ทำไมต้องหมาหมาตะลุยโลก !!
(ชื่อหมาๆ แต่ใจเป็ด ขอแทนภาพทีมงานด้วยเป็ดเหลืองนะคะ อันนี้จขกท.ชอบส่วนตัว ไม่ได้ถามเพื่อนฝูง)
จขกท.เป็นแฟนคลับของ หมอๆตะลุยโลกค่ะ ชอบ ประทับใจ ปลิ้มปลิ่ม รัญจวนจิตกับน้องๆหมอๆ ม๊ากมาก ที่ได้เดินทางท่องโลกได้กว้างขวางขนาดนั้น
จขกท.เอง ติดตามผลงานของน้องปั้น #ThewalkingBackpacker น้องมิ้น #Iromealone แต่โอกาสแบบนั้นมันไม่ได้มีมาสำหรับทุกคน
แล้วไง?? เราจะหยุดอยู่กับที่ ไม่เดินไปไหนเลย เหี่ยวตายอยู่กับการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ? สำหรับเรามันไม่ใช่จีจี
มาสร้างโอกาสให้ตัวเองกันค่ะ
มีทั้งหมด 5 ตอนนะคะ ( จะทะยอยเขียนค่ะ)
ตอน 1 การเดินทาง/ Blawan Waterfall / Hot spring
http://ppantip.com/topic/32802094
ตอน 2 Kawah- Ijen
http://ppantip.com/topic/32863334
ตอน 3 Bormo MT
http://ppantip.com/topic/32864397
ตอน 4 Prambanan temple & Borobudur temple
ตอน 5 สรุปค่าใช้จ่าย และ สรุปรายละเอียด
( กระทู้นี้ไม่มีการเซนเซอร์หน้าใดๆทั้งสิ้น เพราะพวกเรามั่นหน้ามาก )
หน้าที่ความรับผิดชอบเราก็ต้องทำ แต่อย่าปิดกั้นโอกาสการเดินทางท่องโลกของตัวเอง จขกท. เป็นลูกชาวสวนยางแถวปักษ์ใต้ ใน จ.พัทลุง ถือเป็นจังหวัดเล็กๆที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ไม่ค่อยมีคนรู้จักขนาดที่มีคนมาถามว่าพัทลุงอยู่ในประเทศไทยหรือเปล่า ( จะตลกก็ตลก จะเงิบก็เงิบ)
จขกท. ก็เติบโตมา จากเด็กบ้านนอกในจ.พัทลุง มาเป็นพนักงานออฟฟิตกินเงินเดือน ณ บางกอก ที่โดนเงินเดือนกินทุกเดือน เพื่อนๆชอบล้อกันบ่อยๆ สมัยเรียนว่าพ่อแม่กรีดยางส่งควายเรียน เรียนจบมาก็ ทำงานรับเงินเดือน ชักหน้าไม่ถึงหลังมาตลอด ( คนมันฮ๊อตก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ ไม่ฮ๊อตทำไม่ได้จีจี )
แต่จขกท. ไม่เคยขาดเรื่องการท่องเที่ยวและเดินทางหาสิ่งใหม่ๆเลย โอกาสเรามีไม่เท่ากัน ก็สร้างโอกาสของตัวเองมาสิวะ
เราก็เที่ยวในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ต้องไปนาน มาก ไกลมาก ค่อยๆก้าวเดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเราก็เก็บครบ
เกริ่นมายาวแล้วขอเข้าเรื่องอินโดนีเซีย ทริปล่าสุดเลยค่ะ ( ทริปอื่นไว้มีเวลาจะมาเล่าให้ฟังนะคะ)
เป้าหมายหลักของทริปนี้คือภูเขาไฟโบรโม่ค่ะ จขกท.ชอบภูเขาเป็นชีวิตเลยค่ะ เห็นภูเขาเป็นไม่ได้ คันยิบ ยิบ เหมือนโดนแยงหมามุ่ย
สำหรับ จขกท.เอง ชอบเที่ยวกับเพื่อนๆ เป็นหมู่คณะ บางคณะ ก็เป็นโขลง บางคณะก็เป็นฝูง ( แล้วแต่สรรพคุณของสมาชิก ว่ามีความเปตรมากแค่ไหน )
** ต้องขอบอกก่อนว่าสำหรับเราและเพื่อน คำว่าเปตรถือว่าเป็นคำสุภาพนะคะ เทียบได้กับคำว่าเธอ ฉัน ผม เขา คุณ เดี๋ยวจะตกใจกันนะคะ
จขกท.ให้ความสำคัญเรื่องของการไปกับใคร มากกว่าการไปที่ไหน ดังนั้นเพื่อนร่วมทางจึงสำคัญมากในการเดินทาง ( เพื่อนไม่รู้ใจกัน สถานที่ดียังไง มันก็ไม่สนุก แต่เพื่อนที่รู้ใจกันแม้สถานที่จะเป็นยังไง ก็สนุกแน่นอน ว่าป่ะ)
ทริปอินโดรอบนี้ถือได้ว่าเป็นการรวมตัวของคนเปตร และเปตร ติดอันดับคนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ จขกท เกิดมา เราจึงใช้ชื่อทริปนี้ว่า หมา หมา ตะลุยโลก ( ยืมคำจากพี่ชายคนหนึ่งมาค่ะ ฟังแล้วมันใช่จีจี)
( มิได้จะล้อเลียนน้องหมอหมอ นะคะ เราให้น้องหมอๆเป็นตัวแทนจากสวรรค์ ส่วนพวกเราเป็นตัวแทนมาจาก
นรก ๕๕๕ )
ทีมงานหมาๆ เราจะวางทริปคล่าวๆเท่านั้น โดยกำหนดจุดหมายว่าเราจะไปไหนบ้าง ดูเส้นทางให้พอรู้ว่าจากไหนไปไหน ที่เที่ยวสำคัญมีอะไรบ้าง ที่เหลือไปหาเอา โดยในรอบนี้ตั้งใจเอาไว้ แค่สองที่หลักๆ ( ไม่จองที่พักเพราะชอบเปลี่ยนใจ และก็เปลี่ยนใจทุกครั้งจริงๆ)
1) Kawah Ijen เพื่อชม blue frame
2)Bromo MT
อยากไปแค่นี้ จีจี แต่กฎมีไว้แหก แพลนก็มีไว้เปลี่ยน สุดท้าย เราก็ตัดสินไปเปลี่ยนแผนไป Borobudur เพิ่มด้วยเพราะลมปากของชาวอินโดนีเซีย ที่เจอกันที่สนามบินสุราบายา ใจง่ายชิป้ะ
เสียดาย Air-Asia ยกเลิกเที่ยวบินไปสุราบายา ไม่งั้นจะมีทริปบินตรงไปลงสุราบายา ( ตอนนี้ไม่มีไฟล์บินตรงแล้วค่ะ) เลยตัดใจจอง Garuda Indonesia สายการบินของอินโดนีเซีย โดยต้องบินทั้งหมด 4 fight
Fight 1 BKK ( Suvarnabhumi) – Jakarta
Fight2 Jakarta – Surabaya
Fight 3 Surabaya – Jakarta
Fight 4 Jakarta - BKK ( Suvarnabhumi)
(ขาไปรอต่อเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง / ขากลับรอต่อเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมง ถือว่าไม่นานค่ะเมื่อเทียบกับสายการบินอื่นๆ อันนี้เวลาดีสุด ณ ตอนนั้น)
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมภูเขาไฟโบรโม่ คือ กค. – กย. ค่ะ ฟ้าจะใสสุด แต่ทีมงานไม่สะดวกช่วงนั้น เลยมาสรุปกันในวันที่ 22 -27 ตุลาคมค่ะ ไปช่วงนี้ก็สวยมากค่ะ
ก่อนจะเริ่มเดินทางมาทำความรู้จักเกี่ยวกับอินโดนีเซีย ในเรื่องที่จำเป็นสำหรับการเดินทางค่ะ
ประชากร : ประมาณ 220 ล้านคน ประกอบด้วย ชนพื้นเมืองหลากหลายกลุ่ม ซึ่งพูดภาษาต่างกันกว่า 583 ภาษา ร้อยละ 61 อาศัยอยู่บนเกาะชวา
( แต่ชาวอินโดสื่อสารภาษาอังกฤษกันได้ดีเลยแหละ ดีกว่าพวกคนใต้ บอกเลอะ)
ภาษา : ภาษาราชการและภาษาประจำชาติ ได้แก่ ภาษาอินโดนีเซีย หรือ Bahasa Indonesia
ศาสนา : ชาวอินโดนีเซียร้อยละ 87 นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 6 นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ ร้อยละ 3.5 นับถือศาสนาคริสต์นิกายแคทอลิก ร้อยละ 1.8 นับถือศาสนาฮินดู และร้อยละ 1.3 นับถือ ศาสนาพุทธ 4
(อย่าพิเรนไปสั่งคอหมูย่างที่โน่นนะคะ อาจโดนย่างเป็นหมูก็ได้ จะหาว่าป้าไม่เตือน ให้เกียตริเค้าบ้างอะไรบ้าง)
สกุลเงิน : รูเปียห์ (Rupiah : IDR) อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ (ซื้อ) 2.83 บาท / 1,000 ณ วันที่เราแลก ได้เรทประมาณนี้นะคะ
ไปเที่ยวรอบนี้ถือว่ารวยมากบอกเลอะ มีเงินเป็นสิบล้านนน ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่า ขอให้เรียกเราว่าเจ้ ( รวยอย่างแรงนิพี่น้องเห้อ รวยไม่ปันเพื่อน แต่ในรูปนี่คือเบี้ยเพื่อนเพ)
- อินโดนีเซียใช้เต้าเสียบแบบ 2 หัวกลม ไม่เหมือนบ้านเรา ดังนั้นต้องเตรียม universal plug ไปด้วยนะคะ ( พวกเธอต้องชาร์ตแบตกล้องถ่ายรูป, power bank, โทรศัพย์มือถือ ถ้าไม่ได้ชาร์ตพวกเธอจะลงแดงเอาได้ง่ายๆนะ และอย่าลืมปลั๊กสามตาสำคัญมากจีจี ขอให้ยัดใส่กระเป๋าไปโดยด่วน)
รู้จักอินโดนีเซียกันพอกุบกิบแล้ว มาเริ่มกันเลย ( ไม่ต้องรู้มาก รู้พอทำเนา ไปเจอเองดีกว่า) ไปลุยกันเลย
เริ่มต้นด้วยสุวรรณภูมิ เคาเตอร์เชคอินของ Garuda Indonesia อยู่ประมาณแถว G ค่ะ
เจ้าหน้าที่น่ารักค่ะ ให้คำแนะนำพม่าเข้าเมืองอย่างพวกเราได้ดี เช็คอินให้พวกเราทั้งสองไฟล์เลย
แต่เรามีปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับไม้ปีนเขา จำเป็นต้องยัดเข้าไปในกระเป๋าให้เรียบร้อย เลยปฎิบัติการกันด้านหน้าเคาเตอร์เลยค่ะ
จับยัดรวมกัน ( เค้าให้โหลดกระเป๋าได้ 30 กก./คน แน่ะ ดี๊ดี)
เช็คอินพร้อมแล้วก็ลุยย ก่อนมาเพื่อนๆก็ถามกลัวว่าเรื่องบินจะตกไหม ฟังดูชื่อมันอินโด๊ อินโด จีจี อ่านเจอข่าวเครื่องตกรันเวย์ด้วยจ้า
แต่พอขึ้นเครื่องไป เฮ้ยมันโอเคเลย น้องๆ บางกอกแอร์เวย์เลย ยืดขาได้ แต่ จขกท.ไม่ติดปัญหาเรื่องขาค่ะ เพราะว่าสัดส่วนมาตรฐานหญิงไทยจ้าา
เตี้ย ล่ำ สัดส่วนเป็นวงรี นมแฟ่บ พุงป่อง
ภาพบรรยากาศในเครื่องค่ะ เพลงอินโดเพราะมากนะจ้ะ ทำนองติดหูมาห
เราเริ่มเดินทางกันด้วยแสงสุดท้ายของสุวรรณภูมิ ไปแป๊ปเดียวเดี๋ยวมา ( แอบถ่ายจากหน้าต่างชาวบ้าน ได้รูมานิดเดียว เห็นอาทิตย์แว๊บๆ)
ไฟล์ BKK-Jakarta มีเสิฟอาหารด้วยน๊าาา จุดสนใจไม่ได้อยู่ที่อาหารอย่างใด แต่เป็นเบียร์ประจำชาตินี่แหละ
ยียวนชวนให้ลอง ไม่ได้อยากจะกินเล้ยยยยยยยยย สาบานให้ถูกหวยเลยอะ
บินนานกว่านี้ก็ไหว เพราะเสริฟเบียร์ตลอดไฟล์ กินเบียร์ไปดูหนังตะลุงไป #ดีออก
( พักไว้ก่อน พรุ่งนี้มาเขียนต่อนะคะ ยังไม่ได้เริ่มเรื่องความเพี้ยนๆของทีมงาน หมาหมา เลยค่ะ รอติดตามนะคะ)
[CR] หมาหมา ตะลุยโลก : คนปักษ์ใต้ เปรี้ยว เยี่ยว เล็ด ณ อินโดนีเซีย
(ชื่อหมาๆ แต่ใจเป็ด ขอแทนภาพทีมงานด้วยเป็ดเหลืองนะคะ อันนี้จขกท.ชอบส่วนตัว ไม่ได้ถามเพื่อนฝูง)
จขกท.เป็นแฟนคลับของ หมอๆตะลุยโลกค่ะ ชอบ ประทับใจ ปลิ้มปลิ่ม รัญจวนจิตกับน้องๆหมอๆ ม๊ากมาก ที่ได้เดินทางท่องโลกได้กว้างขวางขนาดนั้น
จขกท.เอง ติดตามผลงานของน้องปั้น #ThewalkingBackpacker น้องมิ้น #Iromealone แต่โอกาสแบบนั้นมันไม่ได้มีมาสำหรับทุกคน
แล้วไง?? เราจะหยุดอยู่กับที่ ไม่เดินไปไหนเลย เหี่ยวตายอยู่กับการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ? สำหรับเรามันไม่ใช่จีจี
มาสร้างโอกาสให้ตัวเองกันค่ะ
มีทั้งหมด 5 ตอนนะคะ ( จะทะยอยเขียนค่ะ)
ตอน 1 การเดินทาง/ Blawan Waterfall / Hot spring http://ppantip.com/topic/32802094
ตอน 2 Kawah- Ijen http://ppantip.com/topic/32863334
ตอน 3 Bormo MT http://ppantip.com/topic/32864397
ตอน 4 Prambanan temple & Borobudur temple
ตอน 5 สรุปค่าใช้จ่าย และ สรุปรายละเอียด
( กระทู้นี้ไม่มีการเซนเซอร์หน้าใดๆทั้งสิ้น เพราะพวกเรามั่นหน้ามาก )
หน้าที่ความรับผิดชอบเราก็ต้องทำ แต่อย่าปิดกั้นโอกาสการเดินทางท่องโลกของตัวเอง จขกท. เป็นลูกชาวสวนยางแถวปักษ์ใต้ ใน จ.พัทลุง ถือเป็นจังหวัดเล็กๆที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ไม่ค่อยมีคนรู้จักขนาดที่มีคนมาถามว่าพัทลุงอยู่ในประเทศไทยหรือเปล่า ( จะตลกก็ตลก จะเงิบก็เงิบ)
จขกท. ก็เติบโตมา จากเด็กบ้านนอกในจ.พัทลุง มาเป็นพนักงานออฟฟิตกินเงินเดือน ณ บางกอก ที่โดนเงินเดือนกินทุกเดือน เพื่อนๆชอบล้อกันบ่อยๆ สมัยเรียนว่าพ่อแม่กรีดยางส่งควายเรียน เรียนจบมาก็ ทำงานรับเงินเดือน ชักหน้าไม่ถึงหลังมาตลอด ( คนมันฮ๊อตก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ ไม่ฮ๊อตทำไม่ได้จีจี )
แต่จขกท. ไม่เคยขาดเรื่องการท่องเที่ยวและเดินทางหาสิ่งใหม่ๆเลย โอกาสเรามีไม่เท่ากัน ก็สร้างโอกาสของตัวเองมาสิวะ
เราก็เที่ยวในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ต้องไปนาน มาก ไกลมาก ค่อยๆก้าวเดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเราก็เก็บครบ
เกริ่นมายาวแล้วขอเข้าเรื่องอินโดนีเซีย ทริปล่าสุดเลยค่ะ ( ทริปอื่นไว้มีเวลาจะมาเล่าให้ฟังนะคะ)
เป้าหมายหลักของทริปนี้คือภูเขาไฟโบรโม่ค่ะ จขกท.ชอบภูเขาเป็นชีวิตเลยค่ะ เห็นภูเขาเป็นไม่ได้ คันยิบ ยิบ เหมือนโดนแยงหมามุ่ย
สำหรับ จขกท.เอง ชอบเที่ยวกับเพื่อนๆ เป็นหมู่คณะ บางคณะ ก็เป็นโขลง บางคณะก็เป็นฝูง ( แล้วแต่สรรพคุณของสมาชิก ว่ามีความเปตรมากแค่ไหน )
** ต้องขอบอกก่อนว่าสำหรับเราและเพื่อน คำว่าเปตรถือว่าเป็นคำสุภาพนะคะ เทียบได้กับคำว่าเธอ ฉัน ผม เขา คุณ เดี๋ยวจะตกใจกันนะคะ
จขกท.ให้ความสำคัญเรื่องของการไปกับใคร มากกว่าการไปที่ไหน ดังนั้นเพื่อนร่วมทางจึงสำคัญมากในการเดินทาง ( เพื่อนไม่รู้ใจกัน สถานที่ดียังไง มันก็ไม่สนุก แต่เพื่อนที่รู้ใจกันแม้สถานที่จะเป็นยังไง ก็สนุกแน่นอน ว่าป่ะ)
ทริปอินโดรอบนี้ถือได้ว่าเป็นการรวมตัวของคนเปตร และเปตร ติดอันดับคนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ จขกท เกิดมา เราจึงใช้ชื่อทริปนี้ว่า หมา หมา ตะลุยโลก ( ยืมคำจากพี่ชายคนหนึ่งมาค่ะ ฟังแล้วมันใช่จีจี)
( มิได้จะล้อเลียนน้องหมอหมอ นะคะ เราให้น้องหมอๆเป็นตัวแทนจากสวรรค์ ส่วนพวกเราเป็นตัวแทนมาจากนรก ๕๕๕ )
ทีมงานหมาๆ เราจะวางทริปคล่าวๆเท่านั้น โดยกำหนดจุดหมายว่าเราจะไปไหนบ้าง ดูเส้นทางให้พอรู้ว่าจากไหนไปไหน ที่เที่ยวสำคัญมีอะไรบ้าง ที่เหลือไปหาเอา โดยในรอบนี้ตั้งใจเอาไว้ แค่สองที่หลักๆ ( ไม่จองที่พักเพราะชอบเปลี่ยนใจ และก็เปลี่ยนใจทุกครั้งจริงๆ)
1) Kawah Ijen เพื่อชม blue frame
2)Bromo MT
อยากไปแค่นี้ จีจี แต่กฎมีไว้แหก แพลนก็มีไว้เปลี่ยน สุดท้าย เราก็ตัดสินไปเปลี่ยนแผนไป Borobudur เพิ่มด้วยเพราะลมปากของชาวอินโดนีเซีย ที่เจอกันที่สนามบินสุราบายา ใจง่ายชิป้ะ
เสียดาย Air-Asia ยกเลิกเที่ยวบินไปสุราบายา ไม่งั้นจะมีทริปบินตรงไปลงสุราบายา ( ตอนนี้ไม่มีไฟล์บินตรงแล้วค่ะ) เลยตัดใจจอง Garuda Indonesia สายการบินของอินโดนีเซีย โดยต้องบินทั้งหมด 4 fight
Fight 1 BKK ( Suvarnabhumi) – Jakarta
Fight2 Jakarta – Surabaya
Fight 3 Surabaya – Jakarta
Fight 4 Jakarta - BKK ( Suvarnabhumi)
(ขาไปรอต่อเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง / ขากลับรอต่อเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมง ถือว่าไม่นานค่ะเมื่อเทียบกับสายการบินอื่นๆ อันนี้เวลาดีสุด ณ ตอนนั้น)
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมภูเขาไฟโบรโม่ คือ กค. – กย. ค่ะ ฟ้าจะใสสุด แต่ทีมงานไม่สะดวกช่วงนั้น เลยมาสรุปกันในวันที่ 22 -27 ตุลาคมค่ะ ไปช่วงนี้ก็สวยมากค่ะ
ก่อนจะเริ่มเดินทางมาทำความรู้จักเกี่ยวกับอินโดนีเซีย ในเรื่องที่จำเป็นสำหรับการเดินทางค่ะ
ประชากร : ประมาณ 220 ล้านคน ประกอบด้วย ชนพื้นเมืองหลากหลายกลุ่ม ซึ่งพูดภาษาต่างกันกว่า 583 ภาษา ร้อยละ 61 อาศัยอยู่บนเกาะชวา ( แต่ชาวอินโดสื่อสารภาษาอังกฤษกันได้ดีเลยแหละ ดีกว่าพวกคนใต้ บอกเลอะ)
ภาษา : ภาษาราชการและภาษาประจำชาติ ได้แก่ ภาษาอินโดนีเซีย หรือ Bahasa Indonesia
ศาสนา : ชาวอินโดนีเซียร้อยละ 87 นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 6 นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ ร้อยละ 3.5 นับถือศาสนาคริสต์นิกายแคทอลิก ร้อยละ 1.8 นับถือศาสนาฮินดู และร้อยละ 1.3 นับถือ ศาสนาพุทธ 4 (อย่าพิเรนไปสั่งคอหมูย่างที่โน่นนะคะ อาจโดนย่างเป็นหมูก็ได้ จะหาว่าป้าไม่เตือน ให้เกียตริเค้าบ้างอะไรบ้าง)
สกุลเงิน : รูเปียห์ (Rupiah : IDR) อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ (ซื้อ) 2.83 บาท / 1,000 ณ วันที่เราแลก ได้เรทประมาณนี้นะคะ
ไปเที่ยวรอบนี้ถือว่ารวยมากบอกเลอะ มีเงินเป็นสิบล้านนน ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่า ขอให้เรียกเราว่าเจ้ ( รวยอย่างแรงนิพี่น้องเห้อ รวยไม่ปันเพื่อน แต่ในรูปนี่คือเบี้ยเพื่อนเพ)
- อินโดนีเซียใช้เต้าเสียบแบบ 2 หัวกลม ไม่เหมือนบ้านเรา ดังนั้นต้องเตรียม universal plug ไปด้วยนะคะ ( พวกเธอต้องชาร์ตแบตกล้องถ่ายรูป, power bank, โทรศัพย์มือถือ ถ้าไม่ได้ชาร์ตพวกเธอจะลงแดงเอาได้ง่ายๆนะ และอย่าลืมปลั๊กสามตาสำคัญมากจีจี ขอให้ยัดใส่กระเป๋าไปโดยด่วน)
รู้จักอินโดนีเซียกันพอกุบกิบแล้ว มาเริ่มกันเลย ( ไม่ต้องรู้มาก รู้พอทำเนา ไปเจอเองดีกว่า) ไปลุยกันเลย
เริ่มต้นด้วยสุวรรณภูมิ เคาเตอร์เชคอินของ Garuda Indonesia อยู่ประมาณแถว G ค่ะ
เจ้าหน้าที่น่ารักค่ะ ให้คำแนะนำพม่าเข้าเมืองอย่างพวกเราได้ดี เช็คอินให้พวกเราทั้งสองไฟล์เลย
แต่เรามีปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับไม้ปีนเขา จำเป็นต้องยัดเข้าไปในกระเป๋าให้เรียบร้อย เลยปฎิบัติการกันด้านหน้าเคาเตอร์เลยค่ะ
จับยัดรวมกัน ( เค้าให้โหลดกระเป๋าได้ 30 กก./คน แน่ะ ดี๊ดี)
เช็คอินพร้อมแล้วก็ลุยย ก่อนมาเพื่อนๆก็ถามกลัวว่าเรื่องบินจะตกไหม ฟังดูชื่อมันอินโด๊ อินโด จีจี อ่านเจอข่าวเครื่องตกรันเวย์ด้วยจ้า
แต่พอขึ้นเครื่องไป เฮ้ยมันโอเคเลย น้องๆ บางกอกแอร์เวย์เลย ยืดขาได้ แต่ จขกท.ไม่ติดปัญหาเรื่องขาค่ะ เพราะว่าสัดส่วนมาตรฐานหญิงไทยจ้าา
เตี้ย ล่ำ สัดส่วนเป็นวงรี นมแฟ่บ พุงป่อง
ภาพบรรยากาศในเครื่องค่ะ เพลงอินโดเพราะมากนะจ้ะ ทำนองติดหูมาห
เราเริ่มเดินทางกันด้วยแสงสุดท้ายของสุวรรณภูมิ ไปแป๊ปเดียวเดี๋ยวมา ( แอบถ่ายจากหน้าต่างชาวบ้าน ได้รูมานิดเดียว เห็นอาทิตย์แว๊บๆ)
ไฟล์ BKK-Jakarta มีเสิฟอาหารด้วยน๊าาา จุดสนใจไม่ได้อยู่ที่อาหารอย่างใด แต่เป็นเบียร์ประจำชาตินี่แหละ
ยียวนชวนให้ลอง ไม่ได้อยากจะกินเล้ยยยยยยยยย สาบานให้ถูกหวยเลยอะ
บินนานกว่านี้ก็ไหว เพราะเสริฟเบียร์ตลอดไฟล์ กินเบียร์ไปดูหนังตะลุงไป #ดีออก
( พักไว้ก่อน พรุ่งนี้มาเขียนต่อนะคะ ยังไม่ได้เริ่มเรื่องความเพี้ยนๆของทีมงาน หมาหมา เลยค่ะ รอติดตามนะคะ)