ก่อนอื่น
1.ผมเล่นผ่านมือถือ หาวิธีเซตเป็น Customer review ไม่ได้
2.ปรกติอ่านอย่างเดียว คราวนี้ขอมา รีวิวบ้าง
3.กำลังขึ้นเครื่องบิน ขอแปะชั่วคราวก่อน เดี๋ยวมาพิมพ์เพิ่ม
จริงๆแล้วผมเล่นพวก Wireless drive มาตั้งแต่สมัย Cloud FTP (2-3 ปีก่อน) แต่ยังไม่เห็นมีตัวไหนที่เจ๋งๆซักตัว แต่ตามนิสัยคนเล่น Gadget ก็เลยซื้อของพวกนี้มาเรื่อยๆ แต่ก็ขายเยอะเหมือนกัน
ตัว Sandisk นี้ อยู่ใน line SanDisk Connect™ ซึ่งมีผลิดภัณฑ์ 2 ตัวคือ Wireless Media Drive และ Wireless Flash Drive และน่าจะทำตลาดตั้งแต่ปลายปี 2013 และได้รางวัล Storage Visions ในงาน CES 2014
แต่ผ่านมาจะครบ 1 ปี ยังไม่เห็นขายในไทย
ตัวที่ผมตัดสินใจซื้อคือ Wireless Flash Drive เนื่องจากเหตุผลหลักๆ คือ "เล็กและเบา" ราคาอยู่ที่
16GB ราคา 84 SGD
32 GB ราคา 101 SGD
64 GB ราคา 194 SGD
ผมซื้อตัว 32 GB มาครับ ราคา 101 SGD = 2550 บาทไทย
เมื่อแกะกล่อง มีของอยู่แค่นี้ครับ กล่อง + คู่มือเล่มสีแดง + ตัว Flash drive
ลองเทียบกับขนาดเหรียญ 5 บาทเล็ก (ว่าแต่ตอนนี้เหรียญ 5 บาทใหญ่ หายไปไหนหว่า)
ขนาด Dimensions: 2.79 x 0.84 x 0.45 in. (mm x mm x mm)
หนัก ประมาณ 30 กรัม
ขาเชื่อมต่อเป็น USB 2.0 ครับ แหม เสียดายน่าจะเป็น USB 3.0 ไปเลยนะ สมัยนี้
ปล เราสามารถชาร์จไฟผ่านช่องทางนี้ได้เลยครับ เพราะในตัว Wireless Flash Drive มีแบตเตอรี่อยู่ ใน spec ไม่บอกว่ามีความจุเท่าไหร่ แต่ระบุว่าใช้งานได้ 4 ชั่วโมงครับ
หลังจากซื้อผมก็พึ่งรู้มาว่า ความจุ 32GB นั้นมันอยู่ที่ micro SD card ทำให้ผมรู้สึกว่าเสียดายมาก
รู้งี้ผมซื้อรุ่น 16 GB มาก็ดี ราคาถูกกว่ากันประมาณ 500 บาท แล้วหา micro SD card เพิ่มแทน
หมายเหตุ รองรับได้สูงสุด 64 GB ครับ
ปุ่มให้กดมีเพียงปุ่มเดียวครับ กดค้างประมาณ 3 วินาที ไฟจะกระพริบ 2 สี จะเป็นการเปิดครับ เวลาปิดก็กดค้างเช่นเดียวกันจนไฟกระพริบทั้งสองดวง
โดยปรกติแล้ว ไฟสีแดง - เป็นการชาร์จไฟ
ไฟสีน้ำเงิน - การทำงานของ Wifi
เปิดใช้งาน โดยครั้งแรกน่าจะเป็นชื่อ Wireless sandisk flash และ รหัสสินค้า มั้งครับ (ผมตั้งเป็นอันอื่นไปแล้ว)
ก่อนใช้ต้องลงโปรแกรมชื่อ Sandisk wireless flash ก่อน ซึ่งมีทั้งของ iOS , Android และ Amazon store ครับ
เมื่อเข้ามาจะเจอหน้านี้ครับ บรรทัดแรกเป็น file ที่อยู่ในเครื่องเรา (กรณีเป็น iOS ก็คือ file ที่เก็บในโปรแกรมครับ)
บรรทัดที่สองถึงจะเป็น file ใน flash drive ครับ
ทางด้านล่างจะประกอบด้วยปุ่ม เปลี่ยน View mode , Download , Upload to flash drive และ Setting ตามลำดับครับ
ในเมนู Setting จะสามาถเปลี่ยนชื่อ SSID ของ Flash drive ได้ ตั้ง Password ได้ (จำไม่ได้แล้วว่า Security แบบไหน)
ในเมนู Directory จะมีมาให้แล้ว 3 Folder ครับ คือ Picture , Movie และ Document ครับ
ในหน้า upload เราจะเลือก upload รูปจาก Camera Roll (iOS) หรือ File ที่อยู่ในโปรแกรม Sandisk wireless flash
ใช้เวลา Upload / Download เฉลี่ยอยู่ที่ 1 MB/sec ครับ ซึ่งถือว่าช้า แต่ก็พอรับได้ครับ แต่หากต้องการ Back up รูป เราต้องเลือกทีละรูปครับ ไม่มีเมนูให้ Backup all picture ซึ่งหากมีเมนูนี้จะดีกับผมมาก เพราะผมใช้ iphone 16 GB มาตลอด
สรุป
ข้อดี
- เบา
- Setting ง่ายมาก
- ถอดเปลี่ยน Micro SD ได้
ข้อเสีย
- แพง เมื่อเทียบกับพวก Wireless flash drive แบบอื่น (แบบเชื่อมต่อ USB ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2500 -3000 บาท)
- ไม่มีเมนู Backup all
- USB 2.0 เอง
- ยังหาปุ่ม Reset ไม่เจอ
รีวิว "Wireless" flash drive ของ Sandisk ครับ !
1.ผมเล่นผ่านมือถือ หาวิธีเซตเป็น Customer review ไม่ได้
2.ปรกติอ่านอย่างเดียว คราวนี้ขอมา รีวิวบ้าง
3.กำลังขึ้นเครื่องบิน ขอแปะชั่วคราวก่อน เดี๋ยวมาพิมพ์เพิ่ม
จริงๆแล้วผมเล่นพวก Wireless drive มาตั้งแต่สมัย Cloud FTP (2-3 ปีก่อน) แต่ยังไม่เห็นมีตัวไหนที่เจ๋งๆซักตัว แต่ตามนิสัยคนเล่น Gadget ก็เลยซื้อของพวกนี้มาเรื่อยๆ แต่ก็ขายเยอะเหมือนกัน
ตัว Sandisk นี้ อยู่ใน line SanDisk Connect™ ซึ่งมีผลิดภัณฑ์ 2 ตัวคือ Wireless Media Drive และ Wireless Flash Drive และน่าจะทำตลาดตั้งแต่ปลายปี 2013 และได้รางวัล Storage Visions ในงาน CES 2014
แต่ผ่านมาจะครบ 1 ปี ยังไม่เห็นขายในไทย
ตัวที่ผมตัดสินใจซื้อคือ Wireless Flash Drive เนื่องจากเหตุผลหลักๆ คือ "เล็กและเบา" ราคาอยู่ที่
16GB ราคา 84 SGD
32 GB ราคา 101 SGD
64 GB ราคา 194 SGD
ผมซื้อตัว 32 GB มาครับ ราคา 101 SGD = 2550 บาทไทย
เมื่อแกะกล่อง มีของอยู่แค่นี้ครับ กล่อง + คู่มือเล่มสีแดง + ตัว Flash drive
ลองเทียบกับขนาดเหรียญ 5 บาทเล็ก (ว่าแต่ตอนนี้เหรียญ 5 บาทใหญ่ หายไปไหนหว่า)
ขนาด Dimensions: 2.79 x 0.84 x 0.45 in. (mm x mm x mm)
หนัก ประมาณ 30 กรัม
ขาเชื่อมต่อเป็น USB 2.0 ครับ แหม เสียดายน่าจะเป็น USB 3.0 ไปเลยนะ สมัยนี้
ปล เราสามารถชาร์จไฟผ่านช่องทางนี้ได้เลยครับ เพราะในตัว Wireless Flash Drive มีแบตเตอรี่อยู่ ใน spec ไม่บอกว่ามีความจุเท่าไหร่ แต่ระบุว่าใช้งานได้ 4 ชั่วโมงครับ
หลังจากซื้อผมก็พึ่งรู้มาว่า ความจุ 32GB นั้นมันอยู่ที่ micro SD card ทำให้ผมรู้สึกว่าเสียดายมาก
รู้งี้ผมซื้อรุ่น 16 GB มาก็ดี ราคาถูกกว่ากันประมาณ 500 บาท แล้วหา micro SD card เพิ่มแทน
หมายเหตุ รองรับได้สูงสุด 64 GB ครับ
ปุ่มให้กดมีเพียงปุ่มเดียวครับ กดค้างประมาณ 3 วินาที ไฟจะกระพริบ 2 สี จะเป็นการเปิดครับ เวลาปิดก็กดค้างเช่นเดียวกันจนไฟกระพริบทั้งสองดวง
โดยปรกติแล้ว ไฟสีแดง - เป็นการชาร์จไฟ
ไฟสีน้ำเงิน - การทำงานของ Wifi
เปิดใช้งาน โดยครั้งแรกน่าจะเป็นชื่อ Wireless sandisk flash และ รหัสสินค้า มั้งครับ (ผมตั้งเป็นอันอื่นไปแล้ว)
ก่อนใช้ต้องลงโปรแกรมชื่อ Sandisk wireless flash ก่อน ซึ่งมีทั้งของ iOS , Android และ Amazon store ครับ
เมื่อเข้ามาจะเจอหน้านี้ครับ บรรทัดแรกเป็น file ที่อยู่ในเครื่องเรา (กรณีเป็น iOS ก็คือ file ที่เก็บในโปรแกรมครับ)
บรรทัดที่สองถึงจะเป็น file ใน flash drive ครับ
ทางด้านล่างจะประกอบด้วยปุ่ม เปลี่ยน View mode , Download , Upload to flash drive และ Setting ตามลำดับครับ
ในเมนู Setting จะสามาถเปลี่ยนชื่อ SSID ของ Flash drive ได้ ตั้ง Password ได้ (จำไม่ได้แล้วว่า Security แบบไหน)
ในเมนู Directory จะมีมาให้แล้ว 3 Folder ครับ คือ Picture , Movie และ Document ครับ
ในหน้า upload เราจะเลือก upload รูปจาก Camera Roll (iOS) หรือ File ที่อยู่ในโปรแกรม Sandisk wireless flash
ใช้เวลา Upload / Download เฉลี่ยอยู่ที่ 1 MB/sec ครับ ซึ่งถือว่าช้า แต่ก็พอรับได้ครับ แต่หากต้องการ Back up รูป เราต้องเลือกทีละรูปครับ ไม่มีเมนูให้ Backup all picture ซึ่งหากมีเมนูนี้จะดีกับผมมาก เพราะผมใช้ iphone 16 GB มาตลอด
สรุป
ข้อดี
- เบา
- Setting ง่ายมาก
- ถอดเปลี่ยน Micro SD ได้
ข้อเสีย
- แพง เมื่อเทียบกับพวก Wireless flash drive แบบอื่น (แบบเชื่อมต่อ USB ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2500 -3000 บาท)
- ไม่มีเมนู Backup all
- USB 2.0 เอง
- ยังหาปุ่ม Reset ไม่เจอ