หากนึกถึงรายชื่อผู้ชนะรางวัลออสการ์สาขาการแสดงแต่ละคนล้วนเป็นสุดยอดบทบาทการแสดงที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาทั้งนั้น อย่างไรก็ตามยังมีนักแสดงคุณภาพฝีมือดีอีกหลายคนที่ยังไม่เคยสัมผัสรางวัลออสการ์ แม้ว่าเขาจะมีความสามารถในระดับที่เคยเข้าชิงแล้วก็เถอะ มาดูกันดีกว่าว่ามีใครกันบ้าง
•
Leonardo DiCarprio
เขาเคยเข้าชิงออสการ์ถึง 4 ครั้งแต่ก็ยังไม่ได้เป็นผู้ชนะสักที โดยการเข้าชิงครั้งแรกเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนเขาอายุ 19 ปี จากบทเด็กพิการทางสมองในหนังเรื่อง
What's Eating Gilbert Grape หลังจากนั้นเขาก็ได้เข้าชิงอีก 3 ครั้งจาก
The Aviator, Blood Diamond และโอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดจากการทุ่มสุดตัวใน
The Wolf of Wall Street อย่างไรก็ตามการแสดงของเขาแต่ละเรื่องล้วนอยู่ในระดับที่เราต้องยกนิ้วให้แม้ไม่ได้เข้าชิงออสการ์ก็ตาม เช่นการแสดงใน
The Departed, Catch Me If You Can, Revolutionary Road, J. Edgar, Django Unchained หรือแม้กระทั่งใน
Shutter Island
เมื่อเราวิเคราะห์สถานการณ์ว่าทำไม ‘ลีโอนาร์โด ดิคาร์ปริโอ’ ถึงไม่เคยได้ออสการ์ เราอาจจะบอกสาเหตุแรกว่ามาจากบทบาทการแสดงของเขานั้นยังไม่มีบทที่เรียกว่า ‘พีค’ จริง ๆ สักครั้ง นักแสดงหลายคนที่ได้รางวัลออสการ์เมื่อวัดปริมาณด้วยจำนวนการแสดงคุณภาพอาจจะมีจำนวนเรื่องน้อยกว่าลีโอนาร์โด้ด้วยซ้ำ แต่เขาเหล่านั้นมีบทพีค ๆ โดน ๆ เพียง 1 ครั้งก็สามารถพุ่งขึ้นไปคว้ารางวัลชนะเลิศปีนั้นได้เลย เช่น ‘แมทธิว แมคคอนนาเฮย์’ ที่เข้าชิงออสการ์ครั้งแรกและครั้งเดียวก็สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศได้เลยจากบทผู้ป่วยเป็นโรคเอดส์และต้องพยายามมีอยู่ชีวิตด้วยการหายาที่ไม่ผ่านการรับรอง
อีกประการเราอาจจะโทษ ‘ดวง’ ก็ได้ เคยมีนักวิจารณ์วิเคราะห์ความผิดพลาดในปี 2006 ของลีโอนาร์โดว่าสตูดิโอพลาดที่เลือกบทของลีโอนาร์โดจาก
Blood Diamond เข้าชิงออสการ์ ทั้งที่เขามีโอกาสจาก
The Departed มากกว่า หรือในปี 2011 ที่นักแสดงนำชายไม่แข็งเท่าปีอื่น ๆ ก็ไม่ใช่ปีที่เขามีผลงานโดดเด่น และสุดท้ายอาจบอกได้ว่าเขาได้แต่บทที่คล้ายกับงานเดิม ๆ มาโดยตลอด
ก็ขอเอาใจช่วยให้ลีโอนาร์โดมีผลงานพีค ๆ โดน ๆ กับเขาสักทีนะ
•
Edward Norton
เข้าชิงออสการ์ตั้งแต่เล่นหนังเรื่องแรกในชีวิตจากบทเด็กหนุ่มสองบุคลิกใน Primal Fear และเคยได้เข้าชิงอีกครั้งจากหนังเรื่อง
American History X อย่างไรก็ตามผลงานของเขาหลายต่อหลายบทบาทต่างได้รับเสียงยกย่องในความสามารถเช่นการแกล้งปลอมตัวเป็นภารโรงเอ๋อในหนังเรื่อง
The Score, หรือโผล่มาแค่ดวงตาใน
Kingdom of Heaven ก็ยังเห็นถึงความน่าเกรงขามในน้ำเสียงและท่าทาง
เราสามารถพูดได้อย่างหนึ่งว่าผ่านไปเกือบ 20 ปี ผู้คนยังจดจำการแสดงสองบุคลิกอันยอดเยี่ยมของ ‘เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน’ ใน
Primal Fear แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจำไม่ได้ว่า ‘คิวบา กู๊ดดิ้ง จูเนียร์’ ใน
Jerry Maguire แสดงเป็นอย่างไร รวมถึงการแสดงยอดเยี่ยมของเขาอีกหลายครั้งก็ไม่ได้อยู่ในหนังโปรโมทล่ารางวัลออสการ์
อย่างไรก็ตามเขาคือนักแสดงฝีมือเยี่ยมที่เราเชื่อว่าจะต้องได้ออสการ์สักวันหนึ่งแน่นอน
•
Robert Downey Jr.
เห็นอย่างนี้คุณรู้หรือไม่ว่า RDJ เคยเข้าชิงออสการ์มาแล้ว 2 หน จาก
Chaplin และ
Tropic Thunder โดยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาบำบัดอาการติดยา ก่อนจะกลับมารับบทแนวกวน ๆ อย่างต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่
Kiss Kiss Bang Bang, Iron Man จนถึง
Sherlock Holmes
ออสการ์อาจจะโปรดปรานนักแสดงสายคอเมดี้ที่ผันตัวมาเล่นบทดราม่าจริงจัง เช่น ‘ทอม แฮงค์’ หรือรายล่าสุดอย่าง ‘แมทธิว แมคคอนนาเฮย์’ แต่ออสการ์ไม่ได้โปรดปรานการแสดงยียวนกวนโอ๊ยหรือนักแสดงสายคอเมดี้สักเท่าไร การแสดงแนวคอเมดี้คนล่าสุดที่ได้ออสการ์ต้องย้อนไปถึง 17 ปี คือ ‘โรแบร์โต้ เบนิญี่’ จาก
Life Is Beautiful
อย่างไรก็ตาม แม้ RDJ จะแสดงมาดยียวนจนกลายเป็นคาแรคเตอร์ที่คนติดภาพเขาไปแล้ว ก็อาจจะเป็นผลดีต่อเขาในอนาคตก็เป็นได้ ถ้าหากวันหนึ่งเขาได้บทบาทการแสดงที่สลัดภาพเชอร์ล็อก โฮล์มหรือไอร่อนแมนออกไปได้ เมื่อถึงวันนั้นกรรมการออสการ์อาจจะเหลียวมองการแสดงของเขาก็เป็นได้
•
Tom Cruise
สมัยก่อนทอม ครูซเขาเคยเป็นนักแสดงสายดราม่าล่ารางวัลเหมือนกันนะ เคยเข้าชิงออสการ์ถึง 3 หน จากผลงานการแสดงในหนังเรื่อง
Born on the Fourth of July ที่เขารับบทเป็นทหารผ่านศึกอัมพาตครึ่งตัว,
Jerry Maguire และ
Magnolia ก่อนจะผันตัวมาเล่นหนังแอ็คชั่นมากมายเช่น
Mission: Impossible, Minority Report, The Last Samurai, War of the Worlds แล้วสมัยก่อนยังมีหนังดัง ๆ อย่างเช่น
Top Gun อีกด้วย
โอกาสใกล้เคียงรางวัลออสการ์มากที่สุดของทอม ครูซคงต้องย้อนไปถึง 24 ปีจากบททหารผ่านศึกที่กลายเป็นผู้ป่วยอัมพาตครึ่งตัวในหนังเรื่อง
Born on the Fourth of July เมื่อมองไปยังคู่แข่งปีนั้น เราคงต้องบอกว่าเขาดวงไม่ดีที่ต้องเจอของแข็งอย่าง ‘แดเนียล เดย์ ลูอิส’ นักแสดงชายเจ้าของสถิติคว้ารางวัลชนะเลิศการแสดงนำชายยอดเยี่ยมมากที่สุดถึง 3 ครั้ง
ยิ่งเมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ทอม ครูซเริ่มผันตัวจากการแสดงสายดราม่ามาเป็นหนังแสดงสายแอ็คชั่นยิ่งลดโอกาสของตัวเขาเองที่จะเข้าชิงรางวัลออสการ์ โดยเขาก็ห่างเหินจากเวทีออสการ์มาแล้ว 15 ปีและเมื่อเรามองไปยังผลงานในอนาคตของเขาทั้ง
Mission Impossible, Top Gun 2 และ
Jack Reacher เราก็เชื่อได้เลยว่าคงหมดโอกาสเห็นชื่อทอม ครูซบนเวทีออสการ์อีกนานเลยล่ะ แต่อะไรก็ไม่แน่นอนเพราะนักแสดงบางคนก็กลับมาล่ารางวัลออสการ์ตอนแก่เหมือนกัน ต้องรอดูกันต่อไปครับ
•
Johnny Depp
อีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถ เล่นบทหลากหลาย เคยเข้าชิงออสการ์ 3 ครั้งจากบท ‘แจ็ค สแปโรว์’ ใน
Pirates of the Caribbean, Sweeney Todd และ
Finding Neverland แต่ถ้าพูดถึงผลงานดราม่าสมัยก่อนของเขา เราอยากแนะนำ
Donnie Brasco และ
Ed Wood ไหนจะ
Edward Scissorhands อีก
แม้ว่าเขาจะเป็นนักแสดงความสามารถสูงที่ได้รับการยกย่องในวงกว้าง และเราก็เห็นเขาผ่านการแสดงทั้งดราม่าจริงจังหรือคอเมดี้บ้า ๆ บอ ๆ แม้กระทั่งหนังแอ็คชั่นก็เล่นมาแล้ว แต่เราก็ยังรู้สึกว่าถึงเขาจะหลากหลายด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเองบ่อย แต่ก็ยังไม่มีบทพีค ๆ หรือการแสดงดราม่าเข้าถึงตัวละครลึก ๆ แบบถูกใจกรรมการออสการ์สักที
•
Ralph Fiennes
แจ้งเกิดบนเวทีออสการ์ครั้งแรกจาก
Schindler's List และได้เข้าชิงอีกครั้งจากหนังเรื่อง
The English Patient ส่วนในปัจจุบันเขาก็ยังเล่นหนังบทดี ๆ หลายต่อหลายเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรับบทที่หลากหลาย เช่นมาดผู้ดีใน
The Constant Gardener, ฆาตกรโรคจิตใน
Red Dragon, ผู้ดีใน
Quiz Show, นายทหารบ้าดีเดือดใน
Coriolanus บทบาทเหล่านี้ต่างช่วยยืนยันว่าเขาเป็นนักแสดงมากฝีมือที่ถูกมองข้าม
ปี 1994 คงเป็นโอกาสใกล้เคียงที่สุดของเขาที่จะคว้ารางวัลออสการ์จากบทนายทหารนาซีใน
Schindler's List ซึ่งในปีนั้นเขาพ่ายทอมมี่ ลี โจนส์ไปอย่างน่าเสียดาย เราอาจวิเคราะห์ได้ว่าราล์ฟ ไฟนส์เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่สามารถเปลี่ยนโฉมตัวเองไปรับบทบาทแปลกใหม่ที่สลัดภาพเดิม ๆ ออกได้ เราเห็นเขารับบทดราม่าหลายแอ็คติ้งแต่ก็ต้องยอมรับว่ายังไม่มีบทไหนแรงพอจะถึงขั้นชนะบนเวทีออสการ์ แต่เราเชื่อว่าด้วยความสามารถของเขา สักวันหนึ่งจะต้องได้ออสการ์มาประดับบารมีแน่นอน
•
Brad Pitt
แม้จะได้ออสการ์จากการเป็นโปรดิวเซอร์ แต่ในฐานะนักแสดงแล้วเขายังไม่เคยได้ออสการ์เลย แม้จะเคยเข้าชิงออสการ์สาขาการแสดงถึง 3 ครั้ง โดยเขาแจ้งเกิดบนเวทีออสการ์จากบทผู้ป่วยจิตเวชใน
Twelve Monkeys และเคยได้เข้าชิงจาก
The Curious Case of Benjamin Button กับ
Moneyball อย่างไรก็ตามหากพูดถึงบทบาทที่ช่วยยืนยันความสามารถของเขา เราคงต้องพูดถึง
Fight Club, Se7en เพิ่มเติมด้วย หรือคุณจะนึกถึงผลงานสมัยยังเอ๊าะของเขาใน
Thelma & Louise, Meet Joe Black ก็ยังได้
น่าเสียดายว่าเขาพลาดโอกาสคว้ารางวัลออสการ์ตอนแสดงบทผู้ป่วยจิตเวชใน
Twelve Monkeys เพราะน่าจะเป็นบทที่เรียกได้ว่าโดดเด่นที่สุดในชีวิตการแสดงของเขาแล้ว เราอาจวิเคราะห์ได้ว่าเขาเป็นเหมือนลีโอนาร์โดที่มีผลงานแสดงดี ๆ รักษามาตรฐานมาตลอด แต่ยังไม่เจอบทพีค ๆ สักที แถมเมื่อไปอยู่ในปีที่คู่แข่งไม่แข็งมากอย่างปี 2012 การแสดงใน
Moneyball ของเขาก็ยังไม่โดดเด่นพอที่จะบดบังรัศมีของคู่แข่ง อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าฝีมือการแสดงระดับแบรด พิตต์ สักวันต้องมีออสการ์ติดไม้ติดมือแน่นอน
นอกเหนือจากนักแสดงฝีมือดี 7 คนนี้ เพื่อน ๆ ยังมีนักแสดงมากฝีมือคนไหนที่ยังไม่เคยได้รางวัลออสการ์อยากจะแนะนำเข้ามาอีกบ้างครับ
ที่มา Hollywood HDTV fanpage:
https://www.facebook.com/HollywoodMovieHD
7 นักแสดงชายฝีมือดีที่ไม่เคยได้รางวัลออสการ์
• Leonardo DiCarprio
เขาเคยเข้าชิงออสการ์ถึง 4 ครั้งแต่ก็ยังไม่ได้เป็นผู้ชนะสักที โดยการเข้าชิงครั้งแรกเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนเขาอายุ 19 ปี จากบทเด็กพิการทางสมองในหนังเรื่อง What's Eating Gilbert Grape หลังจากนั้นเขาก็ได้เข้าชิงอีก 3 ครั้งจาก The Aviator, Blood Diamond และโอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดจากการทุ่มสุดตัวใน The Wolf of Wall Street อย่างไรก็ตามการแสดงของเขาแต่ละเรื่องล้วนอยู่ในระดับที่เราต้องยกนิ้วให้แม้ไม่ได้เข้าชิงออสการ์ก็ตาม เช่นการแสดงใน The Departed, Catch Me If You Can, Revolutionary Road, J. Edgar, Django Unchained หรือแม้กระทั่งใน Shutter Island
เมื่อเราวิเคราะห์สถานการณ์ว่าทำไม ‘ลีโอนาร์โด ดิคาร์ปริโอ’ ถึงไม่เคยได้ออสการ์ เราอาจจะบอกสาเหตุแรกว่ามาจากบทบาทการแสดงของเขานั้นยังไม่มีบทที่เรียกว่า ‘พีค’ จริง ๆ สักครั้ง นักแสดงหลายคนที่ได้รางวัลออสการ์เมื่อวัดปริมาณด้วยจำนวนการแสดงคุณภาพอาจจะมีจำนวนเรื่องน้อยกว่าลีโอนาร์โด้ด้วยซ้ำ แต่เขาเหล่านั้นมีบทพีค ๆ โดน ๆ เพียง 1 ครั้งก็สามารถพุ่งขึ้นไปคว้ารางวัลชนะเลิศปีนั้นได้เลย เช่น ‘แมทธิว แมคคอนนาเฮย์’ ที่เข้าชิงออสการ์ครั้งแรกและครั้งเดียวก็สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศได้เลยจากบทผู้ป่วยเป็นโรคเอดส์และต้องพยายามมีอยู่ชีวิตด้วยการหายาที่ไม่ผ่านการรับรอง
อีกประการเราอาจจะโทษ ‘ดวง’ ก็ได้ เคยมีนักวิจารณ์วิเคราะห์ความผิดพลาดในปี 2006 ของลีโอนาร์โดว่าสตูดิโอพลาดที่เลือกบทของลีโอนาร์โดจาก Blood Diamond เข้าชิงออสการ์ ทั้งที่เขามีโอกาสจาก The Departed มากกว่า หรือในปี 2011 ที่นักแสดงนำชายไม่แข็งเท่าปีอื่น ๆ ก็ไม่ใช่ปีที่เขามีผลงานโดดเด่น และสุดท้ายอาจบอกได้ว่าเขาได้แต่บทที่คล้ายกับงานเดิม ๆ มาโดยตลอด
ก็ขอเอาใจช่วยให้ลีโอนาร์โดมีผลงานพีค ๆ โดน ๆ กับเขาสักทีนะ
• Edward Norton
เข้าชิงออสการ์ตั้งแต่เล่นหนังเรื่องแรกในชีวิตจากบทเด็กหนุ่มสองบุคลิกใน Primal Fear และเคยได้เข้าชิงอีกครั้งจากหนังเรื่อง American History X อย่างไรก็ตามผลงานของเขาหลายต่อหลายบทบาทต่างได้รับเสียงยกย่องในความสามารถเช่นการแกล้งปลอมตัวเป็นภารโรงเอ๋อในหนังเรื่อง The Score, หรือโผล่มาแค่ดวงตาใน Kingdom of Heaven ก็ยังเห็นถึงความน่าเกรงขามในน้ำเสียงและท่าทาง
เราสามารถพูดได้อย่างหนึ่งว่าผ่านไปเกือบ 20 ปี ผู้คนยังจดจำการแสดงสองบุคลิกอันยอดเยี่ยมของ ‘เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน’ ใน Primal Fear แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจำไม่ได้ว่า ‘คิวบา กู๊ดดิ้ง จูเนียร์’ ใน Jerry Maguire แสดงเป็นอย่างไร รวมถึงการแสดงยอดเยี่ยมของเขาอีกหลายครั้งก็ไม่ได้อยู่ในหนังโปรโมทล่ารางวัลออสการ์
อย่างไรก็ตามเขาคือนักแสดงฝีมือเยี่ยมที่เราเชื่อว่าจะต้องได้ออสการ์สักวันหนึ่งแน่นอน
• Robert Downey Jr.
เห็นอย่างนี้คุณรู้หรือไม่ว่า RDJ เคยเข้าชิงออสการ์มาแล้ว 2 หน จาก Chaplin และ Tropic Thunder โดยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาบำบัดอาการติดยา ก่อนจะกลับมารับบทแนวกวน ๆ อย่างต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่ Kiss Kiss Bang Bang, Iron Man จนถึง Sherlock Holmes
ออสการ์อาจจะโปรดปรานนักแสดงสายคอเมดี้ที่ผันตัวมาเล่นบทดราม่าจริงจัง เช่น ‘ทอม แฮงค์’ หรือรายล่าสุดอย่าง ‘แมทธิว แมคคอนนาเฮย์’ แต่ออสการ์ไม่ได้โปรดปรานการแสดงยียวนกวนโอ๊ยหรือนักแสดงสายคอเมดี้สักเท่าไร การแสดงแนวคอเมดี้คนล่าสุดที่ได้ออสการ์ต้องย้อนไปถึง 17 ปี คือ ‘โรแบร์โต้ เบนิญี่’ จาก Life Is Beautiful
อย่างไรก็ตาม แม้ RDJ จะแสดงมาดยียวนจนกลายเป็นคาแรคเตอร์ที่คนติดภาพเขาไปแล้ว ก็อาจจะเป็นผลดีต่อเขาในอนาคตก็เป็นได้ ถ้าหากวันหนึ่งเขาได้บทบาทการแสดงที่สลัดภาพเชอร์ล็อก โฮล์มหรือไอร่อนแมนออกไปได้ เมื่อถึงวันนั้นกรรมการออสการ์อาจจะเหลียวมองการแสดงของเขาก็เป็นได้
• Tom Cruise
สมัยก่อนทอม ครูซเขาเคยเป็นนักแสดงสายดราม่าล่ารางวัลเหมือนกันนะ เคยเข้าชิงออสการ์ถึง 3 หน จากผลงานการแสดงในหนังเรื่อง Born on the Fourth of July ที่เขารับบทเป็นทหารผ่านศึกอัมพาตครึ่งตัว, Jerry Maguire และ Magnolia ก่อนจะผันตัวมาเล่นหนังแอ็คชั่นมากมายเช่น Mission: Impossible, Minority Report, The Last Samurai, War of the Worlds แล้วสมัยก่อนยังมีหนังดัง ๆ อย่างเช่น Top Gun อีกด้วย
โอกาสใกล้เคียงรางวัลออสการ์มากที่สุดของทอม ครูซคงต้องย้อนไปถึง 24 ปีจากบททหารผ่านศึกที่กลายเป็นผู้ป่วยอัมพาตครึ่งตัวในหนังเรื่อง Born on the Fourth of July เมื่อมองไปยังคู่แข่งปีนั้น เราคงต้องบอกว่าเขาดวงไม่ดีที่ต้องเจอของแข็งอย่าง ‘แดเนียล เดย์ ลูอิส’ นักแสดงชายเจ้าของสถิติคว้ารางวัลชนะเลิศการแสดงนำชายยอดเยี่ยมมากที่สุดถึง 3 ครั้ง
ยิ่งเมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ทอม ครูซเริ่มผันตัวจากการแสดงสายดราม่ามาเป็นหนังแสดงสายแอ็คชั่นยิ่งลดโอกาสของตัวเขาเองที่จะเข้าชิงรางวัลออสการ์ โดยเขาก็ห่างเหินจากเวทีออสการ์มาแล้ว 15 ปีและเมื่อเรามองไปยังผลงานในอนาคตของเขาทั้ง Mission Impossible, Top Gun 2 และ Jack Reacher เราก็เชื่อได้เลยว่าคงหมดโอกาสเห็นชื่อทอม ครูซบนเวทีออสการ์อีกนานเลยล่ะ แต่อะไรก็ไม่แน่นอนเพราะนักแสดงบางคนก็กลับมาล่ารางวัลออสการ์ตอนแก่เหมือนกัน ต้องรอดูกันต่อไปครับ
• Johnny Depp
อีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถ เล่นบทหลากหลาย เคยเข้าชิงออสการ์ 3 ครั้งจากบท ‘แจ็ค สแปโรว์’ ใน Pirates of the Caribbean, Sweeney Todd และ Finding Neverland แต่ถ้าพูดถึงผลงานดราม่าสมัยก่อนของเขา เราอยากแนะนำ Donnie Brasco และ Ed Wood ไหนจะ Edward Scissorhands อีก
แม้ว่าเขาจะเป็นนักแสดงความสามารถสูงที่ได้รับการยกย่องในวงกว้าง และเราก็เห็นเขาผ่านการแสดงทั้งดราม่าจริงจังหรือคอเมดี้บ้า ๆ บอ ๆ แม้กระทั่งหนังแอ็คชั่นก็เล่นมาแล้ว แต่เราก็ยังรู้สึกว่าถึงเขาจะหลากหลายด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเองบ่อย แต่ก็ยังไม่มีบทพีค ๆ หรือการแสดงดราม่าเข้าถึงตัวละครลึก ๆ แบบถูกใจกรรมการออสการ์สักที
• Ralph Fiennes
แจ้งเกิดบนเวทีออสการ์ครั้งแรกจาก Schindler's List และได้เข้าชิงอีกครั้งจากหนังเรื่อง The English Patient ส่วนในปัจจุบันเขาก็ยังเล่นหนังบทดี ๆ หลายต่อหลายเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรับบทที่หลากหลาย เช่นมาดผู้ดีใน The Constant Gardener, ฆาตกรโรคจิตใน Red Dragon, ผู้ดีใน Quiz Show, นายทหารบ้าดีเดือดใน Coriolanus บทบาทเหล่านี้ต่างช่วยยืนยันว่าเขาเป็นนักแสดงมากฝีมือที่ถูกมองข้าม
ปี 1994 คงเป็นโอกาสใกล้เคียงที่สุดของเขาที่จะคว้ารางวัลออสการ์จากบทนายทหารนาซีใน Schindler's List ซึ่งในปีนั้นเขาพ่ายทอมมี่ ลี โจนส์ไปอย่างน่าเสียดาย เราอาจวิเคราะห์ได้ว่าราล์ฟ ไฟนส์เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่สามารถเปลี่ยนโฉมตัวเองไปรับบทบาทแปลกใหม่ที่สลัดภาพเดิม ๆ ออกได้ เราเห็นเขารับบทดราม่าหลายแอ็คติ้งแต่ก็ต้องยอมรับว่ายังไม่มีบทไหนแรงพอจะถึงขั้นชนะบนเวทีออสการ์ แต่เราเชื่อว่าด้วยความสามารถของเขา สักวันหนึ่งจะต้องได้ออสการ์มาประดับบารมีแน่นอน
• Brad Pitt
แม้จะได้ออสการ์จากการเป็นโปรดิวเซอร์ แต่ในฐานะนักแสดงแล้วเขายังไม่เคยได้ออสการ์เลย แม้จะเคยเข้าชิงออสการ์สาขาการแสดงถึง 3 ครั้ง โดยเขาแจ้งเกิดบนเวทีออสการ์จากบทผู้ป่วยจิตเวชใน Twelve Monkeys และเคยได้เข้าชิงจาก The Curious Case of Benjamin Button กับ Moneyball อย่างไรก็ตามหากพูดถึงบทบาทที่ช่วยยืนยันความสามารถของเขา เราคงต้องพูดถึง Fight Club, Se7en เพิ่มเติมด้วย หรือคุณจะนึกถึงผลงานสมัยยังเอ๊าะของเขาใน Thelma & Louise, Meet Joe Black ก็ยังได้
น่าเสียดายว่าเขาพลาดโอกาสคว้ารางวัลออสการ์ตอนแสดงบทผู้ป่วยจิตเวชใน Twelve Monkeys เพราะน่าจะเป็นบทที่เรียกได้ว่าโดดเด่นที่สุดในชีวิตการแสดงของเขาแล้ว เราอาจวิเคราะห์ได้ว่าเขาเป็นเหมือนลีโอนาร์โดที่มีผลงานแสดงดี ๆ รักษามาตรฐานมาตลอด แต่ยังไม่เจอบทพีค ๆ สักที แถมเมื่อไปอยู่ในปีที่คู่แข่งไม่แข็งมากอย่างปี 2012 การแสดงใน Moneyball ของเขาก็ยังไม่โดดเด่นพอที่จะบดบังรัศมีของคู่แข่ง อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าฝีมือการแสดงระดับแบรด พิตต์ สักวันต้องมีออสการ์ติดไม้ติดมือแน่นอน
นอกเหนือจากนักแสดงฝีมือดี 7 คนนี้ เพื่อน ๆ ยังมีนักแสดงมากฝีมือคนไหนที่ยังไม่เคยได้รางวัลออสการ์อยากจะแนะนำเข้ามาอีกบ้างครับ
ที่มา Hollywood HDTV fanpage: https://www.facebook.com/HollywoodMovieHD