รวบหนุ่มใหญ่18มงกุฏ หลอกฝรั่ง2ผัวเมียจนตายใจ ยอมโอนบ้านและคอนโดฯรวมมูลค่ากว่า10 ล้านให้

กระทู้คำถาม
รวบหนุ่มใหญ่18มงกุฏ หลอกฝรั่ง2ผัวเมียจนตายใจ ยอมโอนบ้านและคอนโดฯรวมมูลค่ากว่า10 ล้านให้
http://www.thairath.co.th/content/460544

ตร.ชุดสืบสวนภาค2 ตามรวบหนุ่มใหญ่18มงกุฏ หลอกฝรั่ง2ผัวเมียจนตายใจ ยอมโอนบ้านและคอนโดฯรวมมูลค่ากว่า10 ล้านให้ และรับชำระหนี้ด้วยเช็ค แต่พอไปขึ้นเงินปรากฎว่าเช็คเด้ง ตร.พามาแถลงข่าวฝรั่งโมโหปรี่เข้าทำร้าย แฉก่อคดีต่อเนื่อง...

เมื่อเวลา 18.00.น.วันที่ 31 ต.ค. ที่ บก.สส.ภ.2 จ.ชลบุรี พ.ต.อ.สมชาย นุ่มโต รอง.ผบก.สส.ภ.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.2 แถลงข่าวจับกุม นายชาตรี ผลอุทิศ อายุ 56 ปี ชาวบ้าน หมู่ 4 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตามหมายศาลจังหวัดพัทยา ข้อหาฉ้อโกง

พ.ต.อ.สมชาย แถลงว่า เนื่องจากพนักงานสอบสวน สภ.บางละมง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นายพีวี และ นางชู คอชแลนด์ สัญชาติสก็อตแลนด์ ว่า ถูกนายชาตรี หลอกลวงว่าจะซื้อบ้านชั้นเดียว เนื้อที่ 390 ตารางวา อยู่ที่บ้านหนองเกตุน้อย ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และคอนโดมิเนียมในโครงการนาจอมเทียนพลาซ่า รวมมูลค่า 10,500,000 บาท โดยหลอกลวงให้หลงเชื่อจนได้ไปซึ่งทรัพย์สิน และทำให้เหยื่อเสียหาย แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2555

ต่อมา พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.2 กับพวก ได้รื้อคดีตรวจสอบประวัติ นายชาตรี พบว่าเคยมีประวัติเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงในพื้นที่กรุงเทพฯตั้งแต่ปี 2539 หลบหนีไปอยู่แถวพื้นที่ จ.ชลบุรีช่วงปี 2549 แล้วนายชาตรีก็ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์หนีไปอยู่บ้าน ที่จ.นนทบุรี แต่ก็ยังก่อเหตุฉ้อโกงอยู่เช่นเดิม ระหว่างที่หลบหนี นายชาตรี ได้มีการเปลี่ยนชื่อ นามสกุล อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งถูกพ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ ผกก.สส.1 บก.สส. ภ.2 พร้อมชุดสืบสวนลูกทีมติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักของนายชาตรี เลขที่ดังกล่าวข้างต้น เมื่อเวลา 09.20.น. วันที่ 31ต.ค.57

สำหรับพฤติการณ์การกระทำความผิดในคดีนี้ นายชาตรี ได้พาพวกอีก 3 คน มาดูบ้านผู้เสียหายแล้วคอยมาตีสนิท ทำทีขอซื้อบ้านจน นายพีวี ตายใจโอนบ้านและคอนโดฯให้ จากนั้นนายชาตรี ได้นำไปขายต่อในทันที แล้วหลบหนีไป นายพีวีไม่สามารถติดต่อได้อีก ส่วนเช็คที่นายชาตรี ออกไว้ให้นายพีวี ปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน

นอกจากนี้ นายชาตรี ยังได้กระทำความผิดในลักษณะหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นอีก โดยนายชาตรี จะแต่งตัวให้ดูดีภูมิฐานน่าเชื่อถือ ไปติดต่อขอซื้อรถราคาแพงมูลค่าเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป อาทิ รถปอร์เช่ บีเอ็มดับบลิว เบนซ์ ฯลฯเมื่อได้รับรถ นายชาตรีก็จะออกเช็คชำระหนี้เช่นเดิม แล้วนำรถที่ได้ไปขายให้กับนายทุนตามเต็นท์รถต่างๆและรับเงินสดไป ส่วนเช็คที่นายชาตรีออกชำระหนี้ค่าซื้อรถนั้น ปรากฏว่าถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน

"การกระทำความผิดของ นายชาตรี มีลักษณะที่ต่อเนื่องหาเหยื่อหลอกลวงไปเรื่อยๆ ซึ่งเท่าที่ทราบมูลค่าความเสียหายตามที่มีเจ้าทุกข์มาปรากฏตัวยืนยันร่วม50ล้านบาท และยังมีเจ้าทุกข์อีกหลายรายที่ยังไม่สามารถติดต่อได้ หรือยังไม่สามารถติดตามตัวมายืนยันการกระทำความผิดของนายชาตรีได้ นอกจากนี้ ตัวของนายชาตรีเองขณะนี้มีสถานภาพถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย การแถลงข่าวในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้พึงระวังบุคคลอันตรายเช่นนี้ไว้"พ.ต.อ.สมชาย รอง.ผบก.สส.ภ.2กล่าว

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ แต่นายชาตรีให้การภาคเสธ อ้างว่ามีการซื้อบ้านและคอนโดฯจากนายพีวี จริง แต่เกิดขัดข้องทางเทคนิคในการชำระเงิน และระหว่างแถลงข่าว นายพีวี ผู้เสียหายที่มาดูการแถลงข่าว เกิดอาการโมโหตรงเข้าจะทำร้ายนายชาตรีที่นั่งอยู่แต่ตำรวจกันเอาไว้ได้ หลังเสร็จจากแถลงข่าว ตำรวจ สส.21 บก.สส.ภ.2 ได้คุมตัวนายชาตรีส่งให้ พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่