สวัสดีผู้เข้าชมกระทู้นะครับ หลังจากห่างหายไปนาน เนื่องจากช่วงนี้ภาระเรื่องเรียนเยอะ คงจำกันได้นะครับที่เคยบอกไว้ว่าจะมาเขียนต่อจากกระทู้ (สิว ตอน 1) [แชร์ประสบการณ์] พัฒนาการของการเกิดและการดับของ มรสุม"สิว" ในเวลา 1 ปี
http://ppantip.com/topic/32674856
ที่ได้ตั้งกระทู้ไว้แล้ว วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้สานต่อจากกระทู้เดิม กระทู้นี้ คือ (สิว ตอน 2) [แชร์ประสบการณ์] ใช้อะไรบ้างในการรักษาสิวด้วยตนเอง ภายในระยะเวลา 1 ปี
ในกระทู้นี้จะกล่าวถึง 3 ประเด็น คือ.
1. สาเหตุของการเกิดสิวของผม
2. การรักษาของผมโดยบอกว่าช่วงนั้นใช้อะไรรักษาสิวบ้าง
3. บอกว่าอะไรควรใช้และไม่ควรใช้ ผลิตภัณฑ์อะไรดีไม่ดีจากการที่ได้ทดลองใช้รักษาสิวมาแล้ว
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเริ่มกันเลยดีกว่านะครับ
ประเด็นแรก สาเหตุของการเกิดสิวของผม คือขอเล่าความหลังก้อนนะครับ. ส่วนตัวเดิมเป็นคนผิวมันมาก ก่อนหน้าจะเป็นสิวช่วงหนักๆ นั้นช่วง ม ปลายก็เป็นสิวเล็กน้อย แทบไม่เป็นสิว แต่เป็นคนผิวคล้ำมาก ไม่ค่อยเป็นคนดูแลตัวเองครับ ใช้สบู่นกแก้วที่ถูตัว ล้างหน้าและอาบน้ำไปในขั้นตอนเดียว ครีมก็ไม่เคยทา / จนเข้ามหาวิทยาลัย ชีวิตก็เริ่มปรับเปลี่ยนใหม่ๆ ปี 1 แห่งชีวิตมหาลัยก็ยังไม่ได้ดูแลตัวเองจริงจัง
ตอนปี 1 ก็ยังดำๆ และไม่เป็นสิวๆๆ.
พอเริ่มขึ้นปี ที่ 2 แห่งชีวิตมหาลัย ป ตรี. ก็เริ่มทาครีม ครีมกันแดด. ใส่เสื้อคลุม กินอาหารเสริม ทำให้ขาวขึ้น มาบ้าง
เข้าเรื่องการเกิดสิวหนักๆนะครับ จนพอมาถึง ปี2 เทอม 2 จนถึงขึ้นปี 3 แห่งชีวิตมหาวิทยาลัย อะไรก็เปลี่ยนแปลงไป การเรียนที่หนักขึ้น กับการงดเว้นการดูแลตนเองไปชั่วขณะ ทำให้ผมไม่ได้สนใจตัวเอง เรียกได้ว่า เครื่องประทินผิวต่างๆ งดเว้นไปเลยครับ ทำให้สิวเริ่มมากเรื่อยๆในช่วงขึ้น ปี 3 แห่งชีวิตมหาวิทยาลัย
ตามที่ได้เขียนกระทู้ (สิว ตอน 1) [แชร์ประสบการณ์] พัฒนาการของการเกิดและการดับของ มรสุม"สิว" ในเวลา 1 ปี
http://ppantip.com/topic/32674856 ที่ได้เขียนไว้แล้ว
ซึ่งสาเหตุของการเกิดสิวหนักๆของผมพอจะสรุปได้ดังนี้
1 เกิดจากการปล่อยตัวเอง ไม่ดูแลตัวเองเลย (มันอาจจะดูเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ แต่ผมไม่ดูแลตัวเองไปจริงๆครับช่วงนั้น เรียกได้ว่าวางการใช้เครื่องประทินผิวบำรุงต่างๆทุกอย่าง) นั่นทำให้ผิวไม่ได้รับการดูแลบำรุง ทำให้เกิดเป็นสิว
2. ล้างหน้าไม่สะอาด เนื่องจากไม่อะไรยุ่งยาก ใช้แค่โฟมล้างขั้นตอนเดียวจบ
3 นอกจากจะล้างหน้าไม่สะอาดแล้ว บางครั้งก็ล้างหน้าแค่เฉพาะตอนอาบน้ำแปรงฟัน ซึ่งทำให้ยิ่งไม่ค่อยจะสะอาดเท่าที่ควร
4. ใช้ผ้าขนหนูซับหน้า ซึ่งผ้าขนหนูนานๆซักที ทำให้สกปรก
5 เมื่อเป็นสิว ก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ จนทำให้เชื้อสิวลุกลาม (สิวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ) พอสิวมาเป็นจำนวนมากๆ ประมาณ 2 เดือนที่ไม่ทำอะไรกับสิว จนทนกับตัวเองไม่ได้ ที่หน้านั้นต้องมามีสิวมากมาย จึงทำให้เริ่มหันกลับมาดูแลตัวเอง และเริ่มรักษาสิวอย่างจริงจัง
จากภาพ ช่วง 2 เดือนที่เป็นสิวที่มากมาย ทำให้เริ่มการรักษาสิวด้วยตนเองอย่างจริงจัง
การรักษาสิวด้วยตนเองก็เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมๆ คือการเปลี่ยนจากการใช้ผ้าขนหนูซับหน้า ก็หันมาใช้ทิชชู่ซับหน้าเช็ดหน้า
โดยใช้ทิชชู่สำหรับใบหน้า เช็ดหรือซับหลังล้างหน้าแทนการใช้ผ้าขนหนู.
-:เจลที่ใช้ล้างหน้าก็ใช้เจลล้างหน้าสำหรับรักษาสิว
โดยเจลล้างหน้า ทดลองใช้ถึง 3 แบรนด์ด้วยกัน คือ COS / Acne-Aid และ Physiogel ช่วงที่เป็นสิสนี่ใช้แต่เคลนเซอร์รักษาสิว. โดยระยะแรกลอง COS ก่อน แต่ยิ่งใช้แล้วสิวกลับยิ่งขึ้นมากกว่าเดิมมาก
จึงเปลี่ยนลองมาใช้ Acne-Aid. มาเรื่อยๆ ประมาณ 6-7 เดือน แรกๆก็ดี แต่พอใช้ไปเรื่อยๆ มันก็รู้สึกเฉยๆ จึงเปบี่ยนมาใช้ Physiogel และก็เป็นผลที่น่าประทับใจ สิวก็ไม่ค่อยมากวนใจ มีมาบ้างแต่ไม่บ่อยเหมือนใช้ 2 ตัวแรก และปัจจุบันก็ใช้ Physiogel อยู่ในตอนนี้
-: มาดูยาสิวแบบกินบ้างนะครับ. เนื่องจากเป็นสิวหนักมาก เป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะไม่รักษาด้วยการทานยาสิว
ผมตัดสินใจนำใบหน้าที่มีเต็มไปด้วยสิวอันแสนน่าอับอาย ไปพบเภสัชร้านขายยา ข้างๆ มหาวิทยาลัย บอกว่าพี่ครับครับผมต้องการยาทานรักษาสิว เภสัช(คนขาย)เค้าก็ถามว่าแพ้ยาอะไรไหม ผมบอกว่าไม่ เภสัชจึงให้ยานี้มา
มันคือยาทานรักษาสิว มีชื่อว่า acnotin ข้างกล่องเขียนว่ายาอันตราย ซึ่งตอนกินแรกๆ สิวมันก็ประทุขึ้นมาหนักมาก แต่ต่อมาก็ สิวแห้งยุบลงไป พร้อมกับทำให้หน้าผมแห้งลอกเป็นขุย (ปกติเป็นคนหน้ามันมากๆ) ผมจึงหยุดทานยา Acnotin ไปเพราะห้ามทานยานี้ติดต่อกัน และหันจึงหันไปทานพวกอาหารเสริม คือ zinc แทน
ซึ่ง zinc ที่ผมรับประทานในตอนนั้น มี อยู่ 3 ตัว แต่ที่ทานแล้วสิวยุบที่สุด คือ zinc ของวิสทร้า ครับ
-: กลุ่มยาทาสิวที่ใช้
ก็จะใช้ Benzac ac ผมใช้ 5% ทาก่อนล้างหน้าตอนกลางคืนครับ ใช้ทุกวัน. และอีก 2 ตัวอันนี้ ใช้เป็นบางครั้งนะครับ คือ Differin และ Retin-a ซึ่งใช้เป็นบางวัน ประมาณว่า ใน 1 สัปดาห์ วันจันทร์ ใช้ Differin วันพฤหัสบดี ใช้ Retin-a ส่วนในวันที่เหลือใน 1 สัปดาห์นอกจากนี้ ผมจะใช้ แป้งน้ำศิริราชครับ
ซึ่งผมใช้เป็นประจำ ช่วยเรื่องสิวเป็นอย่างมาก เนื่องจาก มี BHA และราคาไม่แพง
จากภาพนี่คือหลักฐานการใช้จริงๆตอนเป็นสิวในช่วงนี้น ครับ ขวดผมยังเก็บไว้อยู่เลย ซึ่งตอนนั้นผมทาทั้งหน้าเลยครับ สิวยุบแห้งและไม่เป็นสิวอุดตันด้วยครับ แต่ปัจจุบันใช้ทาเฉพาะแต้มหัวสิว ช่วยให้ยุบได้ครับ เพราะปัจจุบันทาทั้งหน้าแล้ว เกิดอาการหน้าแดง คัน ยิบๆ เลยครับ
จากการที่มาใช้ยาสิว และรักษาสิว เนื่องจากกลุ่มยาสิว นั้นต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดด ผมจึงหันกลับมาดูแลด้วยการเริ่มกลับมาทาครีมกันแดด ซึ่งในช่วงเป็นสิว ผมก็แสวงหากันแดดสำหรับคนเป็นสิว ครับ คือ
ครีมกันแดดที่ใช้คือแบรนด์ Papulex ซึ่งไปเดินหาครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิวในวัตสัน เห็นสรรพคุณข้างกล่องจึงหยิบมา เรื่องราคาก็เห็นนะครับ ราคาเต็ม หลอด 50 ml หลอดละ 1200 บาท แต่ในช่วงนั้นลดเหลือ 990 บาท/หลอด จึงหยิบมาโดยไม่เสียดายเงิน เพราะเคลมที่ว่าสำหรับคนเป็นสิว ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย จึงซื้อมาใช้ปรากฎว่า มัน เลิศมาก ไม่เป็นสิวเพิ่มขึ้นและไม่ทำให้แสบคันจากการใช้ยาสิวด้วย แต่ข้อเสียคือ ราคาแพงและเนื้อข้นมาก หน้ามันแผลบเลย แต่ก็ยอมเพื่อที่จะได้ใช้ครีมกันแดดโดยไม่ต้องเป็นสิวอีก ในช่วงนี้น
ซึ่งเมื่อมาใช้ครีมกันแดดทำให้ต้องล้างหน้า เป็นพิเศษจึงมาใช้ Bifesta Cleansing Lotion Sebum สำหรับผิวมันเป็นสิว หวังว่าหลายๆคนคงรู้จัก และหันมาสครับหน้าเพิ่มด้วย เพราะตอนนี้สิวยุบแล้วๆ สครับหน้าที่ใช้ คือ
Clearasil ultra Acne Clearing Scrub เป็นโฟมสครับ เนื้อละเอียดมากๆ มีส่วนผสมของ BHA ด้วย ซึ่งเป็นสครับเหมาะสำหรับคนเป็นสิวมากๆ
หลังจากสครับและล้างหน้าเสร็จซับหน้าแห้งแล้วบางวันที่มีสิวมา ก็จะใช้ มาร์คมิ้น คือ
ของ Queen Helene พอกไปที่หัวสิวทำให้สิวแห้งและยุบลงไปครับ
อ้อ ลืมวิธีกำจัดสิวขั้นตอนสำคัญไปเลยครับ เขียนมาจนจะจบแล้ว. คือ การกดสิวเจาะสิวอักเสบ
โอยการใช้ วัสดุอุปกรณ์สำคัญดังภาพ คือ หัวเข็มฉัดยาและแอลกอฮอล์ ซึ่งเข็มใช้ อยู่ 2 เบอร์ ครับ คือ เข็มเบอร์ 27 G x 1/2 และเบอร์ 18G x 1_ 1/2 ดังภาพ คือ ถ้าสิวหัวใหญ่ก็จะใช้เข็มใหญ่หน่อย ถ้าสิวหัวเล็กๆออกง่ายเป็นหนอง ก็จะใช้เข็มเล็กครับ. วิธีการคือ นำสำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดที่ปลายเข็มแล้ว ก็นำเข็มไปเจาะหัวสิวแล้วบีบสิวออกมาครับ โดยวิธีการคือ ห้ามเค้นหรือบีบจนช้ำ ถ้าบีบแล้วหัวออกก็หยุดแต้มด้วยคลินดาเอ็มครับ. แต่ถ้าเจาะแล้วนำสิวออกมาไม่หมดสิวไม้แห้ง ก็จะแปะแผ่นซับสิว ครับ
เพื่อที่จะได้ดูดหนองสิวที่อยู่ข้างในออก แทนการเค้นสิวจนเป็นแผลนะครับ หากไม่ออกก็จะรอให้สิวเกิดหัวใหม่แล้วเจาะกดอีกครั้ง แทนการเค้นจนให้สิวออก แทนนะครับ
สำหรับตัวเด็ดที่ทุกคนต้องถามแน่ว่า ช่วงนั้นใช้ครีม เจล แต้มสิวอะไรบ้าง สำหรับแต้มสิวที่ใช้ คือ
นี่คือ แต้มสิวที่ใช้ในช่วงรักษาสิวตอนนั้นครับ เริ่มแรกเลยใช้ ลูกกลิ้งแต้มสิว ของกานิเย่ เพราะตอนปี 1 เคยเป็นสิวมากพอควรใช้ตัวนี้แล้วหาย จึงลองกลับมาใช้อีก ปรากฏว่าไม่เวิร์ค ต่อมาจึงมาลองแต้มสิวสมุนไพรของ ปัทวี ซึ่งแรกๆก็ใช้ดีครับสิวยุบ มันจะเย็นๆ เมนทอลครับ แต่หลังๆก็เอาสิวไม่อยู่ครับ และข้อเสียคือ น้ำมันย้อยไม่เหมาะกับการทาออกนอกห้อง อีกอย่างเลอะเทอะเสื้อผ้าด้วยครับ จึงเปลี่ยนไป. / เดิมทีเคยใช้มาดามเฮงออซซี่อยู่แล้วครับ จึงนำมากลับมาใช้อีกครั้ง แต้มสิวดีมากๆ แห้งยุบเลยครับ แต่ใช้ไปใช้มามันแรงผิวหนังไหม้ลอกแห้งเป็นขุยบ้างครับ จึงมาลองแต้มสิว อีกตัว คือ Merveile หลอดสีส้ม ใช้ดีมากๆ เนื้อเป็นเจล แต่มันจะค่อยๆยุบนะครับ แต้ไม่ทิ้งรอยสิว แต่สิวอักเสบที่เป็นกัวแล้วไม่ช่วยนะครับ ต้องใช้เข็มเจาะหัวสิวและ ใช้ คลินดาเอ็มที่เป็นน้ำๆแอลกอฮอล์ผสมกับผงพิเศษพอกไปที่หัวสิวที่กดแล้ว ไม่นานยุบแห้งไปครับ
สำหรับ ครีมลดรอยสิวใช้เยอะแยะมากครับ ลองมาทุกแบบ ใช้หมดก็ทิ้งไปไม้ได้ถ่ายรูปไว้ช่วงนั้น มีที่ใช้ประจำและยังเหลืออยู่ ก็คือ
เจ้าตัวนี้ครั ดังภาพเป็นเนื้อเจลใสๆสีชมพู ทาแล้วชุ่มชื่นดีครับหน้าไม่มัน ไม่เป็นสิวเพิ่ม ส่วนรอยก็ค่อยๆหายไปครับ แต่บอกเลยเรื่องรักษารอยสิวนี่ใช้เยอะมากๆ ครับ เรียกได้ว่า ไม่สามารถบอกได้ครับ ยังไงก็เลือกให้เหมาะกับสภาพผิวนะครับ จะได้ไม่เกิดสิวอีกนะครับ
สรุปภาพจากการเริ่มรักษาสิวด้วยตนเอง
ระยะเวลานับจากเริ่มเป็นสิว 2-3 เดือน เริ่มกลับมาดูแลตัวเอง เริ่มรักษาสิวอย่างจริงจัง เริ่มรับประทานยารักษาสิว และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการล้างหน้าและเช็ดหน้า
จาก 3 เดือนเป็นต้นมาหยุดรับประทานยาสิว เรตินเอ มาทาน zinc แทน และเริ่มใช้ กลุ่มยาสิว คือ Benzac , Differin, Retin-a และแป้งน้ำศิริราช ทำให้ได้เริ่มใช้ครีมกันแดดควบคู่กับการรักษาด้วย
ช่วง 4 -7 เดือน อาการดีขึ้น ร่วมกับการเริ่มใช้ ครีมลดรอยสิวไปด้วย แล้วก็ลองเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม เช่น เจลล้างหน้า ครีมแต้มสิว เป็นต้น จนชนะสิวในที่สุด
[CR] (สิว ตอน 2) [แชร์ประสบการณ์] ใช้อะไรบ้างในการรักษาสิวด้วยตนเอง ภายในระยะเวลา 1 ปี
http://ppantip.com/topic/32674856
ที่ได้ตั้งกระทู้ไว้แล้ว วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้สานต่อจากกระทู้เดิม กระทู้นี้ คือ (สิว ตอน 2) [แชร์ประสบการณ์] ใช้อะไรบ้างในการรักษาสิวด้วยตนเอง ภายในระยะเวลา 1 ปี
ในกระทู้นี้จะกล่าวถึง 3 ประเด็น คือ.
1. สาเหตุของการเกิดสิวของผม
2. การรักษาของผมโดยบอกว่าช่วงนั้นใช้อะไรรักษาสิวบ้าง
3. บอกว่าอะไรควรใช้และไม่ควรใช้ ผลิตภัณฑ์อะไรดีไม่ดีจากการที่ได้ทดลองใช้รักษาสิวมาแล้ว
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเริ่มกันเลยดีกว่านะครับ
ประเด็นแรก สาเหตุของการเกิดสิวของผม คือขอเล่าความหลังก้อนนะครับ. ส่วนตัวเดิมเป็นคนผิวมันมาก ก่อนหน้าจะเป็นสิวช่วงหนักๆ นั้นช่วง ม ปลายก็เป็นสิวเล็กน้อย แทบไม่เป็นสิว แต่เป็นคนผิวคล้ำมาก ไม่ค่อยเป็นคนดูแลตัวเองครับ ใช้สบู่นกแก้วที่ถูตัว ล้างหน้าและอาบน้ำไปในขั้นตอนเดียว ครีมก็ไม่เคยทา / จนเข้ามหาวิทยาลัย ชีวิตก็เริ่มปรับเปลี่ยนใหม่ๆ ปี 1 แห่งชีวิตมหาลัยก็ยังไม่ได้ดูแลตัวเองจริงจัง
ตอนปี 1 ก็ยังดำๆ และไม่เป็นสิวๆๆ.
พอเริ่มขึ้นปี ที่ 2 แห่งชีวิตมหาลัย ป ตรี. ก็เริ่มทาครีม ครีมกันแดด. ใส่เสื้อคลุม กินอาหารเสริม ทำให้ขาวขึ้น มาบ้าง
เข้าเรื่องการเกิดสิวหนักๆนะครับ จนพอมาถึง ปี2 เทอม 2 จนถึงขึ้นปี 3 แห่งชีวิตมหาวิทยาลัย อะไรก็เปลี่ยนแปลงไป การเรียนที่หนักขึ้น กับการงดเว้นการดูแลตนเองไปชั่วขณะ ทำให้ผมไม่ได้สนใจตัวเอง เรียกได้ว่า เครื่องประทินผิวต่างๆ งดเว้นไปเลยครับ ทำให้สิวเริ่มมากเรื่อยๆในช่วงขึ้น ปี 3 แห่งชีวิตมหาวิทยาลัย
ตามที่ได้เขียนกระทู้ (สิว ตอน 1) [แชร์ประสบการณ์] พัฒนาการของการเกิดและการดับของ มรสุม"สิว" ในเวลา 1 ปี
http://ppantip.com/topic/32674856 ที่ได้เขียนไว้แล้ว
ซึ่งสาเหตุของการเกิดสิวหนักๆของผมพอจะสรุปได้ดังนี้
1 เกิดจากการปล่อยตัวเอง ไม่ดูแลตัวเองเลย (มันอาจจะดูเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ แต่ผมไม่ดูแลตัวเองไปจริงๆครับช่วงนั้น เรียกได้ว่าวางการใช้เครื่องประทินผิวบำรุงต่างๆทุกอย่าง) นั่นทำให้ผิวไม่ได้รับการดูแลบำรุง ทำให้เกิดเป็นสิว
2. ล้างหน้าไม่สะอาด เนื่องจากไม่อะไรยุ่งยาก ใช้แค่โฟมล้างขั้นตอนเดียวจบ
3 นอกจากจะล้างหน้าไม่สะอาดแล้ว บางครั้งก็ล้างหน้าแค่เฉพาะตอนอาบน้ำแปรงฟัน ซึ่งทำให้ยิ่งไม่ค่อยจะสะอาดเท่าที่ควร
4. ใช้ผ้าขนหนูซับหน้า ซึ่งผ้าขนหนูนานๆซักที ทำให้สกปรก
5 เมื่อเป็นสิว ก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ จนทำให้เชื้อสิวลุกลาม (สิวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ) พอสิวมาเป็นจำนวนมากๆ ประมาณ 2 เดือนที่ไม่ทำอะไรกับสิว จนทนกับตัวเองไม่ได้ ที่หน้านั้นต้องมามีสิวมากมาย จึงทำให้เริ่มหันกลับมาดูแลตัวเอง และเริ่มรักษาสิวอย่างจริงจัง
จากภาพ ช่วง 2 เดือนที่เป็นสิวที่มากมาย ทำให้เริ่มการรักษาสิวด้วยตนเองอย่างจริงจัง
การรักษาสิวด้วยตนเองก็เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมๆ คือการเปลี่ยนจากการใช้ผ้าขนหนูซับหน้า ก็หันมาใช้ทิชชู่ซับหน้าเช็ดหน้า
โดยใช้ทิชชู่สำหรับใบหน้า เช็ดหรือซับหลังล้างหน้าแทนการใช้ผ้าขนหนู.
-:เจลที่ใช้ล้างหน้าก็ใช้เจลล้างหน้าสำหรับรักษาสิว
โดยเจลล้างหน้า ทดลองใช้ถึง 3 แบรนด์ด้วยกัน คือ COS / Acne-Aid และ Physiogel ช่วงที่เป็นสิสนี่ใช้แต่เคลนเซอร์รักษาสิว. โดยระยะแรกลอง COS ก่อน แต่ยิ่งใช้แล้วสิวกลับยิ่งขึ้นมากกว่าเดิมมาก
จึงเปลี่ยนลองมาใช้ Acne-Aid. มาเรื่อยๆ ประมาณ 6-7 เดือน แรกๆก็ดี แต่พอใช้ไปเรื่อยๆ มันก็รู้สึกเฉยๆ จึงเปบี่ยนมาใช้ Physiogel และก็เป็นผลที่น่าประทับใจ สิวก็ไม่ค่อยมากวนใจ มีมาบ้างแต่ไม่บ่อยเหมือนใช้ 2 ตัวแรก และปัจจุบันก็ใช้ Physiogel อยู่ในตอนนี้
-: มาดูยาสิวแบบกินบ้างนะครับ. เนื่องจากเป็นสิวหนักมาก เป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะไม่รักษาด้วยการทานยาสิว
ผมตัดสินใจนำใบหน้าที่มีเต็มไปด้วยสิวอันแสนน่าอับอาย ไปพบเภสัชร้านขายยา ข้างๆ มหาวิทยาลัย บอกว่าพี่ครับครับผมต้องการยาทานรักษาสิว เภสัช(คนขาย)เค้าก็ถามว่าแพ้ยาอะไรไหม ผมบอกว่าไม่ เภสัชจึงให้ยานี้มา
มันคือยาทานรักษาสิว มีชื่อว่า acnotin ข้างกล่องเขียนว่ายาอันตราย ซึ่งตอนกินแรกๆ สิวมันก็ประทุขึ้นมาหนักมาก แต่ต่อมาก็ สิวแห้งยุบลงไป พร้อมกับทำให้หน้าผมแห้งลอกเป็นขุย (ปกติเป็นคนหน้ามันมากๆ) ผมจึงหยุดทานยา Acnotin ไปเพราะห้ามทานยานี้ติดต่อกัน และหันจึงหันไปทานพวกอาหารเสริม คือ zinc แทน
ซึ่ง zinc ที่ผมรับประทานในตอนนั้น มี อยู่ 3 ตัว แต่ที่ทานแล้วสิวยุบที่สุด คือ zinc ของวิสทร้า ครับ
-: กลุ่มยาทาสิวที่ใช้
ก็จะใช้ Benzac ac ผมใช้ 5% ทาก่อนล้างหน้าตอนกลางคืนครับ ใช้ทุกวัน. และอีก 2 ตัวอันนี้ ใช้เป็นบางครั้งนะครับ คือ Differin และ Retin-a ซึ่งใช้เป็นบางวัน ประมาณว่า ใน 1 สัปดาห์ วันจันทร์ ใช้ Differin วันพฤหัสบดี ใช้ Retin-a ส่วนในวันที่เหลือใน 1 สัปดาห์นอกจากนี้ ผมจะใช้ แป้งน้ำศิริราชครับ
ซึ่งผมใช้เป็นประจำ ช่วยเรื่องสิวเป็นอย่างมาก เนื่องจาก มี BHA และราคาไม่แพง
จากภาพนี่คือหลักฐานการใช้จริงๆตอนเป็นสิวในช่วงนี้น ครับ ขวดผมยังเก็บไว้อยู่เลย ซึ่งตอนนั้นผมทาทั้งหน้าเลยครับ สิวยุบแห้งและไม่เป็นสิวอุดตันด้วยครับ แต่ปัจจุบันใช้ทาเฉพาะแต้มหัวสิว ช่วยให้ยุบได้ครับ เพราะปัจจุบันทาทั้งหน้าแล้ว เกิดอาการหน้าแดง คัน ยิบๆ เลยครับ
จากการที่มาใช้ยาสิว และรักษาสิว เนื่องจากกลุ่มยาสิว นั้นต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดด ผมจึงหันกลับมาดูแลด้วยการเริ่มกลับมาทาครีมกันแดด ซึ่งในช่วงเป็นสิว ผมก็แสวงหากันแดดสำหรับคนเป็นสิว ครับ คือ
ครีมกันแดดที่ใช้คือแบรนด์ Papulex ซึ่งไปเดินหาครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิวในวัตสัน เห็นสรรพคุณข้างกล่องจึงหยิบมา เรื่องราคาก็เห็นนะครับ ราคาเต็ม หลอด 50 ml หลอดละ 1200 บาท แต่ในช่วงนั้นลดเหลือ 990 บาท/หลอด จึงหยิบมาโดยไม่เสียดายเงิน เพราะเคลมที่ว่าสำหรับคนเป็นสิว ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย จึงซื้อมาใช้ปรากฎว่า มัน เลิศมาก ไม่เป็นสิวเพิ่มขึ้นและไม่ทำให้แสบคันจากการใช้ยาสิวด้วย แต่ข้อเสียคือ ราคาแพงและเนื้อข้นมาก หน้ามันแผลบเลย แต่ก็ยอมเพื่อที่จะได้ใช้ครีมกันแดดโดยไม่ต้องเป็นสิวอีก ในช่วงนี้น
ซึ่งเมื่อมาใช้ครีมกันแดดทำให้ต้องล้างหน้า เป็นพิเศษจึงมาใช้ Bifesta Cleansing Lotion Sebum สำหรับผิวมันเป็นสิว หวังว่าหลายๆคนคงรู้จัก และหันมาสครับหน้าเพิ่มด้วย เพราะตอนนี้สิวยุบแล้วๆ สครับหน้าที่ใช้ คือ
Clearasil ultra Acne Clearing Scrub เป็นโฟมสครับ เนื้อละเอียดมากๆ มีส่วนผสมของ BHA ด้วย ซึ่งเป็นสครับเหมาะสำหรับคนเป็นสิวมากๆ
หลังจากสครับและล้างหน้าเสร็จซับหน้าแห้งแล้วบางวันที่มีสิวมา ก็จะใช้ มาร์คมิ้น คือ
ของ Queen Helene พอกไปที่หัวสิวทำให้สิวแห้งและยุบลงไปครับ
อ้อ ลืมวิธีกำจัดสิวขั้นตอนสำคัญไปเลยครับ เขียนมาจนจะจบแล้ว. คือ การกดสิวเจาะสิวอักเสบ
โอยการใช้ วัสดุอุปกรณ์สำคัญดังภาพ คือ หัวเข็มฉัดยาและแอลกอฮอล์ ซึ่งเข็มใช้ อยู่ 2 เบอร์ ครับ คือ เข็มเบอร์ 27 G x 1/2 และเบอร์ 18G x 1_ 1/2 ดังภาพ คือ ถ้าสิวหัวใหญ่ก็จะใช้เข็มใหญ่หน่อย ถ้าสิวหัวเล็กๆออกง่ายเป็นหนอง ก็จะใช้เข็มเล็กครับ. วิธีการคือ นำสำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดที่ปลายเข็มแล้ว ก็นำเข็มไปเจาะหัวสิวแล้วบีบสิวออกมาครับ โดยวิธีการคือ ห้ามเค้นหรือบีบจนช้ำ ถ้าบีบแล้วหัวออกก็หยุดแต้มด้วยคลินดาเอ็มครับ. แต่ถ้าเจาะแล้วนำสิวออกมาไม่หมดสิวไม้แห้ง ก็จะแปะแผ่นซับสิว ครับ
เพื่อที่จะได้ดูดหนองสิวที่อยู่ข้างในออก แทนการเค้นสิวจนเป็นแผลนะครับ หากไม่ออกก็จะรอให้สิวเกิดหัวใหม่แล้วเจาะกดอีกครั้ง แทนการเค้นจนให้สิวออก แทนนะครับ
สำหรับตัวเด็ดที่ทุกคนต้องถามแน่ว่า ช่วงนั้นใช้ครีม เจล แต้มสิวอะไรบ้าง สำหรับแต้มสิวที่ใช้ คือ
นี่คือ แต้มสิวที่ใช้ในช่วงรักษาสิวตอนนั้นครับ เริ่มแรกเลยใช้ ลูกกลิ้งแต้มสิว ของกานิเย่ เพราะตอนปี 1 เคยเป็นสิวมากพอควรใช้ตัวนี้แล้วหาย จึงลองกลับมาใช้อีก ปรากฏว่าไม่เวิร์ค ต่อมาจึงมาลองแต้มสิวสมุนไพรของ ปัทวี ซึ่งแรกๆก็ใช้ดีครับสิวยุบ มันจะเย็นๆ เมนทอลครับ แต่หลังๆก็เอาสิวไม่อยู่ครับ และข้อเสียคือ น้ำมันย้อยไม่เหมาะกับการทาออกนอกห้อง อีกอย่างเลอะเทอะเสื้อผ้าด้วยครับ จึงเปลี่ยนไป. / เดิมทีเคยใช้มาดามเฮงออซซี่อยู่แล้วครับ จึงนำมากลับมาใช้อีกครั้ง แต้มสิวดีมากๆ แห้งยุบเลยครับ แต่ใช้ไปใช้มามันแรงผิวหนังไหม้ลอกแห้งเป็นขุยบ้างครับ จึงมาลองแต้มสิว อีกตัว คือ Merveile หลอดสีส้ม ใช้ดีมากๆ เนื้อเป็นเจล แต่มันจะค่อยๆยุบนะครับ แต้ไม่ทิ้งรอยสิว แต่สิวอักเสบที่เป็นกัวแล้วไม่ช่วยนะครับ ต้องใช้เข็มเจาะหัวสิวและ ใช้ คลินดาเอ็มที่เป็นน้ำๆแอลกอฮอล์ผสมกับผงพิเศษพอกไปที่หัวสิวที่กดแล้ว ไม่นานยุบแห้งไปครับ
สำหรับ ครีมลดรอยสิวใช้เยอะแยะมากครับ ลองมาทุกแบบ ใช้หมดก็ทิ้งไปไม้ได้ถ่ายรูปไว้ช่วงนั้น มีที่ใช้ประจำและยังเหลืออยู่ ก็คือ
เจ้าตัวนี้ครั ดังภาพเป็นเนื้อเจลใสๆสีชมพู ทาแล้วชุ่มชื่นดีครับหน้าไม่มัน ไม่เป็นสิวเพิ่ม ส่วนรอยก็ค่อยๆหายไปครับ แต่บอกเลยเรื่องรักษารอยสิวนี่ใช้เยอะมากๆ ครับ เรียกได้ว่า ไม่สามารถบอกได้ครับ ยังไงก็เลือกให้เหมาะกับสภาพผิวนะครับ จะได้ไม่เกิดสิวอีกนะครับ
สรุปภาพจากการเริ่มรักษาสิวด้วยตนเอง
ระยะเวลานับจากเริ่มเป็นสิว 2-3 เดือน เริ่มกลับมาดูแลตัวเอง เริ่มรักษาสิวอย่างจริงจัง เริ่มรับประทานยารักษาสิว และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการล้างหน้าและเช็ดหน้า
จาก 3 เดือนเป็นต้นมาหยุดรับประทานยาสิว เรตินเอ มาทาน zinc แทน และเริ่มใช้ กลุ่มยาสิว คือ Benzac , Differin, Retin-a และแป้งน้ำศิริราช ทำให้ได้เริ่มใช้ครีมกันแดดควบคู่กับการรักษาด้วย
ช่วง 4 -7 เดือน อาการดีขึ้น ร่วมกับการเริ่มใช้ ครีมลดรอยสิวไปด้วย แล้วก็ลองเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม เช่น เจลล้างหน้า ครีมแต้มสิว เป็นต้น จนชนะสิวในที่สุด