@@@@@-------- เรื่องเล่าสบายๆ.....สไตล์ช้อยชบา ----------@@@@@ ( ตอนที่ 1 สาวโรงงาน)
http://ppantip.com/topic/32676598/comment17
@@@@@-------- เรื่องเล่าสบายๆ.....สไตล์ช้อยชบา ----------@@@@@ ( ตอนที่ 2 สาวโรงงาน)
http://ppantip.com/topic/32706755/comment43-3
@@@@@-------- เรื่องเล่าสบายๆ.....สไตล์ช้อยชบา ----------@@@@@ ( ตอนที่ 3 สาวโรงงาน)
http://ppantip.com/topic/32740812/desktop
@@@@@-------- เรื่องเล่าสบายๆ.....สไตล์ช้อยชบา ---------@@@@@ (ตอนที่ 4 สาวโรงงาน)
http://ppantip.com/topic/32775496/desktop
........................................................
ถ้ารักการอ่าน... ขอให้ท่านไปเริ่มตั้งแต่แรก.....เลาจะลอ....
ความเดิมจากย่อหน้าที่แล้ว.......( ใครที่รอให้เล่าเรื่องความรักโปรดรอก่อนนะแจ๊ะ )
ท้าวความก่อน.....ช่วงที่ออกจากโรงงานจขกท.ไปลงเรียนภาษษอังกฤษเพิ่มเติมความรู้ ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ วันไหนเบื่อๆก็ไปช่วยเพื่อนขายของหลังการบินไทย ตลาดลุงเพิ่ม
( เดี๋ยวนี้คงเป็นลุงเพิ่มทรัพย์เพราะค่าเช่าเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก็เหยียบหมื่น ตอนนี้ไม่รู้เท่าไร )
ไปบางวันเพื่อนบ่นบอกขายไม่ดีเลยหว่ะช้อย นั่งหน้าแห้งมาแต่เช้าขายไม่ได้สักตัว จขกท.ก็คุยกับเพื่อนว่ามันต้องใส่โชว์แบบเสื้อทีมไงหล่ะแก๊!!!! เพื่อนบอกมันเซ็กซี่เกินบางตัวชั้นไม่กล้า
ไม่ใช่เเนวชั้น.....เชรี๊ยะแล้วแกเอามาขายทำไมวะ???
เพื่อนบอกช่วยใส่หน่อยนะช้อย จขกท.ก็อืมๆได้ๆ พอนั่งไปสักพักคนเริ่มมาถามชุดที่นังช้อยมันใส่นี้มีขายอีกมั้ยคะ??
อ๊ะ!!!!เสร็จโจร!!!!!มี๊ค่า!!!!!
รีบกุลีกุจอหัวแทบจะโขกกัน สรุปว่าวันนั้นจขกท.ไปนั่งไม่ถึงชม.เพื่อนขายได้8,000กว่าบาท เพื่อนดีใจมากบอกแก๊!!!!ชั้นนั่งหน้าเหี่ยวมาตั้งแต่เช้าขายไม่ได้สักตัว แกมาที่ไรขายได้ทุกที
แกมีณ.ดี มาช่วยชั้นขายบ่อยๆนะ
หลังจากนั้นจขกท.ก็ไปสิงสถิตย์อยู่หลังการบินไทยอยู่นาน ไปที่ไรเพื่อนขายดี ช่วยกันสองคน จนเพื่อนบอกว่าแก...ชั้นว่าจะไปเปิดท้ายขายของที่เมเจอร์รัชโยธินแกสนใจเปล่า ตอนนนั้นจขกท.
รอฟังผลที่สมัครงานไปสองสามที่ บอกรอๆก่อนละกันไม่แน่ใจ เผื่อที่หนึ่งที่ใดเรียกงานก่อน
มีบริษัทหนึ่งที่จขกท.ไปสมัครเอาไว้กันหนียวคือบริษัทเฟอร์นิเจอร์ว่าถ้าไม่ได้สอนก็คงไปเป็นนักออกแบบให้อีกบริษัทหนึ่งละกัน ผลสุดท้ายบริษัทออกแบบเรียกก่อนสองสามวันและอาชีพข้าราชการก็เรียกตามมาที่หลัง
จขกท.เข้าไปคุยกับที่บริษัท บอกเค้าตามตรงว่าอยากได้งานสอนเป็นหลัก อยากทำงานบริษัทด้วยแต่อยากรับโปรเจคๆไป ถ้าเค้าโอเคก็ตกลง
ถ้าไม่โอเคก็เลือกเอางานสอน
เพื่อนจขกท.ที่ไปขายของด้วยกันก็บอกว่า แกจะไปสอนที่นั่นจริงๆเหรอ เพราะเพื่อนเป็นนศ.ภาคค่ำของที่นั่นมาก่อน บอกว่าดูอาจารย์ในแผนกดูไม่ค่อยไปในทางเดียวกันเท่าไหร่ แบ่งพรรคแบ่งพวกและอาจารย์ที่นั่นเค้าก็จบที่นั่นมากันเกือบทุกคน
แกจะอยู่ยากนา.....
เพื่อนเตือนเเต่ไม่ฟัง5555 ช้อยอยากลอง
วันแรกไปรายงานตัวว่าที่อาจารย์ใหม่ มีกันในแผนกสามคน ชายหนึ่งหญิงสอง ทางสถาบันก็แจ้งให้ทราบว่า อาจารย์ทั้งสามท่านต้องไปเรียนต่อโทโดยมีโครงการว่าจะต้องเรียน และอาจารย์ต้องมีชื่อเป็นผู้ช่วยสอนร่วมกับเจ้าของวิชาหลัก
แต่จขกท.ไม่ต้องเพราะมีประสบการณ์การทำงานมาห้าปี สามารถสอนได้เดี่ยวโดยไม่ต้องมีชื่ออาจารย์หลักเป็นผู้ร่วมสอน แต่จขกท.ก็ต้องมีโครงการที่ไปเรียนต่อโทรในปีถัดไปกับอาจารย์อีกสองท่านด้วยเหมือนกัน
จำได้เลยวันแรกที่อาจารย์หัวหน้าโปรแกรมวิชาบอกให้นั่งรอก่อนเข้าห้องประชุม นั่งรอข้างๆโต๊ะแกมีเด็กๆนร.มาส่งงานกัน เด็กๆหลายคนมอง คนนี้ใครเนี่ย นึกว่าเป็นนศ.ภาคค่ำ
( นศ.มาบอกที่หลังตอนรู้จักกันแล้ว....เด็กๆบอกว่าจานหน้าเด็กม๊ากกกก)
พอเข้าห้องประชุมก็ให้แนะนำตัว อาจารย์ชายหญิงสองคนแนะนำก่อน จขกท.คนสุดท้าย (อ. ชายจบที่นั่นมา อ.หญิงจบม.บางเขนมา พ่อเป็นเพื่อนกับอธิการบดีไม่ต้องสอบอาจารย์เข้ามาเก๋กู๊ดจริงๆ)
พอถึงคราวจขกท.แนะนำต้วก็บอกชื่อไป แล้วก็เล่าคร่าวๆว่าทำอะไรมาบ้างจบอะไรมา ทำไมถึงอยากมาสอน เสร็จแล้ว หัวหน้าโปรแกรมวิชาก็จะถามว่า
นศ.ท่านใดมีคำถามจะถามอาจารย์ช้อยมั้ยครับ?
ก็จะมีเสียงตะโกนแบบไม่โผล่หัวมาว่า ...จานมีแฟนรึยังคร้าบ!!!!!
ปรบมือกันรัวๆ เคาะโต๊ะ ผิวปากสูดปากกันวี๊ดวี๊วๆๆ ถ้าเป็นแต่ก่อนคงจะเหนียมอายบิดไปบิดมาแบบตอนเป็นนศ.จบใหม่ แต่เพราะอยู่ในโรงงานมาก่อน
ความอายมลายหายสิ้น
นึกในใจหุ...หุ อ้ายเด็กนารก....พวกนี้....... รู้จักช้อยน้อยไปเสียแล้ว.........กราดสายตาช้า ช้า ช้าๆๆ.....
ยิ้มน้อยๆแต่พองามตามมุมปาก แต่สายตาไม่ได้ยิ้มด้วย ...เอื้อนเอ่ยวาจา....
ใครผิวปากคะ ขอดูหนังหน้าหน่อย.......
วันแรกก็เจอดีเลย...ต้อนรับอาจารย์ใหม่ด้วยกริยามารยาทอันดีงาม....
ปล.ตัวอย่างภาพวาดแบบเร็วๆให้นศ.ดูว่าเวลาวาดด้วยปากกาวาดอย่างไร ไม่มีใครถามแต่อยากบอก55
@@@@@-------- เรื่องเล่าสบายๆสไตล์ช้อยชบา ---------@@@@@ (3 อาชีพใน 1 ร่าง)
http://ppantip.com/topic/32676598/comment17
@@@@@-------- เรื่องเล่าสบายๆ.....สไตล์ช้อยชบา ----------@@@@@ ( ตอนที่ 2 สาวโรงงาน)
http://ppantip.com/topic/32706755/comment43-3
@@@@@-------- เรื่องเล่าสบายๆ.....สไตล์ช้อยชบา ----------@@@@@ ( ตอนที่ 3 สาวโรงงาน)
http://ppantip.com/topic/32740812/desktop
@@@@@-------- เรื่องเล่าสบายๆ.....สไตล์ช้อยชบา ---------@@@@@ (ตอนที่ 4 สาวโรงงาน)
http://ppantip.com/topic/32775496/desktop
........................................................
ถ้ารักการอ่าน... ขอให้ท่านไปเริ่มตั้งแต่แรก.....เลาจะลอ....
ความเดิมจากย่อหน้าที่แล้ว.......( ใครที่รอให้เล่าเรื่องความรักโปรดรอก่อนนะแจ๊ะ )
ท้าวความก่อน.....ช่วงที่ออกจากโรงงานจขกท.ไปลงเรียนภาษษอังกฤษเพิ่มเติมความรู้ ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ วันไหนเบื่อๆก็ไปช่วยเพื่อนขายของหลังการบินไทย ตลาดลุงเพิ่ม
( เดี๋ยวนี้คงเป็นลุงเพิ่มทรัพย์เพราะค่าเช่าเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก็เหยียบหมื่น ตอนนี้ไม่รู้เท่าไร )
ไปบางวันเพื่อนบ่นบอกขายไม่ดีเลยหว่ะช้อย นั่งหน้าแห้งมาแต่เช้าขายไม่ได้สักตัว จขกท.ก็คุยกับเพื่อนว่ามันต้องใส่โชว์แบบเสื้อทีมไงหล่ะแก๊!!!! เพื่อนบอกมันเซ็กซี่เกินบางตัวชั้นไม่กล้า
ไม่ใช่เเนวชั้น.....เชรี๊ยะแล้วแกเอามาขายทำไมวะ???
เพื่อนบอกช่วยใส่หน่อยนะช้อย จขกท.ก็อืมๆได้ๆ พอนั่งไปสักพักคนเริ่มมาถามชุดที่นังช้อยมันใส่นี้มีขายอีกมั้ยคะ??
อ๊ะ!!!!เสร็จโจร!!!!!มี๊ค่า!!!!!
รีบกุลีกุจอหัวแทบจะโขกกัน สรุปว่าวันนั้นจขกท.ไปนั่งไม่ถึงชม.เพื่อนขายได้8,000กว่าบาท เพื่อนดีใจมากบอกแก๊!!!!ชั้นนั่งหน้าเหี่ยวมาตั้งแต่เช้าขายไม่ได้สักตัว แกมาที่ไรขายได้ทุกที
แกมีณ.ดี มาช่วยชั้นขายบ่อยๆนะ
หลังจากนั้นจขกท.ก็ไปสิงสถิตย์อยู่หลังการบินไทยอยู่นาน ไปที่ไรเพื่อนขายดี ช่วยกันสองคน จนเพื่อนบอกว่าแก...ชั้นว่าจะไปเปิดท้ายขายของที่เมเจอร์รัชโยธินแกสนใจเปล่า ตอนนนั้นจขกท.
รอฟังผลที่สมัครงานไปสองสามที่ บอกรอๆก่อนละกันไม่แน่ใจ เผื่อที่หนึ่งที่ใดเรียกงานก่อน
มีบริษัทหนึ่งที่จขกท.ไปสมัครเอาไว้กันหนียวคือบริษัทเฟอร์นิเจอร์ว่าถ้าไม่ได้สอนก็คงไปเป็นนักออกแบบให้อีกบริษัทหนึ่งละกัน ผลสุดท้ายบริษัทออกแบบเรียกก่อนสองสามวันและอาชีพข้าราชการก็เรียกตามมาที่หลัง
จขกท.เข้าไปคุยกับที่บริษัท บอกเค้าตามตรงว่าอยากได้งานสอนเป็นหลัก อยากทำงานบริษัทด้วยแต่อยากรับโปรเจคๆไป ถ้าเค้าโอเคก็ตกลง
ถ้าไม่โอเคก็เลือกเอางานสอน
เพื่อนจขกท.ที่ไปขายของด้วยกันก็บอกว่า แกจะไปสอนที่นั่นจริงๆเหรอ เพราะเพื่อนเป็นนศ.ภาคค่ำของที่นั่นมาก่อน บอกว่าดูอาจารย์ในแผนกดูไม่ค่อยไปในทางเดียวกันเท่าไหร่ แบ่งพรรคแบ่งพวกและอาจารย์ที่นั่นเค้าก็จบที่นั่นมากันเกือบทุกคน
แกจะอยู่ยากนา.....
เพื่อนเตือนเเต่ไม่ฟัง5555 ช้อยอยากลอง
วันแรกไปรายงานตัวว่าที่อาจารย์ใหม่ มีกันในแผนกสามคน ชายหนึ่งหญิงสอง ทางสถาบันก็แจ้งให้ทราบว่า อาจารย์ทั้งสามท่านต้องไปเรียนต่อโทโดยมีโครงการว่าจะต้องเรียน และอาจารย์ต้องมีชื่อเป็นผู้ช่วยสอนร่วมกับเจ้าของวิชาหลัก
แต่จขกท.ไม่ต้องเพราะมีประสบการณ์การทำงานมาห้าปี สามารถสอนได้เดี่ยวโดยไม่ต้องมีชื่ออาจารย์หลักเป็นผู้ร่วมสอน แต่จขกท.ก็ต้องมีโครงการที่ไปเรียนต่อโทรในปีถัดไปกับอาจารย์อีกสองท่านด้วยเหมือนกัน
จำได้เลยวันแรกที่อาจารย์หัวหน้าโปรแกรมวิชาบอกให้นั่งรอก่อนเข้าห้องประชุม นั่งรอข้างๆโต๊ะแกมีเด็กๆนร.มาส่งงานกัน เด็กๆหลายคนมอง คนนี้ใครเนี่ย นึกว่าเป็นนศ.ภาคค่ำ
( นศ.มาบอกที่หลังตอนรู้จักกันแล้ว....เด็กๆบอกว่าจานหน้าเด็กม๊ากกกก)
พอเข้าห้องประชุมก็ให้แนะนำตัว อาจารย์ชายหญิงสองคนแนะนำก่อน จขกท.คนสุดท้าย (อ. ชายจบที่นั่นมา อ.หญิงจบม.บางเขนมา พ่อเป็นเพื่อนกับอธิการบดีไม่ต้องสอบอาจารย์เข้ามาเก๋กู๊ดจริงๆ)
พอถึงคราวจขกท.แนะนำต้วก็บอกชื่อไป แล้วก็เล่าคร่าวๆว่าทำอะไรมาบ้างจบอะไรมา ทำไมถึงอยากมาสอน เสร็จแล้ว หัวหน้าโปรแกรมวิชาก็จะถามว่า
นศ.ท่านใดมีคำถามจะถามอาจารย์ช้อยมั้ยครับ?
ก็จะมีเสียงตะโกนแบบไม่โผล่หัวมาว่า ...จานมีแฟนรึยังคร้าบ!!!!!
ปรบมือกันรัวๆ เคาะโต๊ะ ผิวปากสูดปากกันวี๊ดวี๊วๆๆ ถ้าเป็นแต่ก่อนคงจะเหนียมอายบิดไปบิดมาแบบตอนเป็นนศ.จบใหม่ แต่เพราะอยู่ในโรงงานมาก่อน
ความอายมลายหายสิ้น
นึกในใจหุ...หุ อ้ายเด็กนารก....พวกนี้....... รู้จักช้อยน้อยไปเสียแล้ว.........กราดสายตาช้า ช้า ช้าๆๆ.....
ยิ้มน้อยๆแต่พองามตามมุมปาก แต่สายตาไม่ได้ยิ้มด้วย ...เอื้อนเอ่ยวาจา....
ใครผิวปากคะ ขอดูหนังหน้าหน่อย.......
วันแรกก็เจอดีเลย...ต้อนรับอาจารย์ใหม่ด้วยกริยามารยาทอันดีงาม....
ปล.ตัวอย่างภาพวาดแบบเร็วๆให้นศ.ดูว่าเวลาวาดด้วยปากกาวาดอย่างไร ไม่มีใครถามแต่อยากบอก55