∞ ∞ ∞ ∞ กระทู้เปิดบ้านรอแฟนๆ เฮีย มาเชียร์ Roger Federer กรุยทางสู่ # 1 ของโลกค่ะ ∞ ∞ ∞ ∞

credit source:bleacherreport.com


Superman can Do ค่ะ




นี่เป็นคือช่วงปลายปี 2014 Roger Federer อยู่ตรงจุดที่เขาคุ้นเคยอย่างที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน
มันเป็นรายการแข่งขันสุดท้ายของปี และเขาสามารถที่จะจบมันในตำแหน่งมือ 1 ของโลกด้วย

มีเพียงคู่แข่งเดียวที่คุ้นเคยมากบนเส้นทางสู่เป้าหมายของเขา นั่นก็คือ Novak Djokovic


นี่คือแผนการพื้นๆ คือถ้า Federer คว้าแชมป์ the Paris Masters ในสัปดาห์นี้
และ Djokovic ไม่สามารถเข้าถึงรอบชิงได้  Federer จะขึ้นเป็นมือ 1 เป็นครั้งแรกหลังจากเดือน ต.ค. ปี 2012
ซึ่งเป็นช่วงที่ Djokovic ช่วงชิงตำแหน่งมาจากรายการ the Paris Masters นี้เช่นกัน



(แปะไปอย่างงั้นเองค่ะ ดูไม่รู้เรื่องค่ะ)

ลองคิดดูว่า  Federer ในวัย 33 ปี อยู่อันดับที่ 8 ของโลกหลังจบรายการ the Australian Open เมื่อตอนต้นปี
ดังนั้น มันเป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก "ถ้า" (เขาขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกตอนปลายปีได้สำเร็จ)


แน่นอนว่า รางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การจบปีด้วยการเป็นมือ 1 นั้นจะไม่ตัดสินลงไปจนกว่าจะจบรายการ
the World Tour Finals ที่กรุงลอนดอนในเดือนหน้า แต่การขยับเข้ามาใกล้หลังรายการที่กรุงปารีส
มีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Federer ที่ตามหลัง Djokovic ตลอดฤดูกาล

Ros Satar จากเว็บ LiveTennis.com ให้ความเห็นว่า Federer คงรู้สึกดีมากๆ กับโอกาสที่เขามีในสัปดาห์นี้

ด้วยแต้มที่ยังคงเหลือ 2,500 คะแนน (1,000 ของรายการที่กำลังแข่งอยู่ กับอีก 1,500 จาก the World Tour Finals)
ซึ่ง Djokovic จะต้องคว้าแชมป์ให้ได้ทั้งสองรายการ ซึ่งมันอาจจะเป็นการยากหลังจากที่เขาต้องหยุด
พักไปเล็กน้อยเนื่องจากการถือกำเนิดของบุตรชาย


Federer คงจะมีความรู้สึกมั่นใจเมื่อมีโอกาสเข้าถึงรอบรองฯ ด้วยเขาเอาชนะ [Milos] Raonic
ได้มาโดยตลอด 6 ครั้งที่พบกัน และใน 3 ครั้งสุดท้ายเป็นการชนะแบบไม่เสียเซ็ตเลย
ส่วนนักเทนนิสชาวแคนาดาก็ต้องการคว้าแชมป์รายการเพื่อโอกาสติดหนึ่งในแปดนักเทนนิส
ที่มีสิทธิเข้าแข่งรายการthe World Tour Finals



เมื่อดูที่สายการแข่งขันของทั้ง  Federer และ Djokovic แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
Federer อยู่ในสายที่ ง่ายกว่า

Satar ให้ความเห็นว่า การที่เขาพบกับ Raonic ในรอบก่อนรองชนะเลิศในคืนวันศุกร์นี้
กับสถิติ 6-0 เหนือคู่แข่งทำให้เขามีความมั่นใจมากๆ

จากนั้นในรอบรองฯ  Federer อาจจะพบกับ Tomas Berdych หรือ Kevin Anderson
ซึ่งนักเทนนิสชาวโครเอเชียสร้างความลำบากให้กับ Federer เสมอมา
ส่วนกับอีกคน Federer มีสถิติ head-to-head ที่เหนือกว่า Berdych ที่ 12-6
และเขาก็ชนะ  Berdych ได้ในการพบกันเมื่อต้นปีนี้
Federer ชนะ Anderson ได้ทั้งสองครั้งที่พบกัน



แน่นอนว่า เจ้าของแชมป์ Grand Slam 17 ถ้วยเป็นตัวเต็งของสายล่างของตาราง
Djokovic เป็นตัวเต็งของสายบน แต่มันช่างเป็นเส้นทางสู่ชัยง่ายๆ ของคุณพ่อมือใหม่

เขาจะต้องตีกับ Andy Murray ที่กำลังคืนฟอร์มในรอบก่อนรองฯ และถ้าเขาผ่านบททดสอบนี้ไปได้
เขาก็จะเจอกับ  Kei Nishikori หรือ David Ferrer ในรอบรองฯ
Ferrer ชนะ 5 ในการพบกัน 18 ครั้งแต่ไม่สามารถชนะเอาในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาเลย
อย่างไรก็ตาม Nishikori นำ Djokovic   อยู่ในสถิติ head2head ที่ 2-1
รวมทั้งเขายังชนะ Djokovic ในรอบรองฯ ที่ the U.S. Open อีกด้วย



ถ้า Djokovic และ Federer ได้เจอกันในรอบชิง Djokovic ก็จะการันตีความเป็นมือ 1 ของโลกต่อไป
แต่ที่ไม่การันตีผลชนะคือ Federer มีสถิติ head-to-head ที่เหนือกว่าอยู่ที่ 19-17
และเพิ่งเอาชนะ Djokovic ในรอบรองฯ ที่เซี่ยงไฮ้มาสดๆ ร้อนๆ เมื่อเดือนที่แล้ว

ดังนั้น แน่นอนว่า การไป the World Tour Finals กับ 1,500 แต้มที่เหลือในรอบพบกันหมด อะไรก็เกิดขึ้นได้

ในขณะที่สิ่งที่น่าประหลาดใจมากที่สุดคือ Federer ณ จุดๆ นี้ มีคนๆ หนึ่งบอกว่าเขากำลังจะมา(วิน)
นั่นก็คือ Djokovic ผู้กล่าวว่า

“ผมไม่เคยตัดเขาออกไป(จากความเป็นคู่แข่งคนสำคัญ)
ผมเคยคิดเสมอว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก
และเขาก็กำลังพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขาคู่ควรที่จะอยู่ตรงนั้น
ผมนับถือเขามากในสิ่งที่เขาทำ ผมไม่คิดว่าอายุจะเป็นปัญหาสำหรับเขา
ตามจริงแล้ว ผมคิดว่าปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งของเขาที่เล่นเทนนิสได้ดีที่สุด"

Djokovic กล่าวว่า ที่ Federer เล่นเทนนิสได้ดีที่สุดนั้นอาจจะยืดเวลาออกไป
แต่นั่นเป็นเพราะ  Federer ได้ตั้งมาตรฐานให้กับตัวเองไว้สูงตั้งแต่แรกเริ่มในอาชีพของเขาแล้ว



ในปี 2014 โดยเฉพาะอย่างยิ่งครึ่งปีหลังนี้ Federer โชว์ความยอดเยี่ยมมาโดยตลอด
เขาเข้าถึงรอบชิง Wimbledon และ Cincinnati ซึ่งแพ้ให้กับ Djokovic และ Jo-Wilfried Tsonga
ก่อนจะคว้าแชมป์ที่ the Rogers Cup และแพ้ให้กับ Marin Cilic ในรอบรองฯที่  the U.S. Open

และนับตั้งแต่ the U.S. Open เป็นต้นมา เขาก็ใส่เกียร์(5) ชนะติดต่อกันตลอด 14 แมตช์ที่ลงแข่ง
จนคว้าแชมป์ 2 รายการติด

ดังนั้น พวกเราต่างก็รู้ว่า  Federer สามารถขึ้นอันดับ 1 ได้หลังคว้าแชมป์ที่กรุงปารีส
และเขายังสามารถเป็นนักเทนนิสหมายเลข 1 ของโลกตอนจบฤดูกาลอีกด้วย

แต่เขาจะทำได้มั้ย? กับสุขภาพที่สมบูรณ์ดีของเขา ฟอร์มการเล่นและคำถามกลับไปอยู่ที่ Djokovic โดยแท้


แน่นอนว่า นั่นเป็นเพียงการคาดคะเน พวกเราคงต้องนั่งดูการแข่งแขัน ATP World Tour ที่เหลือ
และถ้า Federer สามารถทำได้ มันจะเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งที่ต้องจารึก
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  กีฬา เทนนิส นักกีฬา Roger Federer
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่