ความบังเอิญแบบไหนที่ทำให้คุณยิ้ม?

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ อมยิ้ม02 อยากมาแชร์เรื่องราวที่ทำให้เราแค่นึกถึงก็ยิ้มได้ 555 สำหรับกระทู้นี้คงเป็นกระทู้แรกหลังจากที่อ่านกระทู้ของเพื่อนๆมามากมาย  จะขอเริ่มเรื่องราวกันเลยน่ะ ....... เรื่องความบังเอิญของเราเกิดขึ้นหลังจากที่เราเจอคนคนนึง เมื่อเวลาเราคิดถึงเค้า มันทำให้เราทั้งยิ้มทั้งเจ็บทั้งรู้สึกดีปนกันไปหมดเลย ร้องไห้  บางทีนั่งร้องไห้ทั้งน้ำตาก็มี 55555  เราขอใช้ชื่อย่อแทนเค้าคนนั้นว่า  พี่กาก (แค่คิดถึงน่าคนคนนั้นเราก็ยิ้มอีกแหละ) 555 และแทนเราว่า แมว อมยิ้ม21 พี่กากเป็นรุ่นพี่ห่างกับเราประมาณสามปี เราเจอพี่กากครั้งแรกตอนที่เราไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งกับคุณยาย (ขอเล่ารายละเอียดย่อๆน่ะค่ะ) วันนั้นเรากับคุณยายไปวัดสายมาก เราเลยต้องนั่งข้างหลัง  ส่วนข้างหน้าเราก็คือ พี่กากกับคุณย่านั้นเอง ก็ไหว้พระทำพิธีในวัดปกติ จนถึงเวลาพระฉันเพล  ในช่วงนั้นก็ไม่ได้สวดมนต์อะไรเราก็คุยกับคุณยายว่า "ยายเดี๋ยวแมวเก็บสมุดพระให้น่ะ" คุณยายก็บอก "อื้มได้" ตอนนั้นเรากำลังจะหยิบหนังสือพระไปเก็บ  คุณย่าพี่กากก็หันหลังมา แล้วพูดกับเราว่า "ลูกจะเก็บหนังสือพระเหรอ?" ตอนนั้นเราก็ตกใจนิดๆน่ะก็เลยตอบไปแบบเสียมารยาทหน่อย " ห๊ะ อ๋อ ค่ะ " 555 มันเป็นสามคำที่ไม่น่าพูดกับผู้ใหญ่สักเท่าไหร่เลยเนอะ แล้วคุณย่าพี่กากก็หันกลับไป   แล้วพูดอะไรสักอย่างกับพี่กาก สักพักพี่กากก็หันมาหยิบหนังสือพระจากมือเราเฉยเลย  
          ตอนนั้นก็งงอยู่น่ะว่าที่คุณย่าพี่กากถามแบบนั้นจะฝากเราเก็บหรือว่าจะเก็บให้  เพราะถ้าเก็บให้อย่างน้อยเราก็จะได้ขอบคุณหรือถ้าจะฝากให้เราเก็บเราก็ยินดีเก็บให้น่ะ พอพี่กากไปเก็บหนังสือพระเสร็จก็กลับมานั่งที่   ตอนนั้นเราก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงเพราะพี่กากมาถึงที่ก็นั่งปกติไม่มีทีท่าว่าจะหันหลังมาเลยเราก็เลยได้แต่นั่งนิ่งๆไป    .........หลังจากวันนั้นเราก็เจอพี่กากมาวัดทุกอาทิตย์  ทุกครั้งที่เราเจอพี่กาก เราก็ได้แต่มองพี่เค้าโดยที่ไม่รู้เลยว่าเรามองพี่กากทำไม??? 555   ตลกดี  มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นที่วัดก็ทำพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้ว  บรรดาญาติโยมก็พากันมาหยิบปิ่นโตกลับบ้าน ไอเราก็ไปเดินหาปิ่นโตที่น้าเราไปวางไว้    แล้วก็พึมพำกับตัวเองว่า  "ไหนปิ่นโตว่ะ หาไม่เห็นเจอเลย"  ตอนที่พึมพำเราก็รู้สึกเหมือนมีคนมองเราอยู่   เราก็เลยเงยหน้าไปมอง หึหึ และพบเข้ากับพี่กากยืนมองเราพึมพำอยู่ 555 ตอนนั้นโครตเงิบเลย ทำไรไม่ถูกได้แต่พูดว่า "สงสัยตรงนี้จะไม่มีปิ่นโตของเรา อมยิ้ม02 เราขอไปหาตรงอื่นน่ะ " หลังจากนั้นก็วิ่งหนีจากตรงนั้นเลยค่ะ 5555  ไปหาปิ่นโตตรงอื่นแทน สุดท้ายเราก็เจอปิ่นโตของเรา  แต่พี่กากก็ยังไม่เจอแถมมองเราตาละห้อยเหมือนจะให้ช่วยหา 555 แต่เราเขินง่ะ เลยวิ่งกลับบ้านเลย 555 หลังจากวันนั้นทุกอาทิตย์ที่เราไปทำบุญกับคุณยายก็เจอเหตุการณ์ที่ทำให้เราเขินพี่กากแทบทุกอาทิตย์ อาทิตย์ไหนที่พี่กากไม่ไปวัดวันนั้นเราก็ได้แต่มองหาแล้วก็เซ็งทุกที  เป็นแบบนี้อยู่บ่อยๆจนเราเริ่มมารู้ว่าเราชอบพี่กากเข้าให้แล้ว มันอาจจะฟังดูแปลกๆน่ะ  ยิ้ม

          ความบัญเอิญครั้งแรกของเราก็เกิดขึ้น คือ ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมของเรา มันก็เลยว่างไม่รู้จะทำไรดี   นอกจากช่วยทำงานที่บ้านแล้ว  เราก็เลยไปวิ่งที่สนามกีฬากลางตอนเย็น จำได้ว่าตอนนั้นเรามานั่งพักเหนื่อยที่อัฒจันทร์  ที่ตรงนั้นสามารถมองเห็นคนในสนามได้ชัดเจน  เราก็นั่งเรื่อยๆจนไปสะดุดเข้ากับคนคนนึง เรานึกในใจว่าน่าตาคุ้นๆเหมือนเคยเจอที่ไหนน่ะ นั่งนึกไปนึกมาถึงได้รู้ว่าคนคนนั้นคือ พี่กาก เราก็มองพี่กากทางด้านหลังแล้วก็ยิ้มเหมือนคนบ้าเลย 555 เรามองได้ไม่ถึงสองวิ เหมมื่อนพี่กากจะรู้ตัวว่ามีคนมอง (รู้ตัวเร็วดีแท้ 555 ) เลยหันหลังกลับมาเห็นเราพี่กากก็ยิ้มให้   เราก็อึ้งแล้วก็หันหน้ามองไปทางอื่นแล้วยิ้มออกมา 555 เหมือนคนบ้านั่งยิ้มกับท้องฟ้าอ่ะ เขินจนทำอะไรไม่ถูกเลย ก็ได้แต่นั่งยิ้มอยู่แบบนั้นจนพี่เค้าเดินหายไป 555 พอพี่เค้าหาย    เราก็ตามหาไหนพี่กากน่ะ 555   พอเจอก็ได้แต่แอบมอง มันเป็นความบังเอิญครั้งแรกหลังจากที่เราชอบพี่เค้าและพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับพี่เค้ามาตลอดในช่วงเปิดเทอมที่ผ่านมา เราบอกได้เลยว่าพยายามหาข้อมูลต่างๆไม่ว่าเฟชบุ๊ค ชื่อ อะไรอีกเยอะ เราไม่เจอเลย จนเราได้บังเอิญเจอกันครั้งแรกที่สนามกีฬากลางนี้แหละ....  

          ยังมีความบังเอิญอีกเยอะเลยที่จะมาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน และ เป็นการบอกความในใจของเราที่มีต่อคนคนนั้นด้วย อมยิ้ม02 ความบังเอิญครั้งต่อไปถ้าเพื่อนอยากอ่าน  เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังน่ะค่ะ ขอตัวไปนอนก่อนน่ะ ฝันดีจุ๊ปป 555 หัวใจหัวใจ  ขอบคุณที่มาร่วมรับฟังอ่านกระทู้น่ะ ^_^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่