 ก็เปิดโทรศัพท์บ้าง เป็นครั้งคราว ประมาณ 2-3 ครั้ง คือก็ไม่ได้เยอะอะไร แต่ แต่ละครั้งก็ประมาณ 3-5 นาที พยายามโทรออกด้วย
ผมก็มองนะครับ ก็แค่มอง ไม่ได้พูดอะไร
มีครั้งนึงเธอคงโทรติด เธอเลยเดินออกไปข้างนอก (อันนี้ดีครับ)
หนังผ่านไป 2 ชั่วโมง (5 โมง 12 นาที) เธอก็เอาโทรศัทพ์มากดอีก
ผมก็มองครับ คราวนี้เธอรู้ว่าผมมอง
เธอหันมาทางผม แล้วเธอก็ยักไหล่ให้ผมทีนึง พร้อมคว่ำปากเป็นสระอิ (ตอนแรกผมคิดว่าเธอเป็นทอม แต่ทอมที่ผมรู้จักไม่เคยทำท่าทางแบบนี้)
ผมก็ทำท่าผงะทีนึง ในความมั่นใจของเธอ (เหมือนละครเวทีที่ต้องเล่นใหญ่)
แล้วเธอก็พูดกับผมว่า "ทีตัวเองกินขนมล่ะ" (ด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น)
WTF ผมนี่อึ้งไปเลยครับ
ผมเป็นชายไทย สูง 171 เซ็นติเมตร หนัก 61 กิโลกรัม
ดูหนังผ่านไป 2 ชั่วโมง นี่ขนมที่ผมเพิ่งกินหมดไปเมื่อประมาณ 10 นาทีก่อนเธอพูดกับผม (และหลังจากนั้นก็ไม่ได้กินอะไรอีก)
2 ชั่วโมง ... ผมไม่ได้จ้วงเอา จ้วงเอา ตลอดเวลาแน่ๆ
ผมว่าผมเป็นคนเนี๊ยบประมาณนึง ผมไม่กินมูมมาม ผมกินแค่แก้เหงาปาก และคนอย่างผมที่ขี้รำคาญไปทุกอย่าง จะไม่รู้เหรอว่าทำอะไรมันน่ารำคาญบ้าง ก็เลยพยายามเกรงใจคนอื่น บนความคิดที่ว่า คนอื่นก็เป็นคนขี้รำคาญเหมือนผม
แล้วการที่เธอตอบผมมาแบบนั้น
"ทีตัวเองกินขนมล่ะ"
มันแบบ คือถ้าผมกินขนมในโรงหนังได้ เธอก็เล่นมือถือได้
สะท้อนไป ถ้ามีคนฆ่าข่มขืนคนตายได้ เธอจะสามารถขโมยของใน 7-Eleven ได้งั้นเหรอครับ?
ผมบอก "ขนม ที่ซื้อข้างหน้าเนี่ยะนะ เค้าห้ามกินเหรอ"
เธอบอก "เค้าไม่ได้ห้ามเล่นโทรศัพท์"
ผมบอก "มารยาท"
เธอ "ทีตัวเองกินขนมเสียงดัง ตลอดเวลา"
ผมบอก "โก ฟัก ยัวร์ เซลฟ์"
การสนทนาจบลง
ที่เถียงกันเนี่ยะ คือพูดกันเบาๆ นะครับ อารมณ์เหมือนคุณคุยกับแฟนในโรงหนังน่ะครับ
....
เอาจริงๆ ผมเอง หรือว่าตอนกินเพรชกรอบๆ มันเสียงดังวะ คือมันดังในหัว แล้วเราคิดว่าคนอื่นไม่ได้ยินวะ
ก็เลยถามน้องผู้หญิง คนข้างๆ C16 ตอน End title ขึ้นว่า "ผมกินขนมเสียงดังน่ารำคาญไปไหมครับ" (ด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรนะครับ)
คือผมคิดว่าน้องเค้าไม่ได้ยินที่ผมพูดกับคุณผู้หญิง C14 หรอก เลยถาม
น้องตอบว่า "ไม่นี่คะ"
ผมเลยมีความมั่นใจขึ้นมาหน่อยที่ตั้งกระทู้นี้...
หลักๆ คือความฉงน ในตรรกะที่คิด ถ้าคนอื่นทำอะไรอีกอย่างผิด เราจะทำผิดได้ ผมสับสนกับความเป็นไทยจังเลยครับ...
ถึงคุณผู้หญิงที่นั่ง C14 ที่ Lido 2 รอบ 15:00 วันอา. 9 พ.ย. 57 ครับ
วันนี้วันอาทิตย์ Movies Day ของผมครับ
ตัดสินใจดูหนังเรื่อง Interstellar ครับ ที่ Lido รอบ บ่ายสาม โรงที่ 2 คนเดียว
ผมได้ที่นั่ง C15 ก่อนเข้าโรงก็แวะซื้อขนมนิดหน่อยน่ะครับ แล้วก็เข้าโรงตอน 15:03 นาที (เห็นนาฬิกาตอนปิดมือถือ ... ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋าเป้แล้ววางไว้ที่พื้น)
ผมเข้าไปต้องเดินผ่านผู้หญิงคนนึงที่ที่นั่ง C14 แล้วก็มีคนนั่งอยู่แล้วที่ที่นั่ง C16-17 ครับ
เข้าไปคือ เป็น Trailor เรื่องสุดท้าย (ผมมาไม่ทันเพลงสรรเสริญพระบารมี) ยังแปลกใจเลยว่า หนังเริ่มเร็วจัง
ที่เล่าไปนี่คือพยายามเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มให้ฟังก่อนน่ะครับ...
ตามประสาครับ ผมก็แกะขนมกิน คือผมเองก็ขี้เกรงใจอยู่แล้ว กะพยายามแกะเบาๆ ฉีกทีละนิด
คุณผู้หญิง (ทางกายภาพ) คนข้างๆ ที่นั่ง C14 ก็เปิดโทรศัพท์บ้าง เป็นครั้งคราว ประมาณ 2-3 ครั้ง คือก็ไม่ได้เยอะอะไร แต่ แต่ละครั้งก็ประมาณ 3-5 นาที พยายามโทรออกด้วย
ผมก็มองนะครับ ก็แค่มอง ไม่ได้พูดอะไร
มีครั้งนึงเธอคงโทรติด เธอเลยเดินออกไปข้างนอก (อันนี้ดีครับ)
หนังผ่านไป 2 ชั่วโมง (5 โมง 12 นาที) เธอก็เอาโทรศัทพ์มากดอีก
ผมก็มองครับ คราวนี้เธอรู้ว่าผมมอง
เธอหันมาทางผม แล้วเธอก็ยักไหล่ให้ผมทีนึง พร้อมคว่ำปากเป็นสระอิ (ตอนแรกผมคิดว่าเธอเป็นทอม แต่ทอมที่ผมรู้จักไม่เคยทำท่าทางแบบนี้)
ผมก็ทำท่าผงะทีนึง ในความมั่นใจของเธอ (เหมือนละครเวทีที่ต้องเล่นใหญ่)
แล้วเธอก็พูดกับผมว่า "ทีตัวเองกินขนมล่ะ" (ด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น)
WTF ผมนี่อึ้งไปเลยครับ
ผมเป็นชายไทย สูง 171 เซ็นติเมตร หนัก 61 กิโลกรัม
ดูหนังผ่านไป 2 ชั่วโมง นี่ขนมที่ผมเพิ่งกินหมดไปเมื่อประมาณ 10 นาทีก่อนเธอพูดกับผม (และหลังจากนั้นก็ไม่ได้กินอะไรอีก)
2 ชั่วโมง ... ผมไม่ได้จ้วงเอา จ้วงเอา ตลอดเวลาแน่ๆ
ผมว่าผมเป็นคนเนี๊ยบประมาณนึง ผมไม่กินมูมมาม ผมกินแค่แก้เหงาปาก และคนอย่างผมที่ขี้รำคาญไปทุกอย่าง จะไม่รู้เหรอว่าทำอะไรมันน่ารำคาญบ้าง ก็เลยพยายามเกรงใจคนอื่น บนความคิดที่ว่า คนอื่นก็เป็นคนขี้รำคาญเหมือนผม
แล้วการที่เธอตอบผมมาแบบนั้น
"ทีตัวเองกินขนมล่ะ"
มันแบบ คือถ้าผมกินขนมในโรงหนังได้ เธอก็เล่นมือถือได้
สะท้อนไป ถ้ามีคนฆ่าข่มขืนคนตายได้ เธอจะสามารถขโมยของใน 7-Eleven ได้งั้นเหรอครับ?
ผมบอก "ขนม ที่ซื้อข้างหน้าเนี่ยะนะ เค้าห้ามกินเหรอ"
เธอบอก "เค้าไม่ได้ห้ามเล่นโทรศัพท์"
ผมบอก "มารยาท"
เธอ "ทีตัวเองกินขนมเสียงดัง ตลอดเวลา"
ผมบอก "โก ฟัก ยัวร์ เซลฟ์"
การสนทนาจบลง
ที่เถียงกันเนี่ยะ คือพูดกันเบาๆ นะครับ อารมณ์เหมือนคุณคุยกับแฟนในโรงหนังน่ะครับ
....
เอาจริงๆ ผมเอง หรือว่าตอนกินเพรชกรอบๆ มันเสียงดังวะ คือมันดังในหัว แล้วเราคิดว่าคนอื่นไม่ได้ยินวะ
ก็เลยถามน้องผู้หญิง คนข้างๆ C16 ตอน End title ขึ้นว่า "ผมกินขนมเสียงดังน่ารำคาญไปไหมครับ" (ด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรนะครับ)
คือผมคิดว่าน้องเค้าไม่ได้ยินที่ผมพูดกับคุณผู้หญิง C14 หรอก เลยถาม
น้องตอบว่า "ไม่นี่คะ"
ผมเลยมีความมั่นใจขึ้นมาหน่อยที่ตั้งกระทู้นี้...
หลักๆ คือความฉงน ในตรรกะที่คิด ถ้าคนอื่นทำอะไรอีกอย่างผิด เราจะทำผิดได้ ผมสับสนกับความเป็นไทยจังเลยครับ...