ผมอายมากเลยครับ นับว่าอายที่สุดตั้งแต่จำความได้ เสียหน้าด้วย ขึ้นเขาคิชกุฏจันทบุรีครั้งแรกกับแฟน ช่วงมีนาคม ขึ้นตั้งแต่ เที่ยงคืน เดินจนถึงลอยพระพุทธบาทละ เหนื่อยก็เหนื่อย คนก็เยอะ แต่แรงศรัทธาแรงกล้า จนสามารถขึ้นไปถึงรอยพระพุธบาท ผมเป็นคนเหนื่อยง่าย ระหว่างรอรอบต่อไปเพื่อเข้าไปสักการะ ผมก็ด้วยความเหนื่อย คนก็ยืนกันเยอะ ผมจึงไปเกาะหลังแฟนผม แบบหาที่พยุง แล้วเปลี่ยนไปยืนด้านซ้ายเธอ แล้วก็เปลี่ยนไปจับไหล่เธอข้างเดียว แบบหาที่เกาะ เพราะผมเหนื่อยมาก ตาก็มองแต่ คนเค้ากราบไหว้กัน แล้วเธอก็สะดุ้งทันที เบี่ยงตัวหนี ตามองผมแบบ (จะทำอะไรเค้าอะ) ผมก็มอง อ่าวไม่ใช้แฟนตู แฟนตูไปไหน หันไปทางซ้ายมือของตัวเอง แฟนตูยืนอยู่ข้างๆ มองมาด้วยสายตาแบบจะกินเลือดกินเนื้อ ผมกลายเป็นโรคจิตไปโดยทันที แฟนผมมองค้อนแบบในวัดในวา มืงไม่เว้นนะ แฟนเค้าก็อยู่ด้วย ยังไม่เว้น กำๆๆๆ ของกำ 555 แฟนคนที่ผมไปจับหลังและเท้าไหล่เค้า ก็มองผมแบบถ้าไม่ใช้ในวัดนี่ ผมคงโดนไปแล้วละ
โถ ก็เราไม่ได้ตั้งใจนิ ใส่เสื้อขาวเหมือนกัน ตอนนั้นตาผมก็เบลอๆ แบบเหนื่อยๆ แค่จะหาที่พักพิง ดีไม่ลูบหัวไปด้วย ไม่งั้น โดนต่อยคาเขาแน่ 55
พอได้รอบไหวพระก็แบบ ได้นั่งแถวๆใกล้ๆ กันอีก มองหน้ากันไม่ติดเลยทีนี้ ผมก็ไม่กล้าสู้หน้า หลบตา ไหว้พระ ขอพร ตั้งจิตให้สงบ แล้วเดินทางกลับ
แฟนก็ล้อตั้งแต่ตอนนั้น ยันตอนนี้ยังไม่เลิก พอผมเหมอๆ ก็หาว่าคิดไรโรคจิตอีกละ พลาดครั้งเดียว ล้อแบบยังกับไปมีเมียน้อย ฮือๆๆๆๆๆ
ประสบการณ์เรื่องหน้าอาย ขายหน้าของผม กลายเป็นคนคล้ายโรคจิต โดยไม่ได้ตั้งใจ
โถ ก็เราไม่ได้ตั้งใจนิ ใส่เสื้อขาวเหมือนกัน ตอนนั้นตาผมก็เบลอๆ แบบเหนื่อยๆ แค่จะหาที่พักพิง ดีไม่ลูบหัวไปด้วย ไม่งั้น โดนต่อยคาเขาแน่ 55
พอได้รอบไหวพระก็แบบ ได้นั่งแถวๆใกล้ๆ กันอีก มองหน้ากันไม่ติดเลยทีนี้ ผมก็ไม่กล้าสู้หน้า หลบตา ไหว้พระ ขอพร ตั้งจิตให้สงบ แล้วเดินทางกลับ
แฟนก็ล้อตั้งแต่ตอนนั้น ยันตอนนี้ยังไม่เลิก พอผมเหมอๆ ก็หาว่าคิดไรโรคจิตอีกละ พลาดครั้งเดียว ล้อแบบยังกับไปมีเมียน้อย ฮือๆๆๆๆๆ