1) เป็นอีกเรื่อง ที่ดูเพราะเขาบอกว่าดี ทั้งๆที่ตัวอย่างหนังก็งั้นๆ ดูจบ...ก็ดีนะ ถึงหนังจะยาวไปหน่อย จะง่วงและหาวไปนิดๆ แต่ก็ยังไม่หลับ และตื่นเต้นได้หน่อยๆอยู่
2) เนื้อเรื่อง...ตอนแรกนึกว่าจะเป็นหนังแนวหนุ่มปริศนาแก้แค้นแบบที่หลายๆเรื่องทำกัน แต่กลายเป็นหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ซะงั้น เพียงแค่ไม่มีชุดยูนิฟอร์ม หรือท่าไม้ตายอะไร จะมีก็สมองฉับไวและความเป็นมืออาชีพอย่างเวอร์สุดๆมาต่อกรเหล่าร้าย
3) ฉากแอ็คชั่น...แม้ไม่แปลกใหม่ แต่นำเสนอในมุมมองแปลกๆ เน้นงานภาพที่ดูแปลกตา (แต่ไม่แปลกใจ ใหม่อะไรนัก) แต่ยอมรับอย่างนึงว่า "ทึ่ง" ถึงความเก่งกระชับจับตายของพระเอกเอามากๆ อะไรมันจะเก่งกันขนาดน๊าน (และทึ่งกับการเอาอุปกรณ์รอบตัวเป็นเครื่องมือฆ่าได้อย่างเลือดเย็นดี)
4) ความโหด เลือดสาด ให้ระดับ 6.5/10 ได้มั้ง ก็สูงอยู่ ถ้าใครชอบฉากเลือดสาดก็พอ ok บ้าง พวกที่ไม่ชอบก็อาจจะสยองหน่อยๆ
5) ฉากสัญลักษณ์ - หนังพยายามอาร์ตๆมีฉากเปรียบเทียบใส่มานิดๆ ก็โอเครู้ว่าพยายามให้ลึกซึ้งมากขึ้น ก็ถือว่าดีแล้วกัน
6) สโลโมชั่น เยอะจัดๆๆ อะไรๆก็สโลโมชั่น แต่ก็ไม่ถึงขั้นรำคาญ ช่วยให้ลุ้นขึ้นด้วยซ้ำ (มั้ง) แต่ที่แน่ๆทำให้ภาพดูสวยขึ้นพอควร (เหมือนรู้ว่าของดี แต่มันไม่ถูกปากเท่าไหร่ จืดๆ ยังไงยังงั้น)
7) ที่ไม่ชอบเหรอ หนังแอบง่วงหน่อยๆ มันเนือยเกินไปนิด อาจเพราะค่อยๆเล่า ค่อยๆขยี้อารมณ์ เลยทำให้หาวหวอดๆได้บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นหลับนะ เพราะก็พยายามมีฉากระทึกมาคั่นนิดๆหน่อยๆ / ที่ขาดอีกเรื่องคงเป็นเสน่ห์ของพระเอก ที่ดูลึกลับก็จริง เท่ก็จริง แต่ไมมีเสน่ห์เท่าที่ควรแฮะ
8) แซวหนัง
- อาจจะเป็นธรรมเนียมของหนัง sony แล้ว ที่จะมีผลิตภัณฑ์ sony และผลิตภัณฑ์อื่นๆเยอะแยะไปหมด แอบ tie-in โฆษณาผ่านตามาแบบเจตนาซูมสุดๆ (บ้าง) แต่พอรับได้ ดูผ่านๆตาขำๆกันไป
- จริงๆอยากตั้งว่า ซุปเปอร์ฮีโร่โฮมโปร แต่กลัวสปอยเยอะไป ยิ่งท้ายๆเรื่องนะ ใช่เลย
- ตอนแรกนึกว่าเกี่ยวอะไรกับถ่านไฟฉาย ก็เห็นอีๆและเซ่อๆเหมือนกัน ดูตัวสะกด ไม่ใช่แฮะ 555
- equalizer แปลว่า จัดแบ่งให้เท่ากัน, ได้แต้มเท่ากัน, ได้เท่ากัน, ทำให้เท่ากัน (ไม่เห็นจะเกี่ยวกับตัวหนังเลยแฮะ หรือว่าจะแปลแบบเข้าข้างตัวเองว่าเป็นผู้รักษาความสมดุลหนอ ตั้งชื่อ energizer ยังตรงซะกว่าอีก 555)
- มีแซวหนังแบบสปอยนิดๆใครสนใจเชิญคลิกอ่านด้านล่างได้เลยครับ
8.2) แซวหนัง ไม่แคร์สปอย (เท่าไหร่)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- พระเอกเก่งเวอร์ไป ทั้งๆที่หนังพยายามสร้างผู้ร้ายให้ดูยิ่งใหญ่เอามากๆ แต่พอมาไขว่กัน มันก็เอวังแบบแป๊ปๆ ไม่มันส์เลย
- มีโชว์ทำแผลด้วยน้ำผึ้ง และลูกบิดประตูด้วย งงเลย
- โรงงานนับเงิน ใหญ่โตเกิ๊น อะไรจะเยอะขนาดน๊าน แอบแซวว่ามีแต่พนักงานแม่บ้านคนจีนเกาหลีอีกต่างหาก
- นึกว่าตัว boss จะมันส์กว่านี้ ง่อยมากกก
- นึกว่าจะมีฉาก "จ่ายค่าความสงบราคาแพง" ซะอีก แหม..จุดประเด็นซะนึกว่าจะเล่นกับประเด็นนี้ต่อซะอีก
- ดีนะ พระเอกไม่ถูกด้านมืดเข้าครอบงำ ไม่งั้นจะเป็นตัวร้ายที่สมบูรณ์แบบมากๆ
- นิสัยเจ้าระเบียบสุดๆของพระเอก รอดูอยุ่ว่าหนังจะเล่นอะไรกับประเด็นนี้ แต่พอจบแล้ว ก็ยังไม่รู้สึกว่าเล่นกับประเด็นนี้เลยนะ (หรือเล่นไปแล้ว แต่ผมไม่รู้สึกหนอ)
- นึกว่าตอนจบจะย้ายเมือง หรือเปลี่ยนอาชีพซะอีก ไม่รู้ยังอยู่ได้ไง ทั้งๆที่เรื่องบานปลายขนาดนี้
- ตอนผู้หญิงเดินมาตอนท้าย แอบลุ้นให้มีฉากทำร้ายจิตใจ แต่หนังมันกะให้ปราบปลื้มรึไงเนี่ยแหละ เลยแอบเวิ่นเว้อไปหน่อย
- ตอนจบกลายเป็นซิตี้ฮันเตอร์ไปซะแล้ว ถ้าหนังขายได้ก็ทำภาคต่อได้ชัวร์ๆ
- คิดอยู่ว่าภาคต่อ สงสัยได้ยามอ้วนมาเป็นลูกน้องคล้ายๆโรบินแน่ๆ
9) สรรสาระ...อุปกรณ์รอบตัว เอาไว้ฆ่าคนได้ง่ายกว่าที่คิด เอ๊ยไม่ใช่...เอาเป็น "คนข้างๆตัวคุณที่ดูว่าแสนดี อาจมีความโหดอยู่ภายใน ถ้าโหดเลวดี ก็ดีไป แต่ถ้าชั่วเมื่อไหร่ บรรลัยแน่นอน" แล้วกัน (จริงๆหนังพูดถึงประเด็นโอกาสที่ 2 ในชีวิตด้วยนะ แต่ทำไมผมไม่อินกับประเด็นนี้เท่าไหร่เลยนะ)
10) สรุป...ดูฆ่าเวลาได้ ภาพรวมประทับใจกลางๆ รู้สึกพระเอกเก่งเวอร์ประทับใจดีนิดๆ ส่วนด้อยคงเป็นความเนือยของหนังเท่านั้นที่อาจจะเรียกว่าเป็นอีกสไตล์ประเภทหนึ่งก็ได้มั้ง
**************************************
สงสัยหรืออยากพูดคุยทักทาย เจอะกันได้ที่นี่เลยครับ
https://www.facebook.com/choord.k
หรือจะเข้าไปกด like แล้วกด get notification ที่เพจของผมจะเป็นกำลังใจให้ผมได้มากเลยครับที่
https://www.facebook.com/tomyumtumnoir
ลิงค์นี้รวบรวมรีวิวหนังที่เคยเขียนมาแล้วครับ
http://goo.gl/yDRPd7
[CR] The Equalizer มัจจุราชไร้เงา : ดูจบ กลายเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่สโลโมชั่น (เหมือนรู้ว่าของดี แต่มันไม่ถูกปากเท่าไหร่)
1) เป็นอีกเรื่อง ที่ดูเพราะเขาบอกว่าดี ทั้งๆที่ตัวอย่างหนังก็งั้นๆ ดูจบ...ก็ดีนะ ถึงหนังจะยาวไปหน่อย จะง่วงและหาวไปนิดๆ แต่ก็ยังไม่หลับ และตื่นเต้นได้หน่อยๆอยู่
2) เนื้อเรื่อง...ตอนแรกนึกว่าจะเป็นหนังแนวหนุ่มปริศนาแก้แค้นแบบที่หลายๆเรื่องทำกัน แต่กลายเป็นหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ซะงั้น เพียงแค่ไม่มีชุดยูนิฟอร์ม หรือท่าไม้ตายอะไร จะมีก็สมองฉับไวและความเป็นมืออาชีพอย่างเวอร์สุดๆมาต่อกรเหล่าร้าย
3) ฉากแอ็คชั่น...แม้ไม่แปลกใหม่ แต่นำเสนอในมุมมองแปลกๆ เน้นงานภาพที่ดูแปลกตา (แต่ไม่แปลกใจ ใหม่อะไรนัก) แต่ยอมรับอย่างนึงว่า "ทึ่ง" ถึงความเก่งกระชับจับตายของพระเอกเอามากๆ อะไรมันจะเก่งกันขนาดน๊าน (และทึ่งกับการเอาอุปกรณ์รอบตัวเป็นเครื่องมือฆ่าได้อย่างเลือดเย็นดี)
4) ความโหด เลือดสาด ให้ระดับ 6.5/10 ได้มั้ง ก็สูงอยู่ ถ้าใครชอบฉากเลือดสาดก็พอ ok บ้าง พวกที่ไม่ชอบก็อาจจะสยองหน่อยๆ
5) ฉากสัญลักษณ์ - หนังพยายามอาร์ตๆมีฉากเปรียบเทียบใส่มานิดๆ ก็โอเครู้ว่าพยายามให้ลึกซึ้งมากขึ้น ก็ถือว่าดีแล้วกัน
6) สโลโมชั่น เยอะจัดๆๆ อะไรๆก็สโลโมชั่น แต่ก็ไม่ถึงขั้นรำคาญ ช่วยให้ลุ้นขึ้นด้วยซ้ำ (มั้ง) แต่ที่แน่ๆทำให้ภาพดูสวยขึ้นพอควร (เหมือนรู้ว่าของดี แต่มันไม่ถูกปากเท่าไหร่ จืดๆ ยังไงยังงั้น)
7) ที่ไม่ชอบเหรอ หนังแอบง่วงหน่อยๆ มันเนือยเกินไปนิด อาจเพราะค่อยๆเล่า ค่อยๆขยี้อารมณ์ เลยทำให้หาวหวอดๆได้บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นหลับนะ เพราะก็พยายามมีฉากระทึกมาคั่นนิดๆหน่อยๆ / ที่ขาดอีกเรื่องคงเป็นเสน่ห์ของพระเอก ที่ดูลึกลับก็จริง เท่ก็จริง แต่ไมมีเสน่ห์เท่าที่ควรแฮะ
8) แซวหนัง
- อาจจะเป็นธรรมเนียมของหนัง sony แล้ว ที่จะมีผลิตภัณฑ์ sony และผลิตภัณฑ์อื่นๆเยอะแยะไปหมด แอบ tie-in โฆษณาผ่านตามาแบบเจตนาซูมสุดๆ (บ้าง) แต่พอรับได้ ดูผ่านๆตาขำๆกันไป
- จริงๆอยากตั้งว่า ซุปเปอร์ฮีโร่โฮมโปร แต่กลัวสปอยเยอะไป ยิ่งท้ายๆเรื่องนะ ใช่เลย
- ตอนแรกนึกว่าเกี่ยวอะไรกับถ่านไฟฉาย ก็เห็นอีๆและเซ่อๆเหมือนกัน ดูตัวสะกด ไม่ใช่แฮะ 555
- equalizer แปลว่า จัดแบ่งให้เท่ากัน, ได้แต้มเท่ากัน, ได้เท่ากัน, ทำให้เท่ากัน (ไม่เห็นจะเกี่ยวกับตัวหนังเลยแฮะ หรือว่าจะแปลแบบเข้าข้างตัวเองว่าเป็นผู้รักษาความสมดุลหนอ ตั้งชื่อ energizer ยังตรงซะกว่าอีก 555)
- มีแซวหนังแบบสปอยนิดๆใครสนใจเชิญคลิกอ่านด้านล่างได้เลยครับ
8.2) แซวหนัง ไม่แคร์สปอย (เท่าไหร่)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
9) สรรสาระ...อุปกรณ์รอบตัว เอาไว้ฆ่าคนได้ง่ายกว่าที่คิด เอ๊ยไม่ใช่...เอาเป็น "คนข้างๆตัวคุณที่ดูว่าแสนดี อาจมีความโหดอยู่ภายใน ถ้าโหดเลวดี ก็ดีไป แต่ถ้าชั่วเมื่อไหร่ บรรลัยแน่นอน" แล้วกัน (จริงๆหนังพูดถึงประเด็นโอกาสที่ 2 ในชีวิตด้วยนะ แต่ทำไมผมไม่อินกับประเด็นนี้เท่าไหร่เลยนะ)
10) สรุป...ดูฆ่าเวลาได้ ภาพรวมประทับใจกลางๆ รู้สึกพระเอกเก่งเวอร์ประทับใจดีนิดๆ ส่วนด้อยคงเป็นความเนือยของหนังเท่านั้นที่อาจจะเรียกว่าเป็นอีกสไตล์ประเภทหนึ่งก็ได้มั้ง
**************************************
สงสัยหรืออยากพูดคุยทักทาย เจอะกันได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/choord.k
หรือจะเข้าไปกด like แล้วกด get notification ที่เพจของผมจะเป็นกำลังใจให้ผมได้มากเลยครับที่
https://www.facebook.com/tomyumtumnoir
ลิงค์นี้รวบรวมรีวิวหนังที่เคยเขียนมาแล้วครับ http://goo.gl/yDRPd7