..
มรดกธรรมของพุทธทาสภิกขุ
การตักบาตรสาธิตตามแบบครั้งพุทธกาล
- เป็นปรารภของพุทธทาสภิกขุเพื่อให้เป็นไปอย่าง สะดวก เป็นระเบียบเรียบร้อย เรียบง่าย และ เกิดประโยชน์สูงสุดแห่งการบิณฑบาต ทั้งต่อพระศาสนา พระภิกษุสงฆ์สามเณร ตลอดจนอุบาสกอุบาสิกาทั้งมวล กล่าวคือ
- พระภิกษุ สามเณร คงดำรงสมณศีลสมบูรณ์ ด้วยการรับและฉันภัตตาหารในบาตรตามที่มีการจัดและถวายเป็นสังฆทาน พร้อมกับการสวดชัยมงคล พิจารณาปัจจเวกขณ์ อนุโมทนาขอบคุณญาติโยมและให้พร
- อุบาสกอุบาสิกา ได้บำเพ็ญทานอย่างสูงสุด คือสังฆทานแก่สังฆะโดยมิได้ระบุบุคคล ด้วยการตักข้าวสุกใส่บาตร ส่วนอาหาร น้ำ และจตุปัจจัยไทยทานทั้งหลาย วางถวายเป็นสังฆทานเพื่อการแจกจ่ายโดยสังฆะ
มรดกที่ ๒๑. การตักบาตรสาธิต แบบที่ทำกันอยู่ในสวนโมกข์ เป็นการศึกษา อยู่ในตัว ว่าจะสามารถ เลี้ยงพระ จำนวนร้อยได้อย่างไร, สะดวกเท่าไร, ควบคุมกิเลสได้โดยวิธีไหน. ขอให้ช่วยกันรักษาพิธีกรรม แบบนี้ไว้ เพื่อเป็นประโยชน์ เกื้อกูล แก่การพิทักษ์รักษาพุทธศาสนาไว้ โดยวิธีประหยัด ไม่ยุ่งยากลำบาก และรักษาแบบฉบับโบราณ นับแต่สมัยพุทธกาลเป็นต้นมา.
สำหรับพิธีทำบุญตักบาตรสาธิต อย่างครั้งพุทธกาล จะกระทำโดยให้พระนั่งเป็นระเบียบ แล้วมอบบาตรให้เจ้าภาพตัก จัดอาหารใส่ แล้วจึงเอามาถวายพระที่นั่งอยู่ เมื่อฉันเสร็จจึงอนุโมทนา แต่เมื่อการจัดอาหารใส่บาตรเสร็จแล้วค่อยนำมาถวายพระ ต้องใช้คนขนของจำนวนมาก จึงได้เปลี่ยนมาเป็น
ให้วางบาตรหน้าพระแต่ละรูป โดยพระทุกองค์จะฉันด้วยมือเพื่อเป็นการบูชาพระพุทธเจ้า ซึ่งพิธีนี้เป็นการสาธิตให้เห็นว่าในสมัยพุทธกาลนั้นการเลี้ยงพระจำนวนมากสามารถทำได้อย่างไร
แต่ตามที่ข่าวลงว่า ...
ซึ่งเป็นการบิณฑบาตแบบประยุกต์แบบสมัยพุทธกาล คือ
การประเคนภัตตาหารโดยวางไว้บนโต๊ะแล้วพระสงฆ์จะเดินมาตักเอง เพื่อเป็นการประหยัดเวลา เนื่องจากมีพระสงฆ์จำนวนมาก
ข่าวลงผิด .. หรือหลวงลุงกำนัน ซึ่งพึ่งบวช สามารถเข้าใจ เข้าถึง วิธีการเลี้ยงพระจำนวนมากแบบสมัยพุทธกาลได้ โดยวิธีการไม่เหมือนที่ท่านพุทธทาสภิกขุ ที่ได้เขียนไว้ในหนังสือมรดกธรรม ของท่านพุทธทาสภิกขุ
...
ตามที่กระผมได้อ่านข่าวทำให้นึกไปถึงงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ รึ หลวงลุงกำนันเลี้ยงบุฟเฟ่พระที่ สวนโมกข์ จตุจักร กรุงเทพฯ กันแน่ครับ
ปอลิง .. หากกระผมเข้าใจผิดประการใดหรือข่าวลงไม่ครบ กระผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ หลวงลุงกำนัน ... แบบว่ากระผมสงสัยจริงอ่ะครับ
.. ด้วยความเคารพครับ ..
กระผมสงสัยว่า เป็นการตักบาตรตามแบบครั้งพุทธกาล .. รึ .. หลวงลุงกำนัน จัดเลี้ยงพระเเบบบุฟเฟ่ต์ กันแน่ ...
.. มรดกธรรมของพุทธทาสภิกขุ
การตักบาตรสาธิตตามแบบครั้งพุทธกาล
- เป็นปรารภของพุทธทาสภิกขุเพื่อให้เป็นไปอย่าง สะดวก เป็นระเบียบเรียบร้อย เรียบง่าย และ เกิดประโยชน์สูงสุดแห่งการบิณฑบาต ทั้งต่อพระศาสนา พระภิกษุสงฆ์สามเณร ตลอดจนอุบาสกอุบาสิกาทั้งมวล กล่าวคือ
- พระภิกษุ สามเณร คงดำรงสมณศีลสมบูรณ์ ด้วยการรับและฉันภัตตาหารในบาตรตามที่มีการจัดและถวายเป็นสังฆทาน พร้อมกับการสวดชัยมงคล พิจารณาปัจจเวกขณ์ อนุโมทนาขอบคุณญาติโยมและให้พร
- อุบาสกอุบาสิกา ได้บำเพ็ญทานอย่างสูงสุด คือสังฆทานแก่สังฆะโดยมิได้ระบุบุคคล ด้วยการตักข้าวสุกใส่บาตร ส่วนอาหาร น้ำ และจตุปัจจัยไทยทานทั้งหลาย วางถวายเป็นสังฆทานเพื่อการแจกจ่ายโดยสังฆะ
มรดกที่ ๒๑. การตักบาตรสาธิต แบบที่ทำกันอยู่ในสวนโมกข์ เป็นการศึกษา อยู่ในตัว ว่าจะสามารถ เลี้ยงพระ จำนวนร้อยได้อย่างไร, สะดวกเท่าไร, ควบคุมกิเลสได้โดยวิธีไหน. ขอให้ช่วยกันรักษาพิธีกรรม แบบนี้ไว้ เพื่อเป็นประโยชน์ เกื้อกูล แก่การพิทักษ์รักษาพุทธศาสนาไว้ โดยวิธีประหยัด ไม่ยุ่งยากลำบาก และรักษาแบบฉบับโบราณ นับแต่สมัยพุทธกาลเป็นต้นมา.
สำหรับพิธีทำบุญตักบาตรสาธิต อย่างครั้งพุทธกาล จะกระทำโดยให้พระนั่งเป็นระเบียบ แล้วมอบบาตรให้เจ้าภาพตัก จัดอาหารใส่ แล้วจึงเอามาถวายพระที่นั่งอยู่ เมื่อฉันเสร็จจึงอนุโมทนา แต่เมื่อการจัดอาหารใส่บาตรเสร็จแล้วค่อยนำมาถวายพระ ต้องใช้คนขนของจำนวนมาก จึงได้เปลี่ยนมาเป็นให้วางบาตรหน้าพระแต่ละรูป โดยพระทุกองค์จะฉันด้วยมือเพื่อเป็นการบูชาพระพุทธเจ้า ซึ่งพิธีนี้เป็นการสาธิตให้เห็นว่าในสมัยพุทธกาลนั้นการเลี้ยงพระจำนวนมากสามารถทำได้อย่างไร
แต่ตามที่ข่าวลงว่า ...
ซึ่งเป็นการบิณฑบาตแบบประยุกต์แบบสมัยพุทธกาล คือการประเคนภัตตาหารโดยวางไว้บนโต๊ะแล้วพระสงฆ์จะเดินมาตักเอง เพื่อเป็นการประหยัดเวลา เนื่องจากมีพระสงฆ์จำนวนมาก
ข่าวลงผิด .. หรือหลวงลุงกำนัน ซึ่งพึ่งบวช สามารถเข้าใจ เข้าถึง วิธีการเลี้ยงพระจำนวนมากแบบสมัยพุทธกาลได้ โดยวิธีการไม่เหมือนที่ท่านพุทธทาสภิกขุ ที่ได้เขียนไว้ในหนังสือมรดกธรรม ของท่านพุทธทาสภิกขุ
... ตามที่กระผมได้อ่านข่าวทำให้นึกไปถึงงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ รึ หลวงลุงกำนันเลี้ยงบุฟเฟ่พระที่ สวนโมกข์ จตุจักร กรุงเทพฯ กันแน่ครับ
ปอลิง .. หากกระผมเข้าใจผิดประการใดหรือข่าวลงไม่ครบ กระผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ หลวงลุงกำนัน ... แบบว่ากระผมสงสัยจริงอ่ะครับ
.. ด้วยความเคารพครับ ..