สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นเลยต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคะ
ชื่อ บี ค่ะ อายุ 19 ปี เพิ่งเคยตั้งกระทู้ในพันทิฟ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกค่ะ
ถ้าแท็กห้องไหนไม่ตรงประเด็นก็ขออภัยด้วยนะค่ะ ไม่รู้จะแท็กห้องอะไร T T
เป็นคนใช่ภาษาเขียนไม่ค่อยเก่งนะคะ ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยค่ะ
เข้าเรื่องกันเลย
ดิฉันเป็นคนอำเภอฝาง ในจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ ดิฉันได้สอบติดมหาลัยแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่
ซึ่งการจะมาเรียนที่ไกลบ้านแบบนี้ จำเป็นต้องย้ายมาอยู่หอพักค่ะ
หอแรกที่ดิฉันเลือกอยู่คือหอหญิงแห่งหนึ่งย่านช่างเคี่ยน ประกันนานถึง 1 ปี ในราคา 4000 บาทหอดีทุกอย่างค่ะ
ค่าใช้จ่ายก็โอเคมาก รวมค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าหอรายเดือน ไม่เกิน 2500 ต่อเดือนเลยค่ะ
พ่อก็ซื้อพวกเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ครบเลย
ตู้เย็น ทีวี โน๊ตบุ๊ค เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว พัดลม ไมโครเวฟ กาน้ำไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า เตารีด ไดร์เป่าผม ตู้ปลา ประมาณนี้ค่ะ
ค่าไฟก็ไม่เคยเกิน 200 ซักเดือน เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างก็ไม่ได้ใช้ทุกวัน
บางทีก็กินข้าวนอกบ้าน ทีวีก็ไม่ได้ดูทุกวันคอมก็นานๆเปิดทีเวลาทำรายงาน
เปิดพัดลมเบอร์ 3ตอนอยู่ห้องตลอดเวลาทั้งกลางวันกลางคืน
ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไปไม่เปลืองไม่ประหยัดค่ะ อยากใช้อะไรก็ใช้
ค่าไฟก็ไม่เคยเกิน 200 ต่อเดือน บีก็เลยไม่ได้ถามว่าค่าไฟหน่วยเท่าไหร่ และเลขมิตเตอร์บีเป็นยังไง
เพราะค่าไฟมันถูก เลยไม่ซีเรียสไรเลย
ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า ได้หอดีขนาดนี้แล้วจะย้ายหอทำไม คำตอบคือ ดิฉันเริ่มมีแฟนค่ะ -///-
แฟนเป็นคนที่เรียนห้องเดียวกัน บ้านเขาก็อยู่ไกลจากมหาลัยพอสมควร แต่ฐานะทางบ้านแฟนไม่ค่อยดีค่ะ
พ่อเขาก็ไม่ให้อยู่หอ เพราะเงินทางบ้านเขามีน้อย เขาเลยต้องขี่มอเตอร์ไซค์ไปกลับไกลๆทุกวัน เปลืองน้ำมันอีกค่ะ
บีเลยอยากให้เขาอยู่ด้วย เพราะ หอบีมันใกล้มหาลัย ช่วงแรกแอบเอาแฟนขึ้นหอหญิงค่ะ (บ้ามาก)
รู้อยู่แล้วว่าผิดกฏ แต่อยู่กับเขาแล้วไม่เหงาและสบายใจดี เขาเรียนเก่งช่วยติววิชาที่บีเรียนไม่ได้เรื่อง ให้บีเข้าใจได้ค่ะ
จนเวลาผ่านไป ประมาณ 1 เดือน เจ้าของหอก็มาตักเตือนว่าหอหญิงเอาผู้ชายขึ้นไม่ได้นะ (ถูกของเขา)
บีเลยตัดสินใจย้ายหอมาอยู่แถวเจ็ดยอดค่ะ และแล้วเหตุการณ์ที่บีจะเล่าตามหัวข้อมันก็เกิดขึ้นที่นี้ค่ะ
บีตัดสินใจย้ายมาหอใหม่ย่านเจ็ดยอดนี้ โดยยอมทิ้งเงินประกัน 4000บาทที่เคยทำสัญญากับหอเก่าไว้
แล้วตกลงกับแฟนว่า
"ถ้าเค้าย้ายหอ ตัวต้องไปทำงานพาทไทม์เพื่อมาช่วยจ่ายค่าน้ำค่าไฟนะ ส่วนค่าเช่าห้องรายเดือนบีจะจ่ายเอง"
แฟนก็โอเคตกลงตามนี้ แฟนเลยไปทำงานพาทไทม์ที่ร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งได้ค่าแรงชั่วโมงละ 30 บาท ค่ะ
ทำงานหลังเลิกเรียนตั้งแต่ 5โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม รวมแล้วได้ วันละ 150 ค่ะ (ทำวันเว้นวัน)
บีมาเจอหอรวมแห่งใหม่นี้ เพราะเพื่อนบีเขาก็เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี้เมื่อต้นเดือนเขาอยู่ชั้น3และเขาบอกว่า
"มีห้องว่างชั้น 2 อยู่ 1 ห้อง จะเอามั้ย"
กล่าวคือ เพื่อนบีเขามาอยู่ที่นี้ก่อนบีได้ 13 วัน และชวนมาอยู่หอเดียวกัน
บีก็เลยรีบตอบตกลง แต่เพื่อนก็เตือนแล้วว่า "ป้าเจ้าของหอนี้มันชอบบ่นนั้นบ่นนี้ ชอบเหวี่ยง แกเป็นคนพูดตรงๆแรงๆ"
ที่แรกบีก็ไม่คิดอะไรค่ะ คิดว่าคงเป็นธรรมดาของคนแก่ แต่จริงๆแล้วแกคงใจดี (โลกสวยไปล่ะ)
ค่าหอที่นี้เดือนละ 2400 ค่ะ ค่าน้ำเหมาจ่าย คนละ 100 บาท ส่วนค่าไฟหน่วยละ 8 บาท
วันแรกที่บีย้ายเข้าไปคือวันที่ 13 ของเดือน บีเลยไปถามป้าว่า
"ป้าค่ะหนูเริ่มมาอยู่ครึ่งเดือน เดือนนี้ขอจ่ายครึ่งเดียวได้ไหม"
(เพราะหอเก่าบีก็ย้ายไปเริ่มอยู่ช่วงประมาณครึ่งเดือนแรก เค้าก็ให้จ่ายครึ่งเดียว)
ป้าแกก็บอกว่า
"ไม่ได้ถ้าป้าจะคิดครึ่งเดียวหนูต้องมาอยู่วันที่ 17 ป้าถึงจะคิดครึ่งเดียวให้ได้
แต่ถ้ามาอยู่วันที่ 13 ป้าขอคิดเต็มเดือน 2400 นะ ให้ป้าเถอะ"
บีก็โอเคไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็จ่ายเต็มเดือนให้ป้าแกไป บวกค่าประกัน 3 เดือน 1500 บาท รวมแล้วเป็นเงิน 3900 ค่ะ
พอจ่ายตังเสร็จก็ยืนคุยกับป้าแกปกติ บีก็พูดไปประมาณว่า
"หอเก่าบีเป็นหอหญิงเขาไม่ให้เอาแฟนขึ้น เลยยอมสละค่าประกัน 4000 บาท เพื่อย้ายหอ"
ป้าแกก็ถามว่า "หอเก่าหนูอยู่ไหนล่ะ"
บีก็บอกชื่อหอเก่าบีไป
ป้าแกก็ "อ้อออออ หอนั้นนะหรออี่คุณนายเจ้าของหอนั้นมันเคี้ยวเข้มงวดงี้แหละ ป้ารู้จักมันอยู่
ไม่เป็นไรมาอยู่กับป้าไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน อยู่กับป้านานๆนะ อยู่ให้เรียนจบ 4 ปีไปเลย"
บีก็ใจชื่น คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะ บีแฮปปี้ ป้าก็แฮปปี้ -0-
ระหว่างวันบีก็เลยย้ายของเล็กๆน้อยๆที่หอเก่ามาไว้หอใหม่ก่อน เหลือแต่ของชิ้นใหญ่ๆ
เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผัก ที่นอนขนาด 5 ฟุต เป็นต้น
ให้เพื่อนเอารถยนต์มาช่วยขนตอนเย็น
พอตกตอนเย็นบี เพื่อนบีและแฟนบีก็เอาของพวกนั้นใส่รถยนต์มา แล้วช่วยกันยกขึ้นหอใหม่นี้
ตอนช่วยกันยกของก็มีเล่นกันบ้างพูดคุยกันบ้างหัวเราะคิกคัก ตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน มีความสุขกันจริง
แต่แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้น “เห้ยยยย ไอ้เด็กพวกนี้นี่ ทำอะไรเสียงดัง!!!!” ป้าแกตะโกนจากในออฟฟิตออกมา
บีและเพื่อนก็เงียบไป บีก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะรู้มาก่อนแล้ว ว่าแกชอบบ่น
เพื่อนบีก็แอบนินทาเบาๆ ว่า "เห้ยเจ้าของหอนี้
ดุจัง -0-"
บีก็บอกว่า เออชังเขาเถอะน่า พอขนของเสร็จก็โอเคย้ายมาอยู่หอใหม่ได้เสร็จสมบูรณ์
พอเริ่มอยู่หอใหม่ตั้งแต่วันที่ 13 จนถึงสิ้นเดือนก็ไม่มีปัญหาอะไร
ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าปกติเหมือนที่อยู่หอเก่า ไม่เปลืองไม่ประหยัด
พอบิลออกมาเท่านั้นแหละ เงิบบบบบบ ค่าไฟโอ้แม่เจ้า
เงิบ บิลค่าไฟครึ่งเดือนมา เกือบ 392 บาท เราเข้าใจนะว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าเราเยอะ
และเขาคงเก็บค่าหน่วยแพงกว่าหอเก่าที่เราเคยอยู่ เราเลยไม่ชินกับค่าไฟสูงๆขนาดนี้
บีเลยเอาไปปรึกษาเพื่อนบีที่อยู่ชั้น 3 ซึ่งห้องของเพื่อนบีก็ไม่ได้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะเหมือนบี เลยน่าจะเสียน้อยหน่อย
บิลค่าไฟทั้งเดือนของเพื่อนบี อยู่ที่ 300 กว่าบาท เพื่อนบีก็เงิบ และมั่นใจว่าตั้งเองไม่ได้ใช้ไฟเยอะขนาดนั้น
แต่เพื่อนบีมันจดเลขมิตเตอร์และถ่ายรูปมิตเตอร์ไว้ตอนมันเข้ามาอยู่วันแรก
เลยลงเอามาลบกัน แล้วคูณ 8 ปรากฏว่า ค่าไฟร้อยกว่าบาทเอง
บีและเพื่อนก็เลยเอาบิลไปถามป้า เพื่อนบีก็เอาเลขหน่วยไฟก่อนเข้ามาอยู่ ลบกับเลขหน่วยไฟปัจจุบันให้ป้าดู
ป้าก็บอก "อ้อของเพื่อนบีป้าคิดผิดห้องเองโทษที เสียร้อยกว่าบาทอ่ะถูกแล้ว ส่วนที่เสีย 300 บาทนี้ห้องข้างๆ โทษทีๆ"
(นี้ถ้าเพื่อนบีไม่มาแย้ง คงจ่ายให้ป้าแกไปแล้ว)
บีก็เลยถามต่อว่า แล้วของหนูละทำไมแพงจัง
ป้าแกก็บอกว่า "ของหนูเลขมิเตอร์เดิมวันที่ 13มันเป็น 5435 สิ้นเดือนนี้ เลขเป็น 5484 ก็ตก 49 หน่วย
คูณ 8 ก็ 392 บาท ถูกแล้ว หนูใช้ไฟราคาตามนี้จริง ถ้าคิดว่าค่าไฟที่นี้แพงก็ย้ายหอก็ได้นะป้าไม่ได้ว่า"
บีก็พูดว่า "อ้อค่ะ ไม่เป็นไร" แล้วก็เอาเงินมาจ่ายป้าตามปกติ ไม่ได้โวยวายอะไร
ป้าก็บอกว่าตึกโน้น(ป้าแกมีหอพักอยู่ 2 ตึก บีอยู่ตึก 1)
"ตึกโน้นห้องแอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าครบค่าไฟเดือนพันกว่าบาท เขาไม่เห็นบ่นไรเลย
ของหนูเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะขนาดนี้ค่าไฟ 300 กว่า นี้ก็ถือว่าราคาถูกแล้วนะ ถ้าคิดว่าแพงก็ย้ายหอก็ได้นะ"
บีเลยคิดว่า เราคงใช้ไฟเปลืองไปจริงๆ เดือนหน้าต้องประหยัดไฟหน่อยละเรา
อีกอย่างบีพลาดตรงที่ว่าไม่ได้จดเลขมิตเตอร์ไฟ และ ถ่ายรูปมิตเตอร์ไฟไว้ตอนเข้ามาอยู่วันที่ 13 เอง
เลยหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร บีไม่ซีเรียส และ บีก็เริ่มทำใจให้ชินกับค่าไฟหน่วย 8 บาท
และทำใจไว้ว่าขนาดครึ่งเดือนเสียเกือบ 400 บาท ถ้าเต็มเดือนคงเป็น 800 บาท
พอเดือนถัดมาคราวนี้บีโครตประหยัดไฟสุดๆ ถึงกับไม่เปิดไฟในห้องเลย จุดเทียนอาบน้ำ
แต่อันที่ต้องเสียบไฟไว้ตลอดเวลาคือ ตู้ปลา และ ตู้เย็น
ตู้เย็นบีก็ตั้งไปที่ความเย็นน้อยที่สุด (หมุนไปที่ min)
พัดลมก็เปิดให้มันน้อยลงเปิดเบอร์ 1 พอ กลางคืนนี้ร้อนมาก เพราะบีขี้ร้อนด้วย
เลยจำเป็นต้องเปิดพัดลมช่วยหน่อยไม่งั้นนอนไม่หลับ
แต่กลางวันนี้หลังจากไปเรียนภาคเช้ากลับมานี้ก็ต้องทนร้อน ไม่เปิดพัดลมเลย
ยอมรับว่าช่วงนั้นบีบตัวเองสุดๆ ด้วยความหวังที่ว่า เราคงประหยัดไฟได้บ้างนิดหน่อย
พอสิ้นเดือนก็มาลุ้นกัน ปรากฏว่าบิลออกมาแล้ว บีก็อืม
นึกว่าจะเสียเป็น 800 กว่าบาท แต่เพราะเราประหยัดไฟมากๆ เลยเสียแค่ 624 บาท
ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้ งั้นเพื่อความแน่ใจ
ก็เลยเอาเลขหน่วยไฟเดิมของเดือนที่แล้ว คือ 5484 ลบกับของเดือนนี้คือ 5560
ปรากฏว่าบีใช้ไฟไป 76 หน่วย ถ้า 76 คูณ 8 ก็ตก 608 ก็เลยสงสัยว่า ทำไมค่าไฟโผล่มา 2 หน่วย รวมเป็น 16 บาท
จาก 608 บาท เป็น 624 บาท ได้ไง บีงง ก็เลยฝากบิลให้แฟนลงไปถามป้า
พอแฟนเดินลงไปก็เห็นป้ากำลังล้างมุมลวดอยู่
ก็เลยเอ่ยถามไปดีๆว่า ป้าครับของดูบิลค่าไฟหน่อยได้ไหมครับรู้สึกว่าจะคิดผิด
จากนั้นป้าแกก็กระแทกมุมลวดที่กำลังล้างอยู่ดังโคร่ม!!! แล้วป้าแกก็พูดด้วยเสียงหงุดหงิดว่า
"มีปัญหาทุกเดือนเลยนะ กรูรำคาณพวกเธอว่ะ!!! ฉันให้พวกเธออยู่ถึงเดือนนี้นะ ฉันไม่เอาพวกเธอล่ะมีแต่ปัญหา"
แล้วป้าแกก็เดินไปคิดค่าไฟให้ดู ตัวเลขมันก็ออกมา 608 บาท จริงๆ ป้าก็พูดบ่ายเบี่ยงว่า
"เครื่องคิดเลขมันก็คิดผิดกันได้ เกินมาแค่ 10 กว่าบาท ถ้าเธอจ่ายแล้วจะมาด่าฉันเมื่อไหร่ก็ได้
แต่นี้เธอไม่ได้จ่ายจะมาโวยวายทำไม"
แฟนก็บอกว่า "ไม่ได้โวยวายครับแค่มาถามเฉยๆ เพราะผมคิดมาแล้วว่าเลขไม่ตรงกัน"
ป้าแกก็ขึ้นเสียงใส่ว่า "ก็ก็ค่อยมาบอกตอนจะจ่ายสิ มาบอกตอนนี้ทำเหี๊ยไรว่ะ"
แฟนเราก็ไม่พอใจเลยเดินกลับห้องขึ้นมา
ป้าก็ตะโกนตามหลังมาว่า "ทีเงิน 4000 บาท หอเก่ายังทิ้งมาได้ แค่นี้ทำมาเป็นโวยวาย"
(แฟนเราไปโวยวายตอนไหนอะ ก็แค่ไปถามดีๆ)
พอแฟนเรากลับขึ้นห้องมา เขาก็มาเล่าให้เราฟัง เราก็เงิบเลย ไม่คิดว่าแค่ไปถามดีๆเขาจะด่าแรงแบบนี้
ก็เลยรู้สึกไม่เคลียบีเลยเดินลงไปถามด้วยตัวเองเลยค่ะ
พอเดินลงไป ก็เรียกเขามาคุยด้วยดีๆ ไม่ได้จะมาโวยวายหรือหาเรื่องอะไรเลย
เนื้อหาตามคลิปเลยค่ะ เสียงอาจไม่ค่อยชัดนะค่ะ พอดีแฟนเราแอบเอาโทรศัพท์ไปอัด แล้วยืนอยู่ข้างๆเราค่ะ
พยานอีกคนคือเพื่อนเราที่อยู่ชั้น 3 เขาก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เขานั่งฟังอยู่ด้านหลังเราค่ะ รู้เห็นหมดว่าป้าแกพูดอะไรบ้าง
และนี้คือคลิปเสียงจริงค่ะ >>>
http://www.youtube.com/watch?v=0CdUkArJbmc
มีซับ ด้านล่างเลยค่ะ
ดราม่ากับมนุษย์ป้าเจ้าของหอพักย่านเจ็ดยอด เชียงใหม่ (มีคลิปเสียง)
ก่อนอื่นเลยต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคะ
ชื่อ บี ค่ะ อายุ 19 ปี เพิ่งเคยตั้งกระทู้ในพันทิฟ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกค่ะ
ถ้าแท็กห้องไหนไม่ตรงประเด็นก็ขออภัยด้วยนะค่ะ ไม่รู้จะแท็กห้องอะไร T T
เป็นคนใช่ภาษาเขียนไม่ค่อยเก่งนะคะ ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยค่ะ
เข้าเรื่องกันเลย
ดิฉันเป็นคนอำเภอฝาง ในจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ ดิฉันได้สอบติดมหาลัยแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่
ซึ่งการจะมาเรียนที่ไกลบ้านแบบนี้ จำเป็นต้องย้ายมาอยู่หอพักค่ะ
หอแรกที่ดิฉันเลือกอยู่คือหอหญิงแห่งหนึ่งย่านช่างเคี่ยน ประกันนานถึง 1 ปี ในราคา 4000 บาทหอดีทุกอย่างค่ะ
ค่าใช้จ่ายก็โอเคมาก รวมค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าหอรายเดือน ไม่เกิน 2500 ต่อเดือนเลยค่ะ
พ่อก็ซื้อพวกเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ครบเลย
ตู้เย็น ทีวี โน๊ตบุ๊ค เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว พัดลม ไมโครเวฟ กาน้ำไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า เตารีด ไดร์เป่าผม ตู้ปลา ประมาณนี้ค่ะ
ค่าไฟก็ไม่เคยเกิน 200 ซักเดือน เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างก็ไม่ได้ใช้ทุกวัน
บางทีก็กินข้าวนอกบ้าน ทีวีก็ไม่ได้ดูทุกวันคอมก็นานๆเปิดทีเวลาทำรายงาน
เปิดพัดลมเบอร์ 3ตอนอยู่ห้องตลอดเวลาทั้งกลางวันกลางคืน
ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไปไม่เปลืองไม่ประหยัดค่ะ อยากใช้อะไรก็ใช้
ค่าไฟก็ไม่เคยเกิน 200 ต่อเดือน บีก็เลยไม่ได้ถามว่าค่าไฟหน่วยเท่าไหร่ และเลขมิตเตอร์บีเป็นยังไง
เพราะค่าไฟมันถูก เลยไม่ซีเรียสไรเลย
ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า ได้หอดีขนาดนี้แล้วจะย้ายหอทำไม คำตอบคือ ดิฉันเริ่มมีแฟนค่ะ -///-
แฟนเป็นคนที่เรียนห้องเดียวกัน บ้านเขาก็อยู่ไกลจากมหาลัยพอสมควร แต่ฐานะทางบ้านแฟนไม่ค่อยดีค่ะ
พ่อเขาก็ไม่ให้อยู่หอ เพราะเงินทางบ้านเขามีน้อย เขาเลยต้องขี่มอเตอร์ไซค์ไปกลับไกลๆทุกวัน เปลืองน้ำมันอีกค่ะ
บีเลยอยากให้เขาอยู่ด้วย เพราะ หอบีมันใกล้มหาลัย ช่วงแรกแอบเอาแฟนขึ้นหอหญิงค่ะ (บ้ามาก)
รู้อยู่แล้วว่าผิดกฏ แต่อยู่กับเขาแล้วไม่เหงาและสบายใจดี เขาเรียนเก่งช่วยติววิชาที่บีเรียนไม่ได้เรื่อง ให้บีเข้าใจได้ค่ะ
จนเวลาผ่านไป ประมาณ 1 เดือน เจ้าของหอก็มาตักเตือนว่าหอหญิงเอาผู้ชายขึ้นไม่ได้นะ (ถูกของเขา)
บีเลยตัดสินใจย้ายหอมาอยู่แถวเจ็ดยอดค่ะ และแล้วเหตุการณ์ที่บีจะเล่าตามหัวข้อมันก็เกิดขึ้นที่นี้ค่ะ
บีตัดสินใจย้ายมาหอใหม่ย่านเจ็ดยอดนี้ โดยยอมทิ้งเงินประกัน 4000บาทที่เคยทำสัญญากับหอเก่าไว้
แล้วตกลงกับแฟนว่า
"ถ้าเค้าย้ายหอ ตัวต้องไปทำงานพาทไทม์เพื่อมาช่วยจ่ายค่าน้ำค่าไฟนะ ส่วนค่าเช่าห้องรายเดือนบีจะจ่ายเอง"
แฟนก็โอเคตกลงตามนี้ แฟนเลยไปทำงานพาทไทม์ที่ร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งได้ค่าแรงชั่วโมงละ 30 บาท ค่ะ
ทำงานหลังเลิกเรียนตั้งแต่ 5โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม รวมแล้วได้ วันละ 150 ค่ะ (ทำวันเว้นวัน)
บีมาเจอหอรวมแห่งใหม่นี้ เพราะเพื่อนบีเขาก็เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี้เมื่อต้นเดือนเขาอยู่ชั้น3และเขาบอกว่า
"มีห้องว่างชั้น 2 อยู่ 1 ห้อง จะเอามั้ย"
กล่าวคือ เพื่อนบีเขามาอยู่ที่นี้ก่อนบีได้ 13 วัน และชวนมาอยู่หอเดียวกัน
บีก็เลยรีบตอบตกลง แต่เพื่อนก็เตือนแล้วว่า "ป้าเจ้าของหอนี้มันชอบบ่นนั้นบ่นนี้ ชอบเหวี่ยง แกเป็นคนพูดตรงๆแรงๆ"
ที่แรกบีก็ไม่คิดอะไรค่ะ คิดว่าคงเป็นธรรมดาของคนแก่ แต่จริงๆแล้วแกคงใจดี (โลกสวยไปล่ะ)
ค่าหอที่นี้เดือนละ 2400 ค่ะ ค่าน้ำเหมาจ่าย คนละ 100 บาท ส่วนค่าไฟหน่วยละ 8 บาท
วันแรกที่บีย้ายเข้าไปคือวันที่ 13 ของเดือน บีเลยไปถามป้าว่า
"ป้าค่ะหนูเริ่มมาอยู่ครึ่งเดือน เดือนนี้ขอจ่ายครึ่งเดียวได้ไหม"
(เพราะหอเก่าบีก็ย้ายไปเริ่มอยู่ช่วงประมาณครึ่งเดือนแรก เค้าก็ให้จ่ายครึ่งเดียว)
ป้าแกก็บอกว่า
"ไม่ได้ถ้าป้าจะคิดครึ่งเดียวหนูต้องมาอยู่วันที่ 17 ป้าถึงจะคิดครึ่งเดียวให้ได้
แต่ถ้ามาอยู่วันที่ 13 ป้าขอคิดเต็มเดือน 2400 นะ ให้ป้าเถอะ"
บีก็โอเคไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็จ่ายเต็มเดือนให้ป้าแกไป บวกค่าประกัน 3 เดือน 1500 บาท รวมแล้วเป็นเงิน 3900 ค่ะ
พอจ่ายตังเสร็จก็ยืนคุยกับป้าแกปกติ บีก็พูดไปประมาณว่า
"หอเก่าบีเป็นหอหญิงเขาไม่ให้เอาแฟนขึ้น เลยยอมสละค่าประกัน 4000 บาท เพื่อย้ายหอ"
ป้าแกก็ถามว่า "หอเก่าหนูอยู่ไหนล่ะ"
บีก็บอกชื่อหอเก่าบีไป
ป้าแกก็ "อ้อออออ หอนั้นนะหรออี่คุณนายเจ้าของหอนั้นมันเคี้ยวเข้มงวดงี้แหละ ป้ารู้จักมันอยู่
ไม่เป็นไรมาอยู่กับป้าไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน อยู่กับป้านานๆนะ อยู่ให้เรียนจบ 4 ปีไปเลย"
บีก็ใจชื่น คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะ บีแฮปปี้ ป้าก็แฮปปี้ -0-
ระหว่างวันบีก็เลยย้ายของเล็กๆน้อยๆที่หอเก่ามาไว้หอใหม่ก่อน เหลือแต่ของชิ้นใหญ่ๆ
เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผัก ที่นอนขนาด 5 ฟุต เป็นต้น
ให้เพื่อนเอารถยนต์มาช่วยขนตอนเย็น
พอตกตอนเย็นบี เพื่อนบีและแฟนบีก็เอาของพวกนั้นใส่รถยนต์มา แล้วช่วยกันยกขึ้นหอใหม่นี้
ตอนช่วยกันยกของก็มีเล่นกันบ้างพูดคุยกันบ้างหัวเราะคิกคัก ตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน มีความสุขกันจริง
แต่แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้น “เห้ยยยย ไอ้เด็กพวกนี้นี่ ทำอะไรเสียงดัง!!!!” ป้าแกตะโกนจากในออฟฟิตออกมา
บีและเพื่อนก็เงียบไป บีก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะรู้มาก่อนแล้ว ว่าแกชอบบ่น
เพื่อนบีก็แอบนินทาเบาๆ ว่า "เห้ยเจ้าของหอนี้ดุจัง -0-"
บีก็บอกว่า เออชังเขาเถอะน่า พอขนของเสร็จก็โอเคย้ายมาอยู่หอใหม่ได้เสร็จสมบูรณ์
พอเริ่มอยู่หอใหม่ตั้งแต่วันที่ 13 จนถึงสิ้นเดือนก็ไม่มีปัญหาอะไร
ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าปกติเหมือนที่อยู่หอเก่า ไม่เปลืองไม่ประหยัด
พอบิลออกมาเท่านั้นแหละ เงิบบบบบบ ค่าไฟโอ้แม่เจ้า
เงิบ บิลค่าไฟครึ่งเดือนมา เกือบ 392 บาท เราเข้าใจนะว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าเราเยอะ
และเขาคงเก็บค่าหน่วยแพงกว่าหอเก่าที่เราเคยอยู่ เราเลยไม่ชินกับค่าไฟสูงๆขนาดนี้
บีเลยเอาไปปรึกษาเพื่อนบีที่อยู่ชั้น 3 ซึ่งห้องของเพื่อนบีก็ไม่ได้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะเหมือนบี เลยน่าจะเสียน้อยหน่อย
บิลค่าไฟทั้งเดือนของเพื่อนบี อยู่ที่ 300 กว่าบาท เพื่อนบีก็เงิบ และมั่นใจว่าตั้งเองไม่ได้ใช้ไฟเยอะขนาดนั้น
แต่เพื่อนบีมันจดเลขมิตเตอร์และถ่ายรูปมิตเตอร์ไว้ตอนมันเข้ามาอยู่วันแรก
เลยลงเอามาลบกัน แล้วคูณ 8 ปรากฏว่า ค่าไฟร้อยกว่าบาทเอง
บีและเพื่อนก็เลยเอาบิลไปถามป้า เพื่อนบีก็เอาเลขหน่วยไฟก่อนเข้ามาอยู่ ลบกับเลขหน่วยไฟปัจจุบันให้ป้าดู
ป้าก็บอก "อ้อของเพื่อนบีป้าคิดผิดห้องเองโทษที เสียร้อยกว่าบาทอ่ะถูกแล้ว ส่วนที่เสีย 300 บาทนี้ห้องข้างๆ โทษทีๆ"
(นี้ถ้าเพื่อนบีไม่มาแย้ง คงจ่ายให้ป้าแกไปแล้ว)
บีก็เลยถามต่อว่า แล้วของหนูละทำไมแพงจัง
ป้าแกก็บอกว่า "ของหนูเลขมิเตอร์เดิมวันที่ 13มันเป็น 5435 สิ้นเดือนนี้ เลขเป็น 5484 ก็ตก 49 หน่วย
คูณ 8 ก็ 392 บาท ถูกแล้ว หนูใช้ไฟราคาตามนี้จริง ถ้าคิดว่าค่าไฟที่นี้แพงก็ย้ายหอก็ได้นะป้าไม่ได้ว่า"
บีก็พูดว่า "อ้อค่ะ ไม่เป็นไร" แล้วก็เอาเงินมาจ่ายป้าตามปกติ ไม่ได้โวยวายอะไร
ป้าก็บอกว่าตึกโน้น(ป้าแกมีหอพักอยู่ 2 ตึก บีอยู่ตึก 1)
"ตึกโน้นห้องแอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าครบค่าไฟเดือนพันกว่าบาท เขาไม่เห็นบ่นไรเลย
ของหนูเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะขนาดนี้ค่าไฟ 300 กว่า นี้ก็ถือว่าราคาถูกแล้วนะ ถ้าคิดว่าแพงก็ย้ายหอก็ได้นะ"
บีเลยคิดว่า เราคงใช้ไฟเปลืองไปจริงๆ เดือนหน้าต้องประหยัดไฟหน่อยละเรา
อีกอย่างบีพลาดตรงที่ว่าไม่ได้จดเลขมิตเตอร์ไฟ และ ถ่ายรูปมิตเตอร์ไฟไว้ตอนเข้ามาอยู่วันที่ 13 เอง
เลยหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร บีไม่ซีเรียส และ บีก็เริ่มทำใจให้ชินกับค่าไฟหน่วย 8 บาท
และทำใจไว้ว่าขนาดครึ่งเดือนเสียเกือบ 400 บาท ถ้าเต็มเดือนคงเป็น 800 บาท
พอเดือนถัดมาคราวนี้บีโครตประหยัดไฟสุดๆ ถึงกับไม่เปิดไฟในห้องเลย จุดเทียนอาบน้ำ
แต่อันที่ต้องเสียบไฟไว้ตลอดเวลาคือ ตู้ปลา และ ตู้เย็น
ตู้เย็นบีก็ตั้งไปที่ความเย็นน้อยที่สุด (หมุนไปที่ min)
พัดลมก็เปิดให้มันน้อยลงเปิดเบอร์ 1 พอ กลางคืนนี้ร้อนมาก เพราะบีขี้ร้อนด้วย
เลยจำเป็นต้องเปิดพัดลมช่วยหน่อยไม่งั้นนอนไม่หลับ
แต่กลางวันนี้หลังจากไปเรียนภาคเช้ากลับมานี้ก็ต้องทนร้อน ไม่เปิดพัดลมเลย
ยอมรับว่าช่วงนั้นบีบตัวเองสุดๆ ด้วยความหวังที่ว่า เราคงประหยัดไฟได้บ้างนิดหน่อย
พอสิ้นเดือนก็มาลุ้นกัน ปรากฏว่าบิลออกมาแล้ว บีก็อืม
นึกว่าจะเสียเป็น 800 กว่าบาท แต่เพราะเราประหยัดไฟมากๆ เลยเสียแค่ 624 บาท
ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้ งั้นเพื่อความแน่ใจ
ก็เลยเอาเลขหน่วยไฟเดิมของเดือนที่แล้ว คือ 5484 ลบกับของเดือนนี้คือ 5560
ปรากฏว่าบีใช้ไฟไป 76 หน่วย ถ้า 76 คูณ 8 ก็ตก 608 ก็เลยสงสัยว่า ทำไมค่าไฟโผล่มา 2 หน่วย รวมเป็น 16 บาท
จาก 608 บาท เป็น 624 บาท ได้ไง บีงง ก็เลยฝากบิลให้แฟนลงไปถามป้า
พอแฟนเดินลงไปก็เห็นป้ากำลังล้างมุมลวดอยู่
ก็เลยเอ่ยถามไปดีๆว่า ป้าครับของดูบิลค่าไฟหน่อยได้ไหมครับรู้สึกว่าจะคิดผิด
จากนั้นป้าแกก็กระแทกมุมลวดที่กำลังล้างอยู่ดังโคร่ม!!! แล้วป้าแกก็พูดด้วยเสียงหงุดหงิดว่า
"มีปัญหาทุกเดือนเลยนะ กรูรำคาณพวกเธอว่ะ!!! ฉันให้พวกเธออยู่ถึงเดือนนี้นะ ฉันไม่เอาพวกเธอล่ะมีแต่ปัญหา"
แล้วป้าแกก็เดินไปคิดค่าไฟให้ดู ตัวเลขมันก็ออกมา 608 บาท จริงๆ ป้าก็พูดบ่ายเบี่ยงว่า
"เครื่องคิดเลขมันก็คิดผิดกันได้ เกินมาแค่ 10 กว่าบาท ถ้าเธอจ่ายแล้วจะมาด่าฉันเมื่อไหร่ก็ได้
แต่นี้เธอไม่ได้จ่ายจะมาโวยวายทำไม"
แฟนก็บอกว่า "ไม่ได้โวยวายครับแค่มาถามเฉยๆ เพราะผมคิดมาแล้วว่าเลขไม่ตรงกัน"
ป้าแกก็ขึ้นเสียงใส่ว่า "ก็ก็ค่อยมาบอกตอนจะจ่ายสิ มาบอกตอนนี้ทำเหี๊ยไรว่ะ"
แฟนเราก็ไม่พอใจเลยเดินกลับห้องขึ้นมา
ป้าก็ตะโกนตามหลังมาว่า "ทีเงิน 4000 บาท หอเก่ายังทิ้งมาได้ แค่นี้ทำมาเป็นโวยวาย"
(แฟนเราไปโวยวายตอนไหนอะ ก็แค่ไปถามดีๆ)
พอแฟนเรากลับขึ้นห้องมา เขาก็มาเล่าให้เราฟัง เราก็เงิบเลย ไม่คิดว่าแค่ไปถามดีๆเขาจะด่าแรงแบบนี้
ก็เลยรู้สึกไม่เคลียบีเลยเดินลงไปถามด้วยตัวเองเลยค่ะ
พอเดินลงไป ก็เรียกเขามาคุยด้วยดีๆ ไม่ได้จะมาโวยวายหรือหาเรื่องอะไรเลย
เนื้อหาตามคลิปเลยค่ะ เสียงอาจไม่ค่อยชัดนะค่ะ พอดีแฟนเราแอบเอาโทรศัพท์ไปอัด แล้วยืนอยู่ข้างๆเราค่ะ
พยานอีกคนคือเพื่อนเราที่อยู่ชั้น 3 เขาก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เขานั่งฟังอยู่ด้านหลังเราค่ะ รู้เห็นหมดว่าป้าแกพูดอะไรบ้าง
และนี้คือคลิปเสียงจริงค่ะ >>> http://www.youtube.com/watch?v=0CdUkArJbmc
มีซับ ด้านล่างเลยค่ะ