ขับรถอย่ามัวแต่คิดเล็กคิดน้อย ปล่อยวางได้ก็ดีทัศนคติแง่ลบเนี่ย

ค่ำนี้ก่อนนอนในวันฮาโลวีนจะมาเล่าเรื่องให้ฟังครับ และเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเวลาสั้นๆครับ ไม่ถึงครึ่งเพลง

ค่ำนี้บนบูรพาวิถี ผมขับเลนขวาเร็วประมานนึง ฟังเพลงไป ค่อยๆ ไล่ขึ้นไปจนเจอ jazz คันนึงวิ่งเลนขวาเหมือนกัน ยื้นพื้น120 มั้ง ผมก็ตาม ซ้ายไม่ว่าง ลดความเร็วลง หาทางแซงไม่ได้

และในขณะที่ผมตามไปเรื่อยๆ (ห่างไม่มาก) จู่ๆ jazz เจ้าปัญหาก็ผ่อนคันเร่ง รถเฉไปทางซ้ายจนล้อทับเส้น (ไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว) เหมือนจะหลบให้ไป ผมก็เริ่มเตรียมแซง แต่มันกลับไม่ใช่อย่างนั้นครับ

jazz เวรคันนั้นกลับหักกลับเข้าเลนขวา พร้อมกับแตะเบรคเบาๆ แต่ผมก็เฉยๆ รถห่างประมาณนึงแล้ว แค่ยกเท้าชะลอ ก็ไม่มีอะไร และไม่คิดจะแซงด้วย (ฟังเพลงเพลินอยู่และงงกับรถ jazz)

ตามไปอีกหน่อยนึง jazz บ้านั่น เอาอีกที คราวนี้แตะเบรคแรงกว่าเดิม จนผมต้องหักรถหลบมาเลนซ้าย

ตอนนั้นรู้เลย และ โมโหมาก ผมกระพริบสาดไฟสูงแซงซ้ายไป(ไม่ได้บีบแตร) เหลียว มองข้างรถ เห็นมากันสองคน ชายหญิง (ฟิล์มมืดจอมือถือสว่างมาก เห็นแค่นั้น)

พอแซงพ้น ผมคิดเลยได้ว่า คนนี้โรคจิตชัวร์ ผมเลยไม่รอช้า เหยียบต่อเลย ขอห่างไว้จะดีกว่า ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง อันตราย


คนสมัยนี้ ขับรถคิดแง่ลบเกิน ใช้อารมณ์ คนตามอยู่ดีๆ ก็คิดว่าไปจี้ตูด ทั้งๆ ที่ไม่ได้บีบแตรไล่ ไม่ได้กระพริบไฟสูงใส กำลังขับเพลินๆ

ปล.ระหว่างเขียนนี่ผมนึกออกละ สงสัย jazz เจ้ากรรม คงจะเคืองผมมาก่อนหน้านั้นมั้งในขณะที่ผมวิ่งเลนกลาง  กำลังแซงรถทั้งขวาและซ้าย แล้ว jazz คันนี้แหละเตรียมหักออกมาหาเลนที่รถผมอยู่ ไม่ได้เปิดไฟเลี้ยวอีก ผมเลยกระพริบไฟเตือนไป "อย่าออกมานะอันตราย" แค่นี้หละครับ

อีกอย่าง คิดบวกกันบ้างครับ ขับรถทุกวันนี้ ถนนแย่ลงเพราะจ้องจับผิดและใช้แต่อารมณ์กันนี่แหละ แถมยังมองโลกในแง่ลบด้วย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่