7 ความจริง เกี่ยวกับ "ชื่อ" ของคนดังที่คุณอาจไม่เคยรู้



ท็อป จรณ - ท็อป เจริญ
รู้หรือไม่ว่าหนุ่มหล่อหน้าคมคิ้วเข้ม “ท็อป จรณ” เดิมไม่ได้มีชื่อจริงว่า จรณ อย่างทุกวันนี้  
“เจริญ” ต่างหากที่เป็นชื่อตามสูติบัตร (ฟังดูไทยเข้ากับหน้ามากเลยใช่มั้ยล่ะ) และด้วยความที่ชื่อเล่นกับชื่อจริงเมื่อรวมกันแล้วชวนให้นึกถึงห้างแว่นดัง “ท็อปเจริญ” อย่างเลี่ยงไม่ได้ หนุ่มท็อปเลยหนีไม่พ้นวงจรเกรียน โดนเพื่อนๆ ที่โรงเรียนล้อว่าเป็นไอ้เด็กร้านแว่นมาตั้งแต่เล็กจนโต แต่เจ้าตัวกลับไม่แคร์เพราะภูมิใจในชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ซะอย่าง (เยี่ยม!) แต่นั่นก็จนกระทั่งได้เข้าวงการ ผู้จัดการส่วนตัวถึงได้ขอร้องให้เปลี่ยนชื่อจริงจาก “เจริญ” เป็น “จรณ” เพื่อกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย และแน่นอนว่าเป็นการเลี่ยงโปรโมทให้ร้านแว่นชื่อดังแบบไม่ได้ค่าตัวด้วยนั่นเอง (แหม ถ้าพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ใช้ชื่อเดิมแล้วยอมเป็นพรีเซนเตอร์ห้างแว่นท็อปเจริญ เรียกค่าตัวแบบผูกขาดตลอดชีพก็น่าจะดีนะ)

|
|
|



นิหน่า - น้อยหน่า
ย้อนกลับไปประมาณ 15 ปีก่อน ใครที่โตพอจะเริ่มฟังเพลงแล้วคงพอจำนักร้องสาว “นิหน่า สุฐิตา” (หวานใจตัวจริงในปัจจุบันของหนุ่มตี๋สุดเพอร์เฟคท์ แบงค์ พชร) กับอัลบั้ม “นิหน่า..นี่นา” ที่มีเพลงดังอย่าง “กลับไปไม่เหมือนเดิม” กันได้ รู้รึเปล่าว่าชื่อเล่นจริงๆ ของเธอไม่ใช่ นิหน่า แต่เป็น “น้อยหน่า” จริงดิ ! ด้วยความบังเอิญที่ co-producer อัลบั้มดังกล่าวเป็นพี่ชายของหนึ่งในทีมเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง “แฟนฉัน” ที่ขณะนั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมงานสร้าง เมื่อได้ยินชื่อ “น้อยหน่า” ก็นึกขึ้นได้ว่าเป็นชื่อของนางเอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ เลยเสนอแนะให้มีการเปลี่ยนใหม่เพื่อไม่ให้คนติดภาพและสับสน ทีแรกนิหน่าไม่ยอม แต่ด้วยความที่เป็นนักร้องหน้าใหม่ สุดท้ายก็จำใจต้องเปลี่ยนจาก “น้อยหน่า” เป็น “นิหน่า” ซึ่งมีที่มาจาก Nina (นีน่า) เพื่อนสนิทที่สุดของเธอที่เพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคลูคีเมียก่อนนิหน่าจะออกอัลบั้มเพียงปีเดียว นับเป็นการยอมเปลี่ยนชื่อที่ไม่น่าเสียใจเลย เพราะนอกจากจะกลายเป็นที่จดจำด้วยความแปลก ไม่ซ้ำใครแล้ว ยังเป็นการรำลึกถึงเพื่อนคนสำคัญได้อย่างน่าประทับใจอีกด้วย

|
|
|



อุ๊ หฤทัย - อุ๊ มาแตร์
นักร้องสาวเจ้าของเสียงทรงพลังและเป็นเอกลักษณ์อย่าง “อุ๊ หฤทัย” ก็ไม่ได้มีชื่อจริงว่า “หฤทัย” ที่แสนจะผู้หญิ๊งผู้หญิงขัดกับลุคห้าวๆ ของเธอแบบที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ชื่อจริงแท้แม่ให้มาก็คือ “อนงค์จิต” (ไม่หญิงเล้ย) เรื่องของเรื่องก็คือสมัยที่มาสมัครเป็นนักร้องกับแกรมมี่เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ทางต้นสังกัดมีแพลนจะสร้างวงดนตรีแนวร็อคที่มีนักร้องนำเป็นผู้หญิง มีการแคสต์หาตัวนักร้องจำนวนนับร้อยคน จนมาลงตัวที่สองคนสุดท้าย ซึ่งบังเอิญดันมามีชื่อเล่นว่า “อุ๊” เหมือนกันอีก ที่บังเอิญไปกว่านั้นคือทั้งสองคนมีรูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกันมาก จนทีมงานไม่รู้จะใช้คำไหนมาเรียกให้เห็นถึงความแตกต่าง จะเรียกชื่อจริงต่อท้ายก็ยาวเกิน (ปกติเวลาเพื่อนชื่อเล่นเหมือนกัน เรามักจะใช้รูปลักษณ์ที่ต่างกันเป็นตัวจำแนก เช่น แอนสูง แอนแว่น เจี๊ยบขาว เจี๊ยบดำ เป็นต้น) ตอนนั้น อุ๊เพิ่งเรียนจบจากพระหฤทัยคอนแวนต์ ส่วนอุ๊อีกคนก็เพิ่งจบจาก มาแตร์เดอี หนึ่งในทีมงานหัวใสเลยเอาชื่อโรงเรียนมาใช้เรียกต่อท้ายเป็น “อุ๊ หฤทัย” กับ “อุ๊ มาแตร์” ซะเลย และท้ายที่สุด “อุ๊ อนงค์จิต ผู้จบจากพระหฤทัย” ก็เป็นผู้ถูกเลือกให้เป็นนักร้องนำแห่งวง “เปเปอร์แจม” และกลายเป็น “อุ๊ หฤทัย” นักร้องสาวห้าวเสียงคุณภาพมาจนถึงทุกวันนี้

|
|
|



แอนดริว ทำไมไม่ แอนดรูว์
เคยสงสัยกันมั้ยว่าทำไมดาราหนุ่มลูกครึ่งผู้รักสันโดษอย่าง แอนดริว เกร็กสัน ถึงต้องสะกดชื่อตัวเองว่า แอนดริว (ดอ-รอ-สระอิ-วอ) แทนที่จะเป็น แอนดรูว์ แบบคนดังคนอื่นๆ อย่าง เจ้าชายแอนดรูว์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ แอนดรูว์ ลินคอล์น หรืออีกหลากหลายแอนดรูว์ คำตอบก็คือ เจ้าตัวไม่ได้ชื่อ “แอนดรูว์” น่ะสิ เอ๊า ! ก็ใช่ไง และก็ไม่ได้ชื่อ “แอนดริว” ด้วยเช่นกัน เอ๊ะยังไง ! เรื่องนี้ต้องเท้าความกลับไปสมัยเข้าวงการใหม่ๆ ตอนนั้นกำลังมีโปรเจคท์การสร้างภาพยนตร์เรื่อง “กองร้อย 501 ริมแดง” แต่ยังหาตัวพระเอกไม่ได้ โมเดลลิ่งหลายรายพยายามส่งเด็กในสังกัดไปเสนอให้ผู้กำกับคัดเลือกแต่ก็ยังไม่ถูกใจ จนกระทั่งหนุ่มแอนดริว ซึ่งขณะนั้นมีชื่อจริงๆ ว่า “ไมเคิล” และผ่านงานถ่ายแบบลงนิตยสารวัยรุ่นมาพอสมควร  ไปเตะตาเข้า ด้วยรูปร่างหน้าตาและบุคลิกที่ตรงกับความต้องการแทบจะร้อยเปอร์เซนต์ มาขัดใจเรื่องเดียวก็คือชื่อ “ไมเคิล” ที่แสนจะโหล ไม่เหมาะกับการเปิดตัวในฐานะนักแสดงหน้าใหม่เอาซะเลย จึงเกิดการระดมสมองคิดชื่อใหม่ แต่ชื่อไหนๆ ก็ยังไม่เข้าตา จนกระทั่งบังเอิ๊ญ สไตลิสต์ในกองไปเห็นภาพนิ่งของหนุ่มไมเคิลที่ถ่ายคู่กับ “อาทิตย์ ริว” (นายแบบวัยรุ่นชื่อดังอีกคนในยุคนั้น) บนปกหนังสือ “เธอกับฉัน” พร้อมกับชื่อใต้ภาพว่า “ไมเคิลแอนด์ริว” แต่คำว่า “ไมเคิล” ถูกกระดาษโพสท์อิทแปะทับอยู่เหลือแค่คำว่า “แอนด์ริว”  สไตลิสต์สาวเลยเกิดปิ๊งไอเดียเสนอชื่อ “แอนดริว” (ตัดการันต์บนตัว ด. ออก) ปรากฏว่านัดเดียวจอด ผู้กำกับชอบมากเพราะไม่ซ้ำกับดาราลูกครึ่งในสมัยนั้นแถมยังสะกดไม่เหมือนใครเลยถือโอกาสเปลี่ยนชื่อใหม่ให้ “ไมเคิล” เป็น “แอนดริว” ตั้งแต่บัดนั้น และนั่นก็คือที่มาว่าทำไม “แอนดริว” ถึงไม่เป็น “แอนดรูว์“ แบบคนอื่นๆ

|
|
|



คริส หอวัง - คริสติน่า เขาวัง
แรกเริ่มที่รู้จัก “คริส หอวัง” เชื่อว่าหลายคนน่าจะคิดเหมือนกันว่าทำไมชื่อเหมือนผู้ชายจัง จริงๆ แล้วชื่อเล่นของเธอคือ “คริสติน่า” ศิริณ หอวัง ก่อนจะดังเปรี้ยงปร้างในฐานะนางเอกร้อยล้านใน “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” คริสเคยเป็นครูสอนเต้นมาก่อน และชื่อที่เธอใช้ในวงการก็คือ “คริสติน่า หอวัง” มาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง คริสได้มีโอกาสไปเที่ยวเพชรบุรีกับเพื่อนๆ แน่นอนว่านอกจากขนมหม้อแกงแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องไม่พลาดก็คือแลนด์มาร์คอย่างเขาวัง ดินแดนที่เต็มไปด้วยลิง นอกจากความตื่นตาจากพายุลิงนับหมื่นตัว สิ่งที่คริสไม่คาดคิดว่าจะเจอก็คือ นางพญาจ๋อ ซึ่งเป็นลิงเจ้าแม่ขาใหญ่ที่ชาวเพชรบุรีรู้จักกันดี ด้วยรูปร่างที่ใหญ่มหึมาผิดลิงทั่วไป และนิสัยกร่างชอบรังแกลิงน้อยใหญ่ที่ขวางหูขวางตาไม่เว้นแม้แต่บรรดานักท่องเที่ยวที่เผลอไปจ้องหน้า จนเป็นที่เลื่องชื่อในความอันธพาล นอกจากคริสจะสะพรึงกับลุคของนางแล้ว สิ่งที่น่าสะพรึงกว่าก็คือชื่อของนางที่ถูกคนละแวกนั้นตั้งให้ว่า “คริสติน่า” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “คริสติน่า เขาวัง” เมื่อรับทราบความจริงนี้สาวคริสก็ถึงกับหน้าเสีย รับไม่ได้ที่ชื่อ “คริสติน่า หอวัง” ของตัวเองต้องมาฟังคล้าย “คริสติน่า เขาวัง” ลิงสก๊อยขาใหญ่ใจอำมหิต แน่นอนว่าหลังจากทริปนั้น คริสโดนเพื่อนล้อเลียนเป็นเดือนๆ จนสุดท้ายก็ตัดสินใจย่อชื่อให้สั้นลงจาก “คริสติน่า หอวัง” เหลือแค่ “คริส หอวัง” ซึ่งก็กลายเป็นความเก๋ไปซะยังงั้น แต่ใครจะรู้ว่าที่จริงมันคือการเปลี่ยนเพื่อหนีลิงต่างหาก

|
|
|



เคน ภูภูมิ - เคนตะ ฟูมิยะ
หลายคนน่าจะพอรู้อยู่แล้วว่า “เคน ภูภูมิ” เดิมมีชื่อเล่นว่า “เบลเบล” แต่ถูกพี่เอ ผจก.ส่วนตัวเปลี่ยนให้ตอนพาเข้าวงการ แต่รู้มั้ยว่าที่มาของชื่อ “เคน ภูภูมิ” จริงๆ แล้วเต็มไปด้วยความหวาดเสียวและน่าสยิวกิ้วมากมาย “เคนตะ ฟูมิยะ” สำหรับคนทั่วไปอาจไม่คุ้นหู แต่สำหรับคอหนังเอวีแนววายน่าจะจำกันได้ดี เพราะเค้าคือดาราดังที่มีผลงานอยู่ในหนังแทบจะทุกเรื่อง และกลายเป็นเอวีไอด้อลของเหล่าเกย์น้อยใหญ่รวมไปถึงพี่อัย ศุภเช ของเราเช่นกัน ประจวบเหมาะกับที่พานุ้งเบลเบลเข้าวงการ ด้วยความที่ชื่อเล่นดั้งเดิมฟังดูแบ๊วเกิน พี่เอเลยจัดการเอาชื่อดาราคนโปรดมาดัดแปลงนิดหน่อย จาก “เคนตะ ฟูมิยะ” แผลงกลายมาเป็น “เคน ภูภูมิ” (เดิมนางตั้งใจจะให้อ่านว่า ภู-ภู-มิ ด้วยซ้ำ) หนุ่มวีกิจผู้แสนดีจากแรงเงา ไอ้แก้วทาสผู้ซื่อสัตย์ และคุณชายจันทร์ฟันจอบจอมเจ้าเล่ห์แห่งดาวเคียงเดือน ที่สาวๆ พากันคลั่งใคล้นั่นเอง

|
|
|



เจมส์จิ - ก๊อตจิ - เก้าจิ
วงการบันเทิงบ้านเรา หากดารานักร้องคนไหนมีชื่อเล่นที่เป็นสามัญเกินไป (หรือเรียกง่ายๆว่าโหล) ก็มักจะเอาชื่อจริงมาเรียกต่อท้ายเพื่อป้องกันความสับสน เช่น ใหม่ ดาวิกา ใหม่ สุคนธวา อั้ม พัชราภา อั้ม อธิชาติ ฯลฯ  แต่เรื่องราวดีๆ ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อเร็วๆ นี้ได้กำเนิดปรากฏการซุปตาร์ที่มาแรงที่สุด คนหนึ่งของวงการบันเทิงไทย “เจมส์ จิรายุ” ซึ่งแจ้งเกิดแบบชั่วข้ามคืนในบท “คุณชายพุฒิภัทร” กับคาแรคเตอร์ที่แสนสุขุม อบอุ่น ชวนให้สาวน้อยสาวใหญ่เป็นปลื้มกันทั้งประเทศ หนุ่มเจมส์ไม่ได้มาพร้อมกับความดัง แต่ยังนำเอาชื่อเล่นสไตล์ใหม่มาแจ้งเกิดพร้อมกันด้วย แทนที่จะเป็น “เจมส์ จิรายุ” แบบที่ใช้เรียกดาราทั่วไป ก็กลายเป็นแค่ “เจมส์จิ” สองพยางค์ที่สั้น ง่าย แต่ได้ใจความ และกลายเป็นชื่อที่ติดปากคนอย่างรวดเร็ว แต่รู้มั้ยว่าก่อนจะมี “เจมส์จิ” ก็เคยมี “ก๊อตจิ” มาก่อนแล้ว เพียงแต่คนทั่วไปอาจคิดว่าเป็นชื่อเล่นทั้งสองพยางค์ ความจริงคือ “ก๊อตจิ” หนึ่งในสามเทยแห่ง ททท. นั้นชื่อเล่นว่า “ก๊อต” และชื่อจริงแต่แรกเริ่มว่า “จิระศักดิ์” (ก่อนจะเปลี่ยนเป็น “กรัณย์” และ “ทัชชกร” ในเวลาต่อมา) เป็นที่มาของฉายาในกลุ่มเพื่อนสาวสมัยหัวโปกว่า “ก๊อตจิ” นั่นเอง และอีกคนที่น่าน้อยใจแทนเป็นที่สุดก็คือหนุ่ม “เก้า จิรายุ” ที่เข้าวงการก่อน เจมส์จิ ด้วยซ้ำ แต่คนทั่วไปกลับเรียกแค่ “น้องเก้า” หรือ “เก้า จิรายุ” แบบสามัญอันว้าว ถ้าบรรดาแฟนคลับน้องเก้ากิ๊บเก๋เรียกน้องว่า “เก้าจิ” เชื่อเถอะว่า “เจมส์จิ” ก็ต้องมีร้อนๆหนาวๆ บ้างแหละน่า

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากมโนโซเชี่ยล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อมยิ้ม17
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่