นี่คือกระทู้แรกของผม ผิดอะไรยังขอภัยด้วยครับ
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียน กทม.ตอน ม.4 ที่ รร แห่งหนึ่ง ย่านฝั่งธน ผมกับเธอเรียนอยู่ห้องเดียวกัน
ผมเห็นเธอครั้งแรกตอนปฐมนิเทศนักเรียนใหม่ที่หอประชุม ตอนแรกนึกว่าเธออยู่ ม.1 เพราะยังดูเหมือนเด็กๆแต่ผมก็เฉยๆนะไม่
ได้รู้สึกอะไร ตอนนั้นไม่ได้คิดชอบเธอเลยสักนิด และพอพัง อ.พูดในหอประชุมเสร็จเค้าก็ให้แยกมาที่ห้องของตัวเอง
ก็ได้เจอเพื่อนร่วมห้องของเราเป็นครั้งแกร แต่เห้ย เธออยุ่ห้องเดียวกับเราเหรอเนี้ย 55 นึกว่าอยู่ ม.1 ตอนนั้นเธอดูจะเป็น
ที่สนใจของเด็กเก่า(เด็กที่จบ ม.3 และต่อ ม.4 ที่เดิม) พวกผมเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ม.4 ซึ่งก็มี
50-50 และผมก็ยังเฉยๆนะ ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ไอ้คนที่เข้าไปแซวๆเธอคนนั้นมันหน้าหม้อ 555 และผมเป็นคนที่
นั่งหลังห้องตลอด ส่วนเธอนั่งตรงกลางๆห้อง และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้
เวลาผ่านไป1เทอมผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรกับเธอ เวลาเลิกเรียนตอนเย็นก็มีเล่นบาสบ้างเล่นวอลเลย์บอลบ้าง
ผมเป็นนักวลอเลย์ของ รร ตัวเก่งเลยด้วย ไมได้โม้นะครับ ก็มีเล่นกับเธอบ้างแต่ยังไม่คิดอะไร แต่เมื่อมันเกือบจะจบ ม.4นี่สิ
มันเริ่มมีละ ผมเริ่มมองเธอแปลก รู้สึกแปลก เริ่มทำตัวไม่เป็นธรรมชาติเวลาที่มีเธออยู่ไม่ไกลมากนัก มันมีช่วงที่ผมยังสับสน
และถามใจตัวเองว่า ''นี่เราชอบเค้าจริงๆเหรอ'' ซึ่งคำถามนี้มันวนเวียนในหัวผมเยอะมากและใช้เวลาเป็นเดือนๆคิดแบบจริงจัง
เลยนะครับไม่ได้ตั้งคำถามแบบเล่นๆ และเวลามันก็ผ่านไป ผมไป ''ชอบ'' เธอตอนใหนวะ ซวยแล้วคิดกับตัวเอง เพราะเวลา
เห็นเธอ หรือต้องมีกิจกรรมที่เป็นกลุ่ม มันจะแปลกๆมาก ผมไม่เป็นธรรมชาติสุดๆ และมันก็เริ่มขึ้นก่อนที่จะจบม.4
ม.5 แล้ว
1ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ตอนนี้ขึ้น ม.5 แล้วผมมีเพื่อนที่สนิท แต่มันไม่ค่อยชอบมาเรียน เรียกมัน
ว่าไอ้Aละกันผมบอกมันแค่คนเดียวว่าผมชอบเธอ เราใช้ภาษาเฉพาะเรียกเธอว่า ''น้องแดง'' ฮ่าๆ แปลกมั๊ยหล่ะครับ นี่แหละ
คนอื่นจะได้ไม่สงสัย และใช้เรียกเธอแบบนั้นจริงๆจนติดเลย แต่เวลาคุยกับเธอผมก็เรียกชื่อเธอปกตินะ ซึ่งนับคำได้เลยปีๆนึง
ที่ผมคุยกับเธอ 555 เรามันแนวจีบอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ ไม่เข้าไปคลุกคลี และไอ้Aมันก็คอยเป็นสายให้ผมเวลามีใครมาหม้อเธอมัน
ก็คอยมาบอกว่า ไอ้คนนั้นมันเข้าไปหม้อแดงหว่ะ ผมก็บอกมันไป ว่า แดง ไม่ชอบผู้ชายแบบนั้นหรอก และเวลามันเข้าไปคุยกับ
แดงทีไรผมซึ่งอยู่หลังห้องก็มองตลอด เวลาเรียนผมจะมีความสุขมากเพราะได้มองเธออยู่ตลอด เธอนั่งข้างหน้าผม2แถวนึกสภาพ
โต๊ะไม้จัดนั่งเป็นคู่ๆ ผมนั่งคู่หลังสุด และเธออยู่หน้าผม2คู่ ส่วนโต๊ะหน้าผมเป็นเพื่อนสนิดของเธอ และเธอก็ชอบหัน
มาคุยกับเพื่อนเธอ เวลาเธอหันมา มันก็ตรงหน้าผมพอดี เขิลอีกกรูและผมก็ชอบทำเป็นหันไปคุยกับเพื่อนที่นั่งกับผม ซึ่ง คือไอ้B ไอ้คนนี้
มันยังไม่รู้ว่าผมชอบเธอ แต่..มันก็รู้จนได้ในวิชาชีวะตอนม.5 ผมนั่งกันเป็นกลุ่มๆ และผมก็นั่งข้างมันอีกอ่ะ ผมเริ่มชอบ
แดงมากๆขึ้น จนคุยถึงแดงบ่อยๆ จนมันเริ่มผิดสังเกตุมันก็แซวผมว่า เชอบ ...... ใช่มั๊ยผมตอบว่า ไม๊!!! แต่มันไม่เชื่อ และมันก็ถาม
เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ตามประสาคนไม่รู้ จนผมบอก เออๆๆ กูชอบ.....อย่าไปบอกใครนะ และไอ้Aรู้เรื่องนี้นานแล้ว และให้ศัพท์มันไป
ว่าเราเรียกเธอ ว่าน้องแดง มันก็ ok และมันก็ดีนะครับเวลามันกลับบ้านสายเดียวกับน้องแดง มันก็ sms มาบอกผมว่าวันนี้กูกลับ
คันเดียวกับน้องแดง 555 ซึ่งผมเล่นกีฬาอยู่ที่ รร ยังไม่กลับ 555 ได้สายเพิ่มมาอีก1 และคิดว่าจะบอกแค่2คนนี้พอ เป็นสองคนที่ผม
ไว้ใจ ในห้องเรียนถ้าวันใหนที่ผมมองเธอ และมีโอกาสที่เธอหันมามองและ สบตากัน หรือบางทีเธอมองผมอยุ่ก่อนแล้ว พอผมหันไป
เธอก็จะหันหลบ ผมจะเก็บไปนอนคิดก่อนนอนทุกคืนเลย
บางวันสบตากันเกิน1 ครั้งนี่แบบ ก่อนนอนนี่ยิ้มหลับฝันดีเลยครับ และก็เป็นแบบนั้นมาเรื่อยๆ และผมก็เริ่มรู้สึกได้ว่าเธอก็เริ่ม
มองผมด้วยเหมือนกันแต่ตอนนั้นไม่มั่นใจเลยสักนิดว่าเธอมองเราหรือแค่หันผ่านเฉยๆ บางทีเธอหัวเราะแล้วหันมาหาผม ซึ่งแน่นอน
ผมมองเธออยู่ก่อนแล้วเป็นไงหล่ะครับ สบตากันสิครับ ฟินไปอีกทั้งคาบ และแล้วชีวิตม.5ก็ผ่านไป ตอนปิดเทอมผมชอบไปเล่นกีฬาที่
สวนธนบุรีรมภ์ ใครอยุ่ฝั่งธนคงรู้จัก ผมไปทุกวันในช่วงนั้น และมีวันนึงในช่วงปิดเทอมบังเอิญวันนั้นเธอไปเหมือนกัน ไปกับน้องสาว
และแม่ของเธอ ซึ่งผมก็เล่นเวทอยู่ มันเริ่มมืดๆแล้ว และเธอก็เรียกชื่อผมสองครั่งติดกัน ผมไม่แน่ใจเลยไม่หันไปมอง เพราะกำลังยกเหล็กอยุ่
รอให้เค้าเรียกอีกที ถ้าเรียกอีกคงหันเลย แต่เค้าไม่เรียก 55 เลยเล่นต่อไป พอกลับถึงห้องผมตัดสินใจโทรหาเธอ
(ผมมีเบอร์เธอในเครื่องเป็นปีแล้ว ได้จากนิตสารของ รร จะมีรายชื่อที่อยู่ และ เบอร์ ของ
ทุกคน อิอิ) เธอก็รับ ผมถามเรื่อยเปื่อย และถามว่าวันนี้ไปใหนบ้างเค้าก็บอกเช้าๆ ไปใหนกับแม่สักที่นี่แหละ ผมเลยถามว่าแล้วตอนเย็น
อ่ะ ....เค้าเงียบไปสักแปป และตอบว่าไปสวนธน(คิดในใจชัดเลย)
ผมเลยถาม แล้ว.....เรียกเราป่ะที่สวนอ่ะ เค้าบอกว่าเรียก แต่เห็นไม่หันเลยคิดว่าไม่ใช่ ผมก็คุยสักแปป5นาทีได้มั้งและวางไป
และผมก็โทรไปหาเธอทุกวัน แต่ไม่ได้จีบเลยครับ และมันจะมีช่วงเวลาของมันอยู่ โทรไปทุกวันจากคนที่ไม่ได้สนิด และไม่ได้จีบ มันจะมีความ
อึดอัดเนอะ ผมก็ยังโทรไปแต่เธอไม่เคยโทรกลับและวันนึง ผมโทรไปหาเธอ แต่เธอไม่รับ ผมรอ1ชม เธอยังไม่โทรกลับมา ผมเลย
โทรไปอีกรอบ เธอรับครับ เธอบอกว่ากำลังจะโทรกลับพอดี ผมเลยคุยแปปและรีบวางเลย เพราะคนที่ตอบแบบนี้คือเค้าไม่อยากคุยแล้ว
ผมรู้ได้เลย หลังจากนั้นผมก็ไม่โทรไปหาเธออีกเลย ตลอดปิดเทอม
ม.6 แล้ว
ผมยืนเข้าแถวอยู่เธอก็มาทักผมก่อน ผมก็ยิ้มๆและไม่ได้พูดอะไร และก็ไม่ค่อยคุยเพราะไม่ค่อยอยากจะคุยเท่าไร
และมันก็เป็นแบบนั้นเกือบปิดเทอมแรกของ ม.6 ซึ่งเวลายิ่งเหลือน้อยแล้ว ผมไม่ค่อยคุยกับเธออยู่แล้ว นับวันละยิ่งใจหายแล้วผมดันไปมี
แฟน เป็นรุ่นน้องม.4 เค้ามาปลื้มที่เราเป็นนักวอลเลย์ เค้าเห็นเราเล่นแล้วปลื้ม ผมก็รู้ข่าวมาเลยไปจีบน้องเค้า (ซะงั้น) และผมกับน้องเค้าก็คบกัน
ตอนก่อนปิดเทอมแรกของม.6ไม่กี่วัน ผมกับเธอเลยดูจะเป็นเพื่อนกันไปเลยในตอนนั้นเพราะผมก็ไม่รู้คิดอะไรอยู่ เหมือนผมจะดูว่าถ้าเราคบกับ
น้องคนนี้แล้วเธอจะรู้สึกยังไง เธอก็ดู คุยกับผมมากขึ้นนะ (แบบเพื่อน) เหมือนพอรู้ว่าอีกฝ่ายมีแฟนเราก็คุยกันง่ายขึ้น และแล้วก็จบม.6 หลังจาก
จบ ม.6 เราก็ยิ่งไม่ได้ติดต่อกันเลยไม่เลย แค่เป็นเพื่อนกันใน hi5 (สมัยนั้นยังฮิทอยู่)
2 ปีผ่านไป
ตอนนั้นผมอยู่ปี2 ผมเรียนอยู่ ราชมงคลธัญบุรี เธอเรียนที่ ม.หัวเฉียว พวกเราได้นัดกันไปเที่ยวทะเลกัน ซึ่งมีเธอไปด้วย ตอนนั้นผมก็คบกับ
แฟนอยู่ แต่แฟนไม่ได้ไป เพราะผมจะไปกับเพื่อนๆม.ปลาย ซึ่งแฟนผมก็รู้จักเพื่อนผมทุกคน เราไปกัน7คนผมได้เห็นเธอหลังจากไม่ได้เจอมาเกือบ2ปี
ครั้งแรกที่เห็นความรู้สึกที่เก็บไว้ให้ลึกที่สุดกลับขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยมเลย คือนี่เรายังรักเธอคนนี้อยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกขึ้นมาเต็มมากๆ ยังเหมือนเดิม
ผมนี่แบบทำตัวให้เนียนที่สุดเพราะทุกคนก็รู้เรามีแฟนอยุ่แล้ว จนกลับจากไปเที่ยวทุกคนแยกย้าย ผมใกล้ถึงหอผมแล้ว ผมโทรไปหาเธอว่าถึงบ้านยัง เธอก็บอกใกล้
ถึงแล้วผมบอกเคๆ แล้วก็วาง และผมก็กลับมานอนคิดทบทวนเรื่องที่มีความสุขในวันนี้ที่ได้ไปเที่ยวโดยมีเธอไปด้วย
ผ่านไป 1 ชม. กว่าๆ
ผมตัดสินใจโทรไปหาเธออีกทีตอนเกือบ 3 ทุ่มตอนนั้นคิดว่าเอาวะในเมื่อเรายังรักเค้าอยู่ขนาดนี้เป็นไงเป็นกันเด๋วเรื่องแฟนผม
ค่อยว่ากันอีกที ผมกดโทรไปทั้งๆที่ใจยังไม่กล้า แต่ก็กด ตอนนั้นใจสั่นมากๆครับมากกว่าตอนแข่งวอลเลย์รอบชิงอีก เธอก็รับ เสียงเพิ่งตื่น
(คงเหนื่อยจากเที่ยว) ผมก็คุยไปเรื่อยๆ สัก1นาทีได้ แต่มันเหมือนโคตรนานเลย ผมคิดในใจ เข้าเรื่องเลยดีกว่า ปล่อยไว้นานเด๋วไม่กล้า
เอาวะ..!!!
ผม : .........รู้มั๊ยว่าเราคิดยังไงกับ เธอ (จริงๆผมเรียกชื่อของเธอนะ)
เธอ : เงียบไปสัก 5 วิ ก็ เพื่อนแหละมั้ง (เสียงเบาๆ สั่นๆ)
ผม : มันไม่ใช่อ่ะสิ
เธอ : ...................................................................เห้ย (เสียงเบา)
...........หลายวินาที.....................
ผม : แล้ว......หล่ะเคยคิดเหมือนกันบ้างมั๊ย (ตอนนี้มันเป็นวินาทีที่ใจแทบจะทะลักออกมาจากร่าง)
เธอ : ก็มีนะ (ในใจผมอยากจะกรี๊สละ)
ผม : ตอนใหนเหรอ
เธอ : ตอนปิดเทอม ม.5 ที่โทรคุยกัน
ผม : แล้วความรู้สึกนั้นมันยังมีอยู่อีกใหม (ประโยคที่ผมคิดว่ามันบอกความรู้สึกไม่ถูกที่สุดใจชีวิต)
เธอ : ก็มีนะ
รู้มั๊ยครับหลังจากที่เธอพูดแบบนั้นออกมา ทั้งโลกของผมตอนนั้นแทบจะหยุดหมุน มันคือความรู้สึกที่เราเก็บมันไว้เกือบ5
ปีและเราไม่คิดว่าจะได้บอกเค้า และวันนั้นผมได้คิดจะบอกและผลมันออกมาเป็นแบบนั้นผมรู้สึกว่าผมได้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
เพราะคนแอบรักจะรู้ดีว่าการบอกรักคนที่เราแคร์เค้ามากๆและเก็บไว้นานๆ มันจะยิ่งยากมากๆ ผมเลยตัดสินใจบอกเลิกแฟนผมทันที
ใช่ผมมันแย่ที่ทำแบบนั้น แต่ถ้าเรายังไม่บอกเค้า และเรารักคนนี้มันก็ยิ่งแย่กว่าไม่ใช่เหรอ ผมบอกกับทุกคนว่าผมเลิกกับน้องเค้าเพราะผมมีคนใหม่
ซึ่งเป็นคนที่ผมแอบชอบมา ตั้ง แต่ ม.4 ผมก็เล่าทั้งหมดให้คนที่ถามฟังเหมือนที่เขียนอยู่ข้างบนแหละครับ
และทุกวันนี้ผมก็คบกับ เธอ มา 4 ปีแล้วครับ มันใช้เวลานานๆมากๆที่ค่อยเริ่มชอบเธอมาจน รัก และได้บอกความในใจ
นึกถึงวันที่ได้บอกความในใจ ไม่ว่าผลมันจะดีหรือไม่ดี บอกไปเถอะครับ มันจะดีกว่าถ้า ไม่ได้บอก
มันเป็นเหมือนหนังเรื่องนึงของผมเลยสำหรับผมนะครับมันเป็นสิ่งที่วิเศษมาก การได้เรียนที่นั้น การได้เจอเธอ การให้เห็นเธอทุกๆวัน
การได้แอบ รัก และการได้บอก รัก
.
.
.
.
.
และถึงวันนี้ผมก็ยังรักเธอมากครับ
บอกรักคนที่เราแอบชอบมาเกือบ 5 ปี
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียน กทม.ตอน ม.4 ที่ รร แห่งหนึ่ง ย่านฝั่งธน ผมกับเธอเรียนอยู่ห้องเดียวกัน
ผมเห็นเธอครั้งแรกตอนปฐมนิเทศนักเรียนใหม่ที่หอประชุม ตอนแรกนึกว่าเธออยู่ ม.1 เพราะยังดูเหมือนเด็กๆแต่ผมก็เฉยๆนะไม่
ได้รู้สึกอะไร ตอนนั้นไม่ได้คิดชอบเธอเลยสักนิด และพอพัง อ.พูดในหอประชุมเสร็จเค้าก็ให้แยกมาที่ห้องของตัวเอง
ก็ได้เจอเพื่อนร่วมห้องของเราเป็นครั้งแกร แต่เห้ย เธออยุ่ห้องเดียวกับเราเหรอเนี้ย 55 นึกว่าอยู่ ม.1 ตอนนั้นเธอดูจะเป็น
ที่สนใจของเด็กเก่า(เด็กที่จบ ม.3 และต่อ ม.4 ที่เดิม) พวกผมเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ม.4 ซึ่งก็มี
50-50 และผมก็ยังเฉยๆนะ ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ไอ้คนที่เข้าไปแซวๆเธอคนนั้นมันหน้าหม้อ 555 และผมเป็นคนที่
นั่งหลังห้องตลอด ส่วนเธอนั่งตรงกลางๆห้อง และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้
เวลาผ่านไป1เทอมผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรกับเธอ เวลาเลิกเรียนตอนเย็นก็มีเล่นบาสบ้างเล่นวอลเลย์บอลบ้าง
ผมเป็นนักวลอเลย์ของ รร ตัวเก่งเลยด้วย ไมได้โม้นะครับ ก็มีเล่นกับเธอบ้างแต่ยังไม่คิดอะไร แต่เมื่อมันเกือบจะจบ ม.4นี่สิ
มันเริ่มมีละ ผมเริ่มมองเธอแปลก รู้สึกแปลก เริ่มทำตัวไม่เป็นธรรมชาติเวลาที่มีเธออยู่ไม่ไกลมากนัก มันมีช่วงที่ผมยังสับสน
และถามใจตัวเองว่า ''นี่เราชอบเค้าจริงๆเหรอ'' ซึ่งคำถามนี้มันวนเวียนในหัวผมเยอะมากและใช้เวลาเป็นเดือนๆคิดแบบจริงจัง
เลยนะครับไม่ได้ตั้งคำถามแบบเล่นๆ และเวลามันก็ผ่านไป ผมไป ''ชอบ'' เธอตอนใหนวะ ซวยแล้วคิดกับตัวเอง เพราะเวลา
เห็นเธอ หรือต้องมีกิจกรรมที่เป็นกลุ่ม มันจะแปลกๆมาก ผมไม่เป็นธรรมชาติสุดๆ และมันก็เริ่มขึ้นก่อนที่จะจบม.4
ม.5 แล้ว
1ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ตอนนี้ขึ้น ม.5 แล้วผมมีเพื่อนที่สนิท แต่มันไม่ค่อยชอบมาเรียน เรียกมัน
ว่าไอ้Aละกันผมบอกมันแค่คนเดียวว่าผมชอบเธอ เราใช้ภาษาเฉพาะเรียกเธอว่า ''น้องแดง'' ฮ่าๆ แปลกมั๊ยหล่ะครับ นี่แหละ
คนอื่นจะได้ไม่สงสัย และใช้เรียกเธอแบบนั้นจริงๆจนติดเลย แต่เวลาคุยกับเธอผมก็เรียกชื่อเธอปกตินะ ซึ่งนับคำได้เลยปีๆนึง
ที่ผมคุยกับเธอ 555 เรามันแนวจีบอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ ไม่เข้าไปคลุกคลี และไอ้Aมันก็คอยเป็นสายให้ผมเวลามีใครมาหม้อเธอมัน
ก็คอยมาบอกว่า ไอ้คนนั้นมันเข้าไปหม้อแดงหว่ะ ผมก็บอกมันไป ว่า แดง ไม่ชอบผู้ชายแบบนั้นหรอก และเวลามันเข้าไปคุยกับ
แดงทีไรผมซึ่งอยู่หลังห้องก็มองตลอด เวลาเรียนผมจะมีความสุขมากเพราะได้มองเธออยู่ตลอด เธอนั่งข้างหน้าผม2แถวนึกสภาพ
โต๊ะไม้จัดนั่งเป็นคู่ๆ ผมนั่งคู่หลังสุด และเธออยู่หน้าผม2คู่ ส่วนโต๊ะหน้าผมเป็นเพื่อนสนิดของเธอ และเธอก็ชอบหัน
มาคุยกับเพื่อนเธอ เวลาเธอหันมา มันก็ตรงหน้าผมพอดี เขิลอีกกรูและผมก็ชอบทำเป็นหันไปคุยกับเพื่อนที่นั่งกับผม ซึ่ง คือไอ้B ไอ้คนนี้
มันยังไม่รู้ว่าผมชอบเธอ แต่..มันก็รู้จนได้ในวิชาชีวะตอนม.5 ผมนั่งกันเป็นกลุ่มๆ และผมก็นั่งข้างมันอีกอ่ะ ผมเริ่มชอบ
แดงมากๆขึ้น จนคุยถึงแดงบ่อยๆ จนมันเริ่มผิดสังเกตุมันก็แซวผมว่า เชอบ ...... ใช่มั๊ยผมตอบว่า ไม๊!!! แต่มันไม่เชื่อ และมันก็ถาม
เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ตามประสาคนไม่รู้ จนผมบอก เออๆๆ กูชอบ.....อย่าไปบอกใครนะ และไอ้Aรู้เรื่องนี้นานแล้ว และให้ศัพท์มันไป
ว่าเราเรียกเธอ ว่าน้องแดง มันก็ ok และมันก็ดีนะครับเวลามันกลับบ้านสายเดียวกับน้องแดง มันก็ sms มาบอกผมว่าวันนี้กูกลับ
คันเดียวกับน้องแดง 555 ซึ่งผมเล่นกีฬาอยู่ที่ รร ยังไม่กลับ 555 ได้สายเพิ่มมาอีก1 และคิดว่าจะบอกแค่2คนนี้พอ เป็นสองคนที่ผม
ไว้ใจ ในห้องเรียนถ้าวันใหนที่ผมมองเธอ และมีโอกาสที่เธอหันมามองและ สบตากัน หรือบางทีเธอมองผมอยุ่ก่อนแล้ว พอผมหันไป
เธอก็จะหันหลบ ผมจะเก็บไปนอนคิดก่อนนอนทุกคืนเลย
บางวันสบตากันเกิน1 ครั้งนี่แบบ ก่อนนอนนี่ยิ้มหลับฝันดีเลยครับ และก็เป็นแบบนั้นมาเรื่อยๆ และผมก็เริ่มรู้สึกได้ว่าเธอก็เริ่ม
มองผมด้วยเหมือนกันแต่ตอนนั้นไม่มั่นใจเลยสักนิดว่าเธอมองเราหรือแค่หันผ่านเฉยๆ บางทีเธอหัวเราะแล้วหันมาหาผม ซึ่งแน่นอน
ผมมองเธออยู่ก่อนแล้วเป็นไงหล่ะครับ สบตากันสิครับ ฟินไปอีกทั้งคาบ และแล้วชีวิตม.5ก็ผ่านไป ตอนปิดเทอมผมชอบไปเล่นกีฬาที่
สวนธนบุรีรมภ์ ใครอยุ่ฝั่งธนคงรู้จัก ผมไปทุกวันในช่วงนั้น และมีวันนึงในช่วงปิดเทอมบังเอิญวันนั้นเธอไปเหมือนกัน ไปกับน้องสาว
และแม่ของเธอ ซึ่งผมก็เล่นเวทอยู่ มันเริ่มมืดๆแล้ว และเธอก็เรียกชื่อผมสองครั่งติดกัน ผมไม่แน่ใจเลยไม่หันไปมอง เพราะกำลังยกเหล็กอยุ่
รอให้เค้าเรียกอีกที ถ้าเรียกอีกคงหันเลย แต่เค้าไม่เรียก 55 เลยเล่นต่อไป พอกลับถึงห้องผมตัดสินใจโทรหาเธอ
(ผมมีเบอร์เธอในเครื่องเป็นปีแล้ว ได้จากนิตสารของ รร จะมีรายชื่อที่อยู่ และ เบอร์ ของ
ทุกคน อิอิ) เธอก็รับ ผมถามเรื่อยเปื่อย และถามว่าวันนี้ไปใหนบ้างเค้าก็บอกเช้าๆ ไปใหนกับแม่สักที่นี่แหละ ผมเลยถามว่าแล้วตอนเย็น
อ่ะ ....เค้าเงียบไปสักแปป และตอบว่าไปสวนธน(คิดในใจชัดเลย)
ผมเลยถาม แล้ว.....เรียกเราป่ะที่สวนอ่ะ เค้าบอกว่าเรียก แต่เห็นไม่หันเลยคิดว่าไม่ใช่ ผมก็คุยสักแปป5นาทีได้มั้งและวางไป
และผมก็โทรไปหาเธอทุกวัน แต่ไม่ได้จีบเลยครับ และมันจะมีช่วงเวลาของมันอยู่ โทรไปทุกวันจากคนที่ไม่ได้สนิด และไม่ได้จีบ มันจะมีความ
อึดอัดเนอะ ผมก็ยังโทรไปแต่เธอไม่เคยโทรกลับและวันนึง ผมโทรไปหาเธอ แต่เธอไม่รับ ผมรอ1ชม เธอยังไม่โทรกลับมา ผมเลย
โทรไปอีกรอบ เธอรับครับ เธอบอกว่ากำลังจะโทรกลับพอดี ผมเลยคุยแปปและรีบวางเลย เพราะคนที่ตอบแบบนี้คือเค้าไม่อยากคุยแล้ว
ผมรู้ได้เลย หลังจากนั้นผมก็ไม่โทรไปหาเธออีกเลย ตลอดปิดเทอม
ม.6 แล้ว
ผมยืนเข้าแถวอยู่เธอก็มาทักผมก่อน ผมก็ยิ้มๆและไม่ได้พูดอะไร และก็ไม่ค่อยคุยเพราะไม่ค่อยอยากจะคุยเท่าไร
และมันก็เป็นแบบนั้นเกือบปิดเทอมแรกของ ม.6 ซึ่งเวลายิ่งเหลือน้อยแล้ว ผมไม่ค่อยคุยกับเธออยู่แล้ว นับวันละยิ่งใจหายแล้วผมดันไปมี
แฟน เป็นรุ่นน้องม.4 เค้ามาปลื้มที่เราเป็นนักวอลเลย์ เค้าเห็นเราเล่นแล้วปลื้ม ผมก็รู้ข่าวมาเลยไปจีบน้องเค้า (ซะงั้น) และผมกับน้องเค้าก็คบกัน
ตอนก่อนปิดเทอมแรกของม.6ไม่กี่วัน ผมกับเธอเลยดูจะเป็นเพื่อนกันไปเลยในตอนนั้นเพราะผมก็ไม่รู้คิดอะไรอยู่ เหมือนผมจะดูว่าถ้าเราคบกับ
น้องคนนี้แล้วเธอจะรู้สึกยังไง เธอก็ดู คุยกับผมมากขึ้นนะ (แบบเพื่อน) เหมือนพอรู้ว่าอีกฝ่ายมีแฟนเราก็คุยกันง่ายขึ้น และแล้วก็จบม.6 หลังจาก
จบ ม.6 เราก็ยิ่งไม่ได้ติดต่อกันเลยไม่เลย แค่เป็นเพื่อนกันใน hi5 (สมัยนั้นยังฮิทอยู่)
2 ปีผ่านไป
ตอนนั้นผมอยู่ปี2 ผมเรียนอยู่ ราชมงคลธัญบุรี เธอเรียนที่ ม.หัวเฉียว พวกเราได้นัดกันไปเที่ยวทะเลกัน ซึ่งมีเธอไปด้วย ตอนนั้นผมก็คบกับ
แฟนอยู่ แต่แฟนไม่ได้ไป เพราะผมจะไปกับเพื่อนๆม.ปลาย ซึ่งแฟนผมก็รู้จักเพื่อนผมทุกคน เราไปกัน7คนผมได้เห็นเธอหลังจากไม่ได้เจอมาเกือบ2ปี
ครั้งแรกที่เห็นความรู้สึกที่เก็บไว้ให้ลึกที่สุดกลับขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยมเลย คือนี่เรายังรักเธอคนนี้อยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกขึ้นมาเต็มมากๆ ยังเหมือนเดิม
ผมนี่แบบทำตัวให้เนียนที่สุดเพราะทุกคนก็รู้เรามีแฟนอยุ่แล้ว จนกลับจากไปเที่ยวทุกคนแยกย้าย ผมใกล้ถึงหอผมแล้ว ผมโทรไปหาเธอว่าถึงบ้านยัง เธอก็บอกใกล้
ถึงแล้วผมบอกเคๆ แล้วก็วาง และผมก็กลับมานอนคิดทบทวนเรื่องที่มีความสุขในวันนี้ที่ได้ไปเที่ยวโดยมีเธอไปด้วย
ผ่านไป 1 ชม. กว่าๆ
ผมตัดสินใจโทรไปหาเธออีกทีตอนเกือบ 3 ทุ่มตอนนั้นคิดว่าเอาวะในเมื่อเรายังรักเค้าอยู่ขนาดนี้เป็นไงเป็นกันเด๋วเรื่องแฟนผม
ค่อยว่ากันอีกที ผมกดโทรไปทั้งๆที่ใจยังไม่กล้า แต่ก็กด ตอนนั้นใจสั่นมากๆครับมากกว่าตอนแข่งวอลเลย์รอบชิงอีก เธอก็รับ เสียงเพิ่งตื่น
(คงเหนื่อยจากเที่ยว) ผมก็คุยไปเรื่อยๆ สัก1นาทีได้ แต่มันเหมือนโคตรนานเลย ผมคิดในใจ เข้าเรื่องเลยดีกว่า ปล่อยไว้นานเด๋วไม่กล้า
เอาวะ..!!!
ผม : .........รู้มั๊ยว่าเราคิดยังไงกับ เธอ (จริงๆผมเรียกชื่อของเธอนะ)
เธอ : เงียบไปสัก 5 วิ ก็ เพื่อนแหละมั้ง (เสียงเบาๆ สั่นๆ)
ผม : มันไม่ใช่อ่ะสิ
เธอ : ...................................................................เห้ย (เสียงเบา)
...........หลายวินาที.....................
ผม : แล้ว......หล่ะเคยคิดเหมือนกันบ้างมั๊ย (ตอนนี้มันเป็นวินาทีที่ใจแทบจะทะลักออกมาจากร่าง)
เธอ : ก็มีนะ (ในใจผมอยากจะกรี๊สละ)
ผม : ตอนใหนเหรอ
เธอ : ตอนปิดเทอม ม.5 ที่โทรคุยกัน
ผม : แล้วความรู้สึกนั้นมันยังมีอยู่อีกใหม (ประโยคที่ผมคิดว่ามันบอกความรู้สึกไม่ถูกที่สุดใจชีวิต)
เธอ : ก็มีนะ
รู้มั๊ยครับหลังจากที่เธอพูดแบบนั้นออกมา ทั้งโลกของผมตอนนั้นแทบจะหยุดหมุน มันคือความรู้สึกที่เราเก็บมันไว้เกือบ5
ปีและเราไม่คิดว่าจะได้บอกเค้า และวันนั้นผมได้คิดจะบอกและผลมันออกมาเป็นแบบนั้นผมรู้สึกว่าผมได้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
เพราะคนแอบรักจะรู้ดีว่าการบอกรักคนที่เราแคร์เค้ามากๆและเก็บไว้นานๆ มันจะยิ่งยากมากๆ ผมเลยตัดสินใจบอกเลิกแฟนผมทันที
ใช่ผมมันแย่ที่ทำแบบนั้น แต่ถ้าเรายังไม่บอกเค้า และเรารักคนนี้มันก็ยิ่งแย่กว่าไม่ใช่เหรอ ผมบอกกับทุกคนว่าผมเลิกกับน้องเค้าเพราะผมมีคนใหม่
ซึ่งเป็นคนที่ผมแอบชอบมา ตั้ง แต่ ม.4 ผมก็เล่าทั้งหมดให้คนที่ถามฟังเหมือนที่เขียนอยู่ข้างบนแหละครับ
และทุกวันนี้ผมก็คบกับ เธอ มา 4 ปีแล้วครับ มันใช้เวลานานๆมากๆที่ค่อยเริ่มชอบเธอมาจน รัก และได้บอกความในใจ
นึกถึงวันที่ได้บอกความในใจ ไม่ว่าผลมันจะดีหรือไม่ดี บอกไปเถอะครับ มันจะดีกว่าถ้า ไม่ได้บอก
มันเป็นเหมือนหนังเรื่องนึงของผมเลยสำหรับผมนะครับมันเป็นสิ่งที่วิเศษมาก การได้เรียนที่นั้น การได้เจอเธอ การให้เห็นเธอทุกๆวัน
การได้แอบ รัก และการได้บอก รัก
.
.
.
.
.
และถึงวันนี้ผมก็ยังรักเธอมากครับ