ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวสักเล็กน้อย เนื่องด้วยตัวผมเองเป็นคนชอบถ่ายภาพ และแฟนผมเป็นคนที่รักสุนัขมากๆ รักสุนัขพอๆ กับแฟนตัวเอง (เผลอๆ อาจจะมากกว่า ฮ่าๆ) แฟนผมเลี้ยงสุนัขไว้ที่บ้านหลายตัว ซึ่งก็มีด้วยกันหลากหลายสายพันธุ์ ที่มาที่ไปของแต่ละตัวก็ต่างกันไป
ปกติถ้ามีเวลาว่างผมก็จะนำกล้องมาถ่ายภาพสุนัขแต่ละตัวเก็บไว้ ซึ่งก็เป็นภาพที่มีแต่สุนัขในภาพ จนวันนึงผมเกิดความคิดว่าสิ่งมีชีวิตล้วน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่ช้าก็เร็วเขาต้องจากเราไป เราไม่มีทางรู้ว่าจะมีช่วงเวลาดีๆ อยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหน ภาพถ่ายที่มีแต่สุนัขในอริยาบทต่างๆ อาจทำให้เราได้นึกถึงเขาในวันเก่าๆ แต่จะดีแค่ไหนถ้าในความทรงจำเหล่านั้นมีเราอยู่ด้วย ผมจึงไม่รอช้าบอกแฟนว่า วันนี้จะถ่ายรูปให้เป็นรูปคู่กับลูกๆ แต่ละตัว ในระหว่างที่ผมถ่ายภาพ ผมแทบไม่ต้องบอกให้แฟนผมทำอะไรเลย ทุกๆ การกระทำล้วนออกมาจากความรู้สึกข้างใน เสียงชัตเตอร์ที่ดังในแต่ละภาพเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข รอยยิ้มที่ผมได้เห็นบนใบหน้าของเธอทำให้ผมมีความสุขไปด้วยในขณะที่สายตามองผ่านช่องมองภาพ
จุดประสงค์ในการเผยแพร่ภาพครั้งนี้ คงมีเพียงแค่อยากนำภาพมาแบ่งปันให้กับหลายๆ คนที่รักสุนัข หรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ได้เห็น และเผื่อว่าภาพเหล่านี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจที่จะทำให้คุณหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพคู่กันของคุณกับมิตรสหายเหล่านั้น บันทึกความทรงจำดีๆ ของคุณตั้งแต่วันนี้ด้วยกล้องอะไรก็ได้ เพราะความทรงจำดีๆ ไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งบันทึกภาพที่ดีที่สุด เพียงแต่ใช้ช่วงเวลาดีๆ ที่เกิดขึ้นในการบันทึกภาพก็แค่นั้น
"เพื่อนร่วมโลกที่มอบความรัก มิตรภาพ ความผูกพันให้โดยที่เราไม่ทันตั้งตัว จนสามารถรักได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไข"
เริ่มจากตัวแรกกันเลย
ชื่อ ติ๊ดชึ่ง
สุนัขตัวแรกที่แฟนผมเอามาเลี้ยง เริ่มจากการที่แฟนไปเดินเซ็นทรัลบางนาและได้หลงเข้าไปในร้านขายสุนัข ในตอนแรกแฟนไม่ได้คิดจะเลี้ยงสุนัขเลย แต่พอติ๊ดชึ่งหันมาสบตาก็อดไม่ได้ถึงความน่ารัก และความเอ็นดูที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ทำให้ต้องไปกดเงินมาทั้งบัญชีเพื่อมารับติ๊ดชึ่งไปอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่ๆบ้านของตัวเองไม่รู้ว่ามีสมาชิกใหม่มาเพิ่ม ก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไปอยู่ช่วงหนึ่ง จนสุดท้ายความแตกพ่อกับแม่รู้ แต่พอท่านทั้งสองเห็นถึงความน่ารักของติ๊ดชึ่ง แทนที่จะต่อว่าท่านกลับหลงรักติ๊ดชึ่งในวินาทีนั้นทันที และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ติ๊ดชึ่งก็ผ่านร้อนผ่านหนาว เสียน้ำตาไปหลายครั้งกับการทำใจเพราะเขาป่วยด้วยโรคหัวใจโดยที่ไม่รู้จะจากไปเมื่อไหร่ แต่เขาก็สู้มาโดยตลอดระยะเวลา 14 ปี
ชิงชิง
ในตอนแรกที่บ้านเลี้ยงปั๊กไว้แล้ว 1 ตัว แต่ว่าอยากได้ปั๊กอีก 1 ตัวจึงไปซื้อมาจากฟาร์ม เป็นสุนัขที่คอยอยู่เคียงข้างในทุกช่วงเวลาของชีวิต ในบางครั้งที่แฟนร้องไห้เสียใจ ชิงชิงจะเข้ามานั่งที่ตัก มาเลียหน้าเหมือนกำลังจะบอกเป็นนัยว่า โอ๋ๆ อย่าร้องๆ ชิงชิงเป็นสุนัขที่สุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก การไปคลินิกเป็นเหมือนการไปเที่ยวของชิงชิง (ชิงชิงจะตื่นเต้นเวลาไปคลินิก) จึงทำให้ได้เรียนรู้วิธีดูแลสุนัขมากยิ่งขึ้น เพราะสุนัขก็เหมือนคนมีเจ็บ มีป่วย และบางทีก็เกิดจากสิ่งที่เราไม่รู้และเขาก็บอกเราไม่ได้ ทำให้ได้ศึกษาหาความรู้เรื่องสุนัขมากขึ้น
โฮโบ
เจอครั้งแรกที่ร้านหมอหมาที่สนิทกัน ก่อนหน้านั้นเห็นหมาพันธ์ปั๊กสีดำในหนังสือก็สนใจว่ามันมีด้วยเหรอแต่ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นในไทย วันหนึ่งเดินไปหลังร้านหมอจะไปล้างมือก็เห็นตัวอะไรสีดำอยู่ในกรง ดำไปหมดเลยดูหน้าตาไม่ออกว่าเป็นตัวอะไรเลยเดินเข้าไปดูชัดๆ สรุปเป็นปั๊กสีดำ ลองเล่นด้วยแต่หมาเศร้ามากไม่ร่าเริง เลยมาคุยกับหมอว่าเกิดอะไรขึ้น หมอบอกว่าเจ้าของเอามารักษาโรคผิวหนัง จะสองเดือนแล้วไม่มารับ ติดต่อก็ไม่ได้ ตอนนั้นก็สงสารแต่ยังไม่ได้คิดอะไร จนวันนึงหมอโทรมาบอกว่าเจ้าของมันย้ายบ้านไปไหนแล้วก็ไม่รู้ทิ้งหมาไว้เลย ทำบุญไหม รับไปเลี้ยงเป็นเพื่อนชิงชิง เพราะช่วงนั้นชิงชิงอยู่บ้านตัวเดียวตลอด ก็เลยบอกหมอว่าเดี๋ยวไปคุยด้วยที่ร้าน พอไปถึงหมอปล่อยออกมา หมาก็วิ่งตรงมาหาเราเลยแล้วมาทำตาแป๋วใส่ จึงตกลงเอากลับบ้าน เลี้ยงไปเรื่อยๆ ก็สังเกตุว่าโฮโบเดินชนนู่นนี่บ่อยเลยพาไปตรวจตากับหมอเฉพาะทาง สรุปโบเป็นประสาทตาเสื่อม ซึ่งเป็นโรคที่มาจากพันธุกรรมของปั๊กสีดำ ก็เลยเริ่มทำการหาข้อมูลแล้วก็ไปเจอศูนย์วิจัยเรื่องนี้โดยตรงที่อเมริกา ก็ติดต่อทางนั้นไปเค้าก็ส่งยามาให้ กินแรกๆก็ดีขึ้นแต่มันไม่หายขาดเลยทำใจ ตอนนี้โฮโบตาบอดสนิทแต่ก็ดูแลเค้าให้ดีที่สุด การดูแลโฮโบจะลำบากหน่อยเพราะมีการย้ายบ้านด้วย ต้องฝึกเขาให้เขาจำกลิ่นจำทางเดินในบ้านใหม่พักใหญ่กว่าเขาจะคุ้น แรกๆ มาเดินตกสระทุก2-3วัน เผลอไม่ได้เลย ตอนนี้ทำที่ให้เค้าอยู่เป็นสัดส่วนก็ดีขึ้น
ร๊อคกี้ บั๊บเบิ้ล
ตอนนั้นแฟนมีงานที่ป่าละอู ทางไปป่าละอูจะเป็นป่าแทบไม่มีบ้านคนแต่จะมีอยู่จุดหนึ่งมีศาลอยู่ วันหนึ่งขับรถกลับจากทำงานตามปกติ ตอนขับผ่านศาลเห็นมีลูกหมาสีน้ำตาลครีมๆ ยืนอยู่ข้างทาง ก็งงว่ามาจากไหนเพราะแถวนั้นไม่มีบ้านคนเลยแต่ขับรถเร็วก็เลยเลยไปเยอะ คิดไปคิดมาเลยขับรถย้อนกลับมาดู มาถึงตรงศาลก็ไม่เห็นหมาแล้ว ก็เดินเรียกอยู่สักพักหมาก็โผล่มาตรงข้างทางฝั่งตีนเขาแล้วเป็นบริเวณเนินพอดี แต่เรียกแล้วก็ไม่ยอมเดินมา เริ่มสังเกตุว่ามีปลอกคอด้วย เรียกอยู่สักพักเริ่มเอะใจทำไมไม่มาเลยเดินไปบนเนินเขา หมาก็วิ่งนำไปแล้วไปหยุดตรงกระสอบข้างทาง ก็เลยเดินไปอุ้มหมาแล้วดูในกระสอบก็ไม่มีอะไร จากนั้นหมาก็เห่าไปทางตีนเขาเลยมองตามไป พอมองไปก็มีอยู่อีกสามตัวนอนแอบๆ เบียดกันอยู่ เลยอุ้มมาหมดทั้ง4ตัว ใส่รถขับไปที่ร้านหมอ ให้หมอเช็คดูว่าโอเคมั้ย ฝากหมอไว้ 2-3 วันเพราะต้องมาเตรียมที่ที่บ้าน พอพร้อมก็ไปรับมาบ้าน มาอยู่บ้านก็เลยตั้งชื่อให้ว่า ร๊อคกี้(ตัวที่พาไปเจอพี่ๆน้องๆ) บาร์บี้ แมนนี่ บั๊บเบิ้ล แต่แมนนี่ป่วยเป็นไข้หัดสุนัข โชคดีที่ยังไม่ติดตัวอื่น ต้องแยกแมนนี่ออกมาอยู่ต่างหากแล้วก็รักษาแต่แมนนี่ไม่รอด พอเริ่มโตขึ้น บาร์บี้ซนมากกกกก ดื้อมากกกกก เลยต้องส่งไป รร ฝึกสุนัข อยู่ที่นั่นพักใหญ่ๆ ก็เอาไปไว้ที่ทำงานให้ลูกน้องเลี้ยง เพราะเค้าเริ่มกัดกัน เลยเหลือแค่ร๊อคกี้กับบั๊บเบิ้ล
ร๊อคกี้
บั๊บเบิ้ล
มะรุม มะตุ้ม
มะรุม มะตุ้มเป็นหมาของพี่ที่รู้จักสนิทกัน พี่เค้าเลี้ยงหมาไม่ไหว เลี้ยงไม่ค่อยเป็นเพราะหมาพันธุ์ต้องใส่ใจมากกว่าหมาไทย เลยเอามาช่วยเลี้ยง แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น มะรุม มะตุ้ม เพราะแยกไม่ค่อยออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน
อ๊อตโต้
เป็นเพราะอยากได้เฟรนช์บุลด๊อกมานานแล้วเลยตัดสินใจซื้อมา พอซื้อมาก็คิดว่าจะเป็นเหมือนชิงชิงกับโฮโบคือเล่นเบาๆ นอนง่ายๆ กลายเป็นว่าพอโตขึ้นบ้าพลังมากกกกกก เหมือนหมาอัดยาสเตียรอยด์ แข็งแรงมากๆ บวกกับช่วงนั้นเริ่มมีปัญหาสุขภาพ. สู้แรงเค้าไม่ไหว อุ้มเค้าไม่ไหว เลยต้องให้ไปอยู่กับชิงชิงและโฮโบ
ปากริม
เนื่องจากเคยนอนกับหมาตลอดพอไม่มีมันก็เหงา เลยได้ปากริมมาอยู่เป็นเพื่อนเวลานอน แต่การเลี้ยงปากริมต้องระวังมากขึ้นเพราะไม่เคยเลี้ยงหมาเล็ก ต้องใส่ใจมาก อาหารก็ต้องระวัง เลี้ยงปากริมให้ความรู้สึกเหมือนตอนเลี้ยงติ๊ดชึ่ง เพราะเป็นหมาเล็ก ไม่ซน เอาไปไหนได้ด้วยตลอด
จบแล้วครับสำหรับเรื่องราวที่อยากนำมาแบ่งปัน หากมีข้อผิดพลาดอะไร แท็กห้องผิดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ เนื่องจากเป็นการตั้งกระทู้ในพันทิปเป็นครั้งแรก
สุดท้ายนี้คนที่เลี้ยงหมา แมว หรือไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทไหนก็ตาม ก็ขอให้มีช่วงเวลาๆ ดีๆ อยู่ด้วยกันนานๆ ถึงช่วงอายุเขาจะสั้นกว่าเรา แต่อย่างน้อยเขาก็ได้มาเป็นส่วนเติมเต็มให้ชีวิตเราสวยงาม มีความสุขมากๆ ครับ
ติดตามเรื่องราวต่างๆ หรือเข้ามาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้ที่นี่ครับ
https://www.facebook.com/LuisPhotographypage
Unconditional Love : บันทึกช่วงเวลาอันมีค่าของคุณกับสัตว์เลี้ยงแสนรักแล้วหรือยัง ?
ปกติถ้ามีเวลาว่างผมก็จะนำกล้องมาถ่ายภาพสุนัขแต่ละตัวเก็บไว้ ซึ่งก็เป็นภาพที่มีแต่สุนัขในภาพ จนวันนึงผมเกิดความคิดว่าสิ่งมีชีวิตล้วน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่ช้าก็เร็วเขาต้องจากเราไป เราไม่มีทางรู้ว่าจะมีช่วงเวลาดีๆ อยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหน ภาพถ่ายที่มีแต่สุนัขในอริยาบทต่างๆ อาจทำให้เราได้นึกถึงเขาในวันเก่าๆ แต่จะดีแค่ไหนถ้าในความทรงจำเหล่านั้นมีเราอยู่ด้วย ผมจึงไม่รอช้าบอกแฟนว่า วันนี้จะถ่ายรูปให้เป็นรูปคู่กับลูกๆ แต่ละตัว ในระหว่างที่ผมถ่ายภาพ ผมแทบไม่ต้องบอกให้แฟนผมทำอะไรเลย ทุกๆ การกระทำล้วนออกมาจากความรู้สึกข้างใน เสียงชัตเตอร์ที่ดังในแต่ละภาพเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข รอยยิ้มที่ผมได้เห็นบนใบหน้าของเธอทำให้ผมมีความสุขไปด้วยในขณะที่สายตามองผ่านช่องมองภาพ
จุดประสงค์ในการเผยแพร่ภาพครั้งนี้ คงมีเพียงแค่อยากนำภาพมาแบ่งปันให้กับหลายๆ คนที่รักสุนัข หรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ได้เห็น และเผื่อว่าภาพเหล่านี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจที่จะทำให้คุณหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพคู่กันของคุณกับมิตรสหายเหล่านั้น บันทึกความทรงจำดีๆ ของคุณตั้งแต่วันนี้ด้วยกล้องอะไรก็ได้ เพราะความทรงจำดีๆ ไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งบันทึกภาพที่ดีที่สุด เพียงแต่ใช้ช่วงเวลาดีๆ ที่เกิดขึ้นในการบันทึกภาพก็แค่นั้น
เริ่มจากตัวแรกกันเลย
ชื่อ ติ๊ดชึ่ง
สุนัขตัวแรกที่แฟนผมเอามาเลี้ยง เริ่มจากการที่แฟนไปเดินเซ็นทรัลบางนาและได้หลงเข้าไปในร้านขายสุนัข ในตอนแรกแฟนไม่ได้คิดจะเลี้ยงสุนัขเลย แต่พอติ๊ดชึ่งหันมาสบตาก็อดไม่ได้ถึงความน่ารัก และความเอ็นดูที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ทำให้ต้องไปกดเงินมาทั้งบัญชีเพื่อมารับติ๊ดชึ่งไปอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่ๆบ้านของตัวเองไม่รู้ว่ามีสมาชิกใหม่มาเพิ่ม ก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไปอยู่ช่วงหนึ่ง จนสุดท้ายความแตกพ่อกับแม่รู้ แต่พอท่านทั้งสองเห็นถึงความน่ารักของติ๊ดชึ่ง แทนที่จะต่อว่าท่านกลับหลงรักติ๊ดชึ่งในวินาทีนั้นทันที และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ติ๊ดชึ่งก็ผ่านร้อนผ่านหนาว เสียน้ำตาไปหลายครั้งกับการทำใจเพราะเขาป่วยด้วยโรคหัวใจโดยที่ไม่รู้จะจากไปเมื่อไหร่ แต่เขาก็สู้มาโดยตลอดระยะเวลา 14 ปี
ชิงชิง
ในตอนแรกที่บ้านเลี้ยงปั๊กไว้แล้ว 1 ตัว แต่ว่าอยากได้ปั๊กอีก 1 ตัวจึงไปซื้อมาจากฟาร์ม เป็นสุนัขที่คอยอยู่เคียงข้างในทุกช่วงเวลาของชีวิต ในบางครั้งที่แฟนร้องไห้เสียใจ ชิงชิงจะเข้ามานั่งที่ตัก มาเลียหน้าเหมือนกำลังจะบอกเป็นนัยว่า โอ๋ๆ อย่าร้องๆ ชิงชิงเป็นสุนัขที่สุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก การไปคลินิกเป็นเหมือนการไปเที่ยวของชิงชิง (ชิงชิงจะตื่นเต้นเวลาไปคลินิก) จึงทำให้ได้เรียนรู้วิธีดูแลสุนัขมากยิ่งขึ้น เพราะสุนัขก็เหมือนคนมีเจ็บ มีป่วย และบางทีก็เกิดจากสิ่งที่เราไม่รู้และเขาก็บอกเราไม่ได้ ทำให้ได้ศึกษาหาความรู้เรื่องสุนัขมากขึ้น
โฮโบ
เจอครั้งแรกที่ร้านหมอหมาที่สนิทกัน ก่อนหน้านั้นเห็นหมาพันธ์ปั๊กสีดำในหนังสือก็สนใจว่ามันมีด้วยเหรอแต่ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นในไทย วันหนึ่งเดินไปหลังร้านหมอจะไปล้างมือก็เห็นตัวอะไรสีดำอยู่ในกรง ดำไปหมดเลยดูหน้าตาไม่ออกว่าเป็นตัวอะไรเลยเดินเข้าไปดูชัดๆ สรุปเป็นปั๊กสีดำ ลองเล่นด้วยแต่หมาเศร้ามากไม่ร่าเริง เลยมาคุยกับหมอว่าเกิดอะไรขึ้น หมอบอกว่าเจ้าของเอามารักษาโรคผิวหนัง จะสองเดือนแล้วไม่มารับ ติดต่อก็ไม่ได้ ตอนนั้นก็สงสารแต่ยังไม่ได้คิดอะไร จนวันนึงหมอโทรมาบอกว่าเจ้าของมันย้ายบ้านไปไหนแล้วก็ไม่รู้ทิ้งหมาไว้เลย ทำบุญไหม รับไปเลี้ยงเป็นเพื่อนชิงชิง เพราะช่วงนั้นชิงชิงอยู่บ้านตัวเดียวตลอด ก็เลยบอกหมอว่าเดี๋ยวไปคุยด้วยที่ร้าน พอไปถึงหมอปล่อยออกมา หมาก็วิ่งตรงมาหาเราเลยแล้วมาทำตาแป๋วใส่ จึงตกลงเอากลับบ้าน เลี้ยงไปเรื่อยๆ ก็สังเกตุว่าโฮโบเดินชนนู่นนี่บ่อยเลยพาไปตรวจตากับหมอเฉพาะทาง สรุปโบเป็นประสาทตาเสื่อม ซึ่งเป็นโรคที่มาจากพันธุกรรมของปั๊กสีดำ ก็เลยเริ่มทำการหาข้อมูลแล้วก็ไปเจอศูนย์วิจัยเรื่องนี้โดยตรงที่อเมริกา ก็ติดต่อทางนั้นไปเค้าก็ส่งยามาให้ กินแรกๆก็ดีขึ้นแต่มันไม่หายขาดเลยทำใจ ตอนนี้โฮโบตาบอดสนิทแต่ก็ดูแลเค้าให้ดีที่สุด การดูแลโฮโบจะลำบากหน่อยเพราะมีการย้ายบ้านด้วย ต้องฝึกเขาให้เขาจำกลิ่นจำทางเดินในบ้านใหม่พักใหญ่กว่าเขาจะคุ้น แรกๆ มาเดินตกสระทุก2-3วัน เผลอไม่ได้เลย ตอนนี้ทำที่ให้เค้าอยู่เป็นสัดส่วนก็ดีขึ้น
ร๊อคกี้ บั๊บเบิ้ล
ตอนนั้นแฟนมีงานที่ป่าละอู ทางไปป่าละอูจะเป็นป่าแทบไม่มีบ้านคนแต่จะมีอยู่จุดหนึ่งมีศาลอยู่ วันหนึ่งขับรถกลับจากทำงานตามปกติ ตอนขับผ่านศาลเห็นมีลูกหมาสีน้ำตาลครีมๆ ยืนอยู่ข้างทาง ก็งงว่ามาจากไหนเพราะแถวนั้นไม่มีบ้านคนเลยแต่ขับรถเร็วก็เลยเลยไปเยอะ คิดไปคิดมาเลยขับรถย้อนกลับมาดู มาถึงตรงศาลก็ไม่เห็นหมาแล้ว ก็เดินเรียกอยู่สักพักหมาก็โผล่มาตรงข้างทางฝั่งตีนเขาแล้วเป็นบริเวณเนินพอดี แต่เรียกแล้วก็ไม่ยอมเดินมา เริ่มสังเกตุว่ามีปลอกคอด้วย เรียกอยู่สักพักเริ่มเอะใจทำไมไม่มาเลยเดินไปบนเนินเขา หมาก็วิ่งนำไปแล้วไปหยุดตรงกระสอบข้างทาง ก็เลยเดินไปอุ้มหมาแล้วดูในกระสอบก็ไม่มีอะไร จากนั้นหมาก็เห่าไปทางตีนเขาเลยมองตามไป พอมองไปก็มีอยู่อีกสามตัวนอนแอบๆ เบียดกันอยู่ เลยอุ้มมาหมดทั้ง4ตัว ใส่รถขับไปที่ร้านหมอ ให้หมอเช็คดูว่าโอเคมั้ย ฝากหมอไว้ 2-3 วันเพราะต้องมาเตรียมที่ที่บ้าน พอพร้อมก็ไปรับมาบ้าน มาอยู่บ้านก็เลยตั้งชื่อให้ว่า ร๊อคกี้(ตัวที่พาไปเจอพี่ๆน้องๆ) บาร์บี้ แมนนี่ บั๊บเบิ้ล แต่แมนนี่ป่วยเป็นไข้หัดสุนัข โชคดีที่ยังไม่ติดตัวอื่น ต้องแยกแมนนี่ออกมาอยู่ต่างหากแล้วก็รักษาแต่แมนนี่ไม่รอด พอเริ่มโตขึ้น บาร์บี้ซนมากกกกก ดื้อมากกกกก เลยต้องส่งไป รร ฝึกสุนัข อยู่ที่นั่นพักใหญ่ๆ ก็เอาไปไว้ที่ทำงานให้ลูกน้องเลี้ยง เพราะเค้าเริ่มกัดกัน เลยเหลือแค่ร๊อคกี้กับบั๊บเบิ้ล
ร๊อคกี้
บั๊บเบิ้ล
มะรุม มะตุ้ม
มะรุม มะตุ้มเป็นหมาของพี่ที่รู้จักสนิทกัน พี่เค้าเลี้ยงหมาไม่ไหว เลี้ยงไม่ค่อยเป็นเพราะหมาพันธุ์ต้องใส่ใจมากกว่าหมาไทย เลยเอามาช่วยเลี้ยง แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น มะรุม มะตุ้ม เพราะแยกไม่ค่อยออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน
อ๊อตโต้
เป็นเพราะอยากได้เฟรนช์บุลด๊อกมานานแล้วเลยตัดสินใจซื้อมา พอซื้อมาก็คิดว่าจะเป็นเหมือนชิงชิงกับโฮโบคือเล่นเบาๆ นอนง่ายๆ กลายเป็นว่าพอโตขึ้นบ้าพลังมากกกกกก เหมือนหมาอัดยาสเตียรอยด์ แข็งแรงมากๆ บวกกับช่วงนั้นเริ่มมีปัญหาสุขภาพ. สู้แรงเค้าไม่ไหว อุ้มเค้าไม่ไหว เลยต้องให้ไปอยู่กับชิงชิงและโฮโบ
ปากริม
เนื่องจากเคยนอนกับหมาตลอดพอไม่มีมันก็เหงา เลยได้ปากริมมาอยู่เป็นเพื่อนเวลานอน แต่การเลี้ยงปากริมต้องระวังมากขึ้นเพราะไม่เคยเลี้ยงหมาเล็ก ต้องใส่ใจมาก อาหารก็ต้องระวัง เลี้ยงปากริมให้ความรู้สึกเหมือนตอนเลี้ยงติ๊ดชึ่ง เพราะเป็นหมาเล็ก ไม่ซน เอาไปไหนได้ด้วยตลอด
จบแล้วครับสำหรับเรื่องราวที่อยากนำมาแบ่งปัน หากมีข้อผิดพลาดอะไร แท็กห้องผิดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ เนื่องจากเป็นการตั้งกระทู้ในพันทิปเป็นครั้งแรก
สุดท้ายนี้คนที่เลี้ยงหมา แมว หรือไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทไหนก็ตาม ก็ขอให้มีช่วงเวลาๆ ดีๆ อยู่ด้วยกันนานๆ ถึงช่วงอายุเขาจะสั้นกว่าเรา แต่อย่างน้อยเขาก็ได้มาเป็นส่วนเติมเต็มให้ชีวิตเราสวยงาม มีความสุขมากๆ ครับ
ติดตามเรื่องราวต่างๆ หรือเข้ามาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้ที่นี่ครับ
https://www.facebook.com/LuisPhotographypage