....เรื่องลี้ลับ ความเชื่อเกี่ยวกับดวงวิญญาณหรือสิ่งที่มองไม่เห็น
แม้ว่าหลายๆ เรื่องจะยังคงไม่มีบทพิสูจน์ที่สรุปอย่างแน่ชัด
แต่เรื่องชวนขนลุกเหล่านี้
กลายเป็นส่วนหนึ่งในรูปแบบความเชื่อของคนไทยมาอย่างยาวนาน
จนเป็นนิยามคำว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"
.....สังคมไทยได้อยู่คู่กับเรื่องเล่า เรื่องเขย่าขวัญ
ที่มีการบอกต่อกล่าวขานกันมาอย่างยาวนาน
จนบางเรื่องกลายเป็นความเชื่อระดับตำนานที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน
ขณะที่ในสังคมปัจจุบัน แม้เทคโนโลยีทันสมัยจะเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก
แต่ความเชื่อส่วนบุคคล เรื่องผีสางเทวดา กลับไม่ได้ลดลงไปเลย
....เรื่องผีในปัจจุบันยังคงได้รับการพูดถึงและบอกเล่ากันอย่างต่อเนื่อง จากรุ่นสู่รุ่น
แต่มีเพียงเรื่องผีไม่กี่เรื่องที่กลายเป็นเรื่องเล่าที่ถูกบันทึกและจดจำในความทรงจำของคน
และนี่คือ 7 เรื่องเล่าเขย่าขวัญ เรื่องลี้ลับ..ชาตินี้คุณต้องเคยได้ยิน
....
ลิฟท์แดง ธรรมศาสตร์
...เรื่องเล่าที่มีการกล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่ช่วงเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงของกลุ่มนักศึกษา เมื่อปี พ.ศ. 2519
ข้อมูลที่อ้างว่า กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงบางส่วนได้วิ่งเข้าไปหลบซ่อนภายในมหาวิทยาลัย
ช่วงที่สถานการณ์ตึงเครียด เกิดเหตุสลายการชุมนุม
ลิฟท์ที่อาคารแห่งหนึ่งมีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใช้เป็นช่องทางหลบหนี
แต่ถูกจับได้และเกิดเหตุกราดยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิตอยู่ภายในลิฟท์หลายราย
..ต่อมามีการทำความสะอาดพื้นที่ภายหลังจากเหตุความวุ่นวายสิ้นสุดลง
ลิฟท์ตัวดังกล่าวถูกเปลี่ยนเป็นสีแดง จนได้รับฉายาว่า "ลิฟท์แดง"
และมีเรียกเล่าขานต่อกันมาตลอดกว่า 30 ปี
บ้างก็อ้างว่า ลิฟท์ทำงานผิดปกติ อยู่ๆ ก็หยุดเปิดประตูออกในชั้นที่ไม่มีคน
หรือแสดงสัญญาณเตือนว่าน้ำหนักเกิน ทั้งที่มีผู้โดยสารขึ้นลิฟท์เพียงแค่ 2 คน เป็นต้น
.....
ลัดดาแลนด์
...สถานที่ที่แห่งหนึ่งเคยกลับมาเป็นที่สนใจของผู้คนอีกครั้ง
ครั้งที่ค่ายภาพยนตร์ชื่อดังนำชื่อมาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ทำเงิน "ลัดดาแลนด์"
มีตำนานจากคนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ บอกเล่ากันว่า
ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง
เป็นแหล่งส่งเสริมวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวล้านนา
และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
กระทั่ง ลัดดาแลนด์ เสื่อมสภาพลงตามความนิยมของยุคสมัย
เพียงไม่กี่ปี ลัดดาแลนด์ ตกอยู่ในสภาพปล่อยทิ้งรกร้าง
พื้นที่ขนาดใหญ่กลายเป็นแหล่งมั่วสุมและเหตุอาชญากรรม
จนกลายเป็นเสียงร่ำลือไปกันว่า
ลัดดาแลนด์ เป็นพื้นที่ที่มีเหตุฆาตกรรมยกครัวและดวงวิญญาณยังวนเวียนอยู่
..หรืออ้างว่าเคยมีเหตุฆาตกรรมสาวพม่า
กว่าจะพบศพในอีก 2 เดือนต่อมา
เรื่องเล่าจากลัดดาแลนด์ยังคงไม่มีข้อพิสูจน์
แต่กลายเป็นสถานที่ที่น่าหวาดกลัวติดอันดับประเทศไปแล้ว
....
คุกกองปราบ
..เป็นเรื่องเล่าที่มีน้อยคนนักจะได้เข้าไปสัมผัสเอง
แต่กลายเป็นเรื่องเล่าชวนขนลุกทุกครั้งที่กลายเป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ "ผีคุกกองปราบ"
ที่มีคำร่ำลือของดวงวิญญาณ “ชายชุดแดง” ที่ห้องขังห้องสุดท้ายสุดทางเดินในกองปราบฯ
คุกกองปราบซึ่งไว้สำหรับกุมขังผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ หรือผู้กระทำผิด พ.ร.บ.
มักมีข่าวปรากฏให้เห็นบ่อยๆ
กรณีผู้ต้องหาฆ่าตัวตายภายในห้องขัง
โดยมีการอ้างว่ามี ผีชายชุดแดง วนเวียนและโน้มน้าวให้ปลิดชีพตัวเอง
เสียงร่ำลือเรื่อง ผีคุกกองปราบ บ้างก็อ้างว่า
มักจะเห็นชายสวมเสื้อสีแดงวนเวียนอยู่ในห้องขัง
มักจะถูกกระตุกดึงขาเวลานอน หรือเกิดเสียงเคาะจานข้าว
ส่วนประเด็นข่าวที่ผู้ต้องหาผูกคอตายในห้องขังนั้น
ก็ถูกโยงมาถึงเรื่องลี้ลับดังกล่าวด้วย
แต่น่าแปลกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลห้องขังดังกล่าว
ไม่เคยพบเจอเหตุประหลาดใดๆ เลย
ทั้งนี้ตำนาน ผีคุกกองปราบ น่าจะสิ้นสุดลง เมื่อสถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นอดีตไปเสียแล้ว
....
โค้งร้อยศพ รัชดาภิเษก
..หากได้ยินชื่อว่า "โค้งร้อยศพ" เชื่อว่า ถนนรัชดาภิเษก บริเวณศาลอาญา
ต้องติดอันดับต้นๆ ของความอาถรรพ์อย่างแน่นอน
หากใครที่ต้องใช้ถนนเส้นนี้เพื่อสัญจร
จะต้องสังเกตเห็นต้นโพธิ์ใหญ่อยู่เกาะกลางถนน ช่วงหน้าปากซอยเสือใหญ่อุทิศ
ซึ่งเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง
จนเกิดเสียงร่ำลือต่างๆ รวมทั้งมีการสักการะบูชาสิ่งที่มองไม่ได้
มีรูปปั้นหรือเครื่องรางและขวดน้ำแดงวางเรียงรายเอาไว้ตามความเชื่อ
ส่วนโค้งถนนรัชดาภิเษกบริเวณนี้ มักมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ
บางเสียงก็อ้างว่าพบเห็นเงาดำ หรือ บางอย่างคล้ายคน วิ่งตัดหน้ารถ
ทำให้เกิดการเบรกกะทันหันและทำให้รถเสียหลัก
ที่ผ่านมามีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากจากอุบัติเหตุตรงจุดนี้
จนนำไปสู่เรื่องราวที่อ้างว่าเป็นกรณี "ตัวตายตัวแทน"
แต่อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุป้องกันได้ด้วยความไม่ประมาท
เพื่อจะไม่เป็นการตอกย้ำเรื่องอาถรรพ์ที่ใครๆ กล่าวขานกันที่โค้งแห่งนี้
.....
โรงพยาบาลผีสิง จ.ระยอง
....หากว่ากันถึงเรื่องราวน่าขนลุกที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลร้าง
คงต้องเป็นเรื่องเล่าของ โรงพยาบาลผีสิง เมืองระยอง ที่ชาวบ้านเล่าขานกันมาอย่างต่อเนื่อง
เกิดเสียงลือเสียงเล่าอ้างต่างๆ จนกลายเป็นสถานที่ประลองความกล้าของนักท้าพิสูจน์เรื่องผี
แม้ว่าเหตุอาถรรพ์จะยังเป็นปริศนา แต่บรรยากาศที่วังเวงและน่าเกรงขาม
ทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้ ถูกเชื่อว่ามีผีสิง จนต้องปิดกิจการ
โรงพยาบาลผีสิง เมืองระยอง ชาวบ้านต่างร่ำลือว่า
ช่วงกลางคืนมักจะมีเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าสะพรึง
บางครั้งยังพบว่ารถเข็นหรือเตียงคนไข้เคลื่อนที่ไปมาเองได้
จนไม่มีใครกล้าสัญจรผ่านถนนเส้นดังกล่าว
แม้กระทั่งคนที่เข้าพิสูจน์หลายราย อ้างว่าเข้าไปในโรงพยาบาลแล้วรู้สึกคล้ายกันถูกตบศีรษะ
ทั้งนี้ยังมีเรื่องเล่าอ้างว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ปิดกิจการเพราะเจ้าที่แรง
ทั้งนี้ เรื่องเล่าโรงพยาบาลผีสิง เมืองระยอง อาจเป็นคำบอกเล่าบอกต่อๆ ของชาวบ้านในพื้นที่
เมื่อเห็นโรงพยาบาลถูกทิ้งร้าง ทั้งที่ความจริงโรงพยาบาลหยุดกิจการเพราะปัญหาขาดแคลนแพทย์
แต่กาลเวลาผ่านไป ความเจริญที่รุกล้ำเข้าพื้นที่
ทำให้โรงพยาบาลที่เคยอ้างว่ามีผีสิงแห่งนี้
ปัจจุบันได้ถูกปรับปรุงสร้างใหม่ กลายเป็นสถานพยาบาลที่ทันสมัย
ทิ้งอาถรรพ์ต่างๆ ที่เคยร่ำลือให้กลายเป็นเพียงอดีต
.....
.สาวชุดดำ วัดเสมียนนารี
...เรื่องเล่าเรื่องนี้โด่งดังมาจากรายการวิทยุยอดนิยม "The Shock"
เรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาว 2 คน แต่งกายชุดสีดำ
มักจะโบกรถ เพื่อเดินทางมายัง วัดเสมียนนารี
จุดเริ่มต้นจากเรื่องเล่าของแฟนรายการคนหนึ่ง
นำไปสู่ประสบการณ์จริงที่เล่าขานกันมาของกลุ่มผู้ขับแท็กซี่
และการไขปริศนาของหญิงสาว 2 คน ว่าเป็นใคร มาจากไหน
และเป็นดวงวิญญาณลี้ลับจริงหรือไม่
หญิงสาวชุดดำ 2 คน มักจะยืนโบกรถอยู่ย่านถนนรัชดาภิเษกในช่วงเวลากลางดึก
โดยมีจุดเป้าหมายเดียวคือ "วัดเสมียนนารี"
เมื่อทั้ง 2 ขึ้นโดยสารบนรถแล้ว ต่างคนต่างนั่งนิ่งและไม่พูดจากกันอย่างผิดปกติ
เมื่อรถที่ขับมาตามถนนวิภาวดีรังสิต กำลังเลี้ยวไปทางวัดเสมียนนารี ซึ่งเป็นจุดตัดทางรถไฟ
พวกเธอทั้ง 2 คนก็จะหายตัวไป
ก่อนจะไปปรากฏตัวอยู่ที่ร่างรถไฟ สภาพร่างขาดครึ่งท่อน
ซึ่งในเวลาต่อมามีข้อมูลและหลักฐานพบว่า
หญิงสาวชุดดำ ทั้ง 2 คนนี้ อาจจะเป็น "ชุลี" กับ "สุลี"
สองพี่น้องที่จะเดินทางมาร่วมงานศพญาติที่วัดเสมียนนารี
แต่ประสบเหตุถูกรถไฟทับร่างเสียก่อนจะถึงวัด
เคยเป็นข่าวขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อในอดีต
เรื่องเล่าของพวกเธอยังคงสร้างความหวาดผวาแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนรัชดาภิเษกในยามค่ำคืน
.....
ผีช่องแอร์
....ปิดท้ายด้วยเรื่องเล่าที่กลายเป็นตำนานกล่าวขานระดับประเทศ
อาถรรพ์ลี้ลับที่เกิดขึ้นภายในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง
เริ่มต้นจากเรื่องเล่าสู่กันฟังในรายการวิทยุยอดนิยม "The Shock"
เผยแพร่ต่อสู่รายการโทรทัศน์ฟรีทีวีชื่อดัง
และ ถูกนำเรื่องราวดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อปี 2547
โดยที่มีการร่ำลือว่าเรื่องเล่าดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในห้องหมายเลข 409 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่จังหวัดทางภาคใต้
กลุ่มนักดนตรีเดินสายแสดงโชว์ตัดสินใจเข้าพักห้องนี้ เนื่องจากไม่ทางเลือกมากนัก
ระหว่างที่สมาชิกทั้งหมดพักผ่อนอยู่ในห้อง
ต่างสังเกตเห็นที่ช่องแอร์มีเศษผ้าสีขาวโผล่พ้นปลิวออกมาดูรกตา
แต่เมื่อทุกคนพยายามดึงออกหรือไปส่องดูที่ช่องแอร์
กลับมีท่าทางประหลาดและเดินออกจากพักไปทีละคน
ก่อนที่ทุกคนจะทราบว่าพวกเขาเห็นสิ่งเดียวกัน
ต่อมาเริ่มเหตุการณ์ประหลาด เมื่อกลุ่มนักดนตรีแต่ละคนเริ่มเสียชีวิตลงไล่เลี่ยกัน
หลงเหลือเพียงสมาชิก 2 คนสุดท้ายที่ยังคงมีชีวิตอยู่และนำเรื่องนี้มาเล่า
ก่อนจะทราบว่าเหตุครั้งนี้เป็นความอาฆาตแค้นของวิญญาณสาวขายบริการ
ที่ถูกฆาตกรรมหั่นศพอย่างโหดเหี้ยมจากแขกผู้ซื้อบริการ
เบื้องต้นกู้ภัยตามหาส่วนศีรษะไม่พบ
จนผ่านไปหลายวันจึงทราบว่าศีรษะถูกยัดซ่อนอำพรางอยู่ในช่องแอร์
..และนี่คือ 7 เรื่องเล่าเขย่าขวัญ เรื่องลี้ลับ...ที่ชาตินี้คุณต้องเคยได้ยิน
คงจะเด็ดโดนใจคนชอบเรื่องผีๆ กันบ้าง
หากใครที่มีประสบการณ์ผีๆ แบบนี้ก็เอามาแชร์ให้เพื่อนๆคนอื่นได้รับรู้กันบ้างนะจ๊ะ.....
.......เรื่องเล่าเขย่าขวัญ ชาตินี้..ต้องเคยได้ยิน
แม้ว่าหลายๆ เรื่องจะยังคงไม่มีบทพิสูจน์ที่สรุปอย่างแน่ชัด
แต่เรื่องชวนขนลุกเหล่านี้
กลายเป็นส่วนหนึ่งในรูปแบบความเชื่อของคนไทยมาอย่างยาวนาน
จนเป็นนิยามคำว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"
.....สังคมไทยได้อยู่คู่กับเรื่องเล่า เรื่องเขย่าขวัญ
ที่มีการบอกต่อกล่าวขานกันมาอย่างยาวนาน
จนบางเรื่องกลายเป็นความเชื่อระดับตำนานที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน
ขณะที่ในสังคมปัจจุบัน แม้เทคโนโลยีทันสมัยจะเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก
แต่ความเชื่อส่วนบุคคล เรื่องผีสางเทวดา กลับไม่ได้ลดลงไปเลย
....เรื่องผีในปัจจุบันยังคงได้รับการพูดถึงและบอกเล่ากันอย่างต่อเนื่อง จากรุ่นสู่รุ่น
แต่มีเพียงเรื่องผีไม่กี่เรื่องที่กลายเป็นเรื่องเล่าที่ถูกบันทึกและจดจำในความทรงจำของคน
และนี่คือ 7 เรื่องเล่าเขย่าขวัญ เรื่องลี้ลับ..ชาตินี้คุณต้องเคยได้ยิน
....ลิฟท์แดง ธรรมศาสตร์
...เรื่องเล่าที่มีการกล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่ช่วงเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงของกลุ่มนักศึกษา เมื่อปี พ.ศ. 2519
ข้อมูลที่อ้างว่า กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงบางส่วนได้วิ่งเข้าไปหลบซ่อนภายในมหาวิทยาลัย
ช่วงที่สถานการณ์ตึงเครียด เกิดเหตุสลายการชุมนุม
ลิฟท์ที่อาคารแห่งหนึ่งมีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใช้เป็นช่องทางหลบหนี
แต่ถูกจับได้และเกิดเหตุกราดยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิตอยู่ภายในลิฟท์หลายราย
..ต่อมามีการทำความสะอาดพื้นที่ภายหลังจากเหตุความวุ่นวายสิ้นสุดลง
ลิฟท์ตัวดังกล่าวถูกเปลี่ยนเป็นสีแดง จนได้รับฉายาว่า "ลิฟท์แดง"
และมีเรียกเล่าขานต่อกันมาตลอดกว่า 30 ปี
บ้างก็อ้างว่า ลิฟท์ทำงานผิดปกติ อยู่ๆ ก็หยุดเปิดประตูออกในชั้นที่ไม่มีคน
หรือแสดงสัญญาณเตือนว่าน้ำหนักเกิน ทั้งที่มีผู้โดยสารขึ้นลิฟท์เพียงแค่ 2 คน เป็นต้น
.....ลัดดาแลนด์
...สถานที่ที่แห่งหนึ่งเคยกลับมาเป็นที่สนใจของผู้คนอีกครั้ง
ครั้งที่ค่ายภาพยนตร์ชื่อดังนำชื่อมาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ทำเงิน "ลัดดาแลนด์"
มีตำนานจากคนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ บอกเล่ากันว่า
ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง
เป็นแหล่งส่งเสริมวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวล้านนา
และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
กระทั่ง ลัดดาแลนด์ เสื่อมสภาพลงตามความนิยมของยุคสมัย
เพียงไม่กี่ปี ลัดดาแลนด์ ตกอยู่ในสภาพปล่อยทิ้งรกร้าง
พื้นที่ขนาดใหญ่กลายเป็นแหล่งมั่วสุมและเหตุอาชญากรรม
จนกลายเป็นเสียงร่ำลือไปกันว่า
ลัดดาแลนด์ เป็นพื้นที่ที่มีเหตุฆาตกรรมยกครัวและดวงวิญญาณยังวนเวียนอยู่
..หรืออ้างว่าเคยมีเหตุฆาตกรรมสาวพม่า
กว่าจะพบศพในอีก 2 เดือนต่อมา
เรื่องเล่าจากลัดดาแลนด์ยังคงไม่มีข้อพิสูจน์
แต่กลายเป็นสถานที่ที่น่าหวาดกลัวติดอันดับประเทศไปแล้ว
....คุกกองปราบ
..เป็นเรื่องเล่าที่มีน้อยคนนักจะได้เข้าไปสัมผัสเอง
แต่กลายเป็นเรื่องเล่าชวนขนลุกทุกครั้งที่กลายเป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ "ผีคุกกองปราบ"
ที่มีคำร่ำลือของดวงวิญญาณ “ชายชุดแดง” ที่ห้องขังห้องสุดท้ายสุดทางเดินในกองปราบฯ
คุกกองปราบซึ่งไว้สำหรับกุมขังผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ หรือผู้กระทำผิด พ.ร.บ.
มักมีข่าวปรากฏให้เห็นบ่อยๆ
กรณีผู้ต้องหาฆ่าตัวตายภายในห้องขัง
โดยมีการอ้างว่ามี ผีชายชุดแดง วนเวียนและโน้มน้าวให้ปลิดชีพตัวเอง
เสียงร่ำลือเรื่อง ผีคุกกองปราบ บ้างก็อ้างว่า
มักจะเห็นชายสวมเสื้อสีแดงวนเวียนอยู่ในห้องขัง
มักจะถูกกระตุกดึงขาเวลานอน หรือเกิดเสียงเคาะจานข้าว
ส่วนประเด็นข่าวที่ผู้ต้องหาผูกคอตายในห้องขังนั้น
ก็ถูกโยงมาถึงเรื่องลี้ลับดังกล่าวด้วย
แต่น่าแปลกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลห้องขังดังกล่าว
ไม่เคยพบเจอเหตุประหลาดใดๆ เลย
ทั้งนี้ตำนาน ผีคุกกองปราบ น่าจะสิ้นสุดลง เมื่อสถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นอดีตไปเสียแล้ว
....โค้งร้อยศพ รัชดาภิเษก
..หากได้ยินชื่อว่า "โค้งร้อยศพ" เชื่อว่า ถนนรัชดาภิเษก บริเวณศาลอาญา
ต้องติดอันดับต้นๆ ของความอาถรรพ์อย่างแน่นอน
หากใครที่ต้องใช้ถนนเส้นนี้เพื่อสัญจร
จะต้องสังเกตเห็นต้นโพธิ์ใหญ่อยู่เกาะกลางถนน ช่วงหน้าปากซอยเสือใหญ่อุทิศ
ซึ่งเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง
จนเกิดเสียงร่ำลือต่างๆ รวมทั้งมีการสักการะบูชาสิ่งที่มองไม่ได้
มีรูปปั้นหรือเครื่องรางและขวดน้ำแดงวางเรียงรายเอาไว้ตามความเชื่อ
ส่วนโค้งถนนรัชดาภิเษกบริเวณนี้ มักมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ
บางเสียงก็อ้างว่าพบเห็นเงาดำ หรือ บางอย่างคล้ายคน วิ่งตัดหน้ารถ
ทำให้เกิดการเบรกกะทันหันและทำให้รถเสียหลัก
ที่ผ่านมามีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากจากอุบัติเหตุตรงจุดนี้
จนนำไปสู่เรื่องราวที่อ้างว่าเป็นกรณี "ตัวตายตัวแทน"
แต่อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุป้องกันได้ด้วยความไม่ประมาท
เพื่อจะไม่เป็นการตอกย้ำเรื่องอาถรรพ์ที่ใครๆ กล่าวขานกันที่โค้งแห่งนี้
.....โรงพยาบาลผีสิง จ.ระยอง
....หากว่ากันถึงเรื่องราวน่าขนลุกที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลร้าง
คงต้องเป็นเรื่องเล่าของ โรงพยาบาลผีสิง เมืองระยอง ที่ชาวบ้านเล่าขานกันมาอย่างต่อเนื่อง
เกิดเสียงลือเสียงเล่าอ้างต่างๆ จนกลายเป็นสถานที่ประลองความกล้าของนักท้าพิสูจน์เรื่องผี
แม้ว่าเหตุอาถรรพ์จะยังเป็นปริศนา แต่บรรยากาศที่วังเวงและน่าเกรงขาม
ทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้ ถูกเชื่อว่ามีผีสิง จนต้องปิดกิจการ
โรงพยาบาลผีสิง เมืองระยอง ชาวบ้านต่างร่ำลือว่า
ช่วงกลางคืนมักจะมีเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าสะพรึง
บางครั้งยังพบว่ารถเข็นหรือเตียงคนไข้เคลื่อนที่ไปมาเองได้
จนไม่มีใครกล้าสัญจรผ่านถนนเส้นดังกล่าว
แม้กระทั่งคนที่เข้าพิสูจน์หลายราย อ้างว่าเข้าไปในโรงพยาบาลแล้วรู้สึกคล้ายกันถูกตบศีรษะ
ทั้งนี้ยังมีเรื่องเล่าอ้างว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ปิดกิจการเพราะเจ้าที่แรง
ทั้งนี้ เรื่องเล่าโรงพยาบาลผีสิง เมืองระยอง อาจเป็นคำบอกเล่าบอกต่อๆ ของชาวบ้านในพื้นที่
เมื่อเห็นโรงพยาบาลถูกทิ้งร้าง ทั้งที่ความจริงโรงพยาบาลหยุดกิจการเพราะปัญหาขาดแคลนแพทย์
แต่กาลเวลาผ่านไป ความเจริญที่รุกล้ำเข้าพื้นที่
ทำให้โรงพยาบาลที่เคยอ้างว่ามีผีสิงแห่งนี้
ปัจจุบันได้ถูกปรับปรุงสร้างใหม่ กลายเป็นสถานพยาบาลที่ทันสมัย
ทิ้งอาถรรพ์ต่างๆ ที่เคยร่ำลือให้กลายเป็นเพียงอดีต
......สาวชุดดำ วัดเสมียนนารี
...เรื่องเล่าเรื่องนี้โด่งดังมาจากรายการวิทยุยอดนิยม "The Shock"
เรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาว 2 คน แต่งกายชุดสีดำ
มักจะโบกรถ เพื่อเดินทางมายัง วัดเสมียนนารี
จุดเริ่มต้นจากเรื่องเล่าของแฟนรายการคนหนึ่ง
นำไปสู่ประสบการณ์จริงที่เล่าขานกันมาของกลุ่มผู้ขับแท็กซี่
และการไขปริศนาของหญิงสาว 2 คน ว่าเป็นใคร มาจากไหน
และเป็นดวงวิญญาณลี้ลับจริงหรือไม่
หญิงสาวชุดดำ 2 คน มักจะยืนโบกรถอยู่ย่านถนนรัชดาภิเษกในช่วงเวลากลางดึก
โดยมีจุดเป้าหมายเดียวคือ "วัดเสมียนนารี"
เมื่อทั้ง 2 ขึ้นโดยสารบนรถแล้ว ต่างคนต่างนั่งนิ่งและไม่พูดจากกันอย่างผิดปกติ
เมื่อรถที่ขับมาตามถนนวิภาวดีรังสิต กำลังเลี้ยวไปทางวัดเสมียนนารี ซึ่งเป็นจุดตัดทางรถไฟ
พวกเธอทั้ง 2 คนก็จะหายตัวไป
ก่อนจะไปปรากฏตัวอยู่ที่ร่างรถไฟ สภาพร่างขาดครึ่งท่อน
ซึ่งในเวลาต่อมามีข้อมูลและหลักฐานพบว่า
หญิงสาวชุดดำ ทั้ง 2 คนนี้ อาจจะเป็น "ชุลี" กับ "สุลี"
สองพี่น้องที่จะเดินทางมาร่วมงานศพญาติที่วัดเสมียนนารี
แต่ประสบเหตุถูกรถไฟทับร่างเสียก่อนจะถึงวัด
เคยเป็นข่าวขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อในอดีต
เรื่องเล่าของพวกเธอยังคงสร้างความหวาดผวาแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนรัชดาภิเษกในยามค่ำคืน
.....ผีช่องแอร์
....ปิดท้ายด้วยเรื่องเล่าที่กลายเป็นตำนานกล่าวขานระดับประเทศ
อาถรรพ์ลี้ลับที่เกิดขึ้นภายในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง
เริ่มต้นจากเรื่องเล่าสู่กันฟังในรายการวิทยุยอดนิยม "The Shock"
เผยแพร่ต่อสู่รายการโทรทัศน์ฟรีทีวีชื่อดัง
และ ถูกนำเรื่องราวดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อปี 2547
โดยที่มีการร่ำลือว่าเรื่องเล่าดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในห้องหมายเลข 409 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่จังหวัดทางภาคใต้
กลุ่มนักดนตรีเดินสายแสดงโชว์ตัดสินใจเข้าพักห้องนี้ เนื่องจากไม่ทางเลือกมากนัก
ระหว่างที่สมาชิกทั้งหมดพักผ่อนอยู่ในห้อง
ต่างสังเกตเห็นที่ช่องแอร์มีเศษผ้าสีขาวโผล่พ้นปลิวออกมาดูรกตา
แต่เมื่อทุกคนพยายามดึงออกหรือไปส่องดูที่ช่องแอร์
กลับมีท่าทางประหลาดและเดินออกจากพักไปทีละคน
ก่อนที่ทุกคนจะทราบว่าพวกเขาเห็นสิ่งเดียวกัน
ต่อมาเริ่มเหตุการณ์ประหลาด เมื่อกลุ่มนักดนตรีแต่ละคนเริ่มเสียชีวิตลงไล่เลี่ยกัน
หลงเหลือเพียงสมาชิก 2 คนสุดท้ายที่ยังคงมีชีวิตอยู่และนำเรื่องนี้มาเล่า
ก่อนจะทราบว่าเหตุครั้งนี้เป็นความอาฆาตแค้นของวิญญาณสาวขายบริการ
ที่ถูกฆาตกรรมหั่นศพอย่างโหดเหี้ยมจากแขกผู้ซื้อบริการ
เบื้องต้นกู้ภัยตามหาส่วนศีรษะไม่พบ
จนผ่านไปหลายวันจึงทราบว่าศีรษะถูกยัดซ่อนอำพรางอยู่ในช่องแอร์
..และนี่คือ 7 เรื่องเล่าเขย่าขวัญ เรื่องลี้ลับ...ที่ชาตินี้คุณต้องเคยได้ยิน
คงจะเด็ดโดนใจคนชอบเรื่องผีๆ กันบ้าง
หากใครที่มีประสบการณ์ผีๆ แบบนี้ก็เอามาแชร์ให้เพื่อนๆคนอื่นได้รับรู้กันบ้างนะจ๊ะ.....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้