เรารู้จักริชชี่จากเรื่องคู่กรรม ไปดูกับแม่และพี่สะใภ้ ชอบคู่กรรมของคุณเรียวมากนะคะ อาจจะแปลกกว่าคู่กรรมฉบับอื่น คู่พระนางดูเด็ก ๆ แต่เราว่าเป็นการถ่ายทอดคู่กรรมแบบแปลกใหม่ มีมุมน่ารักมากกว่ามุมแค้น ตั้งแต่นั้นมาเราเลยชอบริชชี่ รู้สึกว่าหน้าตาน่ารัก นัยน์ตามีอะไรซ่อนอยู่ลึก ๆ น่าจะมีอนาคตดีในวงการ แต่เท่าที่เราอ่านกระทู้ในพันทิป ส่วนใหญ่คนจะตำหนิริชชี่ บางคนก็ว่าแข็งเป็นท่อนไม้ อ่านข่าวล่าสุดก็บอกว่าได้รับฉายาเป็นเจ้าหญิงน้ำแข็ง แต่เราว่าฉายาแบบนี้น่าเอ็นดูเหมือนกัน อย่างน้อยก็แสดงว่าเจ้าตัวน่ารัก เลยได้เป็นเจ้าหญิง
เราดูสวยร้ายสายลับมาสี่ตอน ตามดูเพราะริชชี่เลย ปกติเราดูแต่ละครรุ่นใหญ่อย่างเช่นแอนทอง พลอยเฌอมาลย์ เชอรี่ เจนี่ ถ้าเป็นช่องเจ็ดก็ดูกบ นุ่น ยุ้ย ไม่ค่อยดูละครเด็กใหม่ หรืออาจจะดูแค่ตอนสองตอนถ้าโฆษณาดี แต่ไม่เคยติดละครของนักแสดงใหม่เลย มาดูสวยร้ายสายลับแบบติดตามเต็ม ๆ เป็นเรื่องแรก เราเลยอยากเขียนติชมโดยไม่ลำเอียงแต่อย่างใด
1. ฉากบู๊ เป็นสิ่งแรกเลยที่เราอยากพูดถึง เพราะสวยร้ายสายลับโปรโมทว่าเป็นละครบู๊ คอมเมดี้ แต่เราว่าฉากบู๊ยังอ่อนไป เราเข้าใจนะคะว่าบอมกับริชชี่เพิ่งไปเรียนวิชาการต่อสู้ จะให้แสดงเก่งเท่าจา พนมก็คงไม่ได้ แต่เราว่ามันทำให้ดูตื่นเต้นได้จากเรื่องอื่น ไม่จำเป็นต้องให้ตัวดารามายืนเตะต่อยกันนาน ๆ โดยที่ไม่มีอะไรใหม่ อย่างฉากต่อสู้เมื่อคืน เราเข้าใจว่าจะเน้นริชชี่ เน้นความเป็นสวยร้ายสายลับ ริชชี่ได้ต่อสู้เต็ม ๆ สองครั้ง ใช้ทั้งมวยและยูโด แต่มันดูหลอกไป เพราะผู้หญิงตัวคนเดียวไม่มีอาวุธอื่นช่วย ตอนอยู่ในผับกับอเล็กซ์ ไม่น่าจะสู้ผู้ชายซึ่งเป็นกลุ่มผู้ร้ายได้ น่าจะให้อเล็กซ์หรือคนในร้านมาช่วยกันบ้าง หรือให้นางเอกคว้าอาวุธใกล้ตัว เช่น โคมไฟ จาน เก้าอี้ เอามาเหวี่ยงใส่ผู้ร้ายบ้างอะไรบ้าง มีการวิ่งหนีกันขึ้นบันได หรือนางเอกพาอเล็กซ์วิ่งหนีไปแอบที่อื่น ใช้ความตื่นเต้นในการตามล่า แล้วให้ริชชี่ออกมาโชว์บู๊เฉพาะฉากเด็ด ๆ สองสามรอบ เอาแบบที่ซ้อมกันมาเป๊ะ ๆ สวย ๆ เลย ไม่ต้องมายืนแช่ถ่ายต่อยๆๆๆ กันแบบยืดยาว บางซีนเห็นชัดว่าผู้ร้ายรอที่จะยกตัวนางเอก ยืนรอหมัด รอเท้า มันไม่เป๊ะน่ะค่ะ เราเข้าใจนะว่าละครอาจจะไม่มีงบมากเท่าหนัง จะให้มาวิ่งกันจากชั้นล่างขึ้นชั้นบน กระโดดใส่กระจก อะไรแบบนี้ ทำไม่ได้ แต่ว่ามันมีมุกอื่นอีกเยอะน่ะค่ะที่จะนำมาใช้ ริชชี่เป็นตำรวจก็จริง แต่ใช่ว่าจะต้องมาต่อยเตะอย่างเดียว การหนีแบบมีชั้นเชิงก็แสดงไหวพริบของนางเอกได้
อย่างฉากที่ผู้ร้ายเล็งปืนมาที่นางเอก นางเอกก็หยิบปืนมาเล็งใส่ผู้ร้ายบ้าง เราว่ามันช้าไป ดูไม่ตื่นเต้น แล้วทั้งคู่ก็ยืนอยู่ไกลกัน แถมนางเอกยังบอกผู้ร้ายว่าจะนับถึงสาม อย่างนี้ผู้ร้ายก็ยิงตั้งแต่แรกได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอการนับ ถ้าให้นางเอกม้วนตัวมาเพื่อที่จะแย่งตัวอเล็กซ์จากผู้ร้าย แล้วผู้ร้ายจ่อปืนใส่หัวนางเอกพอดี นางเอกก็จ่อปืนกลับ เล็งกันระยะใกล้ อย่างนี้เราว่าน่าตื่นเต้นกว่า แล้วก็น่าเชื่อด้วยว่าผู้ร้ายจะไม่กล้ายิง เพราะปืนนางเอกก็จ่อที่หัวผู้ร้ายเหมือนกัน
ฉากที่ผู้กองขั้นเทพหลอกผู้กองเมษาไปที่ร้านอาหาร ฉากนี้ก็ไม่เป๊ะเท่าที่ควร พระเอกมีลูกน้องไปด้วยสามคน ซึ่งก็น่าจะเป็นตำรวจทุกคน แต่ตำรวจสองคนแรกที่มารุมริชชี่กลับสู้นางเอกไม่ได้เลย นี่ก็เกินไป อย่างที่เราเขียนตอนแรก ถ้าให้นางเอกมีอาวุธบ้าง เช่น หาไม้กระบองเจอซักอัน หรือเอาเก้าอี้พับมาตี เอาจานมาขว้าง ล้มโต๊ะใส่ อะไรแบบนี้ เราว่ามันยังน่าเชื่อมากกว่าการมายืนต่อยกัน เพราะถึงนางเอกจะมีพื้นฐานยูโด ตำรวจสองคนก็ไม่น่าจะอ่อนขนาดนั้น แรงผู้หญิงไม่เท่าแรงผู้ชาย คือถ้าริชชี่เป็นนักยูโดมาก่อน ท่าทางทะมัดทะแมงสมจริง กระโดดสูง มันก็อาจจะดูดี แต่นี่นางเอกไม่ได้ฝึกมาถึงขั้นนั้น โชว์ได้แค่นิด ๆ หน่อย ๆ มันเลยดูเบาไป ไม่ตื่นเต้น แล้วยิ่งตอนเอาผ้ามาสู้กัน ยิ่งดูหลอก ถ้าเอาผ้ามามัดกัน หรือเอามาพันแข้งพันขาให้ล้ม ก็ยังพอว่า
2. สถานที่
เราว่าสถานที่ของบางซีนน่าจะดีกว่านี้ได้ เช่นตอนที่พระเอกกับนางเอกรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นตำรวจ ทั้งคู่มายืนคุยกัน กล้องถ่ายให้เห็นฉากหลังเป็นตัวตึกมีแสงไฟ แล้วก็มีอยู่แค่นี้ พระนางก็ยืนคุยกัน เดินไปมาบ้าง ริชชี่เดินมาจับเสาบ้าง เราดูแล้วฉากนี้เป็นฉากที่ทั้งคู่เริ่มมีใจต่อกัน พระเอกออกจะจีบ ๆ นางเอก นางเอกก็แต่งตัวสวย ถ้าให้ไปยืนคุยกันบนสะพาน มองลงมาเห็นกรุงเทพสว่างไสว หรือยืนคุยบนดาดฟ้าตึกสูง ๆ เห็นดาว เห็นอะไรสวย ๆ เราว่าน่าจะโรแมนติกได้มากกว่า
ฉากบ้านพ่อแม่นางเอกซึ่งตามท้องเรื่องเป็นคนรวยมาก หนูปีกบอกว่ารวยคัก ๆ น่าจะอลังการได้มากกว่านี้ แต่ดูจากห้องกินข้าว ห้องนั่งเล่น ไม่ค่อยอลังการเท่าไหร่ ยกตัวอย่างบ้านของกะรัตในเรื่องสามีตีตรา อย่างนี้เชื่อได้ว่ารวยมาก บ้านพ่อแม่นางเอกดูมีเนื้อที่จำกัดไปหน่อย สงสัยจะเป็นคนรวยแบบพอเพียงนะคะ อิอิ
3. บทพูด
ในบรรดานักแสดงนำทั้งสี่ เราว่าบทของแพร พิชญาภาด้อยที่สุด แล้วการใช้ภาษาอีสานแบบปน ๆ กันไปก็ทำให้นักแสดงโดนด่าอย่างไม่น่าจะโดน ถ้าปรับบทไปเลยให้แพรกับอเล็กซ์เป็นคนต่างจังหวัดภาคกลาง เนื้อเรื่องก็ไม่น่าจะเสียหาย สองคนนี้ก็ไม่ต้องพูดสำเนียงอีสาน แล้วสมัยนี้สาวต่างจังหวัดไม่ได้เชย เปิ่น มากมายอะไร ถ้าให้แพรเป็นคนไร้เดียงสาเพราะอยู่ต่างจังหวัด ยังดีกว่าจะให้บทเป็นคนเชย ๆ เปิ่น ๆ แต่การกระทำบางอย่างดูขัดกับบทเชย ๆ เปิ่น ๆ เช่น แพรสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้เอง เช่น ไปหาสำนักงานของเควิน สมิธ ไปหาพระเอกที่บ้าน (ซื้อส้มตำไปฝาก) คือถ้าไปไหนมาไหนได้ง่ายอย่างนี้ก็น่าจะให้เป็นเด็กสาวคล่องแคล่วผู้อ่อนต่อโลกมากกว่าที่จะให้แสดงเป็นคนเชย ๆ เพราะเสื้อผ้าหน้าผมแพรก็ไม่ได้เชยอะไรเลย ออกจะน่ารักด้วยซ้ำสำหรับการเป็นสาวบ้านนา
บทของอเล็กซ์เราก็ว่าเชยไปหน่อยนะคะ มุกหลายอย่างเชย เช่นมุกร้องไห้ขอเงินพระเอก แต่ดีว่าอเล็กซ์เล่นแล้วฮา ก็เลยฮากันไป บทของอเล็กซ์ยังดูไม่กะล่อนเจ้าเล่ห์เท่าที่ควร ทั้งที่น่าจะพลิกแพลงคล่องแคล่วมากกว่านี้เพื่อให้ส่งเสริมบทของพระเอกที่ดูเป็นคนเฉย ๆ
4. นักแสดง
ริชชี่ - เราว่าริชชี่แสดงผ่านนะคะในฐานะนางเอกละครเรื่องแรก ความสวยมาเต็ม แต่การแสดงยังไม่คงที่ บางฉากเล่นได้ดี บางฉากดร็อปซะงั้น เรื่องน้ำเสียงของริชชี่ที่มีคนติกันเยอะ เราว่าริชชี่เริ่มปรับน้ำเสียงเป็นแล้ว อย่างเวลาปลอมตัวเป็นสวยเสมอ น้ำเสียงดูอ่อนลง แต่พอกลับมาเป็นเมษา ถ้าคุยกับพระเอกแบบเหวี่ยง ๆ หน่อยก็ทำได้ดี แต่พอไปคุยกับหัวหน้าเท่านั้นเอง พลาดเลย กลายเป็นเสียงเหมือนท่องบท เพราะริชชี่จะพูดด้วยธรรมชาติของตัวเอง คือพูดเสียงแข็ง ทำให้ดูเหมือนอ่าน เราฟังริชชี่เวลาให้สัมภาษณ์ก็พูดเหมือนอ่าน แปลว่านั่นคือธรรมชาติของริชชี่เอง พอเอามาใช้ในละครมันเลยดูแข็งมาก อีกอย่าง บทเวลาเป็นตำรวจอยู่กับผู้บังคับบัญชา ริชชี่น่าจะมีแววตาที่มุ่งมั่นกว่านี้ อย่างเมื่อคืนตอนที่เริ่มสงสัยพฤติกรรมเจ้านาย ดวงตาริชชี่น่าจะแสดงออกมากกว่านี้ เวลาถามคำถามก็ต้องมีแววตาที่คาดคั้นซ่อนอยู่บ้าง ไม่ใช่แววตาเฉยเมย เรามองว่าฉากนี้ริชชี่ใช้แววตาไม่ผ่าน แต่ฉากกับพระเอก กับอเล็กซ์ ริชชี่แสดงได้ดีพอใช้แล้วค่ะ เราให้กำลังใจริชชี่นะคะ เราชอบริชชี่มาก คิดว่าริชชี่น่าจะได้รับบทนางเอกเรียบร้อย หรือกุ๊กกิ๊กนิดหน่อย เพื่อให้ริชชี่หัดปรับเสียงในการพูด แล้วตัวริชชี่เองต้องลองดูนักแสดงรุ่นใหญ่ที่ใช้ดวงตาได้ดี ดวงตาพูดได้ แบบคุณสินจัย คุณจินตหรา เพราะริชชี่ตาโตสวย ถ้าดวงตาพูดได้เยอะ น้ำเสียงที่แข็งก็อาจจะถูกมองข้าม ยังไงก็พยายามนะคะ เราจะรอดูเรื่องต่อไป
บอม - เราเพิ่งดูบอมเล่นเรื่องแรกนะคะ ไม่ใช่แฟนคลับบอม เห็นบอมโดนตำหนิเยอะ เราว่าบอมเล่นผ่าน แต่ว่าบางฉากมันทำให้บอมดูนิ่งไป แล้วก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ตามที่ควรจะเป็น อย่างเมื่อคืน ฉากที่บอมหลอกนางเอกไปพบ เวลามองนางเอก บอมมีแต่อารมณ์เครียด ทั้งที่ความจริงแล้ว บอมหลอกนางเอกแบบมีลูกเล่น ตัวพระเอกตามท้องเรื่องเองก็สนใจนางเอกมากอยู่ อย่างเวลาพูดกับอเล็กซ์ พระเอกก็บอกว่านางเอกสวย ดูดี แปลว่าติดใจนางเอกอยู่ไม่น้อย แต่เวลาบอมมองริชชี่ในฉากเมื่อคืน มันไม่แสดงความกรุ้มกริ่ม มันน่าจะมีอยู่หน่อย ๆ เพราะพระเอกเจ้าเล่ห์มากที่แกล้งชวนนางเอกมาพบแล้วยังให้ลูกน้องมาช่วยกันรุมด้วย แล้วการที่ให้บอมนั่งพิงเก้าอี้มองนางเอกต่อสู้กับลูกน้องตัวเอง มันทำให้บอมดูแข็ง น่าจะให้บอมเปลี่ยนอิริยาบถ โน้มตัวมาข้างหน้าอย่างสนใจบ้าง นัยน์ตาเป็นประกายบ้าง มองนางเอกอย่างทึ่ง ตกใจ ตบโต๊ะ ตื่นตาตื่นใจกับฝีมือนางเอกบ้าง ไม่ใช่นั่งอยู่ท่าเดียว
อีกฉากคือฉากอาบน้ำ สงสัยจะเป็นฉากเซอร์วิสแฟนคลับ ตรงนี้บอมก็นั่งพิงอ่างอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ขยับเลย เราว่าพระเอกคนนี้ดูดีถ้าได้ขยับตัว เพราะเป็นรูปร่างดี หน้าตาหล่อ บอมไม่ใช่พระเอกแบบที่แสดงอารมณ์ทางดวงตาได้มากเหมือนแอนดริว แล้วน้ำเสียงและการแสดงสีหน้าก็ไม่ใช่แบบติ๊กเจษฎาภรณ์ เราไม่ได้เทียบบอมกับสองคนนี้นะคะ แต่ละคนมีการแสดงที่ต่างกัน แต่เรายกตัวอย่างให้เห็นว่าในเมื่อบอมไม่ได้เป็นแบบสองคนนี้ จะให้บอมมานั่งรำพันอยู่เฉย ๆ โดยไม่ขยับตัวเลยไม่ได้ จะทำให้น่าเบื่อ ไหน ๆ จะเซอร์วิสทั้งที ก็น่าจะให้บอมถูสบู่บ้าง ลุกขึ้นยืนอาบน้ำให้น้ำในฝักบัวสาดลงมาบนหน้าตา ผม ทำให้ดูเซ็กซี่ขึ้น แฟนคลับจะได้เลือดกำเดาไหล คือให้นั่งคิดเฉย ๆ มันดูยืดยาดมากค่ะ ส่วนนางเอกในฉากอาบน้ำนี่เราเข้าใจว่าทำอะไรมากไม่ได้ จะให้มาลุกๆ นั่งๆ มันไม่เหมาะสม แต่พระเอกเซอร์วิสได้มากกว่านี้ค่ะ เราเข้าใจแล้วว่าทำไมคนชอบว่าบอมมีหน้าเดียว สำหรับเรื่องนี้เราว่าน่าจะตำหนิที่ผู้กำกับไม่ได้บอกให้บอมขยับตัวมากนักในบางฉาก เราไม่ได้หมายถึงฉากอาบน้ำเท่านั้น เราหมายถึงฉากอื่นด้วย อย่างฉากโกรธอเล็กซ์ หลายครั้งก็ให้บอมพูดอยู่เฉย ๆ น่าจะให้บอมผลักอกอเล็กซ์บ้าง ทุบโต๊ะบ้าง คือให้บอมแสดงท่าทางมากขึ้น เราเดาว่าปกติแล้วบอมคงเป็นคนที่ไม่แสดงอารมณ์แบบแรง ๆ เวลาโกรธก็ทำหน้าได้แค่นั้น มันไม่เปรี้ยงออกมา คนเลยหาว่ามีหน้าเดียว บอมจึงควรปรับตัวเองให้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้นเพื่อประกอบอารมณ์ อย่ายืนเฉย หรืออย่านั่งพูดเฉย ๆ ไม่ขยับตัว
อเล็กซ์ - เราว่าบทบุญเลิศไม่เจ้าเล่ห์พอ ไม่แสดงความฉลาดเท่าที่บทควรจะเป็น แต่อเล็กซ์ฮา อย่างที่เราเขียนไปแล้ว ก็เลยทำให้บทลื่น เวลาอเล็กซ์พูดอะไรที่เราเดาว่าคงพูดนอกบท เราว่าขำดี การแต่งตัวของอเล็กซ์ก็ฮาดี เวลาเอาหนวดออกนี่หล่อมากเลย หล่อกว่าพระเอกเยอะ (ในสายตาเรานะ อย่าว่ากัน) โดยรวมแล้วอเล็กซ์เล่นดีตามมาตรฐาน อาจจะโอเวอร์บ้าง แต่ก็ถือว่ายังดีอยู่สำหรับละคร เราว่าผู้กำกับฉลาดที่เอาอเล็กซ์มาเล่นประกบพระเอกนางเอก มันทำให้เรื่องไหลลื่น อเล็กซ์มีภาษากายที่ทำให้เด่นกว่าบท คนไม่จับผิดกับบท บางคำพูดถ้าเป็นคนอื่นพูดนี่ตายไปเลย แต่อเล็กซ์พูดแล้วยังไหวอยู่ อย่างเมื่อคืนที่อเล็กซ์ถามนางเอกว่าเมื่อไหร่จะมาค้างด้วย เราว่าคำพูดนี้แรงจัง มีผู้ชายคนไหนกล้าถามผู้หญิงแบบนี้เหรอคะ ถึงผู้หญิงจะเสนอตัวมาเป็นแฟนก็เถอะ แต่เขาไม่ได้มาขายตัว น่าจะถามให้มันนุ่มกว่านี้หน่อย เช่น เมื่อไหร่จะมานอนนับดาวด้วยกันจ๊ะ อะไรแบบนี้ คือให้มันดูกุ๊กกิ๊กหน่อย แต่ดีว่าเป็นอเล็กซ์พูดแล้วทำเสียงแบบยานคาง ก็เลยดูขำๆ ไปได้
แพร - จนถึงตอนที่สี่เท่าที่เราดูมานี้ แพรได้บทที่ไม่ส่งตัวเขาเท่าไหร่ เวลามีฉากให้ดราม่า อย่างตอนอยู่บ้านนอกกับพ่อแม่ พ่อแม่ก็แย่งซีนไปเรียบร้อยเพราะแสดงได้น่าสงสารกว่า พอเข้ากรุงมา ความขาดๆ เกิน ๆ ของบททำให้แพรไปไม่ถึงซักทาง จะตลกไปเลยก็ไม่ใช่ จะเศร้าก็ไม่เชิง ถ้าจะให้ตลก เราว่าหลายบทก็ตลกได้ อย่างฉากที่จะโดนปล้ำถึงสองครั้ง ทำให้มันทุลักทุเล ต่อสู้กันแบบขำๆ ก็ได้ แต่นี่มันตลกบ้าง เศร้าบ้าง คนดูเลยไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไงกับแพร จนถึงที่เราดูตอนนี้ เราไม่รู้สึกสงสารหรือขำมากนัก มันไม่สุดน่ะค่ะ มันมีเหตุการณ์อะไรมาทำให้คนดูไม่รู้สึกติดกับตัวละคร แบบ จะออกมาก็ได้ จะไม่ออกมาก็ได้ เราหวังว่าบทแพรหลังจากนี้จะเข้มข้นขึ้น ส่งเสริมนักแสดงมากขึ้น
เราพิมพ์ยาว เราติเพราะเราดูละครเรื่องนี้จริงจัง เราชอบละครที่ไม่มีนางร้าย ขอชื่นชมยูม่าในจุดนี้ ขอให้ค่ายเจริญรุ่งเรือง ทำละครดีๆ ออกมาอีกนะคะ
สวยร้ายสายลับ หลังจากดูมาครบ 4 ตอน จากแฟนคลับริชชี่
เราดูสวยร้ายสายลับมาสี่ตอน ตามดูเพราะริชชี่เลย ปกติเราดูแต่ละครรุ่นใหญ่อย่างเช่นแอนทอง พลอยเฌอมาลย์ เชอรี่ เจนี่ ถ้าเป็นช่องเจ็ดก็ดูกบ นุ่น ยุ้ย ไม่ค่อยดูละครเด็กใหม่ หรืออาจจะดูแค่ตอนสองตอนถ้าโฆษณาดี แต่ไม่เคยติดละครของนักแสดงใหม่เลย มาดูสวยร้ายสายลับแบบติดตามเต็ม ๆ เป็นเรื่องแรก เราเลยอยากเขียนติชมโดยไม่ลำเอียงแต่อย่างใด
1. ฉากบู๊ เป็นสิ่งแรกเลยที่เราอยากพูดถึง เพราะสวยร้ายสายลับโปรโมทว่าเป็นละครบู๊ คอมเมดี้ แต่เราว่าฉากบู๊ยังอ่อนไป เราเข้าใจนะคะว่าบอมกับริชชี่เพิ่งไปเรียนวิชาการต่อสู้ จะให้แสดงเก่งเท่าจา พนมก็คงไม่ได้ แต่เราว่ามันทำให้ดูตื่นเต้นได้จากเรื่องอื่น ไม่จำเป็นต้องให้ตัวดารามายืนเตะต่อยกันนาน ๆ โดยที่ไม่มีอะไรใหม่ อย่างฉากต่อสู้เมื่อคืน เราเข้าใจว่าจะเน้นริชชี่ เน้นความเป็นสวยร้ายสายลับ ริชชี่ได้ต่อสู้เต็ม ๆ สองครั้ง ใช้ทั้งมวยและยูโด แต่มันดูหลอกไป เพราะผู้หญิงตัวคนเดียวไม่มีอาวุธอื่นช่วย ตอนอยู่ในผับกับอเล็กซ์ ไม่น่าจะสู้ผู้ชายซึ่งเป็นกลุ่มผู้ร้ายได้ น่าจะให้อเล็กซ์หรือคนในร้านมาช่วยกันบ้าง หรือให้นางเอกคว้าอาวุธใกล้ตัว เช่น โคมไฟ จาน เก้าอี้ เอามาเหวี่ยงใส่ผู้ร้ายบ้างอะไรบ้าง มีการวิ่งหนีกันขึ้นบันได หรือนางเอกพาอเล็กซ์วิ่งหนีไปแอบที่อื่น ใช้ความตื่นเต้นในการตามล่า แล้วให้ริชชี่ออกมาโชว์บู๊เฉพาะฉากเด็ด ๆ สองสามรอบ เอาแบบที่ซ้อมกันมาเป๊ะ ๆ สวย ๆ เลย ไม่ต้องมายืนแช่ถ่ายต่อยๆๆๆ กันแบบยืดยาว บางซีนเห็นชัดว่าผู้ร้ายรอที่จะยกตัวนางเอก ยืนรอหมัด รอเท้า มันไม่เป๊ะน่ะค่ะ เราเข้าใจนะว่าละครอาจจะไม่มีงบมากเท่าหนัง จะให้มาวิ่งกันจากชั้นล่างขึ้นชั้นบน กระโดดใส่กระจก อะไรแบบนี้ ทำไม่ได้ แต่ว่ามันมีมุกอื่นอีกเยอะน่ะค่ะที่จะนำมาใช้ ริชชี่เป็นตำรวจก็จริง แต่ใช่ว่าจะต้องมาต่อยเตะอย่างเดียว การหนีแบบมีชั้นเชิงก็แสดงไหวพริบของนางเอกได้
อย่างฉากที่ผู้ร้ายเล็งปืนมาที่นางเอก นางเอกก็หยิบปืนมาเล็งใส่ผู้ร้ายบ้าง เราว่ามันช้าไป ดูไม่ตื่นเต้น แล้วทั้งคู่ก็ยืนอยู่ไกลกัน แถมนางเอกยังบอกผู้ร้ายว่าจะนับถึงสาม อย่างนี้ผู้ร้ายก็ยิงตั้งแต่แรกได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอการนับ ถ้าให้นางเอกม้วนตัวมาเพื่อที่จะแย่งตัวอเล็กซ์จากผู้ร้าย แล้วผู้ร้ายจ่อปืนใส่หัวนางเอกพอดี นางเอกก็จ่อปืนกลับ เล็งกันระยะใกล้ อย่างนี้เราว่าน่าตื่นเต้นกว่า แล้วก็น่าเชื่อด้วยว่าผู้ร้ายจะไม่กล้ายิง เพราะปืนนางเอกก็จ่อที่หัวผู้ร้ายเหมือนกัน
ฉากที่ผู้กองขั้นเทพหลอกผู้กองเมษาไปที่ร้านอาหาร ฉากนี้ก็ไม่เป๊ะเท่าที่ควร พระเอกมีลูกน้องไปด้วยสามคน ซึ่งก็น่าจะเป็นตำรวจทุกคน แต่ตำรวจสองคนแรกที่มารุมริชชี่กลับสู้นางเอกไม่ได้เลย นี่ก็เกินไป อย่างที่เราเขียนตอนแรก ถ้าให้นางเอกมีอาวุธบ้าง เช่น หาไม้กระบองเจอซักอัน หรือเอาเก้าอี้พับมาตี เอาจานมาขว้าง ล้มโต๊ะใส่ อะไรแบบนี้ เราว่ามันยังน่าเชื่อมากกว่าการมายืนต่อยกัน เพราะถึงนางเอกจะมีพื้นฐานยูโด ตำรวจสองคนก็ไม่น่าจะอ่อนขนาดนั้น แรงผู้หญิงไม่เท่าแรงผู้ชาย คือถ้าริชชี่เป็นนักยูโดมาก่อน ท่าทางทะมัดทะแมงสมจริง กระโดดสูง มันก็อาจจะดูดี แต่นี่นางเอกไม่ได้ฝึกมาถึงขั้นนั้น โชว์ได้แค่นิด ๆ หน่อย ๆ มันเลยดูเบาไป ไม่ตื่นเต้น แล้วยิ่งตอนเอาผ้ามาสู้กัน ยิ่งดูหลอก ถ้าเอาผ้ามามัดกัน หรือเอามาพันแข้งพันขาให้ล้ม ก็ยังพอว่า
2. สถานที่
เราว่าสถานที่ของบางซีนน่าจะดีกว่านี้ได้ เช่นตอนที่พระเอกกับนางเอกรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นตำรวจ ทั้งคู่มายืนคุยกัน กล้องถ่ายให้เห็นฉากหลังเป็นตัวตึกมีแสงไฟ แล้วก็มีอยู่แค่นี้ พระนางก็ยืนคุยกัน เดินไปมาบ้าง ริชชี่เดินมาจับเสาบ้าง เราดูแล้วฉากนี้เป็นฉากที่ทั้งคู่เริ่มมีใจต่อกัน พระเอกออกจะจีบ ๆ นางเอก นางเอกก็แต่งตัวสวย ถ้าให้ไปยืนคุยกันบนสะพาน มองลงมาเห็นกรุงเทพสว่างไสว หรือยืนคุยบนดาดฟ้าตึกสูง ๆ เห็นดาว เห็นอะไรสวย ๆ เราว่าน่าจะโรแมนติกได้มากกว่า
ฉากบ้านพ่อแม่นางเอกซึ่งตามท้องเรื่องเป็นคนรวยมาก หนูปีกบอกว่ารวยคัก ๆ น่าจะอลังการได้มากกว่านี้ แต่ดูจากห้องกินข้าว ห้องนั่งเล่น ไม่ค่อยอลังการเท่าไหร่ ยกตัวอย่างบ้านของกะรัตในเรื่องสามีตีตรา อย่างนี้เชื่อได้ว่ารวยมาก บ้านพ่อแม่นางเอกดูมีเนื้อที่จำกัดไปหน่อย สงสัยจะเป็นคนรวยแบบพอเพียงนะคะ อิอิ
3. บทพูด
ในบรรดานักแสดงนำทั้งสี่ เราว่าบทของแพร พิชญาภาด้อยที่สุด แล้วการใช้ภาษาอีสานแบบปน ๆ กันไปก็ทำให้นักแสดงโดนด่าอย่างไม่น่าจะโดน ถ้าปรับบทไปเลยให้แพรกับอเล็กซ์เป็นคนต่างจังหวัดภาคกลาง เนื้อเรื่องก็ไม่น่าจะเสียหาย สองคนนี้ก็ไม่ต้องพูดสำเนียงอีสาน แล้วสมัยนี้สาวต่างจังหวัดไม่ได้เชย เปิ่น มากมายอะไร ถ้าให้แพรเป็นคนไร้เดียงสาเพราะอยู่ต่างจังหวัด ยังดีกว่าจะให้บทเป็นคนเชย ๆ เปิ่น ๆ แต่การกระทำบางอย่างดูขัดกับบทเชย ๆ เปิ่น ๆ เช่น แพรสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้เอง เช่น ไปหาสำนักงานของเควิน สมิธ ไปหาพระเอกที่บ้าน (ซื้อส้มตำไปฝาก) คือถ้าไปไหนมาไหนได้ง่ายอย่างนี้ก็น่าจะให้เป็นเด็กสาวคล่องแคล่วผู้อ่อนต่อโลกมากกว่าที่จะให้แสดงเป็นคนเชย ๆ เพราะเสื้อผ้าหน้าผมแพรก็ไม่ได้เชยอะไรเลย ออกจะน่ารักด้วยซ้ำสำหรับการเป็นสาวบ้านนา
บทของอเล็กซ์เราก็ว่าเชยไปหน่อยนะคะ มุกหลายอย่างเชย เช่นมุกร้องไห้ขอเงินพระเอก แต่ดีว่าอเล็กซ์เล่นแล้วฮา ก็เลยฮากันไป บทของอเล็กซ์ยังดูไม่กะล่อนเจ้าเล่ห์เท่าที่ควร ทั้งที่น่าจะพลิกแพลงคล่องแคล่วมากกว่านี้เพื่อให้ส่งเสริมบทของพระเอกที่ดูเป็นคนเฉย ๆ
4. นักแสดง
ริชชี่ - เราว่าริชชี่แสดงผ่านนะคะในฐานะนางเอกละครเรื่องแรก ความสวยมาเต็ม แต่การแสดงยังไม่คงที่ บางฉากเล่นได้ดี บางฉากดร็อปซะงั้น เรื่องน้ำเสียงของริชชี่ที่มีคนติกันเยอะ เราว่าริชชี่เริ่มปรับน้ำเสียงเป็นแล้ว อย่างเวลาปลอมตัวเป็นสวยเสมอ น้ำเสียงดูอ่อนลง แต่พอกลับมาเป็นเมษา ถ้าคุยกับพระเอกแบบเหวี่ยง ๆ หน่อยก็ทำได้ดี แต่พอไปคุยกับหัวหน้าเท่านั้นเอง พลาดเลย กลายเป็นเสียงเหมือนท่องบท เพราะริชชี่จะพูดด้วยธรรมชาติของตัวเอง คือพูดเสียงแข็ง ทำให้ดูเหมือนอ่าน เราฟังริชชี่เวลาให้สัมภาษณ์ก็พูดเหมือนอ่าน แปลว่านั่นคือธรรมชาติของริชชี่เอง พอเอามาใช้ในละครมันเลยดูแข็งมาก อีกอย่าง บทเวลาเป็นตำรวจอยู่กับผู้บังคับบัญชา ริชชี่น่าจะมีแววตาที่มุ่งมั่นกว่านี้ อย่างเมื่อคืนตอนที่เริ่มสงสัยพฤติกรรมเจ้านาย ดวงตาริชชี่น่าจะแสดงออกมากกว่านี้ เวลาถามคำถามก็ต้องมีแววตาที่คาดคั้นซ่อนอยู่บ้าง ไม่ใช่แววตาเฉยเมย เรามองว่าฉากนี้ริชชี่ใช้แววตาไม่ผ่าน แต่ฉากกับพระเอก กับอเล็กซ์ ริชชี่แสดงได้ดีพอใช้แล้วค่ะ เราให้กำลังใจริชชี่นะคะ เราชอบริชชี่มาก คิดว่าริชชี่น่าจะได้รับบทนางเอกเรียบร้อย หรือกุ๊กกิ๊กนิดหน่อย เพื่อให้ริชชี่หัดปรับเสียงในการพูด แล้วตัวริชชี่เองต้องลองดูนักแสดงรุ่นใหญ่ที่ใช้ดวงตาได้ดี ดวงตาพูดได้ แบบคุณสินจัย คุณจินตหรา เพราะริชชี่ตาโตสวย ถ้าดวงตาพูดได้เยอะ น้ำเสียงที่แข็งก็อาจจะถูกมองข้าม ยังไงก็พยายามนะคะ เราจะรอดูเรื่องต่อไป
บอม - เราเพิ่งดูบอมเล่นเรื่องแรกนะคะ ไม่ใช่แฟนคลับบอม เห็นบอมโดนตำหนิเยอะ เราว่าบอมเล่นผ่าน แต่ว่าบางฉากมันทำให้บอมดูนิ่งไป แล้วก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ตามที่ควรจะเป็น อย่างเมื่อคืน ฉากที่บอมหลอกนางเอกไปพบ เวลามองนางเอก บอมมีแต่อารมณ์เครียด ทั้งที่ความจริงแล้ว บอมหลอกนางเอกแบบมีลูกเล่น ตัวพระเอกตามท้องเรื่องเองก็สนใจนางเอกมากอยู่ อย่างเวลาพูดกับอเล็กซ์ พระเอกก็บอกว่านางเอกสวย ดูดี แปลว่าติดใจนางเอกอยู่ไม่น้อย แต่เวลาบอมมองริชชี่ในฉากเมื่อคืน มันไม่แสดงความกรุ้มกริ่ม มันน่าจะมีอยู่หน่อย ๆ เพราะพระเอกเจ้าเล่ห์มากที่แกล้งชวนนางเอกมาพบแล้วยังให้ลูกน้องมาช่วยกันรุมด้วย แล้วการที่ให้บอมนั่งพิงเก้าอี้มองนางเอกต่อสู้กับลูกน้องตัวเอง มันทำให้บอมดูแข็ง น่าจะให้บอมเปลี่ยนอิริยาบถ โน้มตัวมาข้างหน้าอย่างสนใจบ้าง นัยน์ตาเป็นประกายบ้าง มองนางเอกอย่างทึ่ง ตกใจ ตบโต๊ะ ตื่นตาตื่นใจกับฝีมือนางเอกบ้าง ไม่ใช่นั่งอยู่ท่าเดียว
อีกฉากคือฉากอาบน้ำ สงสัยจะเป็นฉากเซอร์วิสแฟนคลับ ตรงนี้บอมก็นั่งพิงอ่างอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ขยับเลย เราว่าพระเอกคนนี้ดูดีถ้าได้ขยับตัว เพราะเป็นรูปร่างดี หน้าตาหล่อ บอมไม่ใช่พระเอกแบบที่แสดงอารมณ์ทางดวงตาได้มากเหมือนแอนดริว แล้วน้ำเสียงและการแสดงสีหน้าก็ไม่ใช่แบบติ๊กเจษฎาภรณ์ เราไม่ได้เทียบบอมกับสองคนนี้นะคะ แต่ละคนมีการแสดงที่ต่างกัน แต่เรายกตัวอย่างให้เห็นว่าในเมื่อบอมไม่ได้เป็นแบบสองคนนี้ จะให้บอมมานั่งรำพันอยู่เฉย ๆ โดยไม่ขยับตัวเลยไม่ได้ จะทำให้น่าเบื่อ ไหน ๆ จะเซอร์วิสทั้งที ก็น่าจะให้บอมถูสบู่บ้าง ลุกขึ้นยืนอาบน้ำให้น้ำในฝักบัวสาดลงมาบนหน้าตา ผม ทำให้ดูเซ็กซี่ขึ้น แฟนคลับจะได้เลือดกำเดาไหล คือให้นั่งคิดเฉย ๆ มันดูยืดยาดมากค่ะ ส่วนนางเอกในฉากอาบน้ำนี่เราเข้าใจว่าทำอะไรมากไม่ได้ จะให้มาลุกๆ นั่งๆ มันไม่เหมาะสม แต่พระเอกเซอร์วิสได้มากกว่านี้ค่ะ เราเข้าใจแล้วว่าทำไมคนชอบว่าบอมมีหน้าเดียว สำหรับเรื่องนี้เราว่าน่าจะตำหนิที่ผู้กำกับไม่ได้บอกให้บอมขยับตัวมากนักในบางฉาก เราไม่ได้หมายถึงฉากอาบน้ำเท่านั้น เราหมายถึงฉากอื่นด้วย อย่างฉากโกรธอเล็กซ์ หลายครั้งก็ให้บอมพูดอยู่เฉย ๆ น่าจะให้บอมผลักอกอเล็กซ์บ้าง ทุบโต๊ะบ้าง คือให้บอมแสดงท่าทางมากขึ้น เราเดาว่าปกติแล้วบอมคงเป็นคนที่ไม่แสดงอารมณ์แบบแรง ๆ เวลาโกรธก็ทำหน้าได้แค่นั้น มันไม่เปรี้ยงออกมา คนเลยหาว่ามีหน้าเดียว บอมจึงควรปรับตัวเองให้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้นเพื่อประกอบอารมณ์ อย่ายืนเฉย หรืออย่านั่งพูดเฉย ๆ ไม่ขยับตัว
อเล็กซ์ - เราว่าบทบุญเลิศไม่เจ้าเล่ห์พอ ไม่แสดงความฉลาดเท่าที่บทควรจะเป็น แต่อเล็กซ์ฮา อย่างที่เราเขียนไปแล้ว ก็เลยทำให้บทลื่น เวลาอเล็กซ์พูดอะไรที่เราเดาว่าคงพูดนอกบท เราว่าขำดี การแต่งตัวของอเล็กซ์ก็ฮาดี เวลาเอาหนวดออกนี่หล่อมากเลย หล่อกว่าพระเอกเยอะ (ในสายตาเรานะ อย่าว่ากัน) โดยรวมแล้วอเล็กซ์เล่นดีตามมาตรฐาน อาจจะโอเวอร์บ้าง แต่ก็ถือว่ายังดีอยู่สำหรับละคร เราว่าผู้กำกับฉลาดที่เอาอเล็กซ์มาเล่นประกบพระเอกนางเอก มันทำให้เรื่องไหลลื่น อเล็กซ์มีภาษากายที่ทำให้เด่นกว่าบท คนไม่จับผิดกับบท บางคำพูดถ้าเป็นคนอื่นพูดนี่ตายไปเลย แต่อเล็กซ์พูดแล้วยังไหวอยู่ อย่างเมื่อคืนที่อเล็กซ์ถามนางเอกว่าเมื่อไหร่จะมาค้างด้วย เราว่าคำพูดนี้แรงจัง มีผู้ชายคนไหนกล้าถามผู้หญิงแบบนี้เหรอคะ ถึงผู้หญิงจะเสนอตัวมาเป็นแฟนก็เถอะ แต่เขาไม่ได้มาขายตัว น่าจะถามให้มันนุ่มกว่านี้หน่อย เช่น เมื่อไหร่จะมานอนนับดาวด้วยกันจ๊ะ อะไรแบบนี้ คือให้มันดูกุ๊กกิ๊กหน่อย แต่ดีว่าเป็นอเล็กซ์พูดแล้วทำเสียงแบบยานคาง ก็เลยดูขำๆ ไปได้
แพร - จนถึงตอนที่สี่เท่าที่เราดูมานี้ แพรได้บทที่ไม่ส่งตัวเขาเท่าไหร่ เวลามีฉากให้ดราม่า อย่างตอนอยู่บ้านนอกกับพ่อแม่ พ่อแม่ก็แย่งซีนไปเรียบร้อยเพราะแสดงได้น่าสงสารกว่า พอเข้ากรุงมา ความขาดๆ เกิน ๆ ของบททำให้แพรไปไม่ถึงซักทาง จะตลกไปเลยก็ไม่ใช่ จะเศร้าก็ไม่เชิง ถ้าจะให้ตลก เราว่าหลายบทก็ตลกได้ อย่างฉากที่จะโดนปล้ำถึงสองครั้ง ทำให้มันทุลักทุเล ต่อสู้กันแบบขำๆ ก็ได้ แต่นี่มันตลกบ้าง เศร้าบ้าง คนดูเลยไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไงกับแพร จนถึงที่เราดูตอนนี้ เราไม่รู้สึกสงสารหรือขำมากนัก มันไม่สุดน่ะค่ะ มันมีเหตุการณ์อะไรมาทำให้คนดูไม่รู้สึกติดกับตัวละคร แบบ จะออกมาก็ได้ จะไม่ออกมาก็ได้ เราหวังว่าบทแพรหลังจากนี้จะเข้มข้นขึ้น ส่งเสริมนักแสดงมากขึ้น
เราพิมพ์ยาว เราติเพราะเราดูละครเรื่องนี้จริงจัง เราชอบละครที่ไม่มีนางร้าย ขอชื่นชมยูม่าในจุดนี้ ขอให้ค่ายเจริญรุ่งเรือง ทำละครดีๆ ออกมาอีกนะคะ