เมื่อผมกำลังจะ
“ประสาทหลอน” เพราะเสพ “สื่อมืด-เรื่องร้าย” มากเกินไป?
.
.
.
อธิบายก่อนนะครับ..สื่อมืดในที่นี้ หมายถึงบันทึกทางประวัติศาสตร์ เรื่องเล่า ข่าวสารตามสื่อมวลชนต่างๆ ที่เกี่ยวกับพฤติกรรมอันโหดร้ายทารุณ และวิปริตที่มนุษย์ทำนะครับ
.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องของเรื่อง...ช่วงนี้ผมกำลังไล่หาการ์ตูนเก่าๆ ที่ฉายทาง Free TV หรือมีม้วนวีดีโอ ในยุค 1980’s-1990’s มาดูนะครับ ( อาการเหมือนคนแก่ที่สมัยเด็กๆ ไม่มีโอกาสได้ทำบางอย่าง พอโตขึ้นเลยมาทำเพื่อชดเชยความรู้สึกในวัยเด็ก ) เพราะสมัยเด็กๆ ได้ดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง
.
.
จริงๆ ขึ้นชื่อว่าการ์ตูนที่ฉายใน Free TV บ้านเราได้ ไม่ว่าเรื่องไหนความรุนแรงมันคงไม่เท่าไรแน่ๆ แต่เรื่องนี้ที่ทำให้ผมหลอนได้ เพราะวิธีการเล่าเรื่อง การใช้ดนตรีประกอบ ลำดับภาพ มันทำให้รู้สึกกดดัน อึดอัด และขยะแขยงสุดๆ ทั้งที่ไม่ได้เห็นภาพความรุนแรงตรงๆ เลย
.
“แกน่ะเคยเห็นหรือเปล่า? คนที่รู้ว่าพรุ่งนี้ต้องตาย แต่วันนี้ยังต้องเป็นของเล่นของคนอื่นอยู่”
.
“ชั้นไม่ไหวแล้ว จะนอนหลับก็ไม่ได้ เพราะพอหลับตา ภาพพวกนั้นก็จะปรากฏขึ้นทุกทีเลย ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว”
.
.
อันนี้เป็นบทของตัวละครนึงนะครับ เรื่องก็มีคือมันมีวีดีโอม้วนหนึ่ง ที่รวบรวมเรื่องเลวร้ายในระดับวิปริตที่คนทำกับคนด้วยกัน (ย้ำว่าในระดับ “วิปริต” นะครับ พวกโมโหแล้วชักมีดมาแทง ชักปืนมายิง หรือการรีบๆ ฆ่าให้ตายนี่ยังธรรมดาเกินไป) คนเขียนเขาบรรยายว่า..เป็นวีดีโอที่ไม่ควรริลองที่จะดูเด็ดขาด และถ้าเกิดไปได้ดู แค่เพียง 5 นาที ทัศนคติต่อโลกและมนุษย์ จะกลายเป็นแง่ร้ายทันที (ในเนื้อเรื่องบรรยายว่า ตัวละครที่เป็น Boss ของฝ่ายผู้ร้าย ชวนคนอื่นที่อยากให้มาเป็นพวกร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ด้วยการเอาวีดีโอนี้ไปให้ดู)
.
.
ปัญหาคือ..ไม่รู้ผมอายุมากขึ้น ( ปีนี้ 29 แล้ว ) บวกกับเสพ “เรื่องราวร้ายๆ” ทั้งในประวัติศาสตร์ และข่าวอาชญากรรมมากไปหรือเปล่า?
.
เพราะตอนเด็กๆ ดูการ์ตูนเรื่องนี้แล้วก็ปกติ สนุกกับการต่อสู้และเนื้อเรื่องไป
.
แต่วันนี้ผมกลับไปดูอีกรอบ..กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอึดอัดและหลอนๆ ที่กล่าวไปข้างต้น และทั้งที่ดูจบไปหลายวันแล้ว แต่ภาพและคำพูดของตัวละครที่ว่า มันยังติดอยู่ในหัวผมเลย ( แม้กระทั่งขณะเขียนกระทู้นี้ )
.
.
เรื่องของเรื่อง...ผมดันชอบอ่านเรื่องร้ายๆ ทั้งหลายนี่แหละครับ เวลามีกระทู้หรือหนังสือ หรือข่าวแนวนี้ ผมแทบไม่เคยพลาดเลย มาดูกันครับ..ในหัวผมมีภาพของอะไรแวบขึ้นมาบ้าง?
.
.
หมวดเรื่องโหดประเทศไกลๆ
.
- การล่าแม่มดในยุโรปเมื่อหลายร้อยปีก่อน ที่เต็มไปด้วยสารพัดเครื่องทรมาน
.
- การประมูลและใช้แรงงานทาสในทวีปอเมริกา หรือการไล่ฆ่าคนพื้นเมือง ที่มีวิธีการฆ่าแบบทารุณกรรมมากมาย
.
-กรณีนานกิง และ Unit 731 ที่ทหารญี่ปุ่นทำกับคนจีนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ( ว่ากันว่าที่คนเขียนหนังสือเรื่องนานกิง ถึงกับฆ่าตัวตายหลังเขียนจบ เพราะภาพหลอนๆ จากข้อมูลที่ตัวเองรวบรวมมาเขียน มันทำให้รู้สึกหดหู่จนรับไม่ได้ )
.
- กรณีคุกลับในเกาหลีเหนือ ที่โหดร้ายกันสุดๆ ชนิดที่ไม่น่าเชื่อว่าคนจะทำกับคนด้วยกันได้ขนาดนี้ ( มีหนังสือแปลไทยด้วยนะ เป็นคำบอกเล่าของอดีตนักโทษและอดีตผู้คุมที่เสี่ยงตายหนีออกจากประเทศ เพราะทนสภาพไม่ไหว )
.
- คดีหนึ่งในญี่ปุ่น ที่วัยรุ่นชาย 4 คน ลักพาตัวเด็กสาวที่รู้จักกัน ไปข่มขืนและทารุณกรรมจนตาย ( อันนี้เห็นมีฉบับการ์ตูนสั้นด้วยนะ ผมเผลอกดเข้าไปอ่าน ถึงกับอาเจียนและกินอะไรไม่ลงกันเลย คือมันวิปริตมากๆ )
.
- คดีที่คล้ายๆ กันกับญี่ปุ่น แต่เหตุเกิดที่ฮ่องกง ที่มีหญิงโสเภณี ถูกคนคุมซ่องและนายทุนเงินกู้ จับไปทารุณกรรมและฆ่าล้างหนี้ (เคยเห็นขึ้นกระทู้แนะนำในพันติ๊ปอยู่เมื่อไม่นานนี้ นี่ก็วิปริตสุดๆ )
.
- ล่าสุดที่ไต้หวัน ผัวแก่วัย 79 จับเมียวัยสาวไปทารุณกรรม ตัดริมฝีปาก ใบหู และเปลือกตา เพราะระแวงว่าเมียจะนอกใจ
.
.
หมวดความรุนแรงในประเทศเพื่อนบ้าน
.
- เรื่องราวการกดขี่และทารุณกรรมของทหารพม่ากับชนกลุ่มน้อยในยุคเผด็จการ ว่ากันว่ารัฐบาลเผด็จการตอนนั้นไฟเขียวให้ทหารพม่าข่มขืน ผญ ชนกลุ่มน้อยต่างๆ ได้ ( ส่วน ผช ถูกจับไปเป็นแรงงาน )
.
- เรื่องของคุกตวนสเลงในกัมพูชา สมัยเขมรแดงเคยมีการทารุณกรรมและฆ่าคนไปกว่าหมื่นศพที่นี่ ( ที่มันหดหู่ คือมันมีลวดหนามกั้นที่หน้าต่างและระเบียงชั้นบนๆ ไม่ใช่เอาไว้กันนักโทษหนี แต่เอาไว้กันนักโทษโดดลงมาฆ่าตัวตาย )
.
.
หมวดความโหดร้ายในประเทศไทยเราเอง
.
- คดีคืนบาปพรหมพิราม ผญ หลงทางเพียงคนเดียว เจอ ผช กว่า 30 คน ไล่ข่มขืน แล้วก็เอาร่างไปให้รถไฟทับจนตาย ( ขนาดทำเป็นหนังผมยังไม่กล้าดูเลย แค่อ่านจากตัวหนังสือก็หดหู่แล้วครับ )
.
- สารพัดเรื่องเล่าว่าด้วยการทารุณกรรมแรงงานข้ามชาติ จนบ้านเราติด tier 3 หรือถูกขึ้นบัญชีดำเรื่องปัญหาค้ามนุษย์ไปแล้ว ( ที่แย่คือเวลามีข่าวแรงงานพวกนี้ฆ่านายจ้าง หรือฆ่าคนไทยตาย คนไทยจำนวนมากมักจะเหมารวมหมดว่าแรงงานพวกนี้เลวร้าย ไล่มันกลับประเทศให้หมด ไม่เคยดูเป็นกรณีๆ ไปเลยว่าอะไรเป็นแรงจูงใจ คือแรงงานที่โลภมากก็มี แต่ที่โดนกดขี่จนทนไม่ไหวก็มีเหมือนกัน )
.
.
- เรื่องเล่าการค้าประเวณีในสมัยก่อน ที่คนทำซ่องจะไปหา ผญ จากชนบท ทั้งที่พ่อแม่ขายลูกสาว (ตกเขียว) ให้บ้าง หรือหลอกว่าจะพาไปทำงานบ้าง แน่นอนมันไม่ใช่ความสมัครใจเหมือนสมัยนี้ และถ้าไม่ยอมรับแขกก็จะถูกทารุณกรรม ( ร่องรอยความโหดร้ายนี้ ยังปรากฏที่ซ่องร้างแห่งหนึ่งที่มีนักล่าผีชอบไปลองของประจำ ) บางคนถูกทารุณจนตาย บางคนตายเพราะติดโรคก็มี
.
.
หมวดอื่นๆ ที่เรื่องไม่ถึงตายหรือสาหัส หรือเหยื่อไม่ใช่มนุษย์
.
- อันนี้ไม่มีใครตาย แต่มันหดหู่มาก คือเรื่องเล่าประเภทเจ้าหน้าที่รัฐนอกแถวบางคน ข่มขู่ผู้ต้องหาที่เป็น ผญ ทั้งหลบหนีเข้าเมืองบ้าง ค้าประเวณีบ้าง ยาเสพติดบ้าง ( หรือไม่ใช่ผู้ต้องหาโดยตรง แต่มีแฟนเป็น ผช ที่มีคดียาเสพติด ) ให้ร่วมประเวณี แลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี ( คือถ้าจับกุมแล้วทำไปตามขั้นตอนปกติก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ไม่ใช่ทำแบบนี้ ผมมองว่ามันวิปริตและหดหู่นะ )
.
- ล่าสุด อันนี้ไม่เกี่ยวกับคน แต่เกี่ยวกับสั.ตว์ กรณีมีข่าวว่ามีกลุ่มคนที่มีรสนิยมชอบร่วมประเวณีกับสัตว์ มีการพูดคุยและเผยแพร่ภาพ รวมกลุ่มกันแลกเปลี่ยน ประสบการณ์การร่วมประเวณีกับสั.ตว์ แต่ปัญหาคือเป็นการทารุณกรรมแน่ๆ เพราะสั.ตว์คงไม่ยินยอมทุกตัว ( เคยอ่านที่เพจคนรักสั.ตว์คุยกัน เขากังวลว่าไม่รู้พอใช้สั.ตว์ร่วมประเวณีเสร็จ จะเอามันไปทำอะไรต่อ? ฆ่าทิ้ง? ปล่อยทิ้ง? )
.
- อันนี้ไม่ใช่เรื่องทารุณกรรม แต่ผมเคยไปพบกลุ่มที่มีรสนิยมทางเพศที่ไม่ปกติแน่ๆ เช่น คือกลุ่มคน
“นิยมมี Sex กับแฟนคนอื่น” คนพวกนี้คุยกัน แลกเปลี่ยนกันว่าไปจีบแฟนคนอื่นนานไหมกว่าจะได้มีอะไรด้วย แล้วก็ใช้ภาษาบรรยายกันแบบสุดๆ มาก ( กลุ่มนี้เจอแต่ ผช เท่านั้น ) , เช่นเดียวกัน ผมก็ไปเจอกลุ่มคนที่นิยม
“แฟนเผลอแล้วเจอกัน” หรือพวกที่มองว่าการเล่นชู้ไม่ผิด การมีผัวมีเมียแล้วยังไปนอนกับคนอื่นไม่เห็นเป็นไร ( อันนี้มีทั้ง ผช และ ผญ และมีทุกอายุ แถมส่วนมากหน้าที่การงานดีเสียด้วย ) ที่ผมบอกว่าหดหู่ เพราะนี่เป็นเรื่องของการนอกใจ ซึ่งเป็นการหลอกลวงกัน
.
.
.
--------------------------------------
.
ประมาณนี้แหละครับ
.
แต่อาการผมหนักมากกว่านั้น..อย่างเวลาผมไปกินข้าว สั่งอาหารที่มีเนื้อสั.ตว์มา รู้สึกว่ากินได้ไม่เต็มที่เท่าเมื่อก่อน เพราะเวลามองเนื้อหมูที เนื้อไก่ที ภาพที่ตามมา คือภาพแนวจิกกัดเสียดสีสังคม เรื่องของเรื่องก็คือ มีการแชร์ภาพๆ หนึ่ง เป็นภาพคน มือหนึ่งโอบกอดสุนัขและแมวด้วยความรัก แต่อีกมือหนึ่งถือมีดฆ่าหมูฆ่าไก่มากิน ซึ่งภาพดังกล่าวต้องการจะสื่อว่า
“เพราะหมูกับไก่มันไม่น่ารักสินะ? เลยไม่มีใครปกป้องมันเหมือนหมากับแมว” ( ที่มาของภาพนี้ เขาต้องการจิกกัดพวกที่เรียกหากฎหมายคุ้มครองสัตว์ และโวยวายเมื่อเห็นสุนัขกับแมวถูกทำร้าย แต่กลับยังกินหมู ไก่ วัว กันอยู่)
.
หรือช่วงกินเจทุกปี..พวกที่ชอบจิกกัดคนที่กินเจ ก็จะเอาคำที่เสียดสีเทศกาลนี้ ทำนองว่า
“หนึ่งชีวิตกินเจ หมื่นชีวิตรอดตาย..แต่ตรุษจีนทีไร ตายกันแทบสูญพันธุ์ทุกที” มาล้อเลียนเสมอ หรือหลายปีก่อน เห็นในพันติ๊ปมีมาม่าเรื่องกินเจ พวกที่มีความคิดแปลกๆ ก็จะตั้งคำถามกับพวกที่กินเจว่า
“รู้ได้ไงว่าพืชไม่มีความรู้สึก? หรือเพราะแค่มันร้องไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้เหมือนสัตว์แค่นั้น” อะไรประมาณนี้แหละครับ
.
.
ที่ผมหลอน...เพราะเคยอ่านกระทู้ที่ถกเถียงกันเรื่องปรัชญาว่าด้วยชีวิตมนุษย์ หลายต่อหลายครั้งมักมีคนตอบประมาณว่า
“มนุษย์แ-งก็หาข้ออ้างเข้าข้างตัวเองได้ทั้งนั้นแหละ” ผมอ่านแล้วก็คิดว่า..เออ ก็คงจริงของเขามั้งครับ อย่างเรื่องทารุณสั.ตว์ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า
“หมู-วัว-ไก่-ปลา” มันผิดกว่าหมาหรือแมวจริงๆ ที่เกิดมาไม่สวย ไม่น่ารัก เลยไม่มีใครไปปกป้องมัน หรือมนุษย์เคยชิน มองว่ามันก็อร่อยดี ก็เลยอยากกินมัน
.
จะบอกว่า..บางทีกินข้าวไม่ค่อยลงอะครับ คือกินได้แหละ แต่ไม่รู้สึกสบายใจเหมือนเมื่อก่อน ตรงกันข้ามกลับรู้สึกเกลียดตัวเองอีกต่างหาก ( มองว่าตัวเองก็เป็นมนุษย์ แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งของวงจรแย่ๆ นี้ด้วย )
.
.
---------------------------
.
อาการผมหนักไหมละครับ? ที่เล่ามานี้เรื่องจริง ( ใครไม่เชื่อก็แล้วแต่ ไม่บังคับ ) และไม่ได้โทษการ์ตูน หรือหนังสือประวัติศาสตร์ หรือสื่อมวลชนที่เสนอข่าวหรอกครับ เพียงแต่ผมไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมถึงอาการหนักได้ขนาดนี้?
.
ย้ำว่าผมยังทำงาน ยังเรียนหนังสือ ยังทำโน่นทำนี่ได้ตามปกตินะครับ แต่อาการจะเริ่มมา เมื่อผมอยู่เงียบๆ ว่างๆ คนเดียว ภาพจากเรื่องราวโหดร้ายและวิปริตพวกนี้ ก็จะแวบเข้ามาในหัวผมทันที ตามมาด้วยความรู้สึกหดหู่และอึดอัด บางครั้งถึงกับปวดหัวและอยากอาเจียน ตามมาด้วยการมองตัวเองและโลกในเง่ร้าย
.
ยอมรับว่าข่าว หรือเรื่องราวพวกนี้ มันเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างให้ผมอยากเข้าไปอ่าน เข้าไปรับรู้จริงๆ นะ ทั้งๆ ที่อ่านแล้ว รู้แล้วจะมีอาการหลอนๆ เช่นนี้ ) จะให้เลิกเสพสื่อมืดพวกนี้เลยก็คงไม่ได้ ( เมื่อก่อนก็ไม่เป็นมากขนาดนี้ เพิ่งไม่นานนี้แหละ อยู่ดีๆ เรื่องพวกนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวพร้อมๆ กันทั้งหมดเลย ที่ลืมๆ ไปแล้วก็กลับจำได้ จนหลอนและปวดหัวอยู่นี่แหละครับ )
.
ขนาดผมมองว่า ความรุนแรงจนถึงขั้นฆ่ากันตายเป็นเรื่องปกตินะครับ แต่การทารุณกรรมและฆ่าแบบโหดร้ายนี้ นึกตามที่เขาบรรยายมาทีไร รู้สึกทรมานไปด้วยทุกที
.
และผมยังรู้ตัวด้วยนะครับว่ากำลังเหมารวมว่าคนมีแต่เรื่องร้ายๆ แต่ทั้งๆ ที่ผมก็เสพทั้งเรื่องราวด้านมืดและด้านสว่าง ( พวกข่าวคนที่เข้าไปสู้กับโจรที่กระชากกระเป๋าเหยื่อ หรือคนที่เก็บเงินมากๆ ได้แล้วนำไปคืนเจ้าของ หรือคนที่ลงไปพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในพื้นที่นั้นๆ ) แต่ความคิดผมมันก็ยังจดจ่อกับด้านมืดของมนุษย์ โดยเฉพาะพวกความวิปริตต่างๆ ที่ว่ามามากกว่าอยู่ดี
.
อยากถามทุกท่านที่ได้อ่านเรื่องราวโหดร้ายพวกนี้บ่อยๆ หรือคนที่เจอเพจที่จิกกัดสังคม ออกแนวขวางโลก ซึ่งก็มีภาพและข้อความให้ชวนคิดเหมือนกัน...ท่านมีวิธีรับมือยังไงครับ?
.
ปล.สงสัยผมได้เป็นบ้าก่อนตายแน่ๆ
เวลาอ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ หรือข่าวที่ "โหดร้าย-หดหู่" หรือคำพูดที่ชวนสับสน ท่านรับมือยังไงครับ?
.
.
.
อธิบายก่อนนะครับ..สื่อมืดในที่นี้ หมายถึงบันทึกทางประวัติศาสตร์ เรื่องเล่า ข่าวสารตามสื่อมวลชนต่างๆ ที่เกี่ยวกับพฤติกรรมอันโหดร้ายทารุณ และวิปริตที่มนุษย์ทำนะครับ
.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
.
.
เรื่องของเรื่อง...ผมดันชอบอ่านเรื่องร้ายๆ ทั้งหลายนี่แหละครับ เวลามีกระทู้หรือหนังสือ หรือข่าวแนวนี้ ผมแทบไม่เคยพลาดเลย มาดูกันครับ..ในหัวผมมีภาพของอะไรแวบขึ้นมาบ้าง?
.
.
หมวดเรื่องโหดประเทศไกลๆ
.
- การล่าแม่มดในยุโรปเมื่อหลายร้อยปีก่อน ที่เต็มไปด้วยสารพัดเครื่องทรมาน
.
- การประมูลและใช้แรงงานทาสในทวีปอเมริกา หรือการไล่ฆ่าคนพื้นเมือง ที่มีวิธีการฆ่าแบบทารุณกรรมมากมาย
.
-กรณีนานกิง และ Unit 731 ที่ทหารญี่ปุ่นทำกับคนจีนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ( ว่ากันว่าที่คนเขียนหนังสือเรื่องนานกิง ถึงกับฆ่าตัวตายหลังเขียนจบ เพราะภาพหลอนๆ จากข้อมูลที่ตัวเองรวบรวมมาเขียน มันทำให้รู้สึกหดหู่จนรับไม่ได้ )
.
- กรณีคุกลับในเกาหลีเหนือ ที่โหดร้ายกันสุดๆ ชนิดที่ไม่น่าเชื่อว่าคนจะทำกับคนด้วยกันได้ขนาดนี้ ( มีหนังสือแปลไทยด้วยนะ เป็นคำบอกเล่าของอดีตนักโทษและอดีตผู้คุมที่เสี่ยงตายหนีออกจากประเทศ เพราะทนสภาพไม่ไหว )
.
- คดีหนึ่งในญี่ปุ่น ที่วัยรุ่นชาย 4 คน ลักพาตัวเด็กสาวที่รู้จักกัน ไปข่มขืนและทารุณกรรมจนตาย ( อันนี้เห็นมีฉบับการ์ตูนสั้นด้วยนะ ผมเผลอกดเข้าไปอ่าน ถึงกับอาเจียนและกินอะไรไม่ลงกันเลย คือมันวิปริตมากๆ )
.
- คดีที่คล้ายๆ กันกับญี่ปุ่น แต่เหตุเกิดที่ฮ่องกง ที่มีหญิงโสเภณี ถูกคนคุมซ่องและนายทุนเงินกู้ จับไปทารุณกรรมและฆ่าล้างหนี้ (เคยเห็นขึ้นกระทู้แนะนำในพันติ๊ปอยู่เมื่อไม่นานนี้ นี่ก็วิปริตสุดๆ )
.
- ล่าสุดที่ไต้หวัน ผัวแก่วัย 79 จับเมียวัยสาวไปทารุณกรรม ตัดริมฝีปาก ใบหู และเปลือกตา เพราะระแวงว่าเมียจะนอกใจ
.
.
หมวดความรุนแรงในประเทศเพื่อนบ้าน
.
- เรื่องราวการกดขี่และทารุณกรรมของทหารพม่ากับชนกลุ่มน้อยในยุคเผด็จการ ว่ากันว่ารัฐบาลเผด็จการตอนนั้นไฟเขียวให้ทหารพม่าข่มขืน ผญ ชนกลุ่มน้อยต่างๆ ได้ ( ส่วน ผช ถูกจับไปเป็นแรงงาน )
.
- เรื่องของคุกตวนสเลงในกัมพูชา สมัยเขมรแดงเคยมีการทารุณกรรมและฆ่าคนไปกว่าหมื่นศพที่นี่ ( ที่มันหดหู่ คือมันมีลวดหนามกั้นที่หน้าต่างและระเบียงชั้นบนๆ ไม่ใช่เอาไว้กันนักโทษหนี แต่เอาไว้กันนักโทษโดดลงมาฆ่าตัวตาย )
.
.
หมวดความโหดร้ายในประเทศไทยเราเอง
.
- คดีคืนบาปพรหมพิราม ผญ หลงทางเพียงคนเดียว เจอ ผช กว่า 30 คน ไล่ข่มขืน แล้วก็เอาร่างไปให้รถไฟทับจนตาย ( ขนาดทำเป็นหนังผมยังไม่กล้าดูเลย แค่อ่านจากตัวหนังสือก็หดหู่แล้วครับ )
.
- สารพัดเรื่องเล่าว่าด้วยการทารุณกรรมแรงงานข้ามชาติ จนบ้านเราติด tier 3 หรือถูกขึ้นบัญชีดำเรื่องปัญหาค้ามนุษย์ไปแล้ว ( ที่แย่คือเวลามีข่าวแรงงานพวกนี้ฆ่านายจ้าง หรือฆ่าคนไทยตาย คนไทยจำนวนมากมักจะเหมารวมหมดว่าแรงงานพวกนี้เลวร้าย ไล่มันกลับประเทศให้หมด ไม่เคยดูเป็นกรณีๆ ไปเลยว่าอะไรเป็นแรงจูงใจ คือแรงงานที่โลภมากก็มี แต่ที่โดนกดขี่จนทนไม่ไหวก็มีเหมือนกัน )
.
.
- เรื่องเล่าการค้าประเวณีในสมัยก่อน ที่คนทำซ่องจะไปหา ผญ จากชนบท ทั้งที่พ่อแม่ขายลูกสาว (ตกเขียว) ให้บ้าง หรือหลอกว่าจะพาไปทำงานบ้าง แน่นอนมันไม่ใช่ความสมัครใจเหมือนสมัยนี้ และถ้าไม่ยอมรับแขกก็จะถูกทารุณกรรม ( ร่องรอยความโหดร้ายนี้ ยังปรากฏที่ซ่องร้างแห่งหนึ่งที่มีนักล่าผีชอบไปลองของประจำ ) บางคนถูกทารุณจนตาย บางคนตายเพราะติดโรคก็มี
.
.
หมวดอื่นๆ ที่เรื่องไม่ถึงตายหรือสาหัส หรือเหยื่อไม่ใช่มนุษย์
.
- อันนี้ไม่มีใครตาย แต่มันหดหู่มาก คือเรื่องเล่าประเภทเจ้าหน้าที่รัฐนอกแถวบางคน ข่มขู่ผู้ต้องหาที่เป็น ผญ ทั้งหลบหนีเข้าเมืองบ้าง ค้าประเวณีบ้าง ยาเสพติดบ้าง ( หรือไม่ใช่ผู้ต้องหาโดยตรง แต่มีแฟนเป็น ผช ที่มีคดียาเสพติด ) ให้ร่วมประเวณี แลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี ( คือถ้าจับกุมแล้วทำไปตามขั้นตอนปกติก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ไม่ใช่ทำแบบนี้ ผมมองว่ามันวิปริตและหดหู่นะ )
.
- ล่าสุด อันนี้ไม่เกี่ยวกับคน แต่เกี่ยวกับสั.ตว์ กรณีมีข่าวว่ามีกลุ่มคนที่มีรสนิยมชอบร่วมประเวณีกับสัตว์ มีการพูดคุยและเผยแพร่ภาพ รวมกลุ่มกันแลกเปลี่ยน ประสบการณ์การร่วมประเวณีกับสั.ตว์ แต่ปัญหาคือเป็นการทารุณกรรมแน่ๆ เพราะสั.ตว์คงไม่ยินยอมทุกตัว ( เคยอ่านที่เพจคนรักสั.ตว์คุยกัน เขากังวลว่าไม่รู้พอใช้สั.ตว์ร่วมประเวณีเสร็จ จะเอามันไปทำอะไรต่อ? ฆ่าทิ้ง? ปล่อยทิ้ง? )
.
- อันนี้ไม่ใช่เรื่องทารุณกรรม แต่ผมเคยไปพบกลุ่มที่มีรสนิยมทางเพศที่ไม่ปกติแน่ๆ เช่น คือกลุ่มคน “นิยมมี Sex กับแฟนคนอื่น” คนพวกนี้คุยกัน แลกเปลี่ยนกันว่าไปจีบแฟนคนอื่นนานไหมกว่าจะได้มีอะไรด้วย แล้วก็ใช้ภาษาบรรยายกันแบบสุดๆ มาก ( กลุ่มนี้เจอแต่ ผช เท่านั้น ) , เช่นเดียวกัน ผมก็ไปเจอกลุ่มคนที่นิยม “แฟนเผลอแล้วเจอกัน” หรือพวกที่มองว่าการเล่นชู้ไม่ผิด การมีผัวมีเมียแล้วยังไปนอนกับคนอื่นไม่เห็นเป็นไร ( อันนี้มีทั้ง ผช และ ผญ และมีทุกอายุ แถมส่วนมากหน้าที่การงานดีเสียด้วย ) ที่ผมบอกว่าหดหู่ เพราะนี่เป็นเรื่องของการนอกใจ ซึ่งเป็นการหลอกลวงกัน
.
.
.
--------------------------------------
.
ประมาณนี้แหละครับ
.
แต่อาการผมหนักมากกว่านั้น..อย่างเวลาผมไปกินข้าว สั่งอาหารที่มีเนื้อสั.ตว์มา รู้สึกว่ากินได้ไม่เต็มที่เท่าเมื่อก่อน เพราะเวลามองเนื้อหมูที เนื้อไก่ที ภาพที่ตามมา คือภาพแนวจิกกัดเสียดสีสังคม เรื่องของเรื่องก็คือ มีการแชร์ภาพๆ หนึ่ง เป็นภาพคน มือหนึ่งโอบกอดสุนัขและแมวด้วยความรัก แต่อีกมือหนึ่งถือมีดฆ่าหมูฆ่าไก่มากิน ซึ่งภาพดังกล่าวต้องการจะสื่อว่า “เพราะหมูกับไก่มันไม่น่ารักสินะ? เลยไม่มีใครปกป้องมันเหมือนหมากับแมว” ( ที่มาของภาพนี้ เขาต้องการจิกกัดพวกที่เรียกหากฎหมายคุ้มครองสัตว์ และโวยวายเมื่อเห็นสุนัขกับแมวถูกทำร้าย แต่กลับยังกินหมู ไก่ วัว กันอยู่)
.
หรือช่วงกินเจทุกปี..พวกที่ชอบจิกกัดคนที่กินเจ ก็จะเอาคำที่เสียดสีเทศกาลนี้ ทำนองว่า “หนึ่งชีวิตกินเจ หมื่นชีวิตรอดตาย..แต่ตรุษจีนทีไร ตายกันแทบสูญพันธุ์ทุกที” มาล้อเลียนเสมอ หรือหลายปีก่อน เห็นในพันติ๊ปมีมาม่าเรื่องกินเจ พวกที่มีความคิดแปลกๆ ก็จะตั้งคำถามกับพวกที่กินเจว่า “รู้ได้ไงว่าพืชไม่มีความรู้สึก? หรือเพราะแค่มันร้องไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้เหมือนสัตว์แค่นั้น” อะไรประมาณนี้แหละครับ
.
.
ที่ผมหลอน...เพราะเคยอ่านกระทู้ที่ถกเถียงกันเรื่องปรัชญาว่าด้วยชีวิตมนุษย์ หลายต่อหลายครั้งมักมีคนตอบประมาณว่า “มนุษย์แ-งก็หาข้ออ้างเข้าข้างตัวเองได้ทั้งนั้นแหละ” ผมอ่านแล้วก็คิดว่า..เออ ก็คงจริงของเขามั้งครับ อย่างเรื่องทารุณสั.ตว์ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า “หมู-วัว-ไก่-ปลา” มันผิดกว่าหมาหรือแมวจริงๆ ที่เกิดมาไม่สวย ไม่น่ารัก เลยไม่มีใครไปปกป้องมัน หรือมนุษย์เคยชิน มองว่ามันก็อร่อยดี ก็เลยอยากกินมัน
.
จะบอกว่า..บางทีกินข้าวไม่ค่อยลงอะครับ คือกินได้แหละ แต่ไม่รู้สึกสบายใจเหมือนเมื่อก่อน ตรงกันข้ามกลับรู้สึกเกลียดตัวเองอีกต่างหาก ( มองว่าตัวเองก็เป็นมนุษย์ แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งของวงจรแย่ๆ นี้ด้วย )
.
.
---------------------------
.
อาการผมหนักไหมละครับ? ที่เล่ามานี้เรื่องจริง ( ใครไม่เชื่อก็แล้วแต่ ไม่บังคับ ) และไม่ได้โทษการ์ตูน หรือหนังสือประวัติศาสตร์ หรือสื่อมวลชนที่เสนอข่าวหรอกครับ เพียงแต่ผมไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมถึงอาการหนักได้ขนาดนี้?
.
ย้ำว่าผมยังทำงาน ยังเรียนหนังสือ ยังทำโน่นทำนี่ได้ตามปกตินะครับ แต่อาการจะเริ่มมา เมื่อผมอยู่เงียบๆ ว่างๆ คนเดียว ภาพจากเรื่องราวโหดร้ายและวิปริตพวกนี้ ก็จะแวบเข้ามาในหัวผมทันที ตามมาด้วยความรู้สึกหดหู่และอึดอัด บางครั้งถึงกับปวดหัวและอยากอาเจียน ตามมาด้วยการมองตัวเองและโลกในเง่ร้าย
.
ยอมรับว่าข่าว หรือเรื่องราวพวกนี้ มันเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างให้ผมอยากเข้าไปอ่าน เข้าไปรับรู้จริงๆ นะ ทั้งๆ ที่อ่านแล้ว รู้แล้วจะมีอาการหลอนๆ เช่นนี้ ) จะให้เลิกเสพสื่อมืดพวกนี้เลยก็คงไม่ได้ ( เมื่อก่อนก็ไม่เป็นมากขนาดนี้ เพิ่งไม่นานนี้แหละ อยู่ดีๆ เรื่องพวกนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวพร้อมๆ กันทั้งหมดเลย ที่ลืมๆ ไปแล้วก็กลับจำได้ จนหลอนและปวดหัวอยู่นี่แหละครับ )
.
ขนาดผมมองว่า ความรุนแรงจนถึงขั้นฆ่ากันตายเป็นเรื่องปกตินะครับ แต่การทารุณกรรมและฆ่าแบบโหดร้ายนี้ นึกตามที่เขาบรรยายมาทีไร รู้สึกทรมานไปด้วยทุกที
.
และผมยังรู้ตัวด้วยนะครับว่ากำลังเหมารวมว่าคนมีแต่เรื่องร้ายๆ แต่ทั้งๆ ที่ผมก็เสพทั้งเรื่องราวด้านมืดและด้านสว่าง ( พวกข่าวคนที่เข้าไปสู้กับโจรที่กระชากกระเป๋าเหยื่อ หรือคนที่เก็บเงินมากๆ ได้แล้วนำไปคืนเจ้าของ หรือคนที่ลงไปพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในพื้นที่นั้นๆ ) แต่ความคิดผมมันก็ยังจดจ่อกับด้านมืดของมนุษย์ โดยเฉพาะพวกความวิปริตต่างๆ ที่ว่ามามากกว่าอยู่ดี
.
อยากถามทุกท่านที่ได้อ่านเรื่องราวโหดร้ายพวกนี้บ่อยๆ หรือคนที่เจอเพจที่จิกกัดสังคม ออกแนวขวางโลก ซึ่งก็มีภาพและข้อความให้ชวนคิดเหมือนกัน...ท่านมีวิธีรับมือยังไงครับ?
.
ปล.สงสัยผมได้เป็นบ้าก่อนตายแน่ๆ