จริงๆ ก็ไม่ได้ยากเกินไปนะครับ

ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง คือ อยู่ต่างประเทศนานเท่าไร รายได้เพิ่มขึ้นจากเมืองไทยเท่าไร และประเทศที่เราอยู่มีค่าใช้จ่ายครองชีพขนาดไหน ภาษีท้องถิ่นที่ต้องเสียเป็นอย่างไร อีกส่วนหนึ่งก็คือ เงินที่จะเก็บเพื่อสร้างบ้านที่ต้องการคือเท่าไร

ในช่วงแรกๆ อาจจะยังศึกษาข้อมูลในประเทศใหม่ไปก่อนสักสองสามเดือน พอเริ่มคุ้นเคยและปรับตัวได้แล้วก็จะรู้ว่าเก็บเงินได้ประมาณกี่ % ของเงินเดือนที่ได้ เอาแบบไม่ต้องอยู่แบบประหยัดมากเกินไปแต่ก็ไม่ใช่ใช้เงินมือเติบ จากนั้นลองมาคำนวณคร่าวๆ ว่าเงินที่กะว่าจะเก็บนั้นพอกับที่จะสร้างบ้านไหม จากนั้นก็ใช้การลงทุนที่เหมาะเพื่อเพิ่มเงินให้มากขึ้น ให้จำนวนเงินเข้าเป้าหรือเกินเป้าหมาย

ประเด็นถัดไปคือเงินที่เก็บไว้จะเอาไปลงทุนที่ไหน ถ้าลงทุนเมืองนอก ก็อาจจะยากหน่อยเพราะเราไม่คุ้นเคยเท่าบ้านเรา แถมยังมีเรื่องภาษีจากกำไรเข้ามาเกี่ยวด้วย (ในไทยขายกองทุนหรือหุ้นไม่โดนเก็บภาษีกำไร แต่ประเทศอื่นๆ มีนะครับ)

หรือถ้าจะโอนเงินกลับมาเมืองไทยก็ทำได้ ไม่ยากเลย เพียงแต่ไปสมัคร Internet banking ของธนาคารที่เราใช้บริการ ถ้าจะทยอยโอนเงินกลับมาก็เข้าบัญชีในธนาคารเรา (เช็คเงินเข้าเมื่อไรและได้เท่าไรแบบ real-time ได้เลย) แล้วเอาเงินซื้อกองทุนทั้งหลายผ่านระบบของ บลจ. ทาง net

ที่ จขกท. สงสัยคือบริหารเงินอย่างไร ผมเห็นว่าเงินที่จะใช้สร้างบ้านไม่ใช่ "เงินเย็น" ซะทีเดียว เพราะต้องใช้ในอนาคต (ในระยะเวลาอีกกี่ปี ?) ถ้าเป็นผม ผมไม่ค่อยชอบไปใส่ในกองทุนหุ้น มันมีความเสี่ยงที่อาจจะได้ผลตอบแทนสูงขึ้นจริงแต่ก็เสี่ยงอีกเช่นกันที่จะขาดทุน ขึ้นกับ จขกท. รับความเสี่ยงได้ไหม ถ้าโชคดีหุ้นขึ้นมาก ก็บรรลุเป้าหมายเร็ว แต่ถ้าหุ้นตกขาดทุน เงินที่เราเก็บมาต้องขาดทุนไป เราโอเครึเปล่า

ถ้าเอาแบบสบายใจหน่อยก็เก็บไว้ในกองทุนตราสารหนี้ ผลตอบแทนปีละประมาณ 3-4% ความเสี่ยงในการขาดทุนก็มีแต่น้อยกว่ากองหุ้นมากครับ ถ้าเป็น บลจ. กรุงศรี ผมชอบและลงไว้ใน KFMTFI ครับ

แต่ถ้าเงินที่เป็นเป้าหมายอื่น เช่น เกษียณหรือเก็บเงินระยะยาวมากๆ ไว้ในกองหุ้นก็เหมาะแล้วครับ