สืบเนื่องจากเราและเพื่อนๆ รวมทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 1 และหญิง 4 คนไปท่องเที่ยวฮ่องกงจำนวน 4 วัน 3 คืน พักที่โรงแรม Nathan Hotel ทริปของเราราบรื่นดีทุกอย่าง จนกระทั่งวันกลับ เราต้องไปถึงสนามบินประมาณ 6 โมงเย็นเพื่อเช็คอิน ระหว่างนั้นเวลา 4 โมงเย็น
วันอาทิตย์วันจันทร์ที่ผ่านมาเราและเพื่อนๆ ได้มารับกระเป๋าที่โรงแรมและมายืนรอที่ป้ายรถ shuttle bus ของ AE ตรงข้ามโรงแรม eaton เรายืนรออยู่นานพอสมควร ประมาณเกือบครึ่งชม. บริเวณป้ายจอดรถของ AE มีรถจอดริมถนนทั้งสองฝั่ง เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตอนนี้ค่ะ
รถ shuttle bus มาจอดอยู่เลนตรงกลางถนน พวกเรา 5 คนต่อแถวและใช้วิธีส่งกระเป๋าไถส่งต่อกันไป โดยที่ผญ.คนแรก ขึ้นไปบนรถ เพื่อรอรับกระเป๋า ผู้ชายเป็นคนยกขึ้นรถ อีก 3 คนเป็นคนไถส่งต่อๆ กัน พอพวกเราขนกระเป๋าขึ้นรถเสร็จ เตรียมจะนั่ง มีผช.ฮ่องกงคนหนึ่งตามขึ้นมาและมาเรียกเพื่อนเราที่เป็น ผช. ลงไปบอกว่าเพื่อนเรา (ให้ชื่อว่า ท.) เป็นคนโยนกระเป๋าไปโดนรถเค้า ต้องรับผิดชอบ พร้อมบอกให้คนขับ AE ให้จอดรถก่อน ท. ก็ลงตามไปดูรอยที่รถ เป็นรอยบุ๋มกลมๆ 1 จุด เล็กกว่าเหรียญ 1 บาทบ้านเรา อยู่ตรงกันชนท้ายรถเค้าระดับความสูงของกันชนเทียบกับเข่าของเรา (สูงประมาณ 164) ต่ำกว่าหัวเข่าเราอีก เพื่อนเราไม่ยอมรับ เพราะเราไม่ได้โยนกระเป๋าเล่นตามที่เค้าบอกพนง.คนขับรถ และพวกเรายืนต่อๆ กัน โดยที่ตอนเข็นตัวพวกเราอยู่ฝั่งซ้าย ท้ายรถเกิดเหตุอยู่ฝั่งซ้ายของตัวเรา กระเป๋าอยู่มือขวา มันจะไปโดนได้อย่างไร คิดว่ายังไงก็ไม่โดนแน่นอน กลายเป็นเรื่องใหญ่ ฝ่ายเค้าก็ไม่ยอม เค้าบอกให้เอาเงินให้เค้า 1000 hongkong dollar เพราะเค้ารู้ว่าพวกเราต้องรีบไปขึ้นเครื่อง ท.เพื่อนเราก็แนวผช. อาจมีหน้าหัวเสียบ้างเพราะไม่ผิด แต่แฟนของท. ก็เดินไปขอร้องนายคนนี้พูด plz แล้ว plz อีก เค้าก็ไม่ยอมสบตาจะเอาตังท่าเดียว บอกพวกเราต้องรับผิดชอบ พนง.ขับรถ AE ต้องรีบไปเลยเรียกตำรวจให้พวกเรา ระหว่างนั้นพวกเราเลยตัดสินใจแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มนึงเอากระเป๋าไปรอที่สถานีรถไฟ AE kawloon ให้หมดก่อน เพราะถ้าต้องใช้เวลานาน 2 คนที่อยู่ทางนี้จะได้รีบนั่ง taxi ตามไปได้ง่ายกว่าทั้งหมด (ตรงนี้หลายคนอาจสงสัยทำไมถึงไป 3 คน เพราะเราอยู่ใน 3 คนนี้ พวกเราไปช่วยกันยกกระเป๋าใบ 5 ใบกันค่ะ รวมถึงเราก็เป็นคนเดียวที่เคยมาที่นี่ต้องไปนำทาง) ส่วนท. กะแฟนท. ก็อยู่เคลียร์ที่เกิดเหตุ
ตัดตอนมาฝ่ายเราก่อนนะคะ ระหว่างที่เรานั่งอยู่บนรถ shuttle bus ของ AE เรานึกถึงไกด์ของบ.ทัวร์ฮ่องกงชื่อดังที่เรารู้จักกันดีในไทย เพราะเมื่อวันเสาร์เราได้ไกด์คนนี้พาไปส่งขึ้นเรือไปมาเก๊า ชื่อคุณเอ เรามีเบอร์มือถืออยู่เลยโทรหาเค้า ขอความช่วยเหลือให้เค้าช่วยเพื่อนเรา ระหว่างนั้นเราก็ถึงสถานีของ AE ก็คอย line ถามเพื่อนเป็นระยะๆ รวมถึงบอกเพื่อนถ้ายื้อจนสุดท้ายแล้วก็ให้ตังไปเถอะ พวกเราจะช่วยหารกันอยู่แล้ว นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เราอยู่ในสถานการณ์ ได้แต่นั่งรอลุ้นอัพเดทข้อมูลทาง line
ตั้งแต่บรรทัดนี้ไปเป็นคำบอกเล่าจากเพื่อนเราที่อยู่ในสถานการณ์นะคะ เราเป็นตัวกลางมาเล่าเรื่องให้ฟัง
เพื่อนเราอยู่ ณ จุดเกิดเหตุ เค้าก็ยังไม่ยอมอยู่ดีไม่ว่าจะพูดอะไร ขอร้องก็แล้ว บอกเหตุผลก็แล้ว บอกเป็นไปไม่ได้ถ้ากระเป๋าโดนมันจะต้องเป็นรอยลากยาว ไม่ใช่จุดแล้วบุ๋ม (ต้องบอกก่อนนะคะ ภาษาอังกฤษเพื่อนของเราพอได้ แต่ก็ไม่ได้เก่งมากมายที่จะไปเถียงเค้า) สุดท้ายก็รออยู่นานจนตำรวจมา ตำรวจก็คุยทั้งสองฝ่าย โดยที่ฝั่งคู่กรณีเค้าพูด Eng บ้าง ภาษาจีนบ้าง เราก็ไม่รู้หรอกว่าเค้าพูดอะไรกัน มาที่ฝั่งเรา เราก็อธิบายแบบที่บอกไปข้างต้น เค้าก็บอกว่าเข้าใจแต่ทางคู่กรณีไม่ยอม ได้แต่ยืนมองหน้ากันไปมา หนึ่งความผิดของพวกเราคือ เราไม่ได้ทิ้งกระเป๋าที่เป็นหลักฐานไว้ เพราะเหตุผลใดเราบอกไปข้างต้นแล้ว ตำรวจขอดูกระเป๋าจะเอามาเทียบ อันนี้เราไม่มี แต่เพื่อนเราก็ได้อธิบายว่า 3 ใบใหญ่ขนาดประมาณ 24-25" เป็นกระเป๋าผ้าซึ่งหนักประมาณ 20 kg คงจะโยนไปโยนมาเล่นจนไปโดนรถของเค้าไม่ได้เพราะมันหนักมาก (ท.เป็นผช.ตัวเล็ก นน.ไม่น่าเกิน 70 Kg อันนี้ประมาณการณ์เอาเองนะ เราคิดว่าเรายังตัวใหญ่กว่าและสูงกว่าด้วยซ้ำ) ส่วนอีก 2 ใบเป็นพลาสติก poly 1 ใบใหญ่ขนาด 24" 14 kg ส่วนอีกใบเป็นใบเล็ก 7 kg ทั้งสองใบพวกเราควบคุมมันได้ดี ไม่มีทางโดนได้
คู่กรณีก็ยังยืนยันคำเดิมว่าพวกเราต้องชดใช้ 1000 hongkong dollar ท.กะแฟนท.บอกไม่มีเนื่องจากเป็นวันสุดท้ายแล้วช้อปปิ้งหมด จุดที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ เมื่อเราบอกไปแล้ว เค้าตอบกลับมาว่าเค้ายินดีรับเงินไทย เอามา 4000 บาท เพื่อนเราเลยงง มีรู้เรทอย่างด่วนด้วย แต่ก็นั่นแหละวันสุดท้ายยังไงก็ไม่มีจริงๆ เหตุการณ์ทิ้งช่วงอยู่นานพอสมควร เราเล่าข้ามมาช่วงนึงค่ะระหว่างนี้คุยเอ (ไกด์ที่เราติดต่อ) โทรหาเพื่อนเราอยู่เรื่อยๆ ถามสถานการณ์บอกถ้าเราไม่ผิดอย่าไปยอม จนอย่างที่บอกเวลาเริ่มกระชั้นชิดต้องไปสนามบิน คุณเอคุยกับเพื่อนเราทั้ง 2 คนว่ามีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่ รวมแล้วเหลืออยู่ประมาณ 500 hongkong dollar เค้าบอกให้ยื่นโทรศัพท์ให้คู่กรณี แล้วเค้าคงพูดประมาณว่ามีแค่นี้จะเอาไม๊ เพราะถ้ามากกว่านี้ยังไงก็ไม่มี สรุปสุดท้ายคู่กรณีก็รับค่ะ พอวางโทรศัพท์เราจ่ายเงินปุ๊บทุกอย่างก็จบอย่างง่ายดาย คู่กรณีคนนี้เดินไปขึ้นรถและสตาร์ทรถขับออกไปเลย ส่วนคุณตำรวจยังมีมาถามว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับฮ่องกงอีกนะ เพื่อนเราก็ตอบไปว่าทุกอย่างดีหมดจนถึงตอนนี้ พวกเราไม่ happy แล้ว ตำรวจได้แต่ยิ้มแหยะๆ แล้วก็ขอตัวกลับ ท.และแฟนท.กลับมาเช็คอินทันค่ะ พวกเราก็ช่วยๆ กันหารกัน ในใจก็คิดว่าดีแหละที่ไม่อยู่ครบ เพราะถ้าอยู่ครบคู่กรณีคงให้รวมเงินกันจนถึง 1000 แน่ๆ ไม่งั้นคงไม่ยอม ถือเป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงเลยค่ะ
ที่มาโพสไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไร แค่อยากให้ข้อมูลสำหรับคนที่จะไปฮ่องกงให้ระวังไว้ก็ดีค่ะ ที่จอดรถตรงนั้นมีป้ายห้ามจอด แต่ตำรวจก็ไม่ได้ว่าอะไรคู่กรณี เราก็ไม่รู้กฎหมายเค้าแน่ชัดเลยเถึยงอะไรไม่ได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่อยากบอกคือ อยากจะขอบคุณคุณเอมากค่ะที่ช่วยเหลือ ถึงแม้จะพบกันแค่ตอนมารับไปส่งขึ้นเรือ ferry เท่านั้น แต่ก็ช่วยเหลือพวกเรามาก
ตัวเราไปฮ่องกงมา 4 ครั้ง ใช้ shuttle bus ของ AE ทุกครั้งก็ไม่เคยโดนเหตุการณ์พวกนี้ จนมาครั้งนี้ลืมไม่ลงเลยค่ะ
ปล. เราใช้ id ของคุณแฟนมาโพสนะคะ
edit 1 แก้ไขวัน เขียนวันผิดค่ะ
[CR] [เตือนภัย] สำหรับเพื่อนๆ ที่รอรถ shuttle bus บริเวณป้ายของ airport express ที่ฮ่องกงค่ะ
วันอาทิตย์วันจันทร์ที่ผ่านมาเราและเพื่อนๆ ได้มารับกระเป๋าที่โรงแรมและมายืนรอที่ป้ายรถ shuttle bus ของ AE ตรงข้ามโรงแรม eaton เรายืนรออยู่นานพอสมควร ประมาณเกือบครึ่งชม. บริเวณป้ายจอดรถของ AE มีรถจอดริมถนนทั้งสองฝั่ง เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตอนนี้ค่ะรถ shuttle bus มาจอดอยู่เลนตรงกลางถนน พวกเรา 5 คนต่อแถวและใช้วิธีส่งกระเป๋าไถส่งต่อกันไป โดยที่ผญ.คนแรก ขึ้นไปบนรถ เพื่อรอรับกระเป๋า ผู้ชายเป็นคนยกขึ้นรถ อีก 3 คนเป็นคนไถส่งต่อๆ กัน พอพวกเราขนกระเป๋าขึ้นรถเสร็จ เตรียมจะนั่ง มีผช.ฮ่องกงคนหนึ่งตามขึ้นมาและมาเรียกเพื่อนเราที่เป็น ผช. ลงไปบอกว่าเพื่อนเรา (ให้ชื่อว่า ท.) เป็นคนโยนกระเป๋าไปโดนรถเค้า ต้องรับผิดชอบ พร้อมบอกให้คนขับ AE ให้จอดรถก่อน ท. ก็ลงตามไปดูรอยที่รถ เป็นรอยบุ๋มกลมๆ 1 จุด เล็กกว่าเหรียญ 1 บาทบ้านเรา อยู่ตรงกันชนท้ายรถเค้าระดับความสูงของกันชนเทียบกับเข่าของเรา (สูงประมาณ 164) ต่ำกว่าหัวเข่าเราอีก เพื่อนเราไม่ยอมรับ เพราะเราไม่ได้โยนกระเป๋าเล่นตามที่เค้าบอกพนง.คนขับรถ และพวกเรายืนต่อๆ กัน โดยที่ตอนเข็นตัวพวกเราอยู่ฝั่งซ้าย ท้ายรถเกิดเหตุอยู่ฝั่งซ้ายของตัวเรา กระเป๋าอยู่มือขวา มันจะไปโดนได้อย่างไร คิดว่ายังไงก็ไม่โดนแน่นอน กลายเป็นเรื่องใหญ่ ฝ่ายเค้าก็ไม่ยอม เค้าบอกให้เอาเงินให้เค้า 1000 hongkong dollar เพราะเค้ารู้ว่าพวกเราต้องรีบไปขึ้นเครื่อง ท.เพื่อนเราก็แนวผช. อาจมีหน้าหัวเสียบ้างเพราะไม่ผิด แต่แฟนของท. ก็เดินไปขอร้องนายคนนี้พูด plz แล้ว plz อีก เค้าก็ไม่ยอมสบตาจะเอาตังท่าเดียว บอกพวกเราต้องรับผิดชอบ พนง.ขับรถ AE ต้องรีบไปเลยเรียกตำรวจให้พวกเรา ระหว่างนั้นพวกเราเลยตัดสินใจแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มนึงเอากระเป๋าไปรอที่สถานีรถไฟ AE kawloon ให้หมดก่อน เพราะถ้าต้องใช้เวลานาน 2 คนที่อยู่ทางนี้จะได้รีบนั่ง taxi ตามไปได้ง่ายกว่าทั้งหมด (ตรงนี้หลายคนอาจสงสัยทำไมถึงไป 3 คน เพราะเราอยู่ใน 3 คนนี้ พวกเราไปช่วยกันยกกระเป๋าใบ 5 ใบกันค่ะ รวมถึงเราก็เป็นคนเดียวที่เคยมาที่นี่ต้องไปนำทาง) ส่วนท. กะแฟนท. ก็อยู่เคลียร์ที่เกิดเหตุ
ตัดตอนมาฝ่ายเราก่อนนะคะ ระหว่างที่เรานั่งอยู่บนรถ shuttle bus ของ AE เรานึกถึงไกด์ของบ.ทัวร์ฮ่องกงชื่อดังที่เรารู้จักกันดีในไทย เพราะเมื่อวันเสาร์เราได้ไกด์คนนี้พาไปส่งขึ้นเรือไปมาเก๊า ชื่อคุณเอ เรามีเบอร์มือถืออยู่เลยโทรหาเค้า ขอความช่วยเหลือให้เค้าช่วยเพื่อนเรา ระหว่างนั้นเราก็ถึงสถานีของ AE ก็คอย line ถามเพื่อนเป็นระยะๆ รวมถึงบอกเพื่อนถ้ายื้อจนสุดท้ายแล้วก็ให้ตังไปเถอะ พวกเราจะช่วยหารกันอยู่แล้ว นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เราอยู่ในสถานการณ์ ได้แต่นั่งรอลุ้นอัพเดทข้อมูลทาง line
ตั้งแต่บรรทัดนี้ไปเป็นคำบอกเล่าจากเพื่อนเราที่อยู่ในสถานการณ์นะคะ เราเป็นตัวกลางมาเล่าเรื่องให้ฟัง
เพื่อนเราอยู่ ณ จุดเกิดเหตุ เค้าก็ยังไม่ยอมอยู่ดีไม่ว่าจะพูดอะไร ขอร้องก็แล้ว บอกเหตุผลก็แล้ว บอกเป็นไปไม่ได้ถ้ากระเป๋าโดนมันจะต้องเป็นรอยลากยาว ไม่ใช่จุดแล้วบุ๋ม (ต้องบอกก่อนนะคะ ภาษาอังกฤษเพื่อนของเราพอได้ แต่ก็ไม่ได้เก่งมากมายที่จะไปเถียงเค้า) สุดท้ายก็รออยู่นานจนตำรวจมา ตำรวจก็คุยทั้งสองฝ่าย โดยที่ฝั่งคู่กรณีเค้าพูด Eng บ้าง ภาษาจีนบ้าง เราก็ไม่รู้หรอกว่าเค้าพูดอะไรกัน มาที่ฝั่งเรา เราก็อธิบายแบบที่บอกไปข้างต้น เค้าก็บอกว่าเข้าใจแต่ทางคู่กรณีไม่ยอม ได้แต่ยืนมองหน้ากันไปมา หนึ่งความผิดของพวกเราคือ เราไม่ได้ทิ้งกระเป๋าที่เป็นหลักฐานไว้ เพราะเหตุผลใดเราบอกไปข้างต้นแล้ว ตำรวจขอดูกระเป๋าจะเอามาเทียบ อันนี้เราไม่มี แต่เพื่อนเราก็ได้อธิบายว่า 3 ใบใหญ่ขนาดประมาณ 24-25" เป็นกระเป๋าผ้าซึ่งหนักประมาณ 20 kg คงจะโยนไปโยนมาเล่นจนไปโดนรถของเค้าไม่ได้เพราะมันหนักมาก (ท.เป็นผช.ตัวเล็ก นน.ไม่น่าเกิน 70 Kg อันนี้ประมาณการณ์เอาเองนะ เราคิดว่าเรายังตัวใหญ่กว่าและสูงกว่าด้วยซ้ำ) ส่วนอีก 2 ใบเป็นพลาสติก poly 1 ใบใหญ่ขนาด 24" 14 kg ส่วนอีกใบเป็นใบเล็ก 7 kg ทั้งสองใบพวกเราควบคุมมันได้ดี ไม่มีทางโดนได้
คู่กรณีก็ยังยืนยันคำเดิมว่าพวกเราต้องชดใช้ 1000 hongkong dollar ท.กะแฟนท.บอกไม่มีเนื่องจากเป็นวันสุดท้ายแล้วช้อปปิ้งหมด จุดที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ เมื่อเราบอกไปแล้ว เค้าตอบกลับมาว่าเค้ายินดีรับเงินไทย เอามา 4000 บาท เพื่อนเราเลยงง มีรู้เรทอย่างด่วนด้วย แต่ก็นั่นแหละวันสุดท้ายยังไงก็ไม่มีจริงๆ เหตุการณ์ทิ้งช่วงอยู่นานพอสมควร เราเล่าข้ามมาช่วงนึงค่ะระหว่างนี้คุยเอ (ไกด์ที่เราติดต่อ) โทรหาเพื่อนเราอยู่เรื่อยๆ ถามสถานการณ์บอกถ้าเราไม่ผิดอย่าไปยอม จนอย่างที่บอกเวลาเริ่มกระชั้นชิดต้องไปสนามบิน คุณเอคุยกับเพื่อนเราทั้ง 2 คนว่ามีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่ รวมแล้วเหลืออยู่ประมาณ 500 hongkong dollar เค้าบอกให้ยื่นโทรศัพท์ให้คู่กรณี แล้วเค้าคงพูดประมาณว่ามีแค่นี้จะเอาไม๊ เพราะถ้ามากกว่านี้ยังไงก็ไม่มี สรุปสุดท้ายคู่กรณีก็รับค่ะ พอวางโทรศัพท์เราจ่ายเงินปุ๊บทุกอย่างก็จบอย่างง่ายดาย คู่กรณีคนนี้เดินไปขึ้นรถและสตาร์ทรถขับออกไปเลย ส่วนคุณตำรวจยังมีมาถามว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับฮ่องกงอีกนะ เพื่อนเราก็ตอบไปว่าทุกอย่างดีหมดจนถึงตอนนี้ พวกเราไม่ happy แล้ว ตำรวจได้แต่ยิ้มแหยะๆ แล้วก็ขอตัวกลับ ท.และแฟนท.กลับมาเช็คอินทันค่ะ พวกเราก็ช่วยๆ กันหารกัน ในใจก็คิดว่าดีแหละที่ไม่อยู่ครบ เพราะถ้าอยู่ครบคู่กรณีคงให้รวมเงินกันจนถึง 1000 แน่ๆ ไม่งั้นคงไม่ยอม ถือเป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงเลยค่ะ
ที่มาโพสไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไร แค่อยากให้ข้อมูลสำหรับคนที่จะไปฮ่องกงให้ระวังไว้ก็ดีค่ะ ที่จอดรถตรงนั้นมีป้ายห้ามจอด แต่ตำรวจก็ไม่ได้ว่าอะไรคู่กรณี เราก็ไม่รู้กฎหมายเค้าแน่ชัดเลยเถึยงอะไรไม่ได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่อยากบอกคือ อยากจะขอบคุณคุณเอมากค่ะที่ช่วยเหลือ ถึงแม้จะพบกันแค่ตอนมารับไปส่งขึ้นเรือ ferry เท่านั้น แต่ก็ช่วยเหลือพวกเรามาก
ตัวเราไปฮ่องกงมา 4 ครั้ง ใช้ shuttle bus ของ AE ทุกครั้งก็ไม่เคยโดนเหตุการณ์พวกนี้ จนมาครั้งนี้ลืมไม่ลงเลยค่ะ
ปล. เราใช้ id ของคุณแฟนมาโพสนะคะ
edit 1 แก้ไขวัน เขียนวันผิดค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น