สวัสดีครับพอดีผมพึ่งย้ายบ้านใหม่ไม่ขอเอ่ยว่าที่ไหนละกันนะครับ
ซึ่งมันเป็นหมูบ้านจัดสรรเล็กๆซึ่งก็เป็นบ้านชั้นเดียวติดๆกันมีแค่รั้วกั้นกลางเท่านั้นครับ
ซึ่งพอพวกผมย้ายเข้าไปอยู่โดยรวมแล้วก็ดูโอเครครับซึ่งฝั่งซ้ายจะมีคนอาศัยอยู่เป็นแม่ม่าย
มีลูก 1 คน อายุสักประมาณ 3-4 ขวบผมไม่แน่ใจซึ่งผมก็เป็นคนไม่ค่อยสนใจอยู่แล้ว
วันๆก็ตื่นไปเรียนกลับมาก็นั่งเล่นเกมไม่ก็ไปกินเบียร์กับเพื่อนๆ เป็นประจำแทบทุกวัน
ส่วนฝั่งขวานั่นเป็นบ้านว่างๆ ไม่มีคนอยู่ซึ่งแม่ผมก็เคยถามคนแถวนั้นได้ความว่าเมื่อก่อน
เป็นบ้านของคู่รักวัยรุ่นคู่หนึ่งมาซื้ออยู่ฝ่ายชายดูท่าทางจะเป็นคนที่ครอบครัวมีฐานะร่ำรวย
จึงมาซื้อบ้านอยู่กับแฟน 2 คนแต่อยู่ไปได้สัก ปีกว่าก็ย้ายออกไปเฉยๆทิ้งบ้านหลังนั้นไว้
นานๆทีจะมาทำความสะอาดบ้างเป็นครั้งคราวน่ะครับซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจอะไรครับ..
เอาล่ะครับกลับมาเรื่องบ้านของผมบ้านผมอยู่กัน 4 คนครับมีพ่อแม่ผมและน้องชาย
ซึ่งปกติถ้าวันไหนผมไปเที่ยวกับเพื่อนจะเป็นแม่ผมที่คอยเปิดประตูให้ส่วนพ่อกับน้องชาย
ของผมจะนอนไปก่อนครับเพราะแม่ผมกลางคืนชอบนอนดูซีรีย์เกาหลีครับนอนประมาณ
ตี 2 ตี 3 เพราะแม่ไม่ได้ทำงานแค่คอยดูแลงานบ้านและรับงานเล็กๆน้อยๆมาทำที่บ้านเฉยๆครับ
ซึ่งบางคืนถ้าผมกลับเร็วหน่อยสักประมาณตี 1 ผมจะเห็นแม่ม่ายข้างบ้านผมยืนอยู่ในสวนหลังบ้าน
ตัวเองแทบจะทุกคืนซึ่งผมก็ชอบคิดในใจอยู่ว่า “อะไรของป้าแกวะ ออกมาทำอะไรนอกบ้านตอนตี 1 วะ”
แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องของผม ... จนถึงครึ่งหนึ่งคืนนั้นแม่ผมจะต้องนอนเช้า
เพราะว่าต้องตื่นไปส่งของในเช้าอีกวันแม่จึงเอากุญแจใส่ไว้ในรองเท้าที่ชั้นวางไว้ให้ซึ่งคืนนั้นผมกลับ
มาประมาณตี 1 กว่าก็เห็นป้าแกยืนอยู่หลังบ้านเหมือนเดิมผมก็ไม่สนใจเดินไปก้มเก็บกุญแจขึ้นมา
กำลังจะไขประตูเข้าบ้านนั่นก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังพูดอะไรบางอย่างจับใจความไม่ได้
เพราะเสียงเบาและไกลผมจึงชะโงกหน้าข้ามรั้วไปดูป้าแม่ม่ายที่ยืนอยู่หลังบ้านและแล้วผมก็ต้องตกตะลึง
เมื่อผมเห็นป้าคนนั้นยืนเกาะรั้วบ้านผมแล้วมองตรงไป(หลังบ้านเป็นลานโล่งๆ เอาไว้ตากผ้า ล้างจานครับ)
พูดอยู่คนเดียวและยิ้มไปด้วยผมรีบหลบเพราะกลัวแกเห็นรีบไขประตูและเข้าบ้านนอนครับ
พอรุ่งเช้ามาผมก็เล่าให้แม่ฟังแม่ก็หัวเราะแล้วบอกว่า “ป้าเค้าเป็นบ้ามั้งอย่าคิดมาก”
เพราะปกติแกก็ไม่คอยจะสุงสิงกับใครก็อยู่ในบ้านเลี้ยงลูกสายๆก็เอาลูกออกไปทำงานด้วย
ซึ่งหลังจากนั้นเวลาผมกลับบ้านมาถ้าช่วงเวลาเดิมผมก็จะเห็นแกเป็นประจำแต่ไม่กล้ามองเข้าไป
อย่างทุกทีที่เคยทำแล้วครับแต่ในใจก็คิดว่าบ้าแน่นอนไม่น่าจะใช้เรื่องผีส่างอะไรแต่ช่วงหลังๆ
ชอบได้ยินเสียงคุยที่จับใจความไม่ได้บ่อยมากครับคืนหนึ่งซึ่งผมงดเที่ยวหลังจากกินข้าว
อาบน้ำเสร็จผมก็นั่งเล่นเกมยาวจนถึงช่วงตีเวลาที่ป้าแกชอบออกมาสักพักผมก็ได้ยินเสียงเปิด
ประตูเหล็กหลังบ้านแกผมก็รุ้แล้วว่าแกต้องออกมายืนคุยบ้าอะไรไม่รู้ทำให้คนอื่นเค้าหลอนอีกแล้ว
ผมก็นั่งเล่นเกมต่อแม่ผมก็ดูหนังเกาหลีอยู่ข้างนอกผมจึงไม่กลัวแล้วเสียงปริศนาในการคุยนั่นก็
ดังขึ้นอีกแล้วคือผมก็คิดในใจว่า “มาพูดอะไรคนเดียวหลังบ้านอีกล้ะวะเป็นบ้าก็เดือดร้อนคนอื่นอีก”
ผมเลยตัดสินใจจะไปแอบฟังจากทางห้องครัวหลังบ้านว่าแกพูดอะไรกันแน่ทำอะไรกันแน่
ผมเลยเดินออกมาซึ่งแม่ผมก็ปิดซีรีย์พอดีกำลังจะเข้าไปนอนเวลาเกือบๆ ตี 2 แม่ก็ถามว่า
แม่ “อ่าวจะไปไหนหิวเหรอ”
ผม “อะ.. เอ่อใช่แล้วหิวจะไปต้มมาม่า”
ผมก็หยิบมาม่าที่วางบนหลังตูเย็นเดินตรงเข้าไปในห้องครัวแล้วก็ต้มทิ้งไว้แล้วเดินตรงไปที่
ประตูหลังบ้านติดกับห้องครัวแล้วนั่งลงฟังเสียงป้าแกแต่มันก็จับใจความไม่ได้อยู่ดีเพราะเสียง
แก๊สในครัวที่ใช้ต้มมาม่า(ซือออ)นั้นมันดังซะกลบเสียงหมดเลยและป้าแกก็พูดเบามาเลยครับ
ผมจึงรอต้มจนเสร็จ(ไม่ถึง 3 นาที) แล้วเอามาม่าไปไว้ในห้องแล้วเดินกลับมมาในห้องครัวปิดไป
ทำทีเหมือนจะเข้าไปในห้องแล้วแล้วผมก็คลานๆ ไปจนมุมห้องครัวที่ประตูตอนนี้เริ่มได้ยินมาทีล้ะนิดครับ
จับใจความได้ประมาณว่า "ระวังตกนะลูก มันอันตราย" แล้วก็พูดอีกหลายประโยคซึ่งผมฟังไม่ค่อยยถนัด
ด้วยความกลัวผมจึงลุกจะเดินกลับเข้าห้องแต่พอมองลอดกระจกออกไปก็เห็นป้าแกยืนยิ้มแล้วพูดต่อ
มองไปที่บ้านหลังที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ผมจึงหันไปมองบ้างแต่แล้วผมก็ได้เห็นบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อเข้า..
นั่นก็คือเด็กตัวเล็กๆ ไต่ไปมาอย่างกับแมงมุมบนกำแพงรั้วของบนที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ซึงตอนนนั้ผมทำอะไร
ไม่ถูกเลยครับได้แต่อึ้งไปชั่วขนาดพอรวบรวมสติได้รีบวิ่งเข้าห้องด้วยความเร็วสุดขีดจนถึงตอนนี้ผ่านเหตุการณ์
นั้นมาแล้ว 3 วันผมก็ยังไม่ได้เล่าให้แม่หรือคนในบ้านฟังเพราะกลัวว่าพวกเขาจะกลัวก็เลยเก็บไว้คนเดียวไม่บอกใคร
แล้วผมก็คิดตลอดว่าไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมเห็นคืออะไรมีเด็กตายแถวนั้นรึยังไง แล้วป้าแกไปยืนพูดตรงนั้นไม่กลัว
หรือว่าเป็นบ้าจริงๆ จนไม่กลัว รึยังไง หรือว่าป้าแกเอากุมาณทองมาเลี้ยงหรือยังไง
หรือว่าคู่รักที่มาอยู่ก่อนหน้านี้จะย้ายออกไปเพราะเรื่องนี้!!!! เรื่องทั้งหมดนี้มัน
ทำให้ผมกลัวจนช่วงนี้ไม่กล้าออกเที่ยวอยู่แต่บ้านไม่กล้าออกบ้านและก็เวลาดึกๆ ผมจะ
เปิดเพลงดังๆ แล้วนอนหลับครับนี่คือสิ่งที่ผมพบเห็นมาซึ่งหาคำอธิบายไม่ได้ว่ามันคืออะไร
แล้วไม่รู้ว่าในคืนต่อๆไปผมจะต้องเจออะไรอีกครับจึงนำมาเล่าสู่กันฟังครับ....
เก็บไว้คนเดียวมันจะระเบิดอยู่แล้วครับ
ขอบคุณครับ
เรื่องหลอนๆ ของคนข้างบ้านกับสิ่งที่อธิบายไม่ได้ !!!!
ซึ่งมันเป็นหมูบ้านจัดสรรเล็กๆซึ่งก็เป็นบ้านชั้นเดียวติดๆกันมีแค่รั้วกั้นกลางเท่านั้นครับ
ซึ่งพอพวกผมย้ายเข้าไปอยู่โดยรวมแล้วก็ดูโอเครครับซึ่งฝั่งซ้ายจะมีคนอาศัยอยู่เป็นแม่ม่าย
มีลูก 1 คน อายุสักประมาณ 3-4 ขวบผมไม่แน่ใจซึ่งผมก็เป็นคนไม่ค่อยสนใจอยู่แล้ว
วันๆก็ตื่นไปเรียนกลับมาก็นั่งเล่นเกมไม่ก็ไปกินเบียร์กับเพื่อนๆ เป็นประจำแทบทุกวัน
ส่วนฝั่งขวานั่นเป็นบ้านว่างๆ ไม่มีคนอยู่ซึ่งแม่ผมก็เคยถามคนแถวนั้นได้ความว่าเมื่อก่อน
เป็นบ้านของคู่รักวัยรุ่นคู่หนึ่งมาซื้ออยู่ฝ่ายชายดูท่าทางจะเป็นคนที่ครอบครัวมีฐานะร่ำรวย
จึงมาซื้อบ้านอยู่กับแฟน 2 คนแต่อยู่ไปได้สัก ปีกว่าก็ย้ายออกไปเฉยๆทิ้งบ้านหลังนั้นไว้
นานๆทีจะมาทำความสะอาดบ้างเป็นครั้งคราวน่ะครับซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจอะไรครับ..
เอาล่ะครับกลับมาเรื่องบ้านของผมบ้านผมอยู่กัน 4 คนครับมีพ่อแม่ผมและน้องชาย
ซึ่งปกติถ้าวันไหนผมไปเที่ยวกับเพื่อนจะเป็นแม่ผมที่คอยเปิดประตูให้ส่วนพ่อกับน้องชาย
ของผมจะนอนไปก่อนครับเพราะแม่ผมกลางคืนชอบนอนดูซีรีย์เกาหลีครับนอนประมาณ
ตี 2 ตี 3 เพราะแม่ไม่ได้ทำงานแค่คอยดูแลงานบ้านและรับงานเล็กๆน้อยๆมาทำที่บ้านเฉยๆครับ
ซึ่งบางคืนถ้าผมกลับเร็วหน่อยสักประมาณตี 1 ผมจะเห็นแม่ม่ายข้างบ้านผมยืนอยู่ในสวนหลังบ้าน
ตัวเองแทบจะทุกคืนซึ่งผมก็ชอบคิดในใจอยู่ว่า “อะไรของป้าแกวะ ออกมาทำอะไรนอกบ้านตอนตี 1 วะ”
แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องของผม ... จนถึงครึ่งหนึ่งคืนนั้นแม่ผมจะต้องนอนเช้า
เพราะว่าต้องตื่นไปส่งของในเช้าอีกวันแม่จึงเอากุญแจใส่ไว้ในรองเท้าที่ชั้นวางไว้ให้ซึ่งคืนนั้นผมกลับ
มาประมาณตี 1 กว่าก็เห็นป้าแกยืนอยู่หลังบ้านเหมือนเดิมผมก็ไม่สนใจเดินไปก้มเก็บกุญแจขึ้นมา
กำลังจะไขประตูเข้าบ้านนั่นก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังพูดอะไรบางอย่างจับใจความไม่ได้
เพราะเสียงเบาและไกลผมจึงชะโงกหน้าข้ามรั้วไปดูป้าแม่ม่ายที่ยืนอยู่หลังบ้านและแล้วผมก็ต้องตกตะลึง
เมื่อผมเห็นป้าคนนั้นยืนเกาะรั้วบ้านผมแล้วมองตรงไป(หลังบ้านเป็นลานโล่งๆ เอาไว้ตากผ้า ล้างจานครับ)
พูดอยู่คนเดียวและยิ้มไปด้วยผมรีบหลบเพราะกลัวแกเห็นรีบไขประตูและเข้าบ้านนอนครับ
พอรุ่งเช้ามาผมก็เล่าให้แม่ฟังแม่ก็หัวเราะแล้วบอกว่า “ป้าเค้าเป็นบ้ามั้งอย่าคิดมาก”
เพราะปกติแกก็ไม่คอยจะสุงสิงกับใครก็อยู่ในบ้านเลี้ยงลูกสายๆก็เอาลูกออกไปทำงานด้วย
ซึ่งหลังจากนั้นเวลาผมกลับบ้านมาถ้าช่วงเวลาเดิมผมก็จะเห็นแกเป็นประจำแต่ไม่กล้ามองเข้าไป
อย่างทุกทีที่เคยทำแล้วครับแต่ในใจก็คิดว่าบ้าแน่นอนไม่น่าจะใช้เรื่องผีส่างอะไรแต่ช่วงหลังๆ
ชอบได้ยินเสียงคุยที่จับใจความไม่ได้บ่อยมากครับคืนหนึ่งซึ่งผมงดเที่ยวหลังจากกินข้าว
อาบน้ำเสร็จผมก็นั่งเล่นเกมยาวจนถึงช่วงตีเวลาที่ป้าแกชอบออกมาสักพักผมก็ได้ยินเสียงเปิด
ประตูเหล็กหลังบ้านแกผมก็รุ้แล้วว่าแกต้องออกมายืนคุยบ้าอะไรไม่รู้ทำให้คนอื่นเค้าหลอนอีกแล้ว
ผมก็นั่งเล่นเกมต่อแม่ผมก็ดูหนังเกาหลีอยู่ข้างนอกผมจึงไม่กลัวแล้วเสียงปริศนาในการคุยนั่นก็
ดังขึ้นอีกแล้วคือผมก็คิดในใจว่า “มาพูดอะไรคนเดียวหลังบ้านอีกล้ะวะเป็นบ้าก็เดือดร้อนคนอื่นอีก”
ผมเลยตัดสินใจจะไปแอบฟังจากทางห้องครัวหลังบ้านว่าแกพูดอะไรกันแน่ทำอะไรกันแน่
ผมเลยเดินออกมาซึ่งแม่ผมก็ปิดซีรีย์พอดีกำลังจะเข้าไปนอนเวลาเกือบๆ ตี 2 แม่ก็ถามว่า
แม่ “อ่าวจะไปไหนหิวเหรอ”
ผม “อะ.. เอ่อใช่แล้วหิวจะไปต้มมาม่า”
ผมก็หยิบมาม่าที่วางบนหลังตูเย็นเดินตรงเข้าไปในห้องครัวแล้วก็ต้มทิ้งไว้แล้วเดินตรงไปที่
ประตูหลังบ้านติดกับห้องครัวแล้วนั่งลงฟังเสียงป้าแกแต่มันก็จับใจความไม่ได้อยู่ดีเพราะเสียง
แก๊สในครัวที่ใช้ต้มมาม่า(ซือออ)นั้นมันดังซะกลบเสียงหมดเลยและป้าแกก็พูดเบามาเลยครับ
ผมจึงรอต้มจนเสร็จ(ไม่ถึง 3 นาที) แล้วเอามาม่าไปไว้ในห้องแล้วเดินกลับมมาในห้องครัวปิดไป
ทำทีเหมือนจะเข้าไปในห้องแล้วแล้วผมก็คลานๆ ไปจนมุมห้องครัวที่ประตูตอนนี้เริ่มได้ยินมาทีล้ะนิดครับ
จับใจความได้ประมาณว่า "ระวังตกนะลูก มันอันตราย" แล้วก็พูดอีกหลายประโยคซึ่งผมฟังไม่ค่อยยถนัด
ด้วยความกลัวผมจึงลุกจะเดินกลับเข้าห้องแต่พอมองลอดกระจกออกไปก็เห็นป้าแกยืนยิ้มแล้วพูดต่อ
มองไปที่บ้านหลังที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ผมจึงหันไปมองบ้างแต่แล้วผมก็ได้เห็นบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อเข้า..
นั่นก็คือเด็กตัวเล็กๆ ไต่ไปมาอย่างกับแมงมุมบนกำแพงรั้วของบนที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ซึงตอนนนั้ผมทำอะไร
ไม่ถูกเลยครับได้แต่อึ้งไปชั่วขนาดพอรวบรวมสติได้รีบวิ่งเข้าห้องด้วยความเร็วสุดขีดจนถึงตอนนี้ผ่านเหตุการณ์
นั้นมาแล้ว 3 วันผมก็ยังไม่ได้เล่าให้แม่หรือคนในบ้านฟังเพราะกลัวว่าพวกเขาจะกลัวก็เลยเก็บไว้คนเดียวไม่บอกใคร
แล้วผมก็คิดตลอดว่าไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมเห็นคืออะไรมีเด็กตายแถวนั้นรึยังไง แล้วป้าแกไปยืนพูดตรงนั้นไม่กลัว
หรือว่าเป็นบ้าจริงๆ จนไม่กลัว รึยังไง หรือว่าป้าแกเอากุมาณทองมาเลี้ยงหรือยังไง
หรือว่าคู่รักที่มาอยู่ก่อนหน้านี้จะย้ายออกไปเพราะเรื่องนี้!!!! เรื่องทั้งหมดนี้มัน
ทำให้ผมกลัวจนช่วงนี้ไม่กล้าออกเที่ยวอยู่แต่บ้านไม่กล้าออกบ้านและก็เวลาดึกๆ ผมจะ
เปิดเพลงดังๆ แล้วนอนหลับครับนี่คือสิ่งที่ผมพบเห็นมาซึ่งหาคำอธิบายไม่ได้ว่ามันคืออะไร
แล้วไม่รู้ว่าในคืนต่อๆไปผมจะต้องเจออะไรอีกครับจึงนำมาเล่าสู่กันฟังครับ....
เก็บไว้คนเดียวมันจะระเบิดอยู่แล้วครับ
ขอบคุณครับ