สวัสดีครับ ผมมีปัญหามาปรึกษานิดหน่อย
ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเงินของแม่ผม
จริงๆไม่อยากะตั้งกระทู้เลย เหมือนว่าแม่
แต่ ถ้าไม่หาทางออกปัญหาก็อาจไม่ได้แก้ไข
ขออธิบายตรงๆเลยนะครับ
แม่ผมท่านมีวินัยทางการเงินน้อยมาก คือ ประมาณว่ามีเงินอยู่กับตัวไม่ได้ต้องใช้ให้หมดไป ปัญหาแรกก็คือทำให้ไม่มีเงิน
ปัญหาแรกเกิดขึ้นเป็นผลให้มีปัญหาตามมาคือเมื่อเงินไม่พอใช้ ทำยังไง ก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน
แม่ผมกู้ทั้งในระบบนอกระบบจนเงินเดือนติดลบไปหมดแล้ว
แน่นอนว่า หนึ่งในหนี้นั้น ก็คือค่าเลี้ยงดูผม และน้อง และ หนี้บ้านด้วย
หนี้บ้านพ่อกับแม่ใช้วิธีคือกู้หลายๆที่เพื่อมาส่งบ้าน
ซึ่งเป็นการกู้ในระบบ และ ใช้หนี้โดยการตัดเงินเดือน
ตอนนี้เงินเดือนแม่ผมติดลบไปเยอะ จากเงินเดือนประมาณ 38 เค (เริ่มปวดหัวจิ้ดเหมือนผมหรือยัง)
ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยครับ เงินเดือนขนาดนี้ ไม่น่าจะถูกหักหนี้ จนติดลบได้
แต่ก็เป็นไปแล้ว
แต่นี่แค่เริ่มต้น เพราะเงินเดือนที่ถูกหัก คือหนี้ในระบบ ดอกเบี้ยถูก
ทีนี้ มีหนี้นอกระบบอีก จำนวนเท่าไร ไม่สามารถประเมินได้ เพราะแม่ไม่เคยบอก
ผมกับน้องก็ส่งให้แม่บ้าง น้องจะส่งเยอะกว่าผมเพราะเงินเดือนเยอะกว่า
ทีนี้ พอแม่รู้ว่าผมกับน้องจะส่งเงินเดือนให้ แม่ก็ยิ่งสร้างหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นอีกเกือบทุกเดือน เพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องส่งเงินไปให้
ล่าสุดผมก็เพิ่งออกไปโอนเงินใช้หนี้ให้แม่ ค่าแม่ยืมเงินเขาซื้อดอกไม้
เริ่มจะสงสัยหรือยังครับ ว่าซื้อของพวกนี้ไปทำอะไร
แม่ผมค่อนข้างเป็นคนใจปล้ำอย่างที่บอกตอนแรก คือทั้งงานโรงเรียน งานที่วัด ค่าอาหาร ค่าดอกไม้ ค่าน้ำมัน ค่าผ้า ค่าฯลฯ
ถ้าแม่มีเงินเมื่อไหร่ แม่จะอาสาออกให้ทันที ทั้งๆที่บางทีก็ไม่มีเงิน(ก็ต้องไปยืม) แต่เพื่อความสำเร็จของงาน แม่ทุ่มเต็มที่
คือ สรุปง่ายๆว่า ของพวกนี้มันไม่ใช่ของที่จำเป็นต่อชีวิตเลย
อย่างตอนนี้รถมอเตอร์ไซค์ สตาร์ทไม่ติด สอบถามราคาค่าเปลี่ยนแบต 400 บาท แม่ไม่ยอมเปลี่ยน แต่กลับไปยืมเงินคนอื่นไปซื้อดอกไม้อีก
ผมเคยเตือนแม่ไปหลายครั้งแล้ว ว่า ให้รู้จักใช้เงินตามที่จำเป็น แต่ก็เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
แม่กลับให้เหตุผลว่า หลวงพ่อที่วัดให้ความช่วยเหลือเสมอๆ จึงต้องตอบแทน
ให้ความช่วยเหลืออะไรนะหรอครับ
ให้เดินทางไปช่วยงานที่วัดสาขาที่ต่างประเทศ นี่ก็เรียกว่าช่วย หรือให้ไปช่วยก็ไม่แน่ใจ
ให้ได้รู้จักคนใหญ่คนโต ระดับนายพล นายพัน นักธุรกิจจีน มาเลย์ ฮ่องกง ฯลฯ (ผมก็คิดในใจ รู้จักไปแล้วได้อะไร)
บางทีก็ออกไปอนุโมทนาบัตรให้ ว่า พ่อกับแม่ บริจาคเงินให้วัดคนละ 30000 บาท เพื่อนำไปลดภาษี
ทั้งๆที่พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ให้เงินวัด
แต่หลวงพ่อออกอนุโมทนาบัตรมาให้ แสดงว่า ท่านก็ไม่ซื่อเช่นกัน
( จริงๆมีเยอะกว่านี้ วัดนี้ น่ะ คล้ายๆกับหลายๆท่านที่ดังๆ ในด้านที่ไม่ดี แต่กล่าวไว้พอสังเขป เดี๋ยวจะเยิ่นเย้อไป )
มีวันนึงผมถึงกับทะเลาะกับพ่อเพราะไม่อยากไปวัดนั้น
หนี้ที่ผมพอจะเดาๆ ได้ ก็มีทั้งร้านค้า ของชำ ร้านดอกไม้สด หนี้ชาวบ้าน หนี้เพื่อนครู หนี้คนที่รู้จัก คือใครรู้จักแม่ แทบจะโดนยืมทั้งสิ้น ฯลฯ
แม่มักจะใช้คำว่ายืม แต่ส่วนมากไม่ค่อยมีใครได้คืนกัน
แม่ให้เหตุผลว่า ถ้าเกษียร จะมีเงินบำเหน็จมาปลดหนี้
ผมก็สงสัย แล้วหลังจากนั้นล่ะครับ
จะเอาเงินที่ไหนใช้ สงสัยเฉยๆนะแต่ไม่ได้ถาม
ผมก็เลยคิดว่า จะเอาเงินที่ส่งให้แม่น่ะ ส่งไปให้พ่อ แล้วให้พ่อบริหารจัดการการเงินให้แม่ จะดีมั้ย
เช่น ค่าน้ำมันรถแม่ ค่าเสื่อมมอเตอร์ไซค์ ค่าต่างๆที่จำเป็น
โดยไม่ให้เป็นตัวเงินโดยตรงทั้งหมด ก็คือให้เป็นเงินบ้าง เผื่อใช้ยามฉุกเฉิน
อ้อ ขอกล่าวเพิ่มเติมหน่อยครับ ที่ผมไม่ได้กล่าวที่พ่อเพราะพ่อมีการบริหารการเงินที่ดีแล้วครับ
แล้วพ่อไม่ให้แม่หรอ ?
ให้ครับ ก็ให้ในสิ่งจำเป็น เพราะถ้าให้เป็นตัวเงิน แม่ก็เอาไปใช้ในสิ่งไม่จำเป็น
แม่จึงขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างแรง
ทีนี้สมมติแก้ปัญหาอย่างแรกไปได้แล้วคือให้เงินพ่อให้บริหารการเงินให้แม่
ปัญหา สำคัญที่เป็นหัวใจของปัญหาการเงินทั้งปวง คือความมีวินัยทางการเงินของแม่
ผมจะทำอย่างไรให้แม่เปลี่ยนทัศนคติไปในทางที่ดีได้ครับ
ผมลองมาหลายๆอย่างแล้ว สอนตรงๆ สอนอ้อมๆ ฯลฯ
ถ้าแก้ไมได้ก็ต้องวางเฉยแล้วล่ะครับ
ขอบคุณทุกท่านนะครับ
ผมจะแก้ไขปัญหายังไงดีครับ?
ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเงินของแม่ผม
จริงๆไม่อยากะตั้งกระทู้เลย เหมือนว่าแม่
แต่ ถ้าไม่หาทางออกปัญหาก็อาจไม่ได้แก้ไข
ขออธิบายตรงๆเลยนะครับ
แม่ผมท่านมีวินัยทางการเงินน้อยมาก คือ ประมาณว่ามีเงินอยู่กับตัวไม่ได้ต้องใช้ให้หมดไป ปัญหาแรกก็คือทำให้ไม่มีเงิน
ปัญหาแรกเกิดขึ้นเป็นผลให้มีปัญหาตามมาคือเมื่อเงินไม่พอใช้ ทำยังไง ก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน
แม่ผมกู้ทั้งในระบบนอกระบบจนเงินเดือนติดลบไปหมดแล้ว
แน่นอนว่า หนึ่งในหนี้นั้น ก็คือค่าเลี้ยงดูผม และน้อง และ หนี้บ้านด้วย
หนี้บ้านพ่อกับแม่ใช้วิธีคือกู้หลายๆที่เพื่อมาส่งบ้าน
ซึ่งเป็นการกู้ในระบบ และ ใช้หนี้โดยการตัดเงินเดือน
ตอนนี้เงินเดือนแม่ผมติดลบไปเยอะ จากเงินเดือนประมาณ 38 เค (เริ่มปวดหัวจิ้ดเหมือนผมหรือยัง)
ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยครับ เงินเดือนขนาดนี้ ไม่น่าจะถูกหักหนี้ จนติดลบได้
แต่ก็เป็นไปแล้ว
แต่นี่แค่เริ่มต้น เพราะเงินเดือนที่ถูกหัก คือหนี้ในระบบ ดอกเบี้ยถูก
ทีนี้ มีหนี้นอกระบบอีก จำนวนเท่าไร ไม่สามารถประเมินได้ เพราะแม่ไม่เคยบอก
ผมกับน้องก็ส่งให้แม่บ้าง น้องจะส่งเยอะกว่าผมเพราะเงินเดือนเยอะกว่า
ทีนี้ พอแม่รู้ว่าผมกับน้องจะส่งเงินเดือนให้ แม่ก็ยิ่งสร้างหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นอีกเกือบทุกเดือน เพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องส่งเงินไปให้
ล่าสุดผมก็เพิ่งออกไปโอนเงินใช้หนี้ให้แม่ ค่าแม่ยืมเงินเขาซื้อดอกไม้
เริ่มจะสงสัยหรือยังครับ ว่าซื้อของพวกนี้ไปทำอะไร
แม่ผมค่อนข้างเป็นคนใจปล้ำอย่างที่บอกตอนแรก คือทั้งงานโรงเรียน งานที่วัด ค่าอาหาร ค่าดอกไม้ ค่าน้ำมัน ค่าผ้า ค่าฯลฯ
ถ้าแม่มีเงินเมื่อไหร่ แม่จะอาสาออกให้ทันที ทั้งๆที่บางทีก็ไม่มีเงิน(ก็ต้องไปยืม) แต่เพื่อความสำเร็จของงาน แม่ทุ่มเต็มที่
คือ สรุปง่ายๆว่า ของพวกนี้มันไม่ใช่ของที่จำเป็นต่อชีวิตเลย
อย่างตอนนี้รถมอเตอร์ไซค์ สตาร์ทไม่ติด สอบถามราคาค่าเปลี่ยนแบต 400 บาท แม่ไม่ยอมเปลี่ยน แต่กลับไปยืมเงินคนอื่นไปซื้อดอกไม้อีก
ผมเคยเตือนแม่ไปหลายครั้งแล้ว ว่า ให้รู้จักใช้เงินตามที่จำเป็น แต่ก็เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
แม่กลับให้เหตุผลว่า หลวงพ่อที่วัดให้ความช่วยเหลือเสมอๆ จึงต้องตอบแทน
ให้ความช่วยเหลืออะไรนะหรอครับ
ให้เดินทางไปช่วยงานที่วัดสาขาที่ต่างประเทศ นี่ก็เรียกว่าช่วย หรือให้ไปช่วยก็ไม่แน่ใจ
ให้ได้รู้จักคนใหญ่คนโต ระดับนายพล นายพัน นักธุรกิจจีน มาเลย์ ฮ่องกง ฯลฯ (ผมก็คิดในใจ รู้จักไปแล้วได้อะไร)
บางทีก็ออกไปอนุโมทนาบัตรให้ ว่า พ่อกับแม่ บริจาคเงินให้วัดคนละ 30000 บาท เพื่อนำไปลดภาษี
ทั้งๆที่พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ให้เงินวัด
แต่หลวงพ่อออกอนุโมทนาบัตรมาให้ แสดงว่า ท่านก็ไม่ซื่อเช่นกัน
( จริงๆมีเยอะกว่านี้ วัดนี้ น่ะ คล้ายๆกับหลายๆท่านที่ดังๆ ในด้านที่ไม่ดี แต่กล่าวไว้พอสังเขป เดี๋ยวจะเยิ่นเย้อไป )
มีวันนึงผมถึงกับทะเลาะกับพ่อเพราะไม่อยากไปวัดนั้น
หนี้ที่ผมพอจะเดาๆ ได้ ก็มีทั้งร้านค้า ของชำ ร้านดอกไม้สด หนี้ชาวบ้าน หนี้เพื่อนครู หนี้คนที่รู้จัก คือใครรู้จักแม่ แทบจะโดนยืมทั้งสิ้น ฯลฯ
แม่มักจะใช้คำว่ายืม แต่ส่วนมากไม่ค่อยมีใครได้คืนกัน
แม่ให้เหตุผลว่า ถ้าเกษียร จะมีเงินบำเหน็จมาปลดหนี้
ผมก็สงสัย แล้วหลังจากนั้นล่ะครับ
จะเอาเงินที่ไหนใช้ สงสัยเฉยๆนะแต่ไม่ได้ถาม
ผมก็เลยคิดว่า จะเอาเงินที่ส่งให้แม่น่ะ ส่งไปให้พ่อ แล้วให้พ่อบริหารจัดการการเงินให้แม่ จะดีมั้ย
เช่น ค่าน้ำมันรถแม่ ค่าเสื่อมมอเตอร์ไซค์ ค่าต่างๆที่จำเป็น
โดยไม่ให้เป็นตัวเงินโดยตรงทั้งหมด ก็คือให้เป็นเงินบ้าง เผื่อใช้ยามฉุกเฉิน
อ้อ ขอกล่าวเพิ่มเติมหน่อยครับ ที่ผมไม่ได้กล่าวที่พ่อเพราะพ่อมีการบริหารการเงินที่ดีแล้วครับ
แล้วพ่อไม่ให้แม่หรอ ?
ให้ครับ ก็ให้ในสิ่งจำเป็น เพราะถ้าให้เป็นตัวเงิน แม่ก็เอาไปใช้ในสิ่งไม่จำเป็น
แม่จึงขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างแรง
ทีนี้สมมติแก้ปัญหาอย่างแรกไปได้แล้วคือให้เงินพ่อให้บริหารการเงินให้แม่
ปัญหา สำคัญที่เป็นหัวใจของปัญหาการเงินทั้งปวง คือความมีวินัยทางการเงินของแม่
ผมจะทำอย่างไรให้แม่เปลี่ยนทัศนคติไปในทางที่ดีได้ครับ
ผมลองมาหลายๆอย่างแล้ว สอนตรงๆ สอนอ้อมๆ ฯลฯ
ถ้าแก้ไมได้ก็ต้องวางเฉยแล้วล่ะครับ
ขอบคุณทุกท่านนะครับ